ตอนที่ 32 เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของจริง!
ตอนที่ 32 เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของจริง!
หนึ่งวันต่อมา…
ในตอนที่ฉู่เสวียนกำลังทำการบ่มเพาะอยู่ ทันใดนั้นข้าก็ได้กลิ่นหอมอันเย้ายวน
กลิ่นหอมนี้สามารถทำให้สิ่งมีชีวิตเกือบทุกชนิดในโลกหลงใหลได้ มันไม่ได้มีผลต่อร่างกาย แต่มีผลต่อจิตวิญญาณ
ฉู่เสวียนดูมีความสุขเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาก็ใช้พลังวิญญาณของเขาปิดสัมผัสทางปากและจมูกทันที ก่อนจะมองไปที่ราชาหมาป่า
แน่นอนว่าดอกไม้กำเนิดวิญญาณที่ก่อนหน้านี้ยังตูมอยู่ ตอนนี้ได้เบ่งบานขึ้นมาแล้ว !
ส่งผลให้ราชาหมาป่าที่ถูกยื้อชีวิตอยู่มานานกว่าสี่เดือน ได้เสียชีวิตลงอย่างสมบูรณ์ในขณะนี้ จิตวิญญาณและความมีชีวิตชีวาได้ถูกพรากไปโดยพืชวิญญาณที่ถูกปลูกบนร่างกายของมัน
สีของดอกไม้กำเนิดวิญญาณไม่ได้สะดุดตามากนัก กลีบดอกก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่แต่อย่างใด และมันก็ดูไม่ต่างไปจากดอกไม้ป่าธรรมดาๆเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะกลิ่นหอมที่ทำให้จิตใจของผู้คนที่สุดดมเข้าไปเคลิบเคลิ้มหลงไหลได้ ก็คงไม่มีใครสามารถแยกแยะมันกับดอกไม้ป่าออกจากกันได้
"หนึ่ง สอง สาม... รวมๆแล้วมีหกกลีบ!" ฉู่เสวียนนับกลีบดอกอย่างระมัดระวังถึงสามครั้ง แต่ก็ต้องรู้สึกประหลาดใจอีกครั้ง
ดอกไม้กำเนิดวิญญาณจะมีอย่างน้อยสองกลีบขึ้นไป แต่หากว่ามีมากกว่าสี่นั้นถือว่าหายากเป็นอย่างมาก
ตอนที่นิกายอู๋จี๋อยู่ที่จุดสูงสุด พวกเขาสามารถปลูกดอกไม้กำเนิดวิญญาณได้ในปริมาณมาก แต่ว่าทุกดอกที่ปลูกออกมาได้ก็มีเพียงสี่กลีบเท่านั้น..แต่เขาโชคดีมากที่สามารถปลูกดอกไม้วิญญาณได้หกกลีบ!
“มันอาจเกี่ยวกับโชคดีที่ข้าได้รับ” ฉู่เสวียนครุ่นคิด
นี่อาจเป็นผลบุญที่เขาได้ทำไว้ จึงตอบแทนเขามาด้วยการให้โชคลาภต่างๆแก่เขา
ฉู่เสวียนหยิบกรรไกรหยกคู่เล็กออกมา ก่อนจะตัดดอกไม้กำเนิดวิญญาณอย่างระมัดระวังแล้วเก็บไว้ในกล่องหยก
เมื่อได้เก็บดอกไม้กำเนิดวิญญาณมาแล้ว ก็เหมือนกับการยกก้อนหินขนาดใหญ่ออกไปจากใจของเขา
ดอกไม้กำเนิดวิญญาณเป็นยาอายุวัฒนะที่ใช้ในการกลั่นน้ำอัมฤทธิ์โลหิตสร้างรากฐาน
และการที่ดอกไม้กำเนิดวิญญาณนี้มีทั้งหมดหกกลีบก็เพียงพอที่จะเอามากลั่นหลอมเป็นน้ำอัมฤทธิ์โลหิตสร้างรากฐานได้สามชนิด
สำหรับผู้บ่มเพาะทั่วไปจำนวนมากที่อยู่ในช่วงกลั่นลมปราณและมีคุณสมบัติระดับปานกลาง ดอกไม้กำเนิดวิญญาณนี้ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญที่จะทำให้พวกเขาก้าวไปสู่ช่วงสร้างรากฐานได้อย่างง่ายดาย!
