บทที่ 116 มากมาย (4)
[\แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร\มาติดตามในแฟนเพจ\เพื่อติดตามข่าวสารได้นะ\]
[\Thai-novel \ลงไวกว่าที่อื่น\ทุกที่ 5 ตอน\แต่จะราคาแพงที่สุด\]
[\หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง จะแก้ไขแบบเทียบคำต่อคำให้ตรงตามหลักไวยากรณ์ อ่านแบบเทียบภาษาต้นฉบับคำต่อคำ ซึ่งถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ\100คน\ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ซึ่งถ้ารู้ว่าหลุดจากที่ไหนก็จะไม่แก้ไขตรงเว็บนั้นครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบเวอร์ชั่นแรกไปนะครับ\]
บทที่ 116 มากมาย (4)
ทีมงานฝ่ายผลิตรายการ ‘รายการคุยหลังฝน!’ อุทานด้วยความประหลาดใจ เหตุผลก็แสนจะเรียบง่าย เพราะคังวูจินที่ปรากฏตัวต่อหน้า พูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่องปรื๋อ ไม่ใช่แค่PD ทีมงานในห้องส่ง ‘รายการคุยหลังฝน!’ ทุกคนก็คิดเช่นเดียวกัน
PDจึงเอ่ยถามคังวูจินอีกครั้ง
“คุณพูดภาษาญี่ปุ่น...ได้คล่องมากเลยนะครับ”
วูจินส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนตอบคำถามเป็นภาษาญี่ปุ่นเช่นกัน
“ผมแค่พอพูดได้บ้างครับ”
แค่พอพูดได้งั้นเหรอ? แม้จะเป็นประโยคสั้น ๆ แต่น้ำเสียงกับสำเนียงของเขานั้น เหมือนคนญี่ปุ่นแท้ ๆ PDที่ผอมแห้งมองสำรวจคังวูจินด้วยแววตาแปลกใจเล็กน้อย
‘ อืม...เขาดูต่างจากตอนอยู่ใน ‘นิติจิตวิทยา’ มากเลยแฮะ’
รูปร่างสูงโปร่ง บวกกับใบหน้าที่ราวกับหลุดออกมาจากในหนังสือ บ่งบอกถึงออร่าของนักแสดง เสียงของเขาก็ทุ้มนุ่ม น่าฟัง นี่คือตัวตนที่แท้จริงของเขาอย่างนั้นเหรอ? PDรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที ว่ากันว่านักแสดงมักมีภาพลักษณ์ที่ต่างจากตัวตนจริง ๆ แต่สำหรับนักแสดงชาวเกาหลีคนนี้ มันช่างแตกต่างอย่างน่าประหลาด
‘แถมยังพูดภาษาญี่ปุ่นได้อีก นี่มันน่าสนใจจริง ๆ’
การสื่อสารกันรู้เรื่องเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการ ‘รายการคุยหลังฝน!’ นั้น เป็นรายการประเภททอล์คโชว์ การมีล่ามหรือไม่มีล่ามสำหรับคนดูแล้ว ย่อมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ทันใดนั้นเอง
“สวัสดีครับ-”
ชายหนุ่มผมหางม้าปรากฏตัวจากด้านหลังของคังวูจิน พร้อมกับเอ่ยทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ชเวซองกุน นั่นเอง เขายิ้มอย่างเป็นมิตรพลางกล่าวทักทายทุกคน
“ผมชเวซองกุนครับ เป็นCEOของบริษัท บริษัทสื่อบันเทิงbw ครับ”
ผู้ที่ตอบรับคำทักทายของเขาทันทีคือ PDของรายการ ‘รายการคุยหลังฝน!’
“ผมชิอิกิ ชินโจครับ เป็นผู้กำกับหลักของรายการครับ”
นักเขียนคนอื่น ๆ และล่ามต่างทยอยแนะนำตัวกันครบหมดแล้ว หลังจากแลกนามบัตรกันหลายรอบ ในที่สุดคังวูจินและคนอื่น ๆ ก็ได้ นั่งลงที่โต๊ะ อาหารคงจะเสิร์ฟหลังจากคุยธุระกันเสร็จแล้ว ชเวซองกุนจึงสั่งเครื่องดื่มกับพนักงานร้านอาหารเกาหลีที่เข้ามา
-สวบ
ชเวซองกุนหันไปยิ้มให้กับPDชินโจที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นคนแรก
“ก่อนอื่นเลย ผมค่อนข้างประหลาดใจครับ ได้ยินมาว่า ‘นิติจิตวิทยาเสเพล’ กำลังได้รับความนิยมในญี่ปุ่น แต่ไม่คิดว่ารายการทอล์คโชว์ของญี่ปุ่นจะให้ความสนใจคุณวูจิน”
แน่นอนว่าคนที่แปลไม่ใช่คังวูจิน แต่เป็นพนักงานแปล PDชินโจมองคังวูจินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มแย้มแบบมืออาชีพแล้วพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นออกมา
“ตอนนี้ ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติจิตวิทยาเสเพล’ กำลังเป็นที่สนใจในญี่ปุ่นมากครับ ไม่ใช่แค่ได้รับความนิยมธรรมดา ๆ ด้วย แน่นอนว่านักแสดงที่ร่วมแสดงก็ได้รับความสนใจไปด้วย”
“คุณวูจินเป็นที่รู้จักดีไหมครับ?”
“แน่นอนครับ ก่อนจะติดต่อมา พวกเราก็พอจะหาข้อมูลมาบ้าง คุณคังวูจินถูกพูดถึงในระดับเดียวกับนักแสดงนำของ ‘นิติจิตวิทยาเสเพล’ เลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน SNS นี่ดังมาก”
แม้จะรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่ชเวซองกุนก็ยังแสร้งทำเป็นยิ้มดีใจตามมารยาท การทำเป็นไม่รู้เรื่องดูจะทำให้บรรยากาศดีกว่า
ในตอนนั้นเอง สายตาของPDชินโจก็เบนจากชเวซองกุนไปที่คังวูจิน
เขาดูเฉยเมยมาก
‘เขาไม่ดีใจเหรอ? หรือว่าเป็นสไตล์ของเขานะ’
คังวูจินมองทีมงาน ‘รายการคุยหลังฝน!’ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างสนใจเล็กน้อย
‘ทีมงานรายการวาไรตี้ฝั่งญี่ปุ่นนี่ดูเงียบ ๆ กันจังนะ’
ลองมาเทียบกับอีกทีมหนึ่งดูสิ ทีมของPD ยุนบยองซอนให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเลย
‘ดูจากสีหน้าก็เหมือนกับทีมจะไปถ่ายสารคดีเลยนี่นา? ยังไงก็เถอะ ทำตัวนิ่ง ๆ แบบนี้เข้าไว้ดีกว่า จะได้ไม่เผลอทำคอนเซปต์แตกไป’
ความเย็นชาเริ่มก่อตัวขึ้น PD ชินโจที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ก็ด่วนตัดสินคังวูจินไปเรียบร้อย
‘นักแสดงเงียบ ๆ ในญี่ปุ่นก็มีเยอะแยะ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร- แต่นี่มันนักแสดงหน้าใหม่ที่เพิ่งจะมีผลงานเรื่องแรกอย่าง ‘นิติจิตวิทยา’ ไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมถึงได้ดูผ่านโลกมามากขนาดนั้นกันนะ’
คังวูจิน ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ดูเหมือนจะมีพลังบางอย่างที่หนักแน่นมาก ยิ่งไปกว่านั้น ผลงานที่ PD ชินโจสืบมา คังวูจินก็ไม่ธรรมดาเอาเสียเลย เริ่มตั้งแต่ผู้กำกับ ควอนกีแท็ก ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในญี่ปุ่น แถมผลงานเรื่องต่อ ๆ ไปที่เขาตกลงรับเล่นก็ล้วนแต่เป็นระดับบิ๊กเนมทั้งนั้น
ทั้งที่เดบิวต์มายังไม่ถึงปีด้วยซ้ำ
นั่นทำให้ PD ชินโจ รู้สึกสนใจใคร่รู้เป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่ในเกาหลีเท่านั้น แต่ในญี่ปุ่นเองก็ไม่เคยมีนักแสดงหน้าใหม่คนไหนที่มีเส้นทางอาชีพแบบ คังวูจิน มาก่อน
แถมยัง
‘ผลงานที่เล่นล้วนแต่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม’
เส้นทางที่นักแสดงหน้าใหม่ผู้เงียบขรึมคนนี้ยังไม่เคยลิ้มรสชาติความล้มเหลว ยิ่งขุดลึกลงไปเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นบุคคลที่แปลกประหลาด แล้วนี่ภาษาญี่ปุ่นยังคล่องปรื๋อขนาดนี้อีก รู้มาว่าเอเจนซี่ฝั่งเกาหลีจะให้ศิลปินหน้าใหม่เรียนภาษาต่างประเทศตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่ดูเหมือนความสามารถทางภาษาญี่ปุ่นของคังวูจินในตอนนี้ จะไม่ใช่สิ่งที่ได้มาจากการเรียนการสอน
ทันใดนั้นเอง
“PDครับ”
คังวูจินที่เอาแต่นิ่งเงียบมาตลอดก็เอ่ยปากขึ้น แน่นอนว่าเขาพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น และเป็นประโยคที่ ชเว ซองกุนเป็นคนเตรียมไว้ให้
“ขอบคุณมากนะครับ ที่อุตส่าห์เดินทางมาถึงเกาหลี ไม่ทราบว่าได้วางแผนอะไรไว้บ้างหรือยังครับ?”
PDชินโจได้แต่รู้สึกทึ่งทุกครั้งที่ได้ยิน บรรยากาศและกลิ่นอายราวกับเป็นคนเกาหลีแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่กลับพูดภาษาญี่ปุ่นออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ความแตกต่างนี้กลับกลายเป็นเสน่ห์ที่น่าค้นหาอย่างประหลาด
เอาล่ะ
“พวกเรากำลังคิดที่จะหยิบยกเรื่องราวของสี่เสาหลักแห่งนิติจิตวิทยาเสเพลขึ้นมาพูดคุยกันครับ”
PDชินโจอธิบายแผนการไปพลาง
‘แบบนี้นี่เอง ถ้าให้หมอนี่เป็นตัวหลัก ภาพลักษณ์ของรายการต้องออกมาดีแน่’
เขารู้สึกมั่นใจอย่างประหลาดในตัวคังวูจิน
เช้าวันที่ 1 สิงหาคม ที่สำนักข่าวแห่งหนึ่ง
บรรยากาศยามเช้าภายในสำนักงานดูโล่ง ๆ เพราะพนักงานยังมาไม่ครบ ในจำนวนนั้นมีนักข่าวคนหนึ่งที่มีลักษณะเด่นคือโหนกแก้มสูง กำลังจ้องมองหน้าจอโน้ตบุ๊กอย่างตั้งใจ เขากดเมาส์และพิมพ์คีย์บอร์ดอย่างรวดเร็ว
- แปะ แปะ
ดวงตาของเขาแดงก่ำ บ่งบอกว่าน่าจะนอนไม่พอ เขาคือนักข่าวที่พบเจอเรื่องราวในอดีตของคังวูจินจากบนโลกออนไลน์ และตั้งแต่เมื่อวานเขาก็ค้นคว้าหาข้อมูลและรวบรวมเอกสารต่าง ๆ อย่างบ้าคลั่ง
“แหม Youtubeเนี่ย คอมเมนต์มันช่างเยอะแยะไปหมด น่าเบื่อชะมัด”
จุดเริ่มต้นมาจากบนโลกออนไลน์ จากนั้นก็ขยายวงกว้างไปจนถึงYoutube และเป้าหมายต่อไปก็คือโซเชียลมีเดีย รวมถึงอินสตาแกรมของคังวูจิน ที่ตอนนี้มียอดผู้ติดตามทะลุ 1.5 ล้านคนไปแล้ว
- @Wooji_n
โพสต์ 71
ผู้ติดตาม 1.538 ล้านคน
กำลังติดตาม 9 คน
เขาต้องสอดส่องโซเชียลมีเดียของคนทั่วไปที่ติดแท็กหาคังวูจิน เป็นงานที่น่าเบื่อและดูไม่มีวันจบสิ้น แต่เขากลับลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความมุ่งมั่น
ถึงจะไม่ใช่ข่าวใหญ่โตอะไร แต่สิ่งที่เขาค้นพบมานั้นก็เพียงพอที่จะทำให้ผลงานของเขาโดดเด่นได้อยู่
ไม่สิ ถ้าขยี้ให้ดี ๆ เรื่องนี้อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตก็ได้ เพราะประเด็นมันอยู่ที่คังวูจิน นักแสดงดาวรุ่งผู้เขย่าวงการบันเทิงด้วยความนิยมที่พุ่งสูงขึ้น พร้อมกับคว้าตำแหน่ง ‘คนแรก’ มาครองได้มากมาย นับตั้งแต่เดบิวต์
ถึงแม้ว่าเรื่องทั้งหมดจะเริ่มต้นจากการไปเจอโพสต์บนโลกออนไลน์โดยบังเอิญก็ตาม
“ฮ่า ๆ ไม่เลวเลย แบบนี้แหละ รับรองว่าต้องเรียกความสนใจได้แน่”
พอค้นหาดูดี ๆ แล้ว กลับพบว่ามีบทความที่มีเนื้อหาในทำนองเดียวกันอยู่ไม่น้อยเลย รวมถึงคอมเมนต์ต่าง ๆ ด้วยนะเนี่ย เท่าที่นักข่าวอย่างฉันเจอมานี่ก็ปาเข้าไปห้าอันแล้วนะ บทความสาม คอมเมนต์อีกสอง ทุกอันเนื้อหาใกล้เคียงกันหมด
- บอกว่าบุคลิกของคังวูจินเปลี่ยนไป อะไรเทือก ๆ นั้น
นักข่าวยังคงค้นหาข้อมูลต่อไปพลางครุ่นคิดถึงถ้อยคำรุนแรงที่สามารถใช้พาดหัวข่าวได้ จะใช้คำไหนดีนะ? บุคลิกสองด้าน? หรือชีวิตที่รายล้อมไปด้วยการแสดง? ไม่ว่าจะคำไหน มันต้องเป็นคำที่เร้าใจและดึงดูดสายตาผู้อ่านมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ไม่งั้นงานน่าเบื่อแบบนี้ก็คงไม่มีความหมายอะไร
ทันใดนั้นเอง สายตานักข่าวก็เหลือบไปเห็นคอมเมนต์ที่เพิ่มเข้ามาในคลิปของรองหัวหน้าพัคอันหนึ่ง ในวินาทีนั้นเอง บรรทัดแรกของบทความก็ผุดขึ้นมาในหัว 'ตอนนี้ ชาวเน็ตในชุมชนออนไลน์แห่งหนึ่งกำลังให้ความสนใจกับอดีตของนักแสดงหนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรง คังวูจิน กันอย่างคึกโครม' ประมาณนี้ก็น่าจะเวิร์คนะ
"มาดูกันว่า... จะใช้คำว่า 'บุคลิกสองด้าน' ในพาดหัวข่าวดีไหมนะ?"
ณ อีกฟากหนึ่ง
ตอนนี้กองถ่าย 'เพื่อนชาย' ได้ถ่ายทำฉากในโรงเรียนมัธยมปลายเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังย้ายสถานที่ถ่ายทำไปยังมหาวิทยาลัย ในขณะที่อากาศก็ร้อนขึ้นทุกวัน ๆ
"เทค แอ็กชัน!!"
มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นที่เลื่องลือกันว่าทั้งตัวมหาวิทยาลัยและตัวอาคารต่าง ๆ นั้นสวยงามมาก ถึงแม้จะเป็นช่วงปิดเทอมเหมือนกับโรงเรียนมัธยม แต่ก็ยังพอมีนักศึกษาอยู่บ้างประปราย
"โอ๊ย ตายแล้ว คังวูจิน ทำไมหน้าเล็กอย่างนั้นน่ะ?"
"แถมหุ่นยังดีอีกต่างหาก ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงดัง 'นิติจิตวิทยา' สนุกมากเลยนะ พวกเธอว่ารองหัวหน้าพัคอยู่ไหนอ่ะ ฉันดูเรื่องนี้จบแล้วแบบ ใครจะไปมองว่าเป็นฆาตกรโรคจิตได้ลงคอ ก็แค่พระเอกหล่อ ๆ คนหนึ่งชัด ๆ"
"ฮวาลินก็บ้าไปแล้ว สัดส่วนอะไรกันเนี่ย?"
"หูย สวยจริง ๆ แบบนี้ตื่นนอนมาหน้าบวม ๆ ก็ยังสวยอ่ะ คิดดู!?"
- พนักงานมหาวิทยาลัยมามุงดูกันเต็มไปหมด สถานที่ถ่ายทำ 'เพื่อนชาย' ในตอนนี้ก็คือ สนามหญ้าหน้าอาคารเรียน กล้องและแผ่นสะท้อนแสงถูกจัดเตรียมอย่างเป็นระเบียบ คังวูจินกำลังทุ่มเทแสดงอย่างเต็มที่
“คัท! โอเค! ดีมากครับ คุณวูจิน! ฉากเมื่อกี้ ขอแบบย้อนกลับไปหน่อยนะครับ !”
“ครับ ผู้กำกับ”
ตอนนี้เป็นฉากแสดงเดี่ยวของคังวูจิน ฮวาลินนั่งอยู่ห่างจากจุดถ่ายทำออกไปเล็กน้อย เธอสวมเสื้อยืดแขนสั้นที่เผยให้เห็นช่วงเอวเล็กน้อย นั่งไขว่ห้างอ่านบทอย่างตั้งใจ
ทันใดนั้นเอง
- ซวีก
ชเวซองกุนก็เข้ามาหาอย่างแผ่วเบา สีหน้าของเขาช่างประหลาด เหมือนกำลังวางแผนอะไรบางอย่าง
“คุณฮวาลิน”
เพราะจู่ ๆ เขาก็โผล่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ฮวาลินจึงเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นนะ? ความสงสัยผุดขึ้นในใจ ก่อนที่เธอจะค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้
“อ๊ะ สวัสดีค่ะ”
“ผมไม่ได้รบกวนคุณใช่ไหมครับ”
“ไม่ค่ะ ไม่เป็นไรเลยค่ะ”
ฮวาลินวางบทที่อ่านอยู่ลงบนเก้าอี้ แต่ก็ยังขมวดคิ้วอย่างแงะงง ชเวซองกุนเป็นบุคคลที่ไม่มีใครในวงการบันเทิงไม่รู้จัก ตัวเธอเองก็รู้จักเขาดี แต่ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรนัก สิ่งที่เธอรู้นั้น ส่วนใหญ่มาจากที่ฮงฮเยยอนเล่าให้ฟังมากกว่า
ถึงจะรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง แต่ฮวาลินก็เผยรอยยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้นที่ได้พบกับเขา
“ประธานมีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ”
“คือผมมีเรื่องอยากจะคุยด้วยน่ะครับ ว่างสักครู่นึงได้ไหมครับ”
“ได้ค่ะ เชิญเลยค่ะ”
“ดูเหมือนว่าวูจินจะต้องการCOVERเพลงฮิตเพลงนึงของวง ‘Elani’ น่ะครับ
ใบหน้าของฮวาลินฉายแววสงสัยขึ้นมาทันที 'Elani' คือวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ฮวาลินสังกัดอยู่ แล้วคุณคังวูจินจะCOVERเพลงฮิตเพลงหนึ่งของ 'Elani' งั้นเหรอ ฮวาลินกะพริบตาปริบ ๆ แล้วขยับริมฝีปากเบา ๆ
“······COVERเหรอคะ คุณวูจินจะCOVERเพลงของพวกเราเหรอคะ หมายความว่ายังไงคะ”
ชเวซองกุนแย้มยิ้มกว้างอย่างใจเย็น
“ใช่ครับ เพลง ‘บัลเลรีนา’”
‘บัลเลรีนา’ คือเพลงฮิตติดชาร์ตของเกิร์ลกรุ๊ป ‘Elani’ เมื่อ 3 ปีก่อน โด่งดังเป็นพลุแตกทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น ชเวซองกุนพูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“วูจินจะเปิดช่องYoutubeครับ การCOVERเพลง ‘บัลเลรีนา’ จะอยู่ในนั้นครับ”
“อ๋อ”
ฮวาลินเข้าใจในทันที หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย
'เดี๋ยวก่อน ๆ ! ช่องYoutubeเหรอ คุณวูจินจะโชว์เสียงร้องงั้นเหรอ แล้วแบบนี้ก็จะได้ฟังเพลงของคุณวูจินเรื่อย ๆ สินะ'
ในฐานะแฟนคลับตัวยง ข่าวนี้ทำให้ฮวาลินดีใจจนแทบกระโดดโลดเต้น แต่เธอก็ไม่อาจแสดงความรู้สึกที่แท้จริงต่อหน้าผู้จัดการของวูจินได้ ฮวาลินพยายามอย่างมากที่จะรักษาความสงบไว้ เธอกระแอมไอเบา ๆ
“อืม จริงเหรอคะ ถ้าอย่างนั้น จากที่ได้ยินเขาอัดเพลงประกอบละครครั้งก่อน เสียงร้องของคุณวูจินก็คงเสียดายแย่เลยถ้าจะไม่ร้อง”
“ใช่ครับ เพราะคุณฮวาลินกับวูจินก็รู้จักกัน ผมก็เลยเลือกเพลงของ ‘Elani’ ครับ แล้วก็ เรื่องช่องYoutubeของวูจินยังเป็นความลับอยู่นะครับ”
“ค่ะ ฉันจะไม่บอกใคร”
“ขอบคุณครับ แต่ผมคิดว่าควรจะบอกคุณฮวาลินก่อน เพราะเป็นการCOVERเพลงของ ‘Elani’ ครับ”
“กำลังเรียบเรียงอยู่สินะคะ”
“ครับ เกือบเสร็จแล้วครับ”
แค่ประมาณนี้ ฮวาลินก็รู้ข้อมูลเกี่ยวกับช่องYoutubeของคังวูจินไปเกือบหมดแล้ว แต่ไม่ว่ายังไง ฮวาลินก็กำลังตื่นเต้นจนแทบระเบิดอยู่ดี
‘จะเป็นยังไงนะ? เรียบเรียงออกมาแบบไหนกัน? อย่างแรกเลย คงต้องลดคีย์ลงหน่อย วูจินจะได้ร้องเพลงนี้ได้ คิ๊กคิ๊ก จริง ๆ เลย อยากฟังเร็ว ๆ แล้ว’
ฮวาลินพยายามเก็บอาการตื่นเต้นสุดขีดเอาไว้ แล้วแสร้งทำเป็นเฉยชา
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ยังไงซะ เพลง ‘บัลเลรีนา’ ก็มีคนเอาไปเรียบเรียงใหม่เยอะแล้ว”
ชเวซองกุนยิ้มมุมปาก เขาไม่ได้ตั้งใจเผยข้อมูลนี้ให้ฮวาลินฟังโดยไม่มีเหตุผลหรอกนะ เขามีจุดประสงค์บางอย่าง
‘เท่าที่ดู วูจินกับคุณฮวาลินก็ดูจะไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่นี่นา ถึงจะไม่สนิทกัน หรือแม้แต่จะเกลียดขี้หน้ากัน พอโยนเรื่องนี้ไปแบบนี้แล้ว ยังไงเธอก็น่าจะสนใจบ้างล่ะ’
เขามีเป้าหมายที่แน่นอนในใจแล้ว
“ไว้เพลงอัปโหลดเมื่อไหร่ ลองฟังดูนะครับ”
“ค่ะ ได้เลยค่ะ”
“ถ้าฟังแล้วชอบ ก็ช่วยกระจายข่าวให้หน่อยนะครับ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ด้วยพลังของฮวาลิน แค่โพสต์อะไรสักอย่างลงโซเชียลก็เป็นบุญแล้วครับ”
แค่โพสต์สั้น ๆ ก็พอ
เพราะฮวาลินดังมากอยู่แล้ว ทั้งในประเทศ ญี่ปุ่น และต่างประเทศ ยอดผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียของเธอมีถึง 18 ล้านคน แถมช่อง Elani ของวง แม้จะเป็นแค่ช่องของวง ก็มียอดผู้ติดตามทะลุ 10 ล้านไปแล้ว
พลังของโพสต์แค่โพสต์เดียวของเธอ ช่างมหาศาลเสียจริง
ไม่นาน ฮวาลินก็พูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งเล็กน้อยว่า
“ถ้าฟังแล้วชอบนะคะ”
ชเวซองกุนที่เหมือนรู้ว่าเธอหมายความว่ายังไง ก็ได้แต่ยิ้ม
‘ไม่มีทางที่เธอจะไม่ชอบหรอก’
เช้าตรู่ของสองวันต่อมา...
บรรยากาศภายในห้องอัดเสียงอันกว้างขวาง บริเวณใกล้สถานีซัมซอง เสียงดนตรีแว่วดัง เครื่องดนตรีมากมายถูกแขวนประดับไว้บนผนัง บ่งบอกถึงความหลงใหลในเสียงเพลง ชายหนุ่มสวมหมวกปิดบังใบหน้า ร่างกายโยกไหวไปตามจังหวะเพลง สายตาทุ่มเทจดจ่ออยู่กับงานเบื้องหน้า แม้จะเป็นเวลาล่วงเลยมานานแล้วก็ตาม
เสียงเพลงดังขึ้นเป็นท่อนสั้น ๆ
-♬♪
ก่อนจะเงียบหายไปแล้วดังขึ้นใหม่ วนซ้ำไปมา
-ครืด!
ทันใดนั้นเอง ประตูห้องอัดอันหนาก็เปิดออก ชายหนุ่มใบหน้าเรียบเฉย เดินเข้ามาอย่างไม่เร่งรีบ คังวูจิน เขาปรากฏตัวพร้อมกับแววตาเหนื่อยล้าเล็กน้อย สายตากวาดมองไปรอบ ๆ ห้องอัด
‘โอ้โห กว้างกว่าที่คิดแฮะ กลิ่นนี่มันอะไรนะ หอมชะมัดเลย กลิ่นไม้หรือเปล่านะ’
เขาเอ่ยทักทายชายหนุ่มที่นั่งอยู่หน้าเครื่องดนตรีตรงกลางห้อง เสียงทุ้มต่ำราบเรียบ
“สวัสดีครับ”
ชายหนุ่มสวมหมวกเงยหน้าขึ้น ราวกับรู้มาก่อนแล้วว่าคังวูจินต้องมา เขาไม่ได้แสดงท่าทีตื่นเต้นอะไร
“สวัสดีครับ นิติจิตวิทยา สนุกมากเลยครับ”
“ขอบคุณครับ”
น้ำเสียงของเขาฟังดูห้วน ๆ เล็กน้อย คังวูจินไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นนิสัยส่วนตัว หรือเพราะความเหนื่อยล้ากันแน่ ทว่ายังไม่ทันที่คังวูจินจะได้เอ่ยอะไรต่อ บรรดาผู้ติดตามก็กรูกันเข้ามา ชเวซองกุน จางซูฮวาน ฮันเยจอง และทีมงานช่องYoutubeของเขาอีกสี่ถึงห้าคน
จากห้องอัดที่เงียบสงบ คราวนี้กลับครึกครื้นขึ้นมาทันตา
“ได้ข่าวว่าเพลงเสร็จแล้ว ก็เลยรีบร้อนมาเลยครับ ฮ่า ๆ ๆ” ชเวซองกุนเอ่ยขึ้น เป็นการเฉลยว่าพวกเขามากันทำไม
การเรียบเรียงเสียงประสานเสร็จสมบูรณ์แล้ว
คังวูจินหันไปมองห้องอัดเสียงอีกครั้ง ก่อนจะพึมพำกับตัวเองในใจ
‘เอาจริงดิ’
อีกไม่นานก็จะถึงเวลาอัดเสียงจริง ๆ แล้ว เพลงที่จะอัปโหลดลงช่องYoutubeของเขา
‘แต่คนดูเยอะไปไหมเนี่ย เขินเป็นบ้า’
เพลงCOVERเพลงแรกของเขา นั่นเอง
จบ