ตอนที่ 490 ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ
“ท่านประธานเย่ คุณเคยบอกว่าคุณซื้อบ้าน 20 กว่าหลัง นั่นไม่ใช่ในเจียงโจวใช่ไหม?”
ซุนเฟิง ถามอย่างลองเชิง
เมื่อครู่เขาไม่รู้ว่า เย่เฉิน มีฐานะอะไร เขาจึงคิดไปเองว่า เย่เฉิน คงซื้อบ้านในเจียงโจว
แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่า เย่เฉิน เป็นเจ้าของบริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป
เขาเลยเปลี่ยนความคิด คนที่เป็นถึงเจ้าของบริษัทระดับนี้ สายตาของเขาต้องเฉียบแหลมกว่าเขา ซุนเฟิง อย่างแน่นอน และคงจะไม่ซื้อบ้านในเจียงโจวแน่
ดังนั้น ซุนเฟิง จึงถามคำถามนี้ขึ้นมา
“ไม่ได้ซื้อในเจียงโจวครับ”
เย่เฉิน ตอบกลับ
“ถ้าไม่ได้อยู่ในเจียงโจว แล้วอยู่ในเมืองไหนครับ?”
“ในเซี่ยงไฮ้”
“เซี่ยงไฮ้ตรงไหนครับ?”
“ทอมสัน ริเวียร่า”
“อะไรนะ ทอมสัน ริเวียร่า?!”
ซุนเฟิง แทบจะกระโดดขึ้นด้วยความตกใจ
บ้าน 20 กว่าหลังที่ ท่านประธานเย่ ซื้อ กลับอยู่ในทอมสัน ริเวียร่า งั้นเหรอ?!!
ซุนเฟิง รู้เรื่องโครงการทอมสัน ริเวียร่า บ้านหรูชื่อดังระดับประเทศดีอยู่แล้ว ราคาบ้านหลังหนึ่ง แม้จะเป็นหลังที่ถูกที่สุดก็ยังต้องใช้เงินเกือบ 100 ล้านหยวน ส่วนใหญ่ราคาจะอยู่ที่ 100 กว่าล้านหยวน
คิดคร่าวๆ บ้านหนึ่งหลังราคาประมาณ 100 ล้านหยวน 20 กว่าหลังก็เกินกว่า 2,000 ล้านหยวนเข้าไปแล้ว!!!
เขาไม่เคยมีเงินทุนหมุนเวียนมากขนาดนี้มาก่อน แต่ ประธานเย่ กลับควักเงินออกมาซื้อบ้านในทอมสัน ริเวียร่า ถึง 20 กว่าหลังในคราวเดียว
ช่างน่าทึ่งจริงๆ
“ท่านประธานเย่ มีบ้านในทอมสัน ริเวียร่า ถึง 20 กว่าหลัง เก่งจริงๆ ครับ”
ซุนเฟิง รีบพูดชมทันที
“จริงๆ แล้ว ที่คุณพูดมันไม่ถูกนัก”
เย่เฉิน ได้ยินแบบนั้นจึงรีบแก้คำพูดของ ซุนเฟิง :
“ผมมีบ้านในทอมสัน ริเวียร่า ทั้งหมด 50 กว่าหลังต่างหาก”
หะ.. ห้าสิบกว่าหลัง?!!
ประธานเย่ มีบ้านในทอมสัน ริเวียร่า ถึง 50 กว่าหลังเลยเหรอ?
พระเจ้า! นั่นเท่ากับเงินกว่า 5,000 ล้านหยวนเลยนะ!
ด้วยเงินจำนวนขนาดนี้ในเจียงโจวสามารถซื้ออาคารได้หลายชุมชนเลยทีเดียว!
ซุนเฟิง อ้าปากค้างด้วยความตกใจ เขาสาปแช่งตัวเองในใจว่าตัวเองช่างโง่เขลา สายตาที่คับแคบทำให้เขามอง เย่เฉิน ต่ำเกินไปจริงๆ
ข้างๆ นั้น โม่ เมิ่งเฟย เองก็รู้สึกตกใจมากเช่นกัน
ตอนที่เธอรู้ว่า เย่เฉิน ซื้อบ้านในทอมสัน ริเวียร่า 20 กว่าหลัง เธอยังคิดว่านั่นเป็นเรื่องปกติ เพราะเงินจำนวน 2,000 ล้านหยวนไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไรสำหรับ เย่เฉิน
แต่เมื่อรู้ว่า เย่เฉิน มีบ้านในทอมสัน ริเวียร่า ถึง 50 กว่าหลัง เธอก็เริ่มรู้สึกไม่สงบเสียแล้ว
เย่เฉิน คิดจะยึดครองทอมสัน ริเวียร่าหรืออย่างไร?