แน่นอนว่าไม่มีใครไม่อยากได้มันมา
แม้แต่ตอนที่นิกายอู๋จี๋อยู่ในจุดสูงสุดที่สามารถปลูกฝังดอกไม้กำเนิดวิญญาณได้จำนวนมาก แต่ตอนนั้นราคาของดอกไม้นี้ก็ยังคงสูงเป็นอย่างมาก
และหากมันถูกเอาไปวางไว้ที่ตรอกไท่ผิงในเวลานี้ ดอกไม้กำเนิดวิญญาณนี้อาจขายได้ในราคาสูงถึงหนึ่งหมื่นก้อนหินวิญญาณเลยก็ว่าได้!
เมื่อได้รับวัตถุดิบหลักที่สำคัญที่สุดมาแล้ว ฉู่เสวียนก็เริ่มจัดการกับวัตถุดิบเสริมอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว
ยาอายุวัฒนะบางชนิดต้องทำให้แห้งเพื่อขจัดความชื้นทั้งหมดออกไป
และยาอายุวัฒนะบางชนิดจำเป็นจะต้องบดเป็นผง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด
ก้านด้านนอกของยาอายุวัฒนะไม่สามารถใช้เป็นยาได้ และต้องคั้นน้ำออกก่อนจึงจะนำไปใช้ได้
ฉู่เสวียนได้คำนึงถึงขั้นตอนเหล่านี้แล้ว
ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป เขาก็ได้เตรียมวัตถุดิบเสริมทั้งหมดเสร็จสิ้น
ในที่สุดเขาก็หยิบเตาหลอมยาออกมาจากถุงเก็บของด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เตานี้เรียกว่าเตาหลอมไป่เฉา เขาได้ซื้อมาจากตลาดขายอุปกรณ์สำหรับเล่นแร่แปรธาตุ
เตาหลอมไป่เฉานี้เป็นเพียงอาวุธเวทย์มนตร์ระดับกลางเท่านั้น
พูดตามหลักเหตุผลแล้ว อาวุธเวทย์มนตร์ระดับกลางนั้นไม่แพงและสามารถซื้อได้ด้วยหินวิญญาณระดับต่ำประมาณสองร้อยก้อนเท่านั้น
แต่ด้วยวิธีการสร้างเตาหลอมนั้นแตกต่างไปจากการสร้างอาวุธเวทย์มนตร์อย่างสิ้นเชิง ดังนั้นมันจึงมีราคาที่สูงกว่า แต่เตาหลอมไป่เฉานี้ทำให้เขาต้องเสียหินวิญญาณระดับต่ำไปเกือบสี่ร้อยก้อน
“เริ่มการกลั่นน้ำอัมฤทธิ์โลหิตได้!” ฉู่เสวียนยกมือทั้งสองขึ้นมาถู จากนั้นก็เริ่มเอาไม้วิญญาณมาก่อไฟและทำการอุ่นเตาหลอมทันที
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลองกลั่นโอสถ แต่เขาก็ไม่ได้กลั่นน้ำอมฤตโลหิตสร้างรากฐานโดยตรง เขาเลือกที่จะทดลองกลั่นยาระดับกลั่นลมปราณดูก่อน
ยาตัวนี้เป็นยาฟื้นฟู เพราะมันสามารถเร่งการสมานแผลได้ และสามารถใช้ได้ในหลายสถานการณ์
แม้จะเข้าสู่ช่วงสร้างรากฐานแล้ว ก็สามารถทานยาฟื้นฟูตัวนี้ได้ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยในการรักษาที่ดีกว่า และผู้บ่มเพาะจำนวนมากที่อยู่ในช่วงสร้างรากฐานก็ยังรู้สึกว่ายาฟื้นฟูนี้แพงเกินไป แต่พวกเขาก็จำเป็นจะต้องใช้ยาฟื้นฟูตัวนี้เพื่อช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองอยู่ดี
ฉู่เสวียนจึงคิดว่าหากลองฝึกกลั่นยาฟื้นฟูเป็นอันดับแรก น่าจะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
หลังจากที่เตาหลอมไป่เฉาร้อนแล้ว เขาก็ใส่วัตถุดิบทั้งสามชนิดของยาฟื้นฟูลงไป เพื่อกลั่น
ทว่าเมื่อผ่านไปได้ครึ่งทางของกระบวนการกลั่น เปลวไฟบนเตาก็ค่อยๆมอดดับลงไป ส่งผลให้ของเหลวในหม้อแข็งตัวจับกันเป็นก้อน แม้ว่าฉู่เสวียนจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้มันจับตัว แต่ในที่สุดก็ได้เม็ดยาฟื้นฟูออกมาจนได้
แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นไม่ได้เป็นไปตามคาดอย่างแน่นอน ซึ่งรูปทรงของมันก็บิดเบี้ยวขี้ริ้วขี้เหร่เป็นอย่างมาก
ฉู่เสวียนไม่ได้สนใจมากนัก ท้ายที่สุดนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาลองฝึกเล่นแร่แปรธาตุ ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความล้มเหลว เขาจึงทำความสะอาดเตาหลอมไป่เฉาอีกครั้ง และเริ่มกลั่นยาฟื้นฟูเป็นครั้งที่สอง
เตาที่สองก็ยังคงล้มเหลว
จึงตามมาด้วยเตาที่สามและสี่
ฉู่เสวียนฝึกกลั่นยาฟื้นฟูซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้นจนตอนนี้ทักษะของเขาก็ได้พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ
หากเป็นผู้บ่มเพาะคนอื่นๆก็คงจะรู้สึกหงุดหงิดไปนานแล้วหลังจากที่ล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน และก็คงจะหยุดอยู่แค่นั้น
แต่ฉู่เสวียนได้เตรียมใจสำหรับเรื่องนี้ไว้แล้ว เขาจึงได้เตรียมวัตถุดิบในการกลั่นยาฟื้นฟูนี้มาทั้งหมดชนิดละสี่สิบชิ้น!
เมื่อเข้ามาถึงเตาที่หก ดวงตาของฉู่เสวียนก็สว่างขึ้น
สำเร็จ!
แม้ว่ายาฟื้นฟูที่เขาเพิ่งกลั่นเสร็จนี้จะมีรูปร่างที่บิดเบี้ยวไปบ้างและมีคุณภาพที่ไม่ดีนัก แต่ก็ถือว่าเขาประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนนั้นความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในใจของฉู่เสวียน เขารู้สึกมีแรงบันดาลใจขึ้นมาทันที แทบรอไม่ไหวที่จะลองกลั่นเตาที่เจ็ด เตาที่แปด เตาที่เก้า...
ยิ่งเขาฝึกไปเยอะเท่าไหร่ ก็เห็นว่าตนเองเริ่มชำนาญมากขึ้นเท่านั้น และโอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็สูงมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้ยาฟื้นฟูที่เขากลั่นออกมาได้มีลักษณะกลมเกลี้ยง สีแดงสด และมีกลิ่นหอมของสมุนไพร
แทบไม่แตกต่างไปจากยาฟื้นฟูที่นิกายอู๋จี๋ได้ทำออกมาเลย
หรือบางทีอาจจะดียิ่งกว่านั้นอีก!
