บทที่ 151 กลิ่นเหม็น
แมวตัวใหญ่หนีไปแล้ว หลัวอี้หางรีบอุ้มติงเสี่ยวม่านขึ้นมา
สำรวจดูอย่างละเอียดว่าได้รับบาดเจ็บหรือไม่
โชคดี โชคดี นอกจากที่ใบหน้าจะถูกเหยียบจนเห็นรอยเท้าดำๆ อยู่หลายรอยแล้ว ไม่พบว่ามีบาดแผลอื่นๆ เลือดไม่ไหล กระดูกไม่หัก ขนยังอยู่ครบเกือบหมด
ติงเสี่ยวม่าน นายสุดยอดจริงๆ เวลาต่อยตีนายคือหนึ่งเดียว ได้ต่อสู้กับตัวใหญ่ขนาดนั้นแต่กลับไม่เป็นอะไรเลย
อืม อืม ไม่เจ็บก็ดีแล้ว
หลัวอี้หางตรวจสอบเสร็จก็รีบโยนติงเสี่ยวม่านออกไป ให้ห่างๆ หน่อย
ตัวมันเหม็นมากเลย
ติงเสี่ยวม่านค่อยๆ ยืนบนพื้นด้วยขาทั้งสี่ ขนาดยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้านายเป็นบ้าไปแล้วหรือไง
ไม่สนใจเขาแล้ว
มันกระโดดไปหาแมวเด็กน้อย เอาหัวไปถูตรงที่มันกำลังจะถูกลูกแมว แต่ยังไม่ทันโดนตัวเลยก็ต้องหันหน้าหนีทันที “ยี้~~”
ติงเสี่ยวม่านอ้วกออกมาแล้ว
โอเค เข้าใจละ แมวเด็กนั่นก็เหม็น
เจ้าเหมือนแมวตัวนั้น แท้จริงเป็นตัวอะไรกันแน่ ทำไมถึงตดได้ล่ะ เป็นพังพอนกลายพันธุ์หรือเปล่าเนี่ย
หลัวอี้หางยกแขนขึ้นดมตัวเอง เกือบจะอ้วกตาม
เหม็นมากเลย
ตอนที่แมวตัวนั้นตด หลัวอี้หางอยู่ใกล้ที่สุด โดนเต็มๆ ตัวทั่วทั้งด้านหน้า มีแต่กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ไปทุกที่
เสื้อผ้า กางเกง รวมถึงรองเท้าชุดนี้ ทิ้งไปได้เลย
ลองดมเป้สะพายหลังอีกที ยี้~~
เสียดาย ตอนนี้เขาชอบเป้ใบนี้มาก แต่ใช้ไม่ได้แล้ว
เสื้อผ้า กางเกงทิ้งได้ คนทิ้งไม่ได้
“จี้! คาถาล้างตัว!”
หลัวอี้หางร่ายคาถาล้างตัว ทำให้พลังวิญญาณหมุนรอบตัว “สะเทือน” สิ่งสกปรกทั้งหมดหลุดออกอย่างหมดจด
แต่มันสะเทือนออก ไม่ได้หายไป สิ่งสกปรกที่อยู่บนตัวและเสื้อผ้าของหลัวอี้หาง รวมถึงที่เกาะติดตามทางถูกสลัดออกมาและพุ่งไปเกาะอยู่บนตัวติงเสี่ยวม่านหมด
ติงเสี่ยวม่านยิ่งเหม็นกว่าเดิม
ติงเสี่ยวม่านโมโหมาก กระโดดขึ้นไปบนหลังหลัวอี้หาง ใช้กรงเล็บฟาดหัวหลัวอี้หางอย่างแรง
กลิ่นเหม็นไปทั่วตัวหลัวอี้หาง คาถาเมื่อครู่จึงกลายเป็นเสียเปล่า
“หยุดทำเรื่องยุ่งๆ ฉันจะล้างให้นายเอง”
หลัวอี้หางหดคอป้องกันหัว ร่ายคาถาล้างตัวอีกครั้ง
พลังวิญญาณปลิวจากปลายนิ้วไป เลี่ยงติงเสี่ยวม่านอย่างชาญฉลาด ทำความสะอาดตัวเองอีกครั้ง…
คราวนี้คาถาทำได้เพียงแปบเดียว เพราะติงเสี่ยวม่านยังเกาะอยู่ที่ตัวเขา ต้นตอของกลิ่นเหม็นยังไม่หาย จึงโดนกลิ่นเหม็นอีกครั้ง
คาถาไม่ได้ผล คราวนี้มาใช้วิธีทางกายภาพดีกว่า
พอดีมีสระน้ำใสอยู่ใกล้ๆ เป็นช่วงหน้าร้อน ไม่หนาว และในป่าลึกนี้ไม่มีใครอยู่
ใช้ไฟฉายส่องดู แล้วใช้ไม้ปีนคนในน้ำ ไม่มีงูงั้นก็ลงเลย
หลัวอี้หางถอดเสื้อผ้าออกจนหมด จับติงเสี่ยวม่านโยนลงน้ำก่อน
แล้วเขาก็กระโดดลงตาม
ติงเสี่ยวม่านร้องลั่น มันไม่ชอบอาบน้ำ
ร้องไปเถอะ ต่อให้ร้องเสียงดังยังไงก็ไร้ประโยชน์
หากไม่ใช่เพราะมันทำเรื่องยุ่งยาก ไม่อย่างนั้นพวกเราคงไม่เหม็นกันทั้งสามคน
สามคน?
อ้อ ยังมีแมวน้อยนั่นด้วย มันก็มีกลิ่นเหม็นเหมือนกัน
ช่างเถอะ แมวน้อยนั่นตัวเล็กเกิน หากโยนลงน้ำเย็นคงหนาวตายแน่
ไม่มีสบู่ จึงทำได้แค่ถูไปตามนั้น หลัวอี้หางจับติงเสี่ยวม่านถูในน้ำ หนีไปแปดครั้ง ก็จับกลับมาแปดครั้ง
น้ำในสระกลายเป็นเหม็นไปหมด ออกจากน้ำมาลองดมดู กลิ่นเหมือนเดิมเหม็นอยู่ดี
แมวตัวใหญ่เมื่อครู่พ่นอะไรออกมากันนะ ทำไมมันถึงรุนแรงขนาดนี้
ติงเสี่ยวม่านยังไม่สะอาด แล้วหลัวอี้หางก็ยังกลายเป็นเหม็นอีกครั้ง
ว่าไปแล้วติงเสี่ยวม่านนะ นายกินอะไรมาบ้าง คนอื่นอาบน้ำแล้วตัวเล็กลง แต่นายกลับไม่เปลี่ยนไปเลย
หลัวอี้หางหยิบเสื้อขึ้นมา
ยังไงก็เหม็นอยู่แล้ว งั้นก็เอาแบบนี้ไปก่อน ค่อยหาวิธีแก้กลิ่นทีหลัง
เช็ดตัวให้แห้ง ใส่เสื้อยืดและกางเกง
จับติงเสี่ยวม่านมาเช็ดตัวอีก
ติงเสี่ยวม่านโกรธ ไม่ยอมคุยกับหลัวอี้หาง แล้วก็เดินไปอีกมุมสะบัดตัว สะบัดขาไปมา
เวลานี้คือเวลาที่หลัวอี้หางชอบเล่นที่สุด
บนตัวติงเสี่ยวม่านมีสวิตช์ หลังอาบน้ำเสร็จ หากกดที่อุ้งเท้าหลังมัน มันจะยกขาขึ้นแล้วสะบัดกลับมา น่ารักมาก
เล่นได้ไม่กี่ครั้ง ติงเสี่ยวม่านก็รำคาญ ยกอุ้งเท้าหน้าขึ้น หันหน้ามาตบมือของหลัวอี้หางอย่างมั่วๆ
หลังจากหลัวอี้หางวิ่งหนีไป ติงเสี่ยวม่านก็วิ่งไปหาแมวน้อย
แมวน้อยตั้งแต่ก่อนเริ่มการต่อสู้ ถูกวางไว้บนพื้น มันร้องอย่างน่ากลัว
ติงเสี่ยวม่านวิ่งไปหา เอากรงเล็บดึงขึ้นมาแล้วเปิดด้านหลังของมัน เหมือนจะอยากกัดมัน แต่พอเข้าใกล้ มันก็หันหัวหนีออกไปไกลหลายก้าว
เฮ้อ แมวน้อยตัวนี้จะทำยังไงดีล่ะ
แมวน้อยตัวนี้จะจัดการยังไง
ปล่อยทิ้งไว้ที่นี่เพื่อรอให้ครอบครัวมารับตัวไปดีไหม?
คงรอไม่ถึงคนในครอบครัว คงโดนสัตว์อื่นจับไปกินก่อนแล้ว
หรือจะพากลับไปแล้วให้ผู้กองหยวนจัดการ
หลัวอี้หางก็เดินมาหา ก้มตัวลงจับแมวน้อยขึ้น มืออีกข้างบีบพุงน้อยๆ ของมัน มันนุ่มมากน่ารัก
“นายตัวเล็กมาก แถมมีลายเหมือนสักด้วย นายคงเป็นเด็กดื้อสินะ”
เจ้าแมวตัวนี้ยาวประมาณฝ่ามือหลัวอี้หาง ขนาดเล็กกว่าข้อแขน มันน่าจะอายุหนึ่งถึงสองเดือน
ขนของมันนุ่มเหลืองอ่อน หลังสีเข้มกว่า ส่วนพุงสีอ่อนกว่า ดวงตาสีอำพันส่องประกาย ภายใต้ดวงตาทั้งสองข้าง
มีขนสีขาว เหมือนมีลายสัก
เอ๊ะ เอ๊ะเอ๊ะ?
แมวตัวใหญ่นั่นสีเทามีลายใช่ไหม
ตัวนี้เป็นสีเหลือง
แมวตัวใหญ่นั้น หน้ามันไม่เหมือนแมว ดูเหมือนแมวกับสุนัขและจิ้งจอกผสมกัน
แต่ตัวนี้ดูเหมือนแมวทั่วไป
แมวตัวใหญ่นั้นตัวมันยาวมาก
แมวตัวนี้ก็ยังคงเป็นแบบแมวปกติ
และที่สำคัญ แมวเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ดูแลลูกของตัวเอง
แมวตัวใหญ่ตอนที่ต่อสู้กับติงเสี่ยวม่านนั้น มันโชว์ตัวอย่างชัดเจน
เห็นชัดเจน ขาหลังมันมีลูกอัณฑะอยู่สองลูก
ดังนั้น
หลัวอี้หางยกแมวน้อยขึ้นมาให้ห่างออกไปอีกหน่อย
“นายเป็นแมวลายจุดสินะ”
มันชัดเจนแล้วว่าแมวน้อยตัวนี้ไม่ใช่ลูกของแมวตัวใหญ่ คงจะถูกแมวตัวใหญ่นั้นจับมาจากที่ไหนสักแห่ง
หากเป็นลูกแมวจริง แมวตัวใหญ่คงไม่ยอมหนีไปง่ายๆ
หากเป็นอาหารที่โดนแย่งไป มีโอกาสที่มันจะวิ่งมาแย่งกลับ ต่อยกันแล้วก็หนีไป อันนี้เรียกว่า กินคนอ่อนแอ
งั้นเอาตัวไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยถ่ายรูปส่งให้ผู้กองหยวนดู หากเป็นสัตว์คุ้มครองจะส่งให้เขาจัดการ หากเป็นแมวทั่วไปก็เลี้ยงไปเลย
ติงเสี่ยวม่านอุตส่าห์มี “ความรักแม่” บังเกิด นำแมวน้อยกลับมา ต้องให้มันรับผิดชอบหน่อยสิ
——
ระหว่างเดินทางกลับ หลัวอี้หางถอดเสื้อยืดออก มัดเป็นถุงใส่แมวน้อยหิ้วไป แมวน้อยเหม็นมาก
แมวน้อยขดตัวอยู่ในนั้น แกว่งไปแกว่งมาอย่างสบายใจ
ติงเสี่ยวม่านเดินนำหน้า อยู่ห่างจากหลัวอี้หางมาก วันนี้ไม่ให้ขึ้นหลัง
เจ้านายเหม็นเกินไป เป้ก็เหม็นมาก คาถาล้างตัวช่วยแค่เสื้อผ้า เป้ไม่ช่วย
ทั้งเจ้านายและแมว พวกเขาช่างเป็นครอบครัวเดียวกัน ต่างมองว่าคนอื่นเหม็นแต่ทนกลิ่นตัวเองได้
ลงเขา ขึ้นรถ
ซวยแล้ว รถก็เหม็นตามไปด้วย
หลัวอี้หางร่ายคาถาอีกครั้ง พลังวิญญาณหมุนรอบตัว “จี้ คาถาทำความสะอาด”
คาถาที่สองในถุงมือแห่งการฝึกฝน ใช้ทำความสะอาดบ้าน แต่ไม่สำเร็จ
พลังวิญญาณปล่อยออกจากปลายนิ้วแล้วก็สลายไป
ใช้ไม่ได้ งั้นก็ใช้วิธีทางกายภาพไปเลย
เนื่องจากอาบน้ำทำให้เสียเวลาไปบ้าง เมื่อหลัวอี้หางกับติงเสี่ยวม่านกลับถึงบ้าน ฟ้าก็สว่างแล้ว
สองคนเพิ่งเข้าบ้านได้เท่านั้น
ทันทีที่พ่อของหลัวอี้หางก็เข้ามา เป็นเวลาที่ควรจะเตรียมอาหารให้กุ้ง
หลัวพ่อเปิดประตูเข้ามา ก้าวเท้าเข้ามาหนึ่งก้าว จากนั้นก็ถอยกลับออกไปทันที
“ลูกไปตกถังขี้มาหรือไง ทำไมเหม็นแบบนี้”
หลัวอี้หางคิดว่าโดนจับได้ซะแล้ว
หันไปมองติงเสี่ยวม่าน เจ้าก่อเรื่อง ต้องรับผิดชอบเอง
รีบถอดอุปกรณ์ออกแล้วตะโกนไปข้างนอก “เป็นติงเสี่ยวม่าน มันไปต่อสู้กับพังพอน พังพอนตดใส่”
พ่อหลัวปิดจมูกเข้ามาในลานบ้าน เข้าบ้าน
เข้าไม่ได้ เข้ามาก้าวหนึ่งแล้วก็ถอยออกมาอีกครั้ง ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ “ลูกทำไมเหม็นแบบนี้”
“ได้ยินเสียง นึกว่ามีขโมย ไปดูไม่ทันได้หลบ” หลัวอี้หางพูดอย่างหมดหวัง
มีติงเสี่ยวม่าน คาถาล้างตัวก็ไร้ผล
หลัวอี้หางจึงหยุดใช้คาถาไป ปล่อยให้เหม็น
“รีบไปอาบน้ำ” พ่อหลัวจับจมูกทำหน้ารังเกียจ “แถวนี้ไม่ค่อยมีพังพอน ต้องใช้น้ำส้มสายชู ถ้าไม่ได้ผล ใช้แอลกอฮอล์”
หลัวอี้หางรีบเข้าห้องน้ำ
สักพักก็เรียก “พ่อ น้ำส้มสายชู”
พ่อหลัวส่งน้ำส้มสายชูเข้าไป
ผ่านไปอีกครู่ “พ่อ แอลกอฮอล์”
พ่อหลัวจับจมูก กลับไปหยิบแอลกอฮอล์ในบ้านจากตู้ ใช้เวลาสักพัก กว่าจะเอาขวดราคาถูกออกมาได้
ตอนส่งเข้าห้องน้ำยังรู้สึกเสียดายมาก
ต่อมา หลัวอี้หางพบว่าน้ำส้มสายชูกับแอลกอฮอล์ใช้ได้ผล
โอเค โล่งใจแล้ว
“พ่อ ติงเสี่ยวม่าน”
“หา?”
หลัวพ่อไปจับติงเสี่ยวม่าน
ติงเสี่ยวม่านฉลาดมาก มันอาบน้ำตอนกลางคืนแล้ว ตอนนี้ยอมเหม็นยังไงก็ไม่ยอมอาบอีก
พอเห็นหลัวพ่อเดินเข้ามา ก็ยืนสองขาชูอุ้งเท้าขึ้นทำท่าแยกเขี้ยวขู่ใส่
หลัวพ่อหยุดมือ
ติงเสี่ยวม่านหาโอกาส มุดออกระหว่างขาของหลัวพ่อวิ่งไปรอบลาน
หลัวพ่อวิ่งตามสองก้าวแต่จับไม่ได้
จึงตะโกนเรียกคนช่วย
ตะโกนไปยังชั้นบนที่บ้านตัวเองอยู่ “ยายมาเร็ว มาจับแมวกัน”
ทุกคนในบ้านจึงมาช่วย
หลัวพ่อ จางกุ้ยฉิน สามพี่น้องตระกูลเจียง และจางเสี่ยวหรู
หกคนในลาน วิ่งไล่จับติงเสี่ยวม่านที่ร้องโวยวายไม่หยุด
แมวตัวนี้เหม็นจริงๆ
หลายรอบผ่านไป จางเสี่ยวหรูวิ่งไปพิงกำแพงอ้วก
เจียงชิ่งไฉจับจังหวะ กระโดดพุ่งจับติงเสี่ยวม่าน แต่โดนมันสะบัดหันกลับมาใช้กรงเล็บฟาดหน้าหลายที
โชคดีที่มันรู้จักคนในบ้าน ไม่ยอมยื่นกรงเล็บออกมา
หลัวพ่อใช้มือยกติงเสี่ยวม่านขึ้น เอาไว้ไกลจากตัวมากที่สุด หันหน้าไปอีกทาง และอั้นหายใจเพื่อยกมันเข้าไปในห้องน้ำ
หลัวอี้หางจับตัวติงเสี่ยวม่านอีกครั้ง พูดขึ้นว่า “แมวน้อยข้างนอกนั่น ติงเสี่ยวม่านช่วยมา บอกผู้กองหยวนให้ดูทีว่าคุ้มครองหรือเปล่า”
“แมวน้อยตัวไหน” หลัวพ่อรีบปิดประตู หายใจเข้าลึกๆ มองไปรอบๆ ไม่ต้องหานาน
จางกุ้ยฉินกับจางเสี่ยวหรูนั่งอยู่มุมบ้าน เด็กสามคนในตระกูลเจียงยืนมองอยู่ด้านหลัง ต่างมองไปยังภายใน
หลัวพ่อก็เข้ามามอง พบว่าทั้งสองกำลังหยอกกับแมวน้อย
ไม่กลัวเหม็นแล้ว แมวน้อยนอนตัวอ่อนบนเสื้อผ้าที่สกปรก ขาหมุนหาตัวมันพยายามจะกอดมือที่ลูบท้องของจางเสี่ยวหรู
เมื่อมือใกล้จะถูกกอดแล้ว จางเสี่ยวหรูขยับมือไปลูบท้องมันอีกครั้ง แมวน้อยดิ้นไปมาพร้อมหางที่สะบัด ขาทั้งสี่กางออก
พอจางเสี่ยวหรูหยุด แมวน้อยก็กอดอีกครั้ง
น่ารักมาก
“นี่มันแค่แมวน้อย” หลัวพ่อหยิบมือถือ ถ่ายรูปส่งให้ผู้กองหยวนทันที
ส่งเสียงพูดไปด้วย “ผู้กองหยวน แมวที่บ้านผมช่วยแมวน้อยจากพังพอน คุณดูหน่อย ว่ามันเป็นสัตว์คุ้มครองไหม”
——
เมื่อหลัวอี้หางพาติงเสี่ยวม่านออกจากห้องน้ำแล้ว
ข้างนอกไม่มีใครอยู่แล้ว
แมวน้อยก็หายไปแล้ว
ก่อนอื่นเป่าแห้งขนของติงเสี่ยวม่าน มันพองขนออกด้วยความโกรธ หางสะบัด เดินไปที่นอนแมวแล้วไม่ยอมนอน
มันใช้เท้าตบที่นอนแมวแล้วหันหลังเดินไปนอนที่โซฟา
คงไม่เอาที่นอนนี้แล้ว
ตอนเหม็นยังนอนได้ พอไม่เหม็นแล้วกลับรังเกียจหรือ?
โยนทิ้งไปเลย
หลัวอี้หางหยิบเสื้อผ้า รองเท้า เป้…ไม่ไหว เป้ก็ต้องทิ้ง ไม่อยากซักแล้ว
ใส่ถุงมือหยิบของพวกนี้มัดรวมทิ้งลงถังขยะ ถุงมือก็ทิ้งไป
หาขวดสเปรย์น้ำหอม ฉีดให้ทั่วทั้งบ้านทั้งลาน
ติงเสี่ยวม่านวิ่งหนีตอนเริ่มฉีด
ใช้จนหมดขวด หลัวอี้หางเปิดประตูหน้าต่าง ระบายอากาศ แล้วรีบออกจากบ้าน
ในบ้านมีกลิ่นเหม็นกับน้ำหอมผสมกัน น่าอยู่จริงๆ
###จบบท