เงินกว่า 5,000 ล้านหยวน สามารถทำอะไรได้มากมาย แต่ เย่เฉิน กลับใช้เงินจำนวนนี้ไปกับการซื้อบ้านในทอมสัน ริเวียร่าถึง 50 กว่าหลัง รวดเดียวเลย?
ในขณะนี้ โม่ เมิ่งเฟย พลันรู้สึกอิจฉาอยู่ลึกๆ นี่เป็นนิสัยแปลกๆ ของพวกคนรวยหรือเปล่านะ?
จริงๆ แล้วเธอก็ไม่เข้าใจวิถีชีวิตของคนรวยจริงๆ เหมือนกัน
“ใช่แล้ว ท่านประธานเย่ คุณเคยบอกว่าคุณมีธุรกิจเล็กๆ อยู่ในต่างประเทศ ธุรกิจนั้นคืออะไรเหรอครับ?”
ในที่สุด ซุนเฟิง ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเมื่อกี้เขาเข้าใจผิดไปแน่ๆ และถ้าเขาถามขึ้นมาอีกครั้งล่ะก็ ..อาจจะโดนทิ่มแทงมากขึ้น
แต่เขาก็อดใจไม่ได้ที่จะอยากรู้ เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์ของตัวเอง
“เดี๋ยวนะ คุณมีธุรกิจในต่างประเทศด้วยเหรอ?”
โม่ เมิ่งเฟย เองก็สงสัยเช่นกัน เธอไม่คิดว่า เย่เฉิน จะมีธุรกิจในต่างประเทศด้วย
“ก็ไม่ใช่ธุรกิจใหญ่อะไรหรอก แค่เหมืองทองคำเท่านั้นเอง”
เย่เฉิน พูดอย่างถ่อมตัว
ไม่ใช่ธุรกิจใหญ่อะไร แค่เหมืองทองคำเท่านั้นเอง?!
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ซุนเฟิง แทบจะกระอักเลือดเก่าออกมา
เขาคิดว่าตัวเองได้เตรียมใจไว้อย่างดีแล้ว แต่ความจริงบอกเขาว่า ..เขาคิดผิด
คำพูดของ ประธานเย่ ยังคงทำให้เขาตกใจจนแทบจะรับไม่ไหว
เหมืองทองคำ?!!
นี่ไม่ใช่ธุรกิจใหญ่ แล้วอะไรคือธุรกิจใหญ่ล่ะ? เหมืองเพชร?
ถ้ามีเหมืองทองคำที่ว่ายังไม่ใช่ธุรกิจใหญ่ล่ะก็ ..ธุรกิจที่เขามีอยู่ในมือทั้งหมดก็คงเป็นแค่การเล่นขายของของเด็กๆ เท่านั้น
โม่ เมิ่งเฟย ก็รู้สึกตกตะลึงเช่นกัน เหมืองทองคำของ เย่เฉิน ในต่างประเทศคงเหมือนเครื่องพิมพ์เงินที่ไม่มีวันหมด..
เธอเองก็อยากมีเหมืองทองคำเป็นของตัวเองบ้าง แต่ก็ทำได้แค่ฝันไปเท่านั้น
ซุนเฟิง ที่ถูก เย่เฉิน ทิ่มแทงจนหมดสภาพ ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไปแล้ว
การสนทนากับ เย่เฉิน ครั้งนี้ เขาคงจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต มันช่างน่าตกตะลึงจริงๆ
เขาไม่ต่างอะไรจากกบก้นบ่อ สายตาที่เคยมองโลกอย่างคับแคบนั้นช่างทำให้เขารู้สึกละอายใจมาก
“ประธานโม่ เรื่องธุรกิจคุยกันวันหลังดีกว่า ผมขอตัวกลับก่อน”
ซุนเฟิง รู้สึกว่าอากาศในห้องนี้เริ่มอึดอัด เขาแทบจะหายใจไม่ออก เรื่องธุรกิจคุยกันทีหลังเถอะ มันไม่สำคัญเท่าชีวิตของเขาแล้วตอนนี้
ถ้าเขายังอยู่ต่อ เขาคงถูก เย่เฉิน ทำให้หดหู่จนแทบจะสงสัยในชีวิตมากขึ้นไปอีก
ตอนนี้เขาเองก็รู้สึกหดหู่มากพอแล้ว
“ได้คะ”
โม่ เมิ่งเฟย พยักหน้า เธอเข้าใจความรู้สึกของ ซุนเฟิง ดี
“ท่านประธานเย่ ผมขอตัวก่อนนะครับ เชิญทำธุระของคุณตามสบายเลยครับ”
หลังจากกล่าวลา ซุนเฟิง ก็รีบเดินออกไป เขาไม่อยากถูก เย่เฉิน ทิ่มแทงอีกต่อไปแล้ว
ทรัพย์สินที่เขาสั่งสมมานานกว่า 20 ปี เทียบกับของ เย่เฉิน แล้ว เล็กน้อยอย่างน่าขัน
หลังจาก ซุนเฟิง จากไป โม่ เมิ่งเฟย กับเย่เฉิน ก็เริ่มพูดคุยเรื่องบริษัทเกม
ในที่สุด เมื่อพูดคุยถึงเรื่องอื่นๆ จบ ทั้งคู่ก็กำหนดวันที่จะเปิดตัวบริษัทเกม
วันที่จะเปิดตัวคือวันที่ 15 เดือนหน้า!
ตอนนี้ยังมีเวลาให้เตรียมการครั้งสุดท้าย เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาจะทำให้วงการเกมของเซี่ยงไฮ้ต้องสั่นสะเทือนแน่นอน
เย่เฉิน คาดหวังอย่างมากว่า เกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’ จะกลายเป็นเกมยอดนิยมแบบเดียวกับ ‘Honor of Kings’
เย่เฉิน คาดหวังให้บริษัทเกมเติบโตขึ้น และในอนาคตมันจะทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
โม่ เมิ่งเฟย เองก็มีความคาดหวังอย่างมาก แม้ว่าเธอจะไม่มีความสามารถอย่าง เย่เฉิน ที่สามารถมองเห็นอัตราผลตอบแทนได้ แต่เธอก็เชื่อว่าเกม ‘เข้าสู่โลกอนาคต’ ที่เธอออกแบบมีศักยภาพไร้ขีดจำกัด!
“ฉันจะจัดการงานที่มีอยู่ให้เสร็จ แล้วจะไปเซี่ยงไฮ้ทันทีเพื่อเตรียมงานเปิดตัว”
เมื่อจะเปิดตัวในเซี่ยงไฮ้ พิธีเปิดต้องยิ่งใหญ่ และสมบูรณ์แบบ เพื่อให้วงการเกมของเซี่ยงไฮ้ได้รู้ถึงการมาถึงของพวกเขา
“ดี อีกไม่นานผมก็จะไปเซี่ยงไฮ้เพื่อเรียนอยู่ที่นั่นสักพัก ถ้ามีปัญหาอะไร ก็ติดต่อหาผมได้เลย”
เย่เฉิน พยักหน้า ในอนาคตเมื่อเขาไปเรียนที่เซี่ยงไฮ้ เขาจะสามารถดูแลบริษัทเกม และจัดการงานต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น
“ว่าแต่ คุณลุงโม่ อยู่บ้านไหม?”
ก่อนจะจากไป เย่เฉิน พลันถามขึ้น
คุณลุงโม่ เคยป่วยก่อนหน้านี้ และเย่เฉิน เคยไปเยี่ยมมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนี้เวลาผ่านไปสักระยะแล้ว เย่เฉิน คิดว่าจะไปเยี่ยมเขาอีกครั้ง วันนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดี
“อืม อยู่ที่บ้าน ถ้าคุณไปหาคุณพ่อคงต้องดีใจมากแน่ๆ”
โม่ เมิ่งเฟย ยิ้มตอบกลับ
หลังจากออกจากบริษัท โม่ กรุ๊ป เย่เฉิน ก็ตรงไปยังคฤหาสน์ของตระกูลโม่
เย่เฉิน กดกริ่งหน้าประตูอยู่นานก่อนที่ คุณลุงโม่ จะมาเปิดประตูให้เขา
“อ้าว เป็น เสี่ยวเฉิน นี่เอง”
เป็นไปตามที่ โม่ เมิ่งเฟย บอก คุณลุงโม่ ดูเหมือนจะตื่นเต้นมากเมื่อเห็น เย่เฉิน
“เข้ามาเลยๆ”
โม่ หงหรู รีบเชิญ เย่เฉิน ให้เข้าไปในบ้านทันที
“ลุงโม่ครับ นี่เป็นของบำรุงที่ผมเอามาฝากครับ”
เย่เฉิน ยื่นของขวัญที่เตรียมไว้ให้
“ครั้งหน้ามาห้ามเอาอะไรมาอีกนะ ไม่ต้องเกรงใจกันขนาดนี้”
โม่ หงหรู วางของขวัญลง และแสร้งทำเสียงดุใส่ เย่เฉิน
“จริงสิ เสี่ยวเฉิน เธอมาถูกเวลาพอดี ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอ!”
ทันใดนั้น จู่ๆ โม่ หงหรู ก็เปลี่ยนท่าที และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม