ตอนที่ 185 โลกแห่งเงามืด! (ฟรี)
ตอนที่ 185 โลกแห่งเงามืด!
ไป๋จื่ออันที่หลอมรวมเข้ากับอีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทอง ใช้ทักษะเนตรสวรรค์มองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบ
ไป๋จื่ออันสะกดพลังของอีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทองเอาไว้
เปลวเพลิงบนร่างกายของเขาเล็กลง ทำให้เป็นที่สังเกตยาก
แบบนี้เขาก็จะไม่ดูโดดเด่น
ยิ่งไปกว่านั้นไป๋จื่ออันยังใช้ทักษะยืดหดร่างกายย่อส่วนตัวเองให้มีขนาดเท่ากับคนธรรมดา
“แบบนี้เคลื่อนไหวสะดวกขึ้นเยอะ”
ไป๋จื่ออันพึมพำ
ไป๋จื่ออันหลอมรวมเข้ากับอีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทอง
ยังไงซะไป๋จื่ออันก็ไม่รู้ว่าโลกใบใหม่นี้จะอันตรายแค่ไหน
ดังนั้นการใช้พรสวรรค์หลอมรวมเข้ากับสัตว์วิญญาณ ทำให้เขามีพลังของสัตว์วิญญาณ มันจึงเป็นการปกป้องตัวเองที่ดีที่สุด
นี่คือความคิดของไป๋จื่ออัน
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมเขาถึงไม่หลอมรวมเข้ากับวาฬเกล็ดทองเงาขาว
ไม่ต้องพูดก็รู้
ในการเผชิญหน้ากับโลกที่ไม่รู้จัก การใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อปกป้องตัวเองเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
แน่นอนว่าหลังจากที่เขาสำรวจโลกใบนี้ รู้ว่ามันไม่ได้อันตราย เขาอาจจะหลอมรวมเข้ากับวาฬเกล็ดทองเงาขาวก็ได้
ตอนนี้ไป๋จื่ออันตัดสินใจที่จะทำแบบนี้
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็ใช้ [เนตรหยั่งรู้] ตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบ
[ตรวจพบสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี ผ้าผีเร่ร่อน อยู่ห่างออกไป 400 เมตร]
[ตรวจพบสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี เทียนไฟผี อยู่ห่างออกไป 1,000 เมตร]
[ตรวจพบสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี ภูตผีร่างมนุษย์ อยู่ห่างออกไป 5,000 เมตร]
ในเวลาเดียวกัน ข้อมูลโดยละเอียดของสัตว์วิญญาณมากมายก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าไป๋จื่ออัน
[เผ่าพันธุ์] : ผ้าผีเร่ร่อน (ภูตผี)
[ระดับ] : ขั้นเก้า ไร้ขั้น
[พรสวรรค์] : ข่มขู่ (E)
[คุณสมบัติ] : ทองแดงขั้นสูงสุด
[ทักษะ] : ลมภูตผี (เขียว) ...
[คำอธิบาย] : สัตว์วิญญาณประเภทภูตผี มีลักษณะเป็นผ้าสีขาวลอยได้ แต่ใต้ผ้าสีขาวนั้นไม่มีอะไรอยู่ มันมักจะใช้รูปลักษณ์หลอกลวงสัตว์วิญญาณทั่วไป
[เผ่าพันธุ์] : เทียนไฟผี (ภูตผี ไฟ)
[ระดับ] : เหล็กดำขั้นต้น
[พรสวรรค์] : เปลวเพลิงเทียนผี (D)
[คุณสมบัติ] : เงินขั้นต้น
[ทักษะ] : เปลวเพลิงเทียนผี (เขียว), ลมภูตผี (เขียว)
[คำอธิบาย] : ว่ากันว่ามันคือเทียนที่ใช้ในการบูชาคนตาย มันจึงมีความสามารถของภูตผีและเปลวเพลิง
[เผ่าพันธุ์] : ภูตผีร่างมนุษย์ (ภูตผี)
[ระดับ] : ทองแดงขั้นสูงสุด
[พรสวรรค์] : ลอยทะลุ (B)
[คุณสมบัติ] : ทองคำขั้นต้น
[ทักษะ] : ลอยทะลุ (เขียว), เปลวเพลิงเทียนผี (เขียว), ลมภูตผี (เขียว)
[คำอธิบาย] : สัตว์วิญญาณประเภทภูตผี มีลักษณะคล้ายคลึงกับมนุษย์ แต่มันไม่มีร่างกายที่แท้จริง มันสามารถลอยทะลุพื้นดินและภูเขาได้ การโจมตีทางกายภาพไม่ได้ผล
“ข้อมูลที่สมาชิกลัทธิแมงมุมปีศาจทั้งสามคนบอกนั้นถูกต้อง”
“โลกใบใหม่ใบนี้เป็นโลกของภูตผีจริงๆ”
“ดูเหมือนว่าลัทธิแมงมุมปีศาจจะไม่ธรรมดา พวกมันรู้อะไรบางอย่าง”
“พวกมันกำลังวางแผนอะไรกันแน่?”
