ตอนที่แล้วเล่มที่ 1: ถิ่นทุรกันดาร – บทที่ 28: คุณสมบัติ [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่มที่ 1: ถิ่นทุรกันดาร – บทที่ 30: เวิร์ลวินด์ [อ่านฟรี]

เล่มที่ 1: ถิ่นทุรกันดาร – บทที่ 29: มนุษย์ [อ่านฟรี]


อเล็กซ์รวบรสวมและตรวจสอบทุกอย่างที่เป็นของของเขา หลังจากมองไปที่โรงเก็บของพัง ๆ อีกครั้งก็พยักหน้าด้วยความขอบคุณ

จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปทางทิศใต้ เขาเข้ามายังโลกใหม่นี้ได้ราวครึ่งปีแล้ว และวันนี้ ในที่สุดเขาก็จะได้ออกไปจากแถบทุรกันดารนี่เสียที

เขาฆ่าหมีน้ำแข็งไปเมื่อสองหรือสามเดือนก่อน และผลไม้ที่ได้มากจากเม่นก็ถูกใช้ไปจนหมดเรียบร้อย จนท้ายที่สุดผลไม้ก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่ได้มีประโยชน์ต่ออเล็กซ์อีกต่อไป จำนวนที่เขาต้องใช้ต่อครั้งในการฝึกฆ่าตัวตายต้องมากกว่าสิบผล นั่นไม่เลวเลย และเขาก็ยังใช้ประโยชน์จากมันได้อยู่บ้างแม้จะไม่มากเหมือนก่อนก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ปัญหายังคงมีอยู่ สามวันก่อน เม่นไม่ปรากฏตัวมาให้เขาเห็นเลย ไม่ว่าจะพยายามหาหรือจุดกองไฟสักกี่กอง เม่นก็ไม่ปรากฏตัวเลย ผลที่ตามมาคือมันทำให้การฝึกของเขาช้าลงอย่างมาก จึงทำให้เขาฝึกได้เพียงแค่การนั่งสมาธิปกติซึ่งนั่นช้ามากสำหรับเขา

นอกจากนี้ ในสองสามเดือนที่ผ่านมาอเล็กซ์ก็ไม่พบสัตว์ที่ระดับเดียวกับหมีน้ำแข็งเลย แน่นอนว่าเขาเจอสัตว์ชนิดใหม่บ้าง แต่ระดับความแข็งแกร่งพอ ๆ กับสตอล์กเกอร์

ซึ่งตอนนี้เขาจัดการพวกสตอล์กเกอร์ได้โดยที่ไม่ต้องใช้ดาบเลย ร่างกายเขาทรงพลังถึงขั้นนั้นแล้ว นี่จึงทำให้เขาตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะสามารถออกไปจากแอ่งน้ำได้อย่างปลอดภัย

ถึงเวลาที่จะออกไปเผชิญโลกกว้าง!

อเล็กซ์วิ่งเหยาะ ๆ สบาย ๆ แต่เร็วกว่ามนุษย์คนหนึ่งบนโลกที่วิ่งเร็วที่สุดจะวิ่งได้ ต้นไม้กลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้เขารู้สึกอึดอัดระหว่างเดินทางเล็กน้อย จนมาถึงขอบแอ่งน้ำในระยะเวลาแค่ชั่วโมงเดียว ถ้าหากได้วิ่งเป็นเส้นตรงคงมาถึงนี่ได้อย่างง่าย ๆ เพียงแค่ครึ่งชั่วโมง

อเล็กซ์จับเสื้อโค้ทตัวใหม่และจับดาบ เขาไม่รู้เลยว่าอีกฟากของภูเขาจะมีอะไรรออยู่ ภูเขาใหญ่โอบรอบแอ่งน้ำแห่งนี้ไว้ เขาจะต้องเดินผ่านเส้นทางธรรมชาติระหว่างภูเขาสองลูก ปีนขึ้นไปราวห้าร้อยเมตร ซึ่งนั่นไม่ใช้เรื่องยากสำหรับร่างกายใหม่นี้ แต่นั่นเป็นความสูงที่สูงกว่าต้นไม้ในป่าทุกต้น

อเล็กซ์จะไม่ถูกป่าล้อมรอบอีกต่อไป นั่นหมายความว่าสัตว์ร้ายใด ๆ ก็จะสามารถเห็นเขาได้ทันทีที่เริ่มปีนขึ้นไปบนภูเขา เขายังจำกิ้งก่ายักษ์ที่เห็นใกล้ ๆ ภูเขาในวันแรกได้ เขาไม่แน่ใจว่าจะเอาชนะมันได้หรือไม่ แต่อย่างน้อยความลับถามที่ว่าทำไมไม่มีสัตว์ร้ายใดที่ทรงพลังกล้าย่างกรายเข้ามาในแอ่งน้ำนั้นคลี่คลายแล้ว เป็นเพราะเม่นนั่นเอง

ก่อนหน้าอเล็กซ์ก็ไม่มั่นใจนักว่าทำไมไม่เจอพวกสัตว์ที่ทรงพลังมาที่นี่เลย ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น เม่นก็ไม่น่าจะอยู่ในหลาย ๆ ที่ในคราวเดียวกันใช่ไหมล่ะ หรือจริง ๆ แล้วอาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะเข็มบนหลังของมันทำได้

เม่นน่าจะได้ยินหรือได้กินพวกสัตว์ขนาดยักษ์ได้ดี จากนั้นก็วิ่งไปตรงนั้นและสลัดเข็มใส่ศัตรูที่แม้อยู่ห่างออกไปเป็นร้อยเมตรได้

อเล็กซ์เดาว่าเม่นคงไม่ได้ใช้เข็มของมันบ่อย ๆ เนื่องจากเล่มหนึ่งอาจต้องใช้มานาหรือพลังงานมากเหยื่อ แต่พวกสัตว์อย่างกิ้งก่ายักษ์ก็อาจจะเป็นอะไรที่คุ้มค่า

ส่วนความลับที่ว่าทำไมไม่มีสัตว์ทะเลที่แข็งแกร่งเข้ามาก็ได้รับคำตอบแล้วเช่นกัน แม่น้ำที่ทอดยาวผ่านแอ่งน้ำ และตามหลักเหตุและผลแล้วนั้นควรจะมีสัตว์ที่ทรงพลังอย่างน้อยสองถึงสามชนิด

ชัดเจนว่าสัตว์พวกนั้นคงถูกหมึกจับกินไปแล้ว แต่ตอนนี้มันตายแล้ว อาจจะมีสัตว์ทะเลทรงพลังมาปรากฏตัวที่แอ่งน้ำแห่งนี้ก็ได้ แต่อเล็กซ์รู้ขีดจำกัดของตัวเองดี เขาต่อสู้กับสัตว์ทรงพลังที่อยู่บนบกได้ โดยใส่ความพยายามลงไป แต่กับสัตว์ทะเลมันไม่มีโอกาสนั้นเลย เพราะพวกมันอยู่ในน้ำ

แอ่งน้ำไม่ใช่ที่สำหรับอเล็กซ์ และถึงเวลาต้องไปต่อ เขามองไปยังเส้นทางที่ต้องเดินต่อ สูดหายใจเข้าลึก และเริ่มปีน

“ถ้าเป็นข้า จะไม่ไปทางนั้นนะ”

หัวใจอเล็กซ์แทบหยุดเต้นด้วยความตกใจ เขาหันกลับไปมองอย่างรวดเร็วและพบสิ่งที่เขาไม่ได้พบเลยมาตลอดหกเดือนที่ผ่านมา

มนุษย์!

มนุษย์ตัวเป็น ๆ!

ข้างหลังอเล็กซ์คือชายวัยกลางคนในผ้าคลุมสีเขียวคนหนึ่งยืนอยู่ ผ้าคลุมนั่นทำให้อเล็กซ์นึกถึงละครช่วงยุคกลางหลาย ๆ เรื่อง มักเป็นผู้มีเกียรติที่จะได้สวมมัน เผยแสงแห่งความสง่างามและความเคารพ

เขามีผมสีเขียว และหนวดเคราสีดำ ซึ่งดูขัดกันเล็กน้อย

ยิ่งไปกว่านั้น อเล็กซ์สัมผัสได้ถึงมานาที่ไหลเวียนอยู่รอบตัวบุคคลนี้

มานาเยอะมาก!

‘มนุษย์คนแรกที่ได้คุยในโลกนี้! อย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ!’

“โย่!” อเล็กซ์พูดพร้อมยกมือขึ้นเล็กน้อย มันเป็นการทักทายทั่ว ๆ ไปเหมือนเจอคนรู้จัดตามที่ต่าง ๆ

ชายคนนั้นเลิกคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินคำทักทายของอเล็กซ์

“มาทำอะไรที่นี่?” ชายคนนั้นถาม

อเล็กซ์ไม่ได้สนใจกับคำที่พูดออกไป เขาจึงไม่ได้รู้สึกว่าคำนั้นมันไม่เหมือนภาษาไทย แต่รู้สึกใช่สำหรับเขา มันชัดเจนว่าชายคนนั้นพูดภาษาอื่น ๆ แต่อเล็กซ์กลับรู้สึกว่าชายคนนั้นกำลังพูดภาษาไทย

มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก เหมือนกับภาพยนตร์ที่มีการพากย์แย่ ๆ เรื่องหนึ่ง

“ฉันอยู่ที่นี่มาหกเดือน แล้วก็อยู่ในเขตทุรกันดารเพื่อแข็งแกร่งขึ้น” อเล็กซ์อธิบาย

ชายคนนั้นพยักหน้า จากนั้นก็ชี้มาที่อเล็กซ์พร้อมกับท่องบางอย่างที่เขาจับคำไม่ได้

ขนศีรษะอเล็กซ์ลุกชัน

คาถาเหรอ?!

ชายคนนั้นคิดจะโจมตีเขาเหรอ?!

อเล็กซ์รีบกระโดดออกไปด้านข้างทันทีและวิ่งห่างออกไป

ชายคนนั้นตกใจพลางหยุดร่ายคาถา เพียงองอเล็กซ์ที่ค่อย ๆ อยู่ห่างออกไป อึดใจเดียวหลังจากที่เขาพูดสองสามคำออกมา

ตู้มมม!

ลมระเบิดปรากฏขึ้นข้างหลังชายคนนั้น จนร่างของเขากระเด็นออกไปด้วยความเร็วอันน่ากลัว เหมือนกับถูกยิงด้วยปืน

พรึ่บบบ!

ชายคนนั้นปรากฏตัวตรงหน้าอเล็กซ์เพียงแค่พริบตาเดียว ร่างเขาหยุดลงหลังจากลมระเบิดเล็ก ๆ อีกครั้งสิ้นสุดลง

ดวงตาอเล็กซ์เบิกโพลงในความตกใจขณะมองชายคนนั้นที่อยู่ตรงหน้า

ตอนนี้อเล็กซ์เจอสิ่งที่เร็วกว่าเม่นแล้ว!

“ใจเย็น” ชายคนนั้นพูดเรียบ ๆ “คำแรกของข้าคือ +%& เจ้าควรรู้สิว่าคำนี้สงวนไว้สำหรับคาถาสอบสวน”

ในความคิดของอเล็กซ์ คำที่ชายคนนั้นพูดมันฟังดูเหมือนคำที่ไม่มีความหมาย ดูไม่เป็นคำจริง ๆ ด้วยซ้ำ เหมือนเสียงที่ผสมกันอย่างประหลาดซึ่งไม่มีความหมาย เขารู้ดีว่าไม่ควรคิดทำอะไรโง่ ๆ กับชายคนนี้ จะดีกว่าถ้าทำตามคำแนะนำเพียงอย่างเดียว

ชายคนนั้นพูดคำเดิมอีกครั้ง และหลังจากนั้นไม่นาน อเล็กซ์ก็สัมผัสถึงมานาที่ไหลเวียนรอบตัว ร่างกายเขาดูดซับมานาโดยไม่รู้ตัว และรู้สึกสดชื่นขึ้นทันที ความสงสัยของเขายังคงไม่คลี่คลายว่าชายคนนี้กำลังทำอะไรกันแน่

ชายคนนั้นเอามือลูบเคราพลางครุ่นคิด “เป็นอย่างที่คิด เจ้าเป็นพวก ฟิสิ สินะ”

“ฟิสิ? คืออะไร?” อเล็กซ์ถาม

ชายคนนั้นเลิกคิวขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินคำถามของอเล็กซ์

ศีรษะของเด็กคนนี้ถูกกระทบกระเทือนเหรอ?

“ฟิสิ คือพวกนักสู้ คือพวกที่ไม่สามารถฝึกเวทมนตร์ได้” ชายคนนั้นพูด

‘ฟิสิ?’ อเล็กซ์คิดด้วยสีหน้างุนงง ‘ฟังเหมือนกับชื่อเล่นของกลุ่มของเด็กม.ปลายหรือมหาลัยเลย ฟิสิ มันคือคำที่โลกนี้ใช้เรียกแทนพวกนักสู้อย่างงั้นเหรอ?’

“แล้วนายล่ะ เป็นอะไร? เมจิ?” อเล็กซ์ถาม

“จอมเวทย์” ชายคนนั้นตอบ

ชั่วขณะหนึ่งที่ชายคนนั้นรู้สึกสงสัยว่าอเล็กซ์อาจสูญเสียความทรงจำและไม่มีความรู้พื้นฐาน แต่ถ้าหากว่าอเล็กซ์แสร้งทำ ทักษะการแสดงของเขาก็ควรต้องได้รับรางวัลหลายรายการ ไม่มีทางเลยที่คนที่อ่อนแอเช่นนี้จะแสดงได้ดีแบบนี้ตรงหน้าเขา

“ทำไมนายถึงบอกว่าไม่ควรขึ้นไปบนภูเขา? ฉันอยากไปจากที่นี่” อเล็กซ์พูด

“มีรังของกิ้งก่ากราเวลระดับกลางอยู่ระหว่างเขาสองลูกนั่น ถ้าเจ้าไปรบกวนมันเท่ากับตาย” ชายคนนั้นพูด

“กิ้งก่ากราเวลระดับกลาง? คืออะไร?” อเล็กซ์ถาม

“มันคือกิ้งก่าสีน้ำตาลอมเทา” ชายคนนั้นตอบ “ยาวราวยี่สิบเมตรพร้อมด้วยคุณสมบัติดิน กิ้งก่ากราเวลคือสัตว์อาณาจักรที่สอง กิ้งก่ากราเวลระดับกลางอยู่ในขั้นกลางของอาณาจักรที่สอง” ชายคนั้นชี้อเล็กซ์ “จากพลังกายของเจ้าอยู่ที่ประมาณปลายอาณาจักรแรก สู้อย่างมีกลยุทธ์และเตรียมตัวพร้อม เจ้าอาจจะพอสู้กับขั้นสุดของอาณาจักรแรกได้ แต่พวกที่อยู่ขั้นกลางอาณาจักรที่สองจะบดขยี้เจ้าได้อย่างง่ายดาย” ชายคนนั้นพูด

อเล็กซ์พยักหน้า ดวงตาของเขาประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็น ในที่สุดเขาก็พอได้ข้อมูลจริง ๆ เกี่ยวกับโลกนี้บ้างแล้ว!

อาณาจักรที่ชายคนนั้นกล่าวอาจหมายถึงลำดับประเภทหรือการจำแนกพลัง เขาพูดว่าอเล็กซ์อยู่ในขั้นปลายอาณาจักรแรก จึงคิดว่าเขาคงอยู่ขั้นแรกสุดของอาณาจักรนี้ตอนที่เพิ่งเข้ามายังโลก นั่นหมายความว่ายังพอมีการพัฒนาอยู่

ถ้าลองคิดตามหลักการ กิ้งก่ากราเวลระดับกลางแข็งแกร่งกว่าอเล็กซ์มากพอ ๆ กับที่อเล็กซ์ตอนนี้แข็งแกร่งกว่าอเล็กซ์ในอดีต

แต่อเล็กซ์ในอดีตกับอเล็กซ์ตอนนี้เทียบกันไม่ได้

จู่ ๆ อเล็กซ์ก็นึกบางอย่างขึ้นได้

“ฉันเจอหมีขั้วโลกด้วย สูงประมาณสามเมตรและสามารถสร้างหอกน้ำแข็งได้ มันคืออะไร?” อเล็กซ์ถาม

“ชื่อจริง ๆ มันคือ หมีหอกน้ำแข็ง สัตว์อาณาจักรแรก เหมือนกับหมีหอกน้ำแข็งขั้นสูง ประเมินตามจากที่เจ้าว่านะ ฆ่ามันรึ?” ชายคนนั้นถาม

อเล็กซ์พยักหน้า

ชายคนนั้นพยักหน้ากลับ “ช่างน่าประทับใจนะสำหรับฟิสิ เจ้าน่าจะอยู่ระดับเดียวกับมัน ไม่ใช่ว่ามนุษย์ทั่วไปจะสู้กับสัตว์ที่ระดับเดียวกันได้หรอกนะ อย่างน้อยก็ไม่ใช่กับพวกฟิสิ” ชายคนนั้นอธิบาย

อเล็กซ์ลูบครางพลางคิด ‘ตอนนี้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นมาก คิดว่าตอนที่สู้กับหมี ตอนนั้นร่างกายน่าจะอยู่ในขั้นกลางของอาณาจักรแรก’ อเล็กซ์มองชายคนนั้น ‘ไม่ควรพูดไปสินะ ไม่รู้จักหมอนี่เลยสักนิด’

“แล้วนายมาทำอะไรที่นี่?” อเล็กซ์ถาม

“ข้ามานี่เพื่อถามคำถามเจ้า” ชายคนนั้นตอบ

“ว่ามา” อเล็กซ์ตอบ

“เกิดอะไรขึ้นกับหมึกน้ำแข็งโบราณในทะเลสาบของป่าแห่งนี้?”

ร่างกายอเล็กซ์เริ่มสั่น เขาได้รู้แล้วว่าทำไมชายคนนี้ถึงมาที่นี่ เขามาเพื่อตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับหมึกตัวนั้น!

มากไปกว่านั้น อเล็กซ์รู้ว่าทำไมมันถึงดึงดูดความสนใจนัก

ยอดแหลมที่ไร้ตัวตน!

และแน่นอนว่ายอดแหลมนั่นอยู่ในแขนซ้ายของอเล็กซ์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด