Chapter 62: สัตว์ร้าย
ทันทีที่เห็นทองคำจำนวนมากทะลักทะลายออกมาจากผนัง ฉินหรานก็ตั้งใจที่จะเก็บบางส่วนไว้สำหรับตัวเอง เขาแน่ใจว่ากุนเธอร์สันคงจะไม่สนใจตราบเท่าที่เขาไม่ได้หยิบมากเกินไป แต่การปรากฏตัวขึ้นมาของอัลทิลลี่และภารกิจหลักที่สำเร็จขึ้นมากะทันหันขัดขวางแผนการเดิมของเขาไปซะแล้ว เขามีเวลาแค่ห้านาทีที่จะเอาอะไรก็ตามติดไปด้วยก่อนออกจากดันเจี้ยน
เขาไม่มีแผนการอะไรเลย
เขาอยากจะสาปแช่งคนที่คิดกฏ "เอาไปเท่าที่ไหว" เสียจริง
ทว่าการมีอยู่ของอัญมณีพวกนี้แทบจะพลิกสถานการณ์นี้เลยทีเดียว เทียบกับทองคำแท่งที่มีน้ำหนัก อัญมณีพวกนี้เล็กกว่าและเบากว่ามากเหมาะให้เขาเอาไปมากกว่า
อาชีพรับจ้างเล่นเกมก่อนหน้านี้ของเขาทำให้เขาเข้าใจความสำคัญและคุณค่าของอัญมณีที่สามารถฝังลงบนอุปกรณ์ได้ ไม่ต้องพูดถึงความสามารถพิเศษหรือค่าสถานะ ที่อัญมณีพวกนี้มอบให้ได้
เขาตัดสินใจแล้ว
มีเสียงคำรามดุร้ายดังมาอีกระลอก เงาร่างใหญ่โตเริ่มมองเห็นได้ชัดขึ้นเรื่อย ๆ คนอื่น ๆ ก็มองเห็นมันกำลังใกล้เข้ามาแล้วเหมือนกัน ทุกคนเริ่มถอยออก เหลือเพียงฉินหรานที่ยืนอยู่ที่เดิม
"ไปกันเถอะ!" จอห์นดึงฉินหรานที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
"นายไปก่อน ฉันจะระวังหลังให้! ต้องมีคนดึงความสนใจของสัตว์ประหลาดนี่ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะไม่มีใครรอดออกไปได้เลย! เราวิ่งไม่เร็วไปกว่ามันหรอก!" ฉินหรานพูดเร็ว ๆ
ภายในไม่กี่วินาที สัตว์ประหลาดก็คลานออกมากจากโพรงลึกที่เป็นที่ซ่อนสมบัติและเข้ามาในห้องโถง สำแดงความเร็วอันเหลือเชื่อของมัน
ไม่มีใครเร็วเท่ามันยกเว้นฉินหรานและกุนเธอร์สัน แต่ว่า หลังจากกุนเธอร์สันปล่อยพลังโจมตีออกไป เขาก็อ่อนล้าและดูทรุดโทรมกว่าที่เคย เขาแทบจะยืนด้วยตัวเองไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ การโจมตีก่อนหน้านี้ใช้พลังของเขาไปเกือบหมด เปลี่ยนเพื่อนร่วมทีมที่แข็งแกร่งที่สุดของฉินหรานกลายเป็นแค่ไม้ประดับไปแล้ว ดังนั้น คนเดียวที่สามารถรั้งสัตว์ประหลาดตัวนี้ไว้ได้คือฉินหราน
สถานการณ์บังเอิญเข้าทางแผนการของฉินหรานเป๊ะ
"ฉันทำเอง!" จอห์นพูดขึ้นมาทันที
"นายบาดเจ็บ! อีกอย่าง ฉันเร็วกว่านาย!" ฉินหรานส่ายหน้าขณะเดินไปหาคาร์ล รับกล่องใส่อาวุธของเขาคืน หลังจากที่เอาอาวุธออกมา เขาก็มองไปที่กุนเธอร์สันและพูดพร้อมยิ้ม "ผมยังอยากเรียนกับคุณอีกนะถ้ามีโอกาส!"
"ได้แน่นอน!" กุนเธอร์สันรับปากด้วยเสียงหนักแน่น
อย่างไรก็ตาม ฉินหรานรู้ดีว่าเขาจะไม่มีโอกาสนั้นหรอก พอเขาออกไปจากดันเจี้ยน พวกเขาสองคนก็จะไม่ได้เจอกันอีก นั่นทำให้เขาตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้ม
"พาอาจารย์ของเธอกลับออกไปและบอกพ่อของเธอให้เอาเงินค่าจ้างส่วนที่เหลือของฉันให้คาร์ล!" ฉินหรานพูดกับเด็กสาวตัวผอมสูงผมสีแดง
"พอนายเจอคนที่ชอบ นายจะมามัวทำตัวยากจนไม่ได้หรอกนะเพื่อน!" แม้ว่าเขาจะอยากตอบแทนความช่วยเหลือของคาร์ลตลอดดันเจี้ยนนี้ด้วยวิธีอื่น แต่ดูเหมือนว่าเขาคงต้องใช้วิธีตรงไปตรงมาอย่างนี้แล้ว
ฉินหรานต้องบอกลาแค่สั้น ๆ เมื่อสัตว์ประหลาดเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ คลื่นทองคำที่ชะงักไปเมื่อครู่ จู่ ๆ ก็พูนสูงขึ้นอีกเมื่อสัตว์ประหลาดมุดผ่านมาทางด้านใต้ราวกับวาฬว่ายน้ำตรงเข้ามาหาพวกเขา
"คาร์ล! มาพยุงจอห์นไว้แล้วกลับออกไปทางที่พวกนายเข้ามา!" ฉินหรานหมุนตัวและพุ่งกลับเข้าไปในห้องโถง
"ฉินหราน! คุณฉินหราน!" พอได้ยินเสียงเรียกชื่อของเขา ฉินหรานก็ยกมือขวาขึ้นโบกลา
มือซ้ายของเขาถือระเบิด [U-II] เอาไว้ขณะม้วนตัวไปข้าง ๆ
สัตว์ประหลาดเข้ามาใกล้มากแล้ว
ราวกับวาฬโผล่ขึ้นจากท้องทะเล มันดันเอาทองคำกระจายออกไปทั่วแล้วกระโดดเข้ามาหาฉินหราน มันถากตัวเขาไปนิดเดียวและเปิดเผยรูปร่างหน้าตาออกมา
มันคือจระเข้โคลอสซาล
มันยาวเกือบ 15 เมตรและกว้าง 4-5 เมตร ลำตัวปกคลุมด้วยเกล็ดขาวราวไข่มุก แค่เฉพาะส่วนหัวอย่างเดียวก็ยาวกว่า 3 เมตรแล้ว และดวงตาสีแดงของมันก็จับจ้องไปที่เหยื่ออย่างดุร้าย
จระเข้เปิดปากออกกว้างแล้วกระโจนใส่ฉินหราน ปากของมันกว้างจนน่าจะสามารถกลืนรถลงไปทั้งคันได้
ตูม!
ระเบิด [U-II] ที่ฉินหรานขว้างไประเบิดในปากของมันพอดี ระเบิดที่สามารถฉีกมนุษย์ออกเป็นชิ้น ๆ ได้นั้นแทบจะไม่ระคายสัตว์ร้ายตัวนี้เลย มีเพียงแค่รอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น
[ระเบิด: ก่อความเสียหาย 200 แต้มแก่เป้าหมาย เป้าหมายมีเกราะยืดหยุ่นสูงและมีสกิลผิวเหล็กกล้า ป้องกันความเสียหาย 180 แต้ม ก่อความเสียหายจริงแก่เป้าหมาย 20 แต้ม]
การแจ้งเตือนที่เด้งขึ้นมาสร้างความไม่พอใจให้แก่ฉินหรานมาก เขาไม่ได้ประเมินความแข็งแกร่งของสัตว์ร้ายต่ำแล้วแต่ความจริงก็ยังบอกว่าเขาพลาด ประวัติการต่อสู้ในระบบทำให้ฉินหรานเข้าใจว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับอันตรายอะไรอยู่
จระเข้โคลอสซาลเป็นมาตรการชั้นสุดท้ายในการป้องกันสมบัติของศาสนจักรแห่งอรุณรุ่ง
ในเมื่อศาสนจักรแห่งอรุณรุ่งสามารถมีสกิลอย่าง [หลักการควบคุมร่างกายของอัศวินแห่งรุ่งอรุณ] ได้ ก็เป็นไปได้ที่จะมีสกิลพิเศษอื่น ๆ ด้วย บางทีการสร้างสัตว์ร้ายที่ผิดปกติเช่นนี้ผ่านการเล่นแร่แปรธาตุก็อาจจะเป็นไปได้เช่นกัน ความผิดปกติสามารถอธิบายได้ด้วยสกิลเสริม
นอกจากนี้ ฉินหรานยังแน่ใจได้ว่าจระเข้โคลอสซาลตัวนี้น่าจะมีพลังชีวิตมากกว่าแค่ 100-200 แต้ม และจากขนาดร่างกายใหญ่โตของมันหมายถึงว่ามันอาจจะมีการป้องกันที่พิเศษ
ถ้ามันจะมีพลังชีวิต 500-600 แต้มก็ไม่น่าแปลกใจเลย
ฉินหรานหวังว่าเขาจะโชคดีและอาจจะฆ่ามันได้ แต่หลังจากได้เห็นพลังป้องกันสุดบ้าคลั่งของมันเขาก็ละทิ้งความคิดที่จะฆ่ามัน เรื่องดีอย่างเดียวก็คือ สัตว์ร้ายทุ่มความสนใจทั้งหมดมาที่ฉินหรานคนเดียว
"ตอนนี้แหละ! วิ่ง!"ฉินหรานตะโกนบอกเพื่อนจากไกล ๆ หลังจากเห็นหน้าตาสัตว์ร้ายและได้ยินเสียงตะโกนของฉินหราน ในที่สุดพวกเขาก็ได้สติ
"ไป!" กุนเธอร์สันที่มีประสบการณ์ต่อสู้ในสนามรบมากที่สุดพูด อัศวินคนสุดท้ายรู้ว่าอะไรดีที่สุดภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ยินดียอมรับความจริงนั้นก็ตาม
"แต่.. แต่ว่า.." คาร์ลพยายามพูดตะกุกตะกัก จอห์นก็เช่นกัน เขายืนนิ่งกับที่ ไม่อยากทิ้งเพื่อนไว้ข้างหลัง
มีเสียงดังตุบขึ้นสองครั้งเมื่อนายตำรวจทั้งสองถูกสับหลังคอโดย "มือทมิฬ" จิมมี่ เขาทำให้ทั้งสองคนหมดสติไป
"ตอนนี้แหละ!" จิมมี่พูดด้วยเสียงเข้มงวด เขาเติบโตขึ้นมาในแก๊งเขาจึงรู้ว่าอะไรดีที่สุดในสถานการณ์นี้ จิมมี่ต้อนทุกคนให้มุ่งกลับหน้าไปตามทางที่พวกเขาเข้ามา
จระเข้โคลอสซาลยังคงพุ่งเข้าใส่ฉินหรานอีกครั้ง ฉินหรานรู้สึกโล่งอกขึ้นเมื่อเห็นทุกคนออกไปแล้ว แผนของเขาจะทำได้ยากถ้าทุกคนยังจับจ้องอยู่ อย่างไรเสีย เขาก็แค่ต้องหลบการโจมตีของสัตว์ประหลาดและเก็บรวบรวมอัญมณีไปด้วย นั่นคงทำให้ทุกคนสงสัย ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะละโมบมากแค่ไหนก็ไม่ทำอย่างนี้ อีกอย่าง ตัวตนของเขาในดันเจี้ยนนี้ก็ไม่ได้มีนิสัยละโมบโลภมากหรือหิวเงิน เมื่อทุกคนออกไปแล้ว เขาก็สามารถเก็บอัญมณเท่าที่เก็บได้ได้อย่างเปิดเผย
แน่นอนว่า เขาต้องจับตาดูจระเข้โคลอสซาลไปด้วย
จระเข้ตัวนี้แข็งแกร่งมากและมีความเร็วไม่ธรรมดา ไม่ต้องพูดถึงขนาดตัวและหนังหนาทำลายไม่ได้ มันเป็นสัตว์ประหลาดแห่งการทำลายล้างตัวจริง ถ้าฉินหรานต้องเผชิญหน้ากับมันตรง ๆ เขาคงจะไม่มีโอกาสเลย แม้แต่กุนเธอร์สันก็อาจจะไม่ใช่คู่มือของมัน อย่างไรก็ตาม ด้วยขนาดตัวมหึมาของจระเข้ทำให้มันไม่คล่องแคล่วและไม่ยืดหยุ่นมากพอ
ทั้งหมดที่ฉินหรานต้องทำก็คือหลบการโจมตีของมัน ด้วย ความคล่องแคล่วระดับ E รวมกับขนาดตัวเท่ามดเมื่อเทียบกับจระเข้ ฉินหรานตัวเล็กและว่องไว ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบเมื่อเผชิญหน้ากับมัน
ขาของจระเข้นั้นหนาราวกับแท็งก์น้ำ และหางก็ยาวราว 6-7 เมตร ทันใดนั้น มันก็กวาดผ่านทองคำที่กองอยู่ข้าง ๆ
ฉินหรานรีบม้วนตัวไปด้านข้างเพื่อหลบ แม้ว่าแรงลมจากการเคลื่อนไหวจะทำให้รู้สึกไม่สบายใจเอามาก ๆ เขากลิ้งตัวหลบการโจมตีได้ด้วยการใช้แรงไปประมาณหนึ่ง เขากลิ้งตัวอีกครั้งและคว้าอัญมณีเต็มกำมือมาพร้อมกันด้วย
จระเข้กวาดหางใส่ฉินหรานอีกครั้งขณะที่เขากำลังหลบออกให้พ้นทาง เป็นอีกครั้งที่ฉินหรานคว้าเอาอัญมณีอีกกำมือหนึ่งขณะหลบการกวาดหางใส่
จระเข้ทรงตัวขึ้นมาด้วยสองขาหลัง มันคิดจะใช้ร่างกายมหึมากระแทกทับฉินหราน แบบภูเขาถล่มใส่ แรงจากการกระแทกราวกับระเบิดทำงานพร้อมกันเป็นตัน ทองคำและอัญมณีนับไม่ถ้วนกระจายไปทั่วขณะที่ฉินหรานที่หลบการกระแทกพ้น เมื่อเห็นอัญมณีและทองคำปลิวอยู่กลางอากาศ ฉินหรานก็รีบคว้าเอาไว้ด้วยสองมือ เขาใช้ความเร็วมือสูงสุดเท่าที่ความคล่องแคล่วระดับ E จะให้ได้จนเกิดเงาเป็นทางตามการเคลื่อนไหว
อย่างที่ฉินหรานเคยพูดไว้ ถ้าให้แบกหินร้อยกิโลกรัมเขาจะขว้างมันทิ้ง แต่ถ้าเป็นร้อยกิโลของเหรียญสากล เขาจะคว้ามันไว้และวิ่งเร็วกว่าใคร ๆ อัญมณีพวกนี้ก็เหมือนกับเหรียญสากลในด้านมูลค่า ดังนั้นฉินหรานจึงใช้ความสามารถและสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดของเขาจนถึงขีดสุด สำหรับเขา เงินทองคือชีวิต ตอนนี้เขาต่อสู้เพื่อชีวิตของเขา
การดิ้นรนของฉินหรานท้าทายจระเข้โคลอสซาลที่รู้สึกว่าความภาคภูมิใจของมันถูกทำร้าย จระเข้ปล่อยพลังทั้งหมดจัดการกับเหยื่อของมัน
หางสะบัด กรงเล็บตะกายและบดกรามใหญ่ยักษ์ แต่ละการโจมตีราวกับจะเขย่าภูเขาได้
อย่างไรก็ตาม การโจมตีแต่ละครั้งของมันไม่โดนเป้าหมายเลย ฉินหรานว่องไวราวกับแมว กระโดดและม้วนตัวไปรอบ ๆ จระเข้โคลอสซาล และเก็บอัญมณีที่เจอไปด้วยพร้อมกัน
พอจระเข้พลาดเป้าหมายอีกครั้งมันก็โมโหขึ้นกว่าเดิมและเพิ่มความดุร้ายขึ้น
ดวงตาสีแดงของมันสุดสว่างราวกับหลอดไฟขณะปล่อยเสียงคำรามที่ดังและรุนแรงกว่าคราวแรก
ทันใดนั้น ก็มีแรงดูดมหาศาลออกมาจากปากขนาดใหญ่ของมัน สมบัติทั้งหมดที่อยู่ในระยะสามสิบเมตรถูกดูดเข้าไปราวกับตัวของมันเป็นหลุมดำ ฉินหรานเองก็อยู่ในรัศมีแรงดูดนั้นและร่วงลงไปในปากของจระเข้อย่างรวดเร็ว