ฉู่เสวียนมีความสุขมาก
และสิ่งที่แวบเข้ามาในจิตใจของเขาตอนนี้คือความเข้าใจพื้นฐานในการกลั่นยาฟื้นฟู
“ไม่คาดคิดว่าหลังจากกลั่นยาฟื้นฟูผ่านไปหกเตาข้าจะมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งเช่นนี้”
“ตอนนี้ข้าถือว่าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุของจริงแล้วใช่ไหม”
ฉู่เสวียนยิ้มอย่างมีความสุข..สิ่งนี้น่าจะเป็นผลบุญจากการทำกรรมดีอีกประการหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด
แม้ว่าจะเริ่มชำนาญแล้ว แต่เขาก็ยังไม่หยุดและตั้งใจว่าจะลองกลั่นยาอีกประเภทหนึ่งดู
ครั้งนี้เขาได้ลองใช้ยาเม็ดวิญญาณแสง
หลังจากรับประทานยานี้ ร่างกายจะเบาราวกับนกนางแอ่น และผลที่ได้จะดีเยี่ยมไม่ว่าจะใช้ไล่ตามหรือหลบหนี
ทว่าความเร็วในการกลั่นยาเม็ดวิญญาณแสงนั้นเร็วกว่าที่ฉู่เสวียนจินตนาการไว้เป็นอย่างมาก
เขาล้มเหลวเพียงเตาเดียวเท่านั้น เพราะหลังจากลองกลั่นเตาที่สองเป็นต้นไป เขาก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก
จากนั้น ฉู่เสวียนก็ได้ทดลองกลั่นยาระดับกลั่นลมปราณหลายชนิดติดต่อกัน
สองวันต่อมา…
ในตอนนี้ ฉู่เสวียนนั้นประสบความสำเร็จในการเล่นแร่แปรธาตุไปถึง 90% แล้ว
นี่ถือว่าเป็นอัตราที่เกินความคาดหมายสำหรับเขามาก
เพราะแม้แต่ผู้บ่มเพาะจำนวนมากที่อยู่ในช่วงสร้างรากฐานก็อาจจะทำไม่ได้เลย
แต่ที่ฉู่เสวียนทำได้ นั่นก็เพราะเขามีบุญหนุนนำ แม้จะพยายามเพียงเล็กน้อย ก็เทียบเท่ากับผู้ที่พยายามมาหลายปีแล้ว
ฉู่เสวียนไม่คิดที่จะพักแม้แต่น้อย เขากำลังเตรียมความพร้อมที่จะใช้พลังทั้งหมดที่มีในการกลั่นน้ำอัมฤทธิ์โลหิตสร้างรากฐานให้สำเร็จในคราวเดียว!
“เริ่มกลั่นน้ำอัมฤทธิ์โลหิตสร้างรากฐานได้แล้วสินะ!” ฉู่เสวียนพยายามสงบจิตใจของเขาลง
เพราะในการกลั่นน้ำอัมฤทธิ์โลหิตสร้างรากฐานนี้ เขาจะสามารถทำได้เพียงสามครั้งเท่านั้น หากว่าเขาล้มเหลวทั้งสามครั้ง เขาก็ต้องใช้เม็ดยาสร้างรากฐานที่ได้มาจากโอวหยางห่าว เพื่อช่วยให้เข้าสู่ช่วงสร้างรากฐานให้ได้
ซึ่งถือว่าเขาแทบไม่มีโอกาสให้ล้มเหลวได้เลย
เตาแรก...
ในช่วงกลางของการกลั่น เปลวไฟเริ่มเบาลง ฉู่เสวียนจึงได้เพิ่มไม้วิญญาณเขาไป แต่ก็ทำให้เปลวไฟเพิ่มขึ้นมาเป็นจำนวนมากในทันที
ส่งผลให้น้ำอมฤตในเตาหลอมถูกเผาจนระเหยแห้งเหือดไปในระยะเวลาอันสั้น และกลายเป็นมวลสีเข้มติดอยู่ที่ก้นเตาหลอมแทน
“เหตุใดเตาหลอมไป่เฉานี้ถึงไม่ออกแบบให้ยาไม่ติดหม้อกันนะ?” ฉู่เสวียนแอบตำหนิอย่างลับๆ
แต่เขาก็ไม่คิดที่จะท้อแท้ หลังจากทำความสะอาดเตาหลอมไป่เฉาแล้ว เขาก็เริ่มกลั่นน้ำอัมฤทธิ์โลหิตสร้างรากฐานเป็นครั้งที่สอง
ครั้งนี้ ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับเขา ระหว่างที่ทำการกลั่นหลอมนั้น ไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้นทั้งสิ้น จนมาถึงขั้นตอนสุดท้ายโดยตรง
พรึบ!
สำเร็จ!
กลิ่นหอมฟุ้งลอยออกมาเต็มดาดฟ้า
ฉู่เสวียนสูดหายใจลึก ๆ และรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาในทันใด ไม่นาน มันก็ทำให้การไหลเวียนของเลือดในร่างกายของเขาเร็วขึ้นมาในขณะนี้!
“เสร็จแล้ว!สำเร็จตั้งแต่เตาที่สองเลยหรือ?” ฉู่เสวียนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากกับผลลัพธ์นี้
มันเหลือเชื่อมากเลยใช่ไหม ที่สามารถกลั่นน้ำอมฤตโลหิตสร้างรากฐานได้ด้วยตัวเอง?
นี่ต้องขอบความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของข้าจริงๆ!