ไป๋จื่ออันขมวดคิ้วเล็กน้อย เขารู้สึกว่าลัทธิแมงมุมปีศาจมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่
พวกมันพยายามทำให้มิติลับหมื่นรังไหมหลอมรวมกับโลกใบใหม่ พวกมันต้องมีแผนการอะไรแน่
ยิ่งไปกว่านั้นพวกมันยังรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับโลกใบนี้
ไป๋จื่ออันจึงอดไม่ได้ที่จะคิดมาก
แน่นอนว่าการที่ไป๋จื่ออันคิดมากไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร
เขาน่าจะสำรวจสถานการณ์ของโลกใบนี้ต่อไป
ไป๋จื่ออันเชื่อว่าตราบใดที่เขายังคงสำรวจโลกใบนี้ต่อไป เขาจะต้องเจอกับสมาชิกของลัทธิแมงมุมปีศาจ เขาก็จะรู้แผนการของพวกมันเอง
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็เลิกคิด เขาสังเกตการณ์ต่อไป
แต่หลังจากที่เข้ามาในโลกใบนี้แล้ว ไป๋จื่ออันก็รู้สึกสงสัยเรื่องหนึ่ง
ที่มาของแสงสลัวบนภูเขาพวกนั้นคืออะไร?
ทำไมโลกนี้ถึงไม่มีดวงอาทิตย์? แต่แสงสลัวบนภูเขาพวกนั้นกลับส่องสว่าง?
ไป๋จื่ออันสนใจแสงสลัวๆ พวกนั้นมาก
แต่น่าเสียดายที่ภูเขาพวกนั้นอยู่นอกเหนือขอบเขตการตรวจจับของ [เนตรหยั่งรู้]
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงหาคำตอบไม่ได้
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมฉันไม่ไปดูใกล้ๆ ล่ะ? ดูว่าแสงสลัวๆ พวกนั้นมันคืออะไรกันแน่?”
ไป๋จื่ออันพึมพำ เขาเกิดความคิดขึ้นมา
ในเมื่อไม่รู้ว่ามันคืออะไร เขาก็แค่ไปดูใกล้ๆ ก็รู้แล้ว
ไป๋จื่ออันจึงไม่ลังเล เขารีบมุ่งหน้าไปยังแสงสลัวๆ พวกนั้น
ในโลกสีเทา แสงสลัวๆ พวกนั้นดูเหมือนกับดวงดาว มันจึงไม่มีทางหลงทางได้
ระหว่างเดินทาง ไป๋จื่ออันก็ตรวจสอบสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังลองโจมตีพวกมัน
ยังไงซะ สัตว์วิญญาณประเภทภูตผีก็หาได้ยาก
ไป๋จื่ออันอยากจะรู้ว่าการโจมตีแบบไหนถึงจะได้ผลกับสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี
แล้วไป๋จื่ออันก็ค้นพบเรื่องหนึ่ง การโจมตีของอีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทองได้ผลกับสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี
ตอนที่ไป๋จื่ออันหลอมรวมเข้ากับอีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทอง สัตว์วิญญาณประเภทภูตผียังไม่กล้าเข้าใกล้เขาอีกด้วย
เรื่องนี้ทำให้ไป๋จื่ออันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ไป๋จื่ออันเคยเรียนรู้เรื่องความสัมพันธ์ในการแพ้ทางของธาตุ
จากความรู้ที่เขาได้รับ ถึงแม้ว่าทักษะธาตุไฟจะได้ผลกับสัตว์วิญญาณประเภทภูตผีก็จริง แต่มันก็ไม่ได้รุนแรงอะไรมากมาย
แต่เขาไม่คิดเลยว่าการโจมตีของอีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทองจะได้ผลกับสัตว์วิญญาณประเภทภูตผีมากขนาดนี้
เรื่องนี้ทำให้ไป๋จื่ออันรู้สึกสงสัย
แน่นอนว่ามันไม่ใช่ปัญหา แค่ถาม [เนตรหยั่งรู้] ก็พอแล้ว
ไม่นาน ไป๋จื่ออันก็ได้คำตอบ
มันเป็นเพราะพรสวรรค์ [ลายสุริยะ]
อีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทองไม่ใช่สัตว์วิญญาณประเภทอีกาธรรมดาๆ แต่มันเป็นสัตว์วิญญาณที่กำลังวิวัฒนาการไปเป็นอีกาสามขา มันมีพลังสุริยะอยู่ในร่างกาย
พรสวรรค์ [ลายสุริยะ] ทำให้มันสามารถดูดซับพลังสุริยะ อีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทองจึงมีพลังสุริยะอยู่ในร่างกาย
ส่วนสัตว์วิญญาณประเภทภูตผีนั้น พลังสุริยะสามารถปราบปรามพวกมันได้
ด้วยเหตุนี้เองการโจมตีของอีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทองจึงได้ผลกับสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี
“แบบนี้ก็แสดงว่าฉันไร้พ่ายในโลกแห่งภูตผีสินะ?”
ไป๋จื่ออันรู้สึกดีใจ ดวงตาของเขาเป็นประกาย
การที่อีกาสริุยะปีกเพลิงประกายทองสามารถปราบปรามสัตว์วิญญาณประเภทภูตผีได้ ทำให้ไป๋จื่ออันสามารถเดินวางมาดในโลกใบนี้ได้
นี่เป็นเรื่องดีสำหรับไป๋จื่ออัน
เมื่อคิดได้แบบนั้น ไป๋จื่ออันก็ดีใจมาก
ไป๋จื่ออันจึงเร่งฝีเท้า เขามุ่งหน้าไปยังภูเขาที่อยู่ใกล้ที่สุด
ไม่นาน ไป๋จื่ออันก็มาถึงตีนเขา
ตอนนี้แสงสลัวๆ บนยอดเขานั้นอยู่ในขอบเขตการตรวจจับของ [เนตรหยั่งรู้] แล้ว
ไป๋จื่ออันจึงใช้ [เนตรหยั่งรู้] ตรวจสอบแสงสลัวๆ พวกนั้น
[ตรวจพบทรัพยากรพิเศษ ผลึกเงา อยู่ด้านบน 9,999 เมตร]
[ผลึกเงา] : พลังงานต้นกำเนิดของมิติลับระดับกลาง โลกแห่งเงามืด มีประโยชน์มากสำหรับสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี
การสะสมผลึกเงาจำนวนมากสามารถพัฒนาคุณสมบัติของสัตว์วิญญาณประเภทภูตผีได้ (ต้องเก็บผลึกเงาตอนที่มันสุกงอมแล้ว ไม่งั้นผลลัพธ์จะหายไป)
“พลังงานต้นกำเนิดของมิติลับระดับกลาง โลกแห่งเงามืด มีผลลัพธ์พิเศษต่อสัตว์วิญญาณประเภทภูตผี”
“ผลึกเงานี่เป็นของดีจริงๆ”
ไป๋จื่ออันรู้สึกดีใจ
เป็นแบบที่เขาคิดจริงๆ ด้วย แสงสลัวๆ พวกนั้นไม่ธรรมดา
แต่มิติลับระดับกลางที่เขาอยู่ตอนนี้ถูกเรียกว่าโลกแห่งเงามืด?
