ตอนที่แล้วบทที่ 20 เคลียร์ปัญหา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 22 แตกละเอียด

บทที่ 21 ไม้คืนวัย


สิ่งที่อยู่ในมือของฟางเสิ่นคือเศษไม้สีเขียวอมม่วงขนาดเพียงเท่าหัวแม่มือ ดูเผินๆ แล้วไม่น่าสนใจอะไรเลย

  ฟางเสิ่นค่อยๆ เปิดดวงตาสวรรค์ขึ้นเพื่อมองดูวัตถุวิเศษจากสวรรค์ตรงหน้า ข้อมูลต่างๆ ของมันก็ไหลเข้ามาในหัวของเขา

  “ไม้คืนวัย เป็นวัตถุวิเศษจากสวรรค์ระดับหนึ่ง มีคุณสมบัติคืนความอ่อนเยาว์”

  “มีผลเช่นนี้เชียวหรือ” ฟางเสิ่นรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เช่นเดียวกับหินตรึงวิญญาณ ไม้คืนวัยนี้ไม่สามารถช่วยเขาในการฝึกตนได้เลย อย่างไรก็ตาม มันมีคุณสมบัติที่หายากมาก

  คืนความอ่อนเยาว์ ความสามารถนี้แข็งแกร่งเพียงใดกัน? กาลเวลาย่อมไม่รอใคร ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะรู้สึกเสียใจแค่ไหนเมื่อถึงวันที่เส้นผมของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีขาว ทว่ากาลเวลาก็ไม่อาจย้อนกลับมาได้

  ในสังคม โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง ความปรารถนาในการรักษาความอ่อนเยาว์นั้นเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่อาจจินตนาการได้ หลายคนพร้อมจะจ่ายเงินมหาศาลเพื่อสิ่งนี้ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมความงามจึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก ก็เพื่อให้ตอบสนองต่อความปรารถนานี้นั่นเอง

  แม้ว่าไม้คืนวัยจะเป็นวัตถุวิเศษจากสวรรค์ระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่อาจทำให้คนย้อนกลับไปยังวัยหนุ่มสาวได้จริงๆ มันน่าจะทำได้เพียงแค่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่เพียงแค่นี้ก็มากพอที่จะดึงดูดความสนใจได้อย่างมากมายแล้ว

  ฟางเสิ่นยิ้มด้วยความดีใจ สถานที่ประมูลสองโลกของเขาวางแผนไว้ว่าจะขายของหายากและมีคุณภาพสูงเท่านั้น แต่ของที่เขามีอยู่ตอนนี้กลับมีน้อยเกินไป

  หินตรึงวิญญาณมีคุณสมบัติค่อนข้างเฉพาะตัว มันส่งผลต่อจิตวิญญาณของมนุษย์อย่างมาก หากไม่ใช่กับผู้ที่มีปัญหาเช่นสวี่เจี้ยนจวิน ราคาก็คงจะขายได้ไม่สูงนัก ฟางเสิ่นเองก็ไม่อยากขายมันออกไปในราคาถูกๆ อย่างน้อยในตอนนี้ หินตรึงวิญญาณยังสามารถเสริมสร้างพลังการโจมตีให้กับเขาได้อย่างไม่มีสิ่งใดทดแทนได้

  สำหรับหยกกักเก็บไขกระดู วัตถุวิเศษจากสวรรค์ระดับสองนั้นถือว่ามีระดับสูงกว่าทั้งหินตรึงวิญญาณและไม้คืนวัยมาก และคุณสมบัติของมันก็ยิ่งน่าทึ่งไปอีก เพราะสามารถยืดอายุขัยได้ถึงสามปี

  สำหรับคนที่ใกล้จะตายเพราะอายุขัยหมดลง มันถือเป็นสิ่งล้ำค่าที่ไม่มีสิ่งใดมาเทียบได้

  อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือ สถานที่ประมูลสองโลกในตอนนี้แทบไม่มีชื่อเสียงใดๆ เลย แล้วใครกันจะยอมจ่ายเงินก้อนโตเพื่อประมูลของที่ไม่มีใครรับประกันหรือมีที่มาที่ชัดเจน หากไม่มีการพิสูจน์ให้เห็นว่าได้ผลจริงก็คงไม่มีใครสนใจ เพราะของที่สามารถยืดอายุขัยได้เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในโลกนี้ ต่อให้เป็นใครก็คงอดสงสัยไม่ได้

  แต่หยกกักเก็บไขกระดูกสามารถใช้ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ไม่อาจเอาไปทดลองได้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะขายในราคาที่สมควรได้รับ

  ฟางเสิ่นที่รู้สึกปวดหัวมาโดยตลอดเกี่ยวกับการสร้างชื่อเสียงให้กับสถานที่ประมูลสองโลก ตอนนี้เขากลับยิ้มกว้างขึ้นมา เพราะไม้คืนวัยสามารถช่วยให้เขาบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

  “น่าเสียดายที่เศษไม้ชิ้นนี้มีขนาดเล็กเกินไป” ฟางเสิ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะเดินออกจากบ้านพัก

ที่คาสิโนใต้ดิน

  พี่ไห่กำลังนอนร้องโอดครวญอยู่บนเตียงนุ่ม ด้านหลังมีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนวดบ่าให้อยู่ บริเวณคอของเขาถูกปกคลุมด้วยผ้าไหมผืนหนึ่งเพื่อปกปิดรอยฟกช้ำสีม่วงที่เกิดจากฝีมือของฟางเสิ่น หากฟางเสิ่นต้องการ เขาสามารถบีบคอของพี่ไห่ให้แหลกได้อย่างง่ายดาย

  ขณะที่พี่ไห่กำลังผ่อนคลายตัวเองและเริ่มลืมความหวาดกลัวจากตอนกลางวันไปทีละน้อย เขาก็ต้องสะดุ้งโหยงเหมือนเห็นผี รีบลุกขึ้นนั่งทันทีจนผู้หญิงข้างหลังที่กำลังนวดให้ถึงกับเสียการทรงตัว เธออุทานเสียงหลงก่อนจะล้มลงมากองอยู่บนตัวพี่ไห่ แม้จะรู้สึกถึงความนุ่มนวลและหอมหวานของหญิงสาว แต่พี่ไห่กลับไม่มีอารมณ์สนุกแม้แต่น้อย

  “พี่ไห่กำลังสบายดีเลยนะ” ฟางเสิ่นเดินเข้ามาด้วยท่าทางยิ้มแย้ม แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

  “ออกไปซะ” พี่ไห่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ คำพูดนี้ไม่ได้กล่าวกับฟางเสิ่น แต่กล่าวกับหญิงสาวที่อยู่ข้างหลัง

  หญิงสาวมองฟางเสิ่นด้วยความสงสัย เธอรู้ถึงความโหดเหี้ยมของพี่ไห่ดี จึงไม่กล้าขัดคำสั่ง ได้แต่เดินออกจากห้องไปอย่างว่าง่าย

  “คุณ... คุณกลับมาที่นี่ทำไมอีกล่ะ” พี่ไห่พูดพลางทำหน้าตาเหมือนจะร้องไห้ ใครจะไปโทษเขาได้บ้าง ในเมื่อความน่ากลัวของฟางเสิ่นนั้นฝังลึกในใจของเขา ตอนกลางวันฟางเสิ่นเกือบจะเอาชีวิตของเขาไปแล้ว

  “ไม่ต้องตื่นเต้นไป ฉันมาถามนายแค่เรื่องเดียว หินประดับนั่น นายได้มาจากไหน” ฟางเสิ่นพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

  พี่ไห่ชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าฟางเสิ่นพูดถึงหินประดับที่ถูกทำลายไปในตอนกลางวัน

  “ฉันซื้อมาในราคา 300 หยวนจากร้านค้าในสวนตะวันออก ร้านนั้นชื่ออะไรนะ เหมือนจะมีคำว่า ‘หิน’ กับ ‘เซวียน’ นี่แหละ” พี่ไห่ขบคิดอยู่ครู่นึงกว่าจะนึกออก

  แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองฟางเสิ่นอีกครั้ง ก็พบว่าอีกฝ่ายเดินออกจากห้องไปแล้ว

สวนตะวันออก

  ที่นี่เป็นสถานที่สำหรับซื้อขายโบราณวัตถุและของหายาก แน่นอนว่าเกือบทั้งหมดมักจะเป็นของปลอม

  ฟางเสิ่นเดินเข้าไปด้านในอย่างสบายอารมณ์

  การได้ไม้คืนวัยทำให้เขาฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา

  พื้นดินบนโลกที่ผ่านการสำรวจและพัฒนาโดยมนุษย์มานับพันปีนั้นได้รับความเสียหายอย่างหนัก สิ่งที่เป็นวัตถุวิเศษจากสวรรค์ย่อมมีน้อยกว่าที่พบในมหาสมุทรอย่างแน่นอน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีวัตถุวิเศษหลงเหลืออยู่บนพื้นดินเลย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ถูกฝังอยู่ในใต้ดินลึกซึ่งมนุษย์เข้าถึงได้ยาก หรือแม้แต่สิ่งที่ถูกขุดขึ้นมาแล้วก็ยังมีโอกาสที่จะหลงเหลืออยู่

  ไม้คืนวัยที่เขาได้มานั้นเป็นตัวอย่างที่ดีมาก เศษไม้ชิ้นนี้เป็นเพียงชิ้นเล็กๆ เท่านั้น ซึ่งบ่งบอกว่า ตัวมันในสภาพสมบูรณ์น่าจะมีขนาดใหญ่กว่านี้มาก ถ้ามันยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ อาจจะถูกจัดให้อยู่ในระดับวัตถุวิเศษจากสวรรค์ระดับสองเลยก็ได้ แต่น่าเสียดายที่มันถูกคนที่ไม่รู้คุณค่าทำลายลงจนเหลือเพียงแค่เศษไม้เล็กๆ ชิ้นนี้ ก่อนจะหลุดรอดมาอยู่ในมือของฟางเสิ่นอย่างบังเอิญ

  หินประดับนี้ถูกผลิตขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ไม้คืนวัยที่อยู่ภายในคงจะหลุดเข้าไปในระหว่างกระบวนการผลิต ถ้าเขาสามารถตามหาเจ้าของร้านหรือผู้ผลิตได้ ก็อาจจะได้เศษไม้คืนวัยชิ้นอื่นๆ เพิ่มเติมอีกก็เป็นได้

  แม้โอกาสจะน้อย และอาจเป็นไปได้ว่าชิ้นที่เขาได้มานั้นเป็นชิ้นเดียวที่เหลืออยู่ แต่ด้วยความหายากของวัตถุวิเศษจากสวรรค์ ต่อให้มีโอกาสเพียงน้อยนิดก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะลองไปค้นหา

  ต้องเข้าใจว่าวัตถุวิเศษจากสวรรค์ไม่ใช่สิ่งที่จะดึงดูดความสนใจได้จากรูปลักษณ์ภายนอกเสมอไป เช่นเดียวกับหินตรึงวิญญาณและไม้คืนวัยที่ดูไม่มีอะไรน่าสนใจ หากไปตกอยู่ในมือของคนที่ไม่รู้คุณค่า พวกเขาอาจจะใช้หินตรึงวิญญาณเป็นเพียงแค่หินรองเท้า หรือเอาไม้คืนวัยไปใช้เป็นฟืนก็ได้ สิ่งล้ำค่าเหล่านี้จึงมักจะถูกมองข้ามได้ง่ายมาก

  ภายในสวนตะวันออกมีร้านค้ามากมาย รวมถึงพ่อค้าที่ปูผ้าขายของตามพื้นซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งของแปลกๆ และมีทั้งของใหม่ของเก่า หลายคนตะโกนเรียกลูกค้าเสียงดังลั่นเพื่อดึงดูดความสนใจ ในขณะที่บางคนกลับนั่งอยู่เงียบๆ แต่กลับมีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย

  หากใครสนใจสินค้าชิ้นไหน ก็จะหยุดต่อรองราคากันอย่างเอิกเกริก เป็นบรรยากาศที่คึกคักและเป็นเอกลักษณ์ของสวนตะวันออก

  ฟางเสิ่นเดินช้าๆ สายตามองไปที่แผงขายของทีละแผง ดูเหมือนว่าเขาจะกำลังสำรวจสินค้า แต่แท้จริงแล้วเขากำลังเปิดดวงตาสวรรค์ตรวจสอบโดยรอบอยู่ต่างหาก

  ทุกอย่างรอบตัวเขาดูพร่าเลือน หากมีแสงสะท้อนจากวัตถุวิเศษ เขาก็จะมองเห็นได้ทันที

  แต่ก็เป็นที่น่าเสียดาย วัตถุวิเศษจากสวรรค์นั้นหายากมาก แม้แต่ในมหาสมุทรก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ ไม่ต้องพูดถึงพื้นดินที่ผ่านการพัฒนามานานหลายพันปีเลย การตรวจหาวัตถุวิเศษในสถานที่เช่นนี้จึงไม่ต่างจากการงมเข็มในมหาสมุทร ฟางเสิ่นมองผ่านสวนตะวันออกทั้งสวนแล้วแต่ก็ไม่พบสิ่งใดเลย

  หลังจากกลับสู่สภาวะปกติ ฟางเสิ่นก็เดินดูรอบๆ ไปเรื่อยๆ และในที่สุดหลังจากครึ่งชั่วโมง เขาก็มาหยุดอยู่ที่หน้าร้านแห่งหนึ่งที่มีป้ายชื่อว่า “หินหยกวิจิตร” ภายในสวนตะวันออกนี้มีร้านที่มีคำว่า “หิน” และ “วิจิตร” รวมอยู่ด้วยเพียงร้านเดียวเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ หินประดับที่พี่ไห่พูดถึงน่าจะมาจากที่นี่อย่างแน่นอน

จบบท

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด