บทที่ 675 หุบเขาสมุนไพรลับ เกาะอิทธิฤทธิ์เทพ
สำนักเสินหนงเป็นสำนักที่เฉินโม่เคยจินตนาการถึงเสมอ
ในอดีตผู้ฝึกตนขั้นทองสามารถทำลายสำนักชิงหยาง บนยอดเขาจื่อหยุนจนราบคาบ อีกทั้งปรมาจารย์ระดับปฐมภูมิก็สามารถไล่ล่าผู้ฝึกตนจากแดนจงโจวมาถึงที่นี่
พวกเขาทำลายสำนักชิงหยางและยึดครองดินแดนลับนั้นไป กลายเป็นสถานที่ฝึกฝนสำหรับศิษย์ของพวกเขา
สิบกว่าปีก่อนตอนนั้นเฉินโม่ยังไม่ถึงขั้นทอง เขายังคิดว่าดินแดนลับเสินหนงเป็นหนึ่งในดินแดนลับที่หายากสุดยอด หากใครได้ครอบครองจะสามารถทะยานฟ้าเป็นเซียนได้ทันที
เพราะเหตุนี้ สำนักเสินหนงถึงได้ยกกำลังทำลายล้างสำนักชิงหยางโดยไม่ลังเล
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ระดับของเฉินโม่สูงขึ้น เขาได้สัมผัสเรื่องราวต่างๆมากขึ้น จึงได้ตระหนักว่าดินแดนลับเสินหนงเป็นเพียงหนึ่งในดินแดนลับมากมาย มันอาจหายากแต่ก็ไม่ได้หายากถึงขั้นที่เป็นไปไม่ได้ที่จะพบ
ตั้งแต่นั้นมาสำนักเสินหนงก็ยิ่งกลายเป็นสิ่งที่ลึกลับมากขึ้น
ปัจจุบัน เมื่อเฉินโม่เดินทางมายังแผ่นดินจงโจว สิ่งที่เขาต้องการเห็นมากที่สุดคือสำนักเซียนที่ถูกขนานนามว่าเป็นผู้ควบคุมครึ่งหนึ่งของแคว้นอู๋ฉือ
ในเมืองหลวงของแคว้นอู๋ฉือสามารถเห็นป้ายไม้โบราณและประตูทางเข้าอันลึกซึ้งได้ทุกหนทุกแห่ง
แม้กระทั่งพลังที่แผ่ออกมาก็ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด
ในขณะนี้เฉินโม่ได้ก้าวเข้าไปยังสำนักเสินหนงแล้ว
ที่นี่แตกต่างจากร้านค้าใดๆ ที่เฉินโม่เคยเห็นไม่มีเสียงจอแจ ไม่มีการเรียกขายสินค้าและไม่มีโต๊ะหน้าร้านแม้แต่โต๊ะเดียว
เมื่อเขามองขึ้นไปเขาพบว่าตัวเองอยู่บนเกาะโดดเดี่ยว
รอบๆตัวมีทะเลกว้างใหญ่ยอดเขาปกคลุมไปด้วยหิมะขาวฝนวิญญาณตกปรอยๆคลุมทั้งเกาะ
ภาพที่เห็นดูไม่ค่อยสมจริงนัก
เฉินโม่ถอยกลับออกมา กลับมายังถนนที่ครึกครื้นไปด้วยผู้คนมากมาย เหล่าผู้ฝึกตนที่ถือหินวิญญาณเดินไปมามุ่งหน้าสู่จุดหมายของพวกเขา
เฉินโม่รู้สึกสับสน
แต่แล้วเขาก็กลับเข้าไปอีกครั้งมันยังคงเป็นเกาะลึกลับเก่าแก่และในที่สุดเขาก็เข้าใจ
ที่นี่คือดินแดนลับ!
ดินแดนลับที่เปิดทางเข้าอยู่ในเขตเมือง
ขณะที่เฉินโม่มองดูสิ่งรอบตัว เรือใบเล็กๆลอยมาจากระยะไกล มีสิ่งมีชีวิตรูปร่างเหมือนมนุษย์ทำจากพืชวิญญาณกระโดดลงมาจากเรือ มันมีลำตัวที่ประกอบด้วยชั้นๆ คล้ายมนุษย์แต่ก็ไม่เหมือนมีแมลงวิญญาณบินวนอยู่รอบหัวที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้เขียว
เฉินโม่รู้สึกประหลาดใจ
ข้างกายมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้
เขาสวมเสื้อผ้าเรียบง่าย ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมมีหนวด บนขากางเกงสีเหลืองมัวหมองมีคราบดินดำเกาะอยู่
ชายคนนั้นมองเฉินโม่เพียงแวบเดียว ก่อนจะกระโดดขึ้นเรือไปพร้อมกับสิ่งมีชีวิตจากพืชวิญญาณและล่องไปยังเกาะอิทธิฤทธิ์เทพ
ฉากนี้ทำให้รู้สึกแปลกประหลาด
ในขณะที่เฉินโม่กำลังมองไปรอบๆเรือใบเล็กอีกลำก็ลอยมาจากเกาะ
ยังคงเป็นสิ่งมีชีวิตจากพืชวิญญาณตัวเดิม และยังคงต้อนรับด้วยความกระตือรือร้น
“หุบเขาสมุนไพรลับอยู่ข้างในหรือ?”
เฉินโม่ถามด้วยความสงสัย
แต่สิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายดอกบัวเล็กๆ กลับส่งเสียง "อี้อี้" ตอบว่า
“ข้ามแม่น้ำหนึ่งก้อนหินวิญญาณ”
เพียงเพื่อขึ้นเกาะก็ต้องจ่ายหนึ่งก้อนหินวิญญาณ ซึ่งราคานี้ค่อนข้างสูง
เฉินโม่ถามต่อว่า “ข้าข้ามไปเองได้ไหม?”
แต่สิ่งมีชีวิตจากพืชวิญญาณไม่เข้าใจและยังคงพูดซ้ำว่า “ข้ามแม่น้ำหนึ่งก้อนหินวิญญาณ”
เฉินโม่ลองก้าวออกไปในอากาศ แต่ทันทีที่ก้าวพลังมหาศาลก็ฉุดเขาลง
ขณะที่ปลายเท้าของเขาสัมผัสน้ำทะเลข้อมูลที่ยุ่งเหยิงและไม่อาจบรรยายได้ก็ทะลักเข้ามาในสมองทำให้จิตใจของเขาสับสน
เคราะห์ดีที่เขาลองเพียงแค่นั้นในขณะที่กำลังจะหมดสติเขาก็ดึงเท้าออกจากน้ำได้ทันเวลา
ข้อมูลในหัวหายไป
เฉินโม่ค่อยๆ ฟื้นสติกลับมา
หัวใจของเขาเต้นรัวและยังคงรู้สึกหวาดกลัว
ต้องรู้ว่าเขาอยู่ในระดับปรมาจารย์ปฐมภูมิแต่กลับไม่มีแรงต้านทานที่นี่เลยแม้แต่น้อย!
“ยังมีคนไม่รู้จักเกาะอิทธิฤทธิ์เทพของหุบเขาสมุนไพรลับอีกหรือ?”
เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นจากด้านหลัง
เฉินโม่หันไปมองเขากำลังจะถามแต่ชายคนนั้นจ่ายค่าหินวิญญาณและขึ้นเรือไปแล้ว
“เกาะอิทธิฤทธิ์เทพ?”
เพียงไม่กี่คำก็ยืนยันข้อสันนิษฐานของเขา
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้กลับทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ
ร้านค้าเพียงแห่งเดียวกลับเป็นดินแดนลับและเพียงแค่ข้ามน้ำก็ต้องจ่ายหนึ่งก้อนหินวิญญาณ
สุดท้ายเฉินโม่จึงต้องตัดสินใจจ่ายค่าธรรมเนียมและขึ้นเรือเล็กที่มาถึง
เมื่ออยู่บนเรือเฉินโม่สังเกตเห็นว่าความเร็วในการเดินทางช่างช้ากว่าที่เห็นจากฝั่ง
สิ่งมีชีวิตจากพืชวิญญาณใช้เสียง "อี้อี้" ขณะพายเรือไปยังเกาะอย่างช้าๆ
ไม้ไผ่ยาวๆ บางครั้งก็ดึงเอาสิ่งที่คล้ายพืชวิญญาณสีขาวยาวๆ ขึ้นมาแต่เฉินโม่ไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไร
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ในสารานุกรมพืชวิญญาณ
เฉินโม่ก้มลงมองน้ำเบื้องล่างพบเห็นสาหร่ายและปลาวิญญาณแปลกๆว่ายไปมา
มีปลาที่มีเพียงศีรษะใหญ่แต่ไม่มีตัวหรือบางตัวที่ยาวเป็นร้อยเมตร
มันดูเหมือนปลาแต่ก็คล้ายกับสัตว์อสูร
ในขณะที่เฉินโม่มองดูอยู่พืชวิญญาณน้ำสีเขียวอ่อนที่มีหนามก็งอกขึ้นอย่างรวดเร็วพวกมันพันปลาหัวใหญ่แล้วดึงกลับไปยังราก
ไม่รู้ว่าพืชวิญญาณน้ำเหล่านี้หลั่งสารอะไรออกมาแต่ปลาวิญญาณกลับขยับไม่ได้ และในที่สุดก็กลายเป็นอาหารของพืชวิญญาณน้ำ
เฉินโม่รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เห็น
นี่เป็นครั้งที่สามที่เฉินโม่ได้เห็นน้ำและครั้งนี้กลับเปลี่ยนมุมมองของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
ครั้งหนึ่งเขาเคยเลี้ยงปลาวิญญาณในสระวิญญาณฉางเกอแต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสามารถในการปลูกพืชวิญญาณและควบคุมสัตว์ของเขาก็แสดงศักยภาพออกมา
พรสวรรค์ของชาวประมงวิญญาณกลับเริ่มเสื่อมถอย
แต่วันนี้สิ่งที่เห็นทำให้เฉินโม่เปิดหูเปิดตาและทำให้เขาตระหนักว่าวิถีแห่งชาวประมงวิญญาณอาจไม่ธรรมดาเช่นกัน!
ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นหนึ่งในพรสวรรค์สามประการร่วมกับการปลูกพืชวิญญาณและการควบคุมสัตว์
หากสามารถสร้างเม็ดยาขึ้นมาได้จะเป็นไปได้อย่างไรที่มันไม่มีประโยชน์เลย?
“สิ่งเหล่านี้เป็นพืชวิญญาณที่เติบโตในน้ำ หรือเป็นเพียงสิ่งที่อยู่ร่วมกับปลาวิญญาณ?” เฉินโม่มีลางสังหรณ์ว่าคำตอบนี้อาจมีความสำคัญ!
ในขณะที่เขาคิดเรือเล็กของสิ่งมีชีวิตจากพืชวิญญาณก็มาถึงเกาะโดดเดี่ยว
เฉินโม่เงยหน้าขึ้นและมองอย่างใกล้ชิดเขาเพิ่งสังเกตว่าดินแดนลับนี้ใหญ่ไม่แพ้ยอดเขาจื่อหยุน
กลิ่นหอมของสมุนไพรวิญญาณที่เย้ายวนใจลอยขึ้นมาจากเกาะ กลิ่นนี้แม้จะผสมปนเปกันแต่กลับรู้สึกกลมกลืนและเสริมกัน
ราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นมาให้สมบูรณ์แบบโดยธรรมชาติ!
(จบบท)
วันนี้อาจจะลงแค่นี้นะครับ พรุ่งนี้ต้องไป ร.พ. ขออภัยทุกท่าน