นี่เป็นครั้งแรกที่ไป๋จื่ออันได้ยิน
แต่ก็ไม่แปลก ตั้งแต่ที่เขามาถึงโลกใบใหม่นี้ ความสนใจของเขาก็ถูกดึงดูดโดยสภาพแวดล้อมของมัน
ไป๋จื่ออันไม่ได้สนใจชื่อของมิติลับระดับกลางแห่งนี้
แน่นอนว่าชื่อของโลกใบนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
สิ่งที่ไป๋จื่ออันสนใจก็คือผลึกเงา
จากคำอธิบายของ [เนตรหยั่งรู้] นี่คือสมบัติล้ำค่า
นี่เป็นครั้งแรกที่ไป๋จื่ออันได้เห็นสิ่งของที่สามารถพัฒนาคุณสมบัติของสัตว์วิญญาณได้
แต่พอคิดว่าผลึกเงาเกิดจากพลังงานต้นกำเนิดของโลกใบนี้ ไป๋จื่ออันก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร
ยิ่งไปกว่านั้น ไป๋จื่ออันยังมั่นใจว่าผลึกเงาน่าจะเป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดในโลกใบนี้
ตราบใดที่เขามีผลึกเงาจำนวนมาก เขาก็สามารถพัฒนาคุณสมบัติของสัตว์วิญญาณประเภทภูตผีได้ทุกตัว
แบบนี้ไม่ว่าเขาจะอยากฝึกฝนสัตว์วิญญาณประเภทภูตผีแบบไหน เขาก็สามารถฝึกฝนพวกมันให้แข็งแกร่งขึ้นได้
ไป๋จื่ออันมั่นใจว่าตอนที่นักผจญภัยคนอื่นๆ รู้ถึงความล้ำค่าของผลึกเงา พวกเขาจะต้องเก็บรวบรวมมันอย่างแน่นอน
“แต่ผลึกเงานี่มันเกิดขึ้นเรื่อยๆ รึเปล่านะ?”
ไป๋จื่ออันพึมพำ
ผลึกเงานี่มันเกิดขึ้นเรื่อยๆ งั้นเหรอ?
จากคำอธิบายของ [เนตรหยั่งรู้] ผลึกเงาเกิดจากพลังงานต้นกำเนิดของโลกแห่งเงามืด
ตามทฤษฎีแล้ว มันควรจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ไป๋จื่ออันก็ไม่ต้องกังวลอะไร เขาก็แค่เฝ้าภูเขา รอให้ผลึกเงาปรากฏตัวขึ้น
แต่ไป๋จื่ออันไม่แน่ใจว่าความคิดของเขาจะถูกต้องรึเปล่า
ดังนั้นไป๋จื่ออันจึงใช้ [เนตรหยั่งรู้] ตรวจสอบ
ไม่นาน ไป๋จื่ออันก็ได้คำตอบ
[ในโลกแห่งเงามืด ทุกๆ สิบปี จุดพลังงานต้นกำเนิดแต่ละแห่งจะสร้างผลึกเงาขึ้นมาหนึ่งชิ้น]
[แต่หลังจากที่โลกแห่งเงามืดหลอมรวมเข้ากับมิติลับหมื่นรังไหม มันก็จะไม่มีผลึกเงาปรากฏขึ้นอีกต่อไป]
“เป็นแบบที่ฉันคิดเอาไว้จริงๆ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น”
“พอโลกทั้งสองหลอมรวมกันแล้ว ก็จะไม่มีผลึกเงาปรากฏขึ้นอีก”
“ยิ่งไปกว่านั้น การเกิดของผลึกเงายังต้องใช้เวลาถึงสิบปี”
“แต่ตอนนี้ โลกทั้งสองจะหลอมรวมกันภายในสองปี”
“นั่นหมายความว่าผลึกเงาที่เหลืออยู่ในโลกแห่งเงามืดคือผลึกเงากลุ่มสุดท้าย”
“ดูเหมือนว่าฉันต้องรีบรวบรวมผลึกเงาพวกนี้แล้ว”
ไป๋จื่ออันพึมพำ เขากำลังคิดถึงเรื่องนี้
จริงๆ แล้ว ไป๋จื่ออันเดาออกตั้งแต่แรกแล้วว่าผลึกเงาไม่น่าจะเกิดขึ้นเรื่อยๆ
แต่เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์ของผลึกเงาจะร้ายแรงขนาดนี้