บทที่ 180 พลังกระบี่ไถนา
อากาศในเมืองจี๋อุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังเทศกาลโคมไฟผ่านไป ลมก็ไม่หนาวเย็นเท่าไหร่ ค่อยๆ มีคนที่กล้าหาญเริ่มกลับมายังเมืองจี๋
เมืองจี๋ก็คือบ้านของพวกเขา การที่ต้องจากบ้านเกิดไปในช่วงฤดูหนาว และต้องฝืนฉลองปีใหม่ในที่ห่างไกล เป็นประสบการณ์ที่ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
การกลับมาของผู้คนเหล่านี้ ทำให้เมืองจี๋ค่อยๆ มีชีวิตชีวาขึ้น ไม่เหมือนเมืองร้างอีกต่อไป
กวานซานและหวงโกว่ตั่นไม่ได้ช่วยซื่อเฟยเจ๋อในด้านกำลัง แต่ช่วยแบ่งเบาภาระอื่นๆ ของเขาได้มาก
เช่น การสอนหนังสือ ให้กับทุกคนที่อยากรู้หนังสือ
กวานซานเก่งเรื่องสะกดคำ เรียนรู้ตัวอักษรได้เร็ว แต่คณิตศาสตร์แย่มาก แม้แต่การหารก็ยังคิดไม่ออก
ส่วนหวงโกว่ตั่นกลับตรงกันข้าม เขาเก่งคณิตศาสตร์ ตอนนี้เข้าใจสมการเชิงเส้นสองตัวแปรแล้ว แต่เรื่องสะกดคำนั้นแย่มาก (ห๊ะสมการเชิงเส้น พวกเจ้าเรียนขนาดนี้เชียวหรือ!! -ผู้แปล)
สองคนนี้สอนในชั้นเรียนสอนหนังสือ คนหนึ่งสอนอ่านเขียน อีกคนสอนคณิตศาสตร์ ถูกหลี่หงเอี้ยนและคนอื่นๆ ล้อเรียกว่า "คู่หูสุนัขโง่"
ต่อมาเมื่อกวานซานและหวงโกว่ตั่นรู้เข้า โกรธมากถึงขั้นเพิ่มการบ้านให้พวกนั้นเป็นสองเท่า
หลี่หงเอี้ยนเป็นหนึ่งในนักยุทธ์ส่วนน้อยที่สมัครใจเรียนอ่านเขียน เขาเคยเสียเปรียบเพราะอ่านไม่ออกมาก่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเขาบรรลุขั้นบุคคลแท้ในอนาคต แต่เขียนชื่อตัวเองยังไม่ได้ ก็น่าอายเกินไป
เขาอยากพัฒนาตัวเองมาก
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึงเดือนมีนาคม มีคนกลับมาเมืองจี๋บ้างแล้วเป็นส่วนน้อย พวกเขาล้วนเป็นคนที่หนีออกจากเมืองจี๋ไปหลบภัยในเมืองและหมู่บ้านใกล้เคียง
ส่วนซื่อเฟยเจ๋อก็กลายเป็นคนยุ่งมาก
การบริหารจัดการคนสองสามร้อยคน กับการจัดการคนหลายพันคน และการจัดการคนหลายหมื่นคน มันไม่ใช่ระดับเดียวกันเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งซื่อเฟยเจ๋อไม่ได้ทำตัวเป็นเจ้าของที่ไม่สนใจอะไร ไม่ได้ทำตามธรรมเนียมของเมืองอื่นๆ ที่มอบหมายงานให้สำนักอื่นๆ หรือแก๊งอื่นๆ แต่กลับดัดแปลงระบบบริหารจากชาติก่อนของเขามากมาย
ระบบบริหารเหล่านั้น บางอย่างใช้ได้ บางอย่างก็ไม่เหมาะกับสภาพความเป็นจริง ทำให้วุ่นวาย เกิดเรื่องขบขันมากมาย
โชคดีที่นักยุทธ์ขั้นบุคคลแท้มีพลังมาก ทำให้เขาสามารถแก้ไขปรับปรุง สร้างเมืองใหม่ตามความคิดของตัวเองได้
บางครั้ง เขาก็สงสัย เขาแค่อ้อมๆ เข้าร่วมศาสนาศักดิ์สิทธิ์แห่งหฤทัย ทำไมถึงได้กลายเป็นเจ้าเมืองไปได้…
หยางโจวเป็นสถานที่ที่แปลกจริงๆ!
ตอนนี้ซื่อเฟยเจ๋อกำลังยืนอยู่บนคันนา นำนักยุทธ์หลายคนทำนา ในฐานะลูกชาวนา ซื่อเฟยเจ๋อรู้สึกละอายใจมาก
เขาไม่เคยทำนามาก่อน ถึงขนาดที่ว่าตอนทำนา เขาไม่รู้อะไรเลย แม้แต่คราด ไถ และแคลจ ก็ไม่รู้ว่าใช้ยังไง
โชคดีที่เขาสามารถใช้พลังกระบี่ไถนาได้…
พลังกระบี่ที่พุ่งออกมาไม่หยุด ไถดินเป็นร่องๆ ลึกและเรียบ ทำเอาชาวนาแก่หลายคนและหยางเว่ยตาลายไปตามๆ กัน
โอ้พระเจ้า! นักยุทธ์ขั้นบุคคลแท้ ใช้พลังกระบี่ไถนา! คงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ยุทธภพเลยกระมัง!
"เอ่อ......" ชาวนาแก่คนหนึ่งมองดูพื้นดินที่ผ่านพลังกระบี่แล้ว พูดกับซื่อเฟยเจ๋อด้วยความหวาดกลัว "ท่านขอรับ ร่องที่ท่านไถบางเกินไป"
พลังกระบี่บางๆ ดูเหมือนแค่ผ่านผิวดินไป ไม่ได้พลิกดินอุดมสมบูรณ์ด้านล่างขึ้นมา
"โอ้ ไม่เป็นไร!" ซื่อเฟยเจ๋อปรับความหนาบางของพลังกระบี่ แม้แต่รูปร่างก็เปลี่ยน เลียนแบบใบไถ แล้วก็ฟาดฟันอีกรอบ
ครั้งนี้ แม้จะไถได้ลึกพอ แต่ดินที่พลิกขึ้นมาก็ยังไม่พอ
ซื่อเฟยเจ๋อคิดครู่หนึ่ง แล้วปรับพลังกระบี่ให้เป็นรูปไถโค้งเหมือนปากพลั่ว แล้วลองอีกครั้ง
พลังกระบี่จะใช้อย่างไม่สะดวกได้อย่างไร?
ลองแล้วลองอีก ประมาณสิบกว่ารอบ จนกระทั่งพลิกดินทั้งหมดขึ้นมา เขาถึงได้เรียนรู้เทคนิคการใช้พลังกระบี่ไถนา
"หยางเว่ย! เจ้าว่าข้าไถนาเป็นอย่างไรบ้าง?" ซื่อเฟยเจ๋อถามหยางเว่ย
ช่วงนี้วิชาของหยางเว่ยใกล้จะบรรลุขั้นบุคคลแท้แล้ว ซื่อเฟยเจ๋อจึงตัดสินใจข่มขวัญเขาสักหน่อย โดยพาเขามาด้วยตอนเปิดที่ดินใหม่
"วิทยายุทธ์ของอธิการบดีซื่อช่างเหนือโลก ข้าน้อยเลื่อมใสยิ่งนัก!" เขาพูดประจบโดยไม่แสดงสีหน้า
คำว่า "อธิการบดี" นี้ เป็นวิธีเรียกที่พวกเขาเลียนแบบกวานซานและหวงโกว่ตั่น
เขาพูดอย่างนอบน้อมภายนอก แต่ในใจคิดว่า
แก่บ้า มีพลังกระบี่เก่งกาจขนาดนั้น แต่กลับเอามาใช้ไถนา ช่างสิ้นเปลืองพรสวรรค์จริงๆ!
ถ้าพลังกระบี่นี้เป็นของข้า......
"เอ้อ~ นี่ยังเป็นแค่เทคนิคเล็กน้อยเท่านั้น! เจ้าตามข้ามา!" ซื่อเฟยเจ๋อยิ้มพูด
แล้วซื่อเฟยเจ๋อก็พาเขาเดินไปตลอดเช้า เดินผ่านที่รกร้างนอกเมืองจี๋ ไถนาไปพร้อมกับเดิน
เร็วกว่ารถไถนารวมหลายเท่า จนสุดท้าย หยางเว่ยรู้สึกชาในใจ
เขามองดูซื่อเฟยเจ๋อใช้พลังกระบี่ไม่หยุดตลอดทั้งเช้า แม้แต่หน้าก็ไม่แดง หายใจก็ไม่หอบ เขาจำเป็นต้องเริ่มพิจารณาอย่างจริงจังว่า เมื่อเขาบรรลุขั้นบุคคลแท้ พวกเขาจะรวมตัวกันรุมซ้อมซื่อเฟยเจ๋อได้จริงหรือ? พวกเขาจะไม่กลายเป็นเหยื่อให้เขาหรอกนะ?
การเริ่มต้นทำนาคือการพลิกดิน ขั้นตอนนี้ใช้แรงงานมากที่สุด หลายครอบครัวชาวนาเลี้ยงวัวก็เพื่อขั้นตอนนี้ แต่เดิมที่รกร้างนอกเมืองจี๋ กับคนเพียงเท่านี้ในเมืองจี๋ ไม่มีทางทำนาได้หมด
แต่การไถนาด้วยพลังกระบี่ของซื่อเฟยเจ๋อ ทำให้ชาวเมืองจี๋สามารถทำนาในที่รกร้างนอกเมืองได้ด้วยแรงงานน้อยนิด ประกอบกับการที่ต้องส่งข้าวให้เมืองจี๋เพียงสองส่วน ทำให้ใจของชาวเมืองจี๋สงบลงไม่น้อย และยอมรับกฎระเบียบแปลกๆ ของซื่อเฟยเจ๋อมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม การที่นักยุทธ์ขั้นบุคคลแท้ใช้พลังกระบี่ไถนา คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่สร้างฟ้าสร้างดิน
ชาวเมืองจี๋ก็สามารถโอ้อวดได้ว่า นักยุทธ์ขั้นบุคคลแท้ไถนา พวกเจ้าเคยเห็นไหม? ข้าเคยเห็นแล้ว!
เมื่อซื่อเฟยเจ๋อกลับมาถึงห้องทำงานของตน ก็เห็นปีศาจแก่ซื่ออยู่ที่นั่น
หลังปีใหม่ ตั้งแต่ปีศาจแก่ซื่อมาเมืองจี๋ครั้งหนึ่ง และพบว่าคนในเมืองจี๋เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆ ฟื้นคืนชีวิตชีวา แตกต่างจากที่อื่นๆ ในหยางโจวโดยสิ้นเชิง เขาก็มาเมืองจี๋บ่อยๆ เพื่อขอคำแนะนำจากซื่อเฟยเจ๋อ
"มีอะไรอีกล่ะ?" ซื่อเฟยเจ๋อถาม เขารู้ว่าปีศาจแก่ซื่อมาแน่นอนว่าต้องมีปัญหา
"เจ้าถึงกับไปไถนาด้วยหรือ?" ปีศาจแก่ซื่อพินิจพิเคราะห์ซื่อเฟยเจ๋ออย่างละเอียด ราวกับเพิ่งเห็นซื่อเฟยเจ๋อเป็นครั้งแรก
"ข้าเคยบอกแล้วไงว่า ยอดฝีมือในอนาคตไม่ใช่แค่ดาบคม แต่ยังเป็นผู้ผลิตได้ด้วย มีวิทยายุทธ์แล้วใช้แค่ฆ่าฟันกันนั้นสิ้นเปลืองเกินไป! ควรใช้เพื่อสร้างและผลิต ยกระดับคุณภาพชีวิตโดยรวม!"
"ให้คนธรรมดาในอนาคตได้กินได้ใช้ดีกว่านักยุทธ์ขั้นบุคคลแท้ในปัจจุบันเสียอีก!" ซื่อเฟยเจ๋อพูดอย่างจริงจัง
นักยุทธ์ขั้นบุคคลแท้ยังไม่มีแม้แต่โทรศัพท์มือถือ การสื่อสารพื้นฐานยังต้องอาศัยคนส่งข่าว เมื่อเทียบกับชาติก่อนของเขาแล้ว ต่างกันมากเกินไป
"...ฟังไม่ค่อยเข้าใจ แต่รู้สึกว่าเก่งมาก!" ปีศาจแก่ซื่อพูด
เจ้าคนใจบุญที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เจ้ารู้อะไร เจ้ายังจัดการศาสนาศักดิ์สิทธิ์แห่งหฤทัยไม่ได้เลย!
ช่วงนี้ ซื่อเฟยเจ๋อให้คำแนะนำมากมายแก่เขา ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดผู้ที่ไม่เห็นด้วย การรวมกลุ่มอำนาจในนิกาย การดึงฝ่ายหนึ่งมาต่อสู้อีกฝ่ายหนึ่ง การควบคุมสาวกศาสนาศักดิ์สิทธิ์แห่งหฤทัย การนำประสบการณ์จากเมืองจี๋มาใช้ปกครอง
ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ของเมืองจี๋ และกลยุทธ์ของซื่อเฟยเจ๋อ ศาสนาศักดิ์สิทธิ์แห่งหฤทัยก็กำลังเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก
ดังนั้นปีศาจแก่ซื่อจึงเปลี่ยนจากการกึ่งเชื่อกึ่งสงสัยในตัวซื่อเฟยเจ๋อ มาเป็นเชื่อมั่นอย่างยิ่ง
ดูเหมือนว่าตอนนี้ทุกอย่างกำลังพัฒนาไปในทิศทางที่ดี!
.
สารจากผู้แต่ง ✍🏻
บทเหล่านี้เป็นการเปลี่ยนผ่าน นิยายเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายทำไร่ทำนา(กรุณาอย่าเข้าใจผิด5555) แต่การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ก็ต้องอธิบายบ้าง ไม่เช่นนั้นจะดูกะทันหันเกินไป