ตอนที่แล้วตอนที่ 18 สามจานเด็ด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 20 สืบทอดร้านเล็กๆ

ตอนที่ 19 หัวใจของเชฟ


ตอนที่ 19 หัวใจของเชฟ

หลังส่งสาวชาวจีน 2 คนที่แทบเดินไม่ไหวกลับไป เซี่ยหยูกลับเข้าครัว หยิบมีดที่คมกริบขึ้นมา จมอยู่กับความคิดนานพอสมควร

พูดได้ว่าก่อนหน้านี้เขามั่นใจมากกับอาหารสองจานที่เพิ่งทำสดๆ ทั้ง 'หมูทอดซอสเปรี้ยวหวาน' และ 'ปลาร่างกระรอก' เพราะระบบก็ให้คะแนนผ่านถึง 60 คะแนน

แต่ทว่า อาหารสองจานนี้ กลับมีช่องว่างห่างกันมากกับ 'เนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวน' ของปู่ ในความเห็นของสาวหน้ากลมคนนั้น หรือก็คือบล็อกเกอร์อาหารชื่อดังที่มีผู้ติดตามในบล็อกเวยป๋อถึง 600,000 คน

เธอประเมินไว้ว่า

"อาหารที่คุณทำก็อร่อยนะ แต่ว่ายังไงดีล่ะ มันอร่อยมาก อาหารจีนดั้งเดิมที่อร่อยขนาดนี้ ในประเทศจีนก็หายากมากๆ แล้ว..."

"แต่ว่า จานเนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวนนั่น หลังจากได้ชิมแล้ว ไม่ใช่แค่ท้องกับลิ้นที่ได้รับความเอร็ดอร่อย แต่หัวใจฉันก็เต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดๆ ด้วย

ฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ค่ะ... ความแตกต่างระหว่างสองอย่างนี้ คงเหมือนกับอาหารธรรมดากับอาหารวิเศษ

อย่างหนึ่งหาได้ในโลกความเป็นจริง ส่วนอีกอย่างต้องอาศัยโชคชะตา บางคนอาจไม่ได้ลิ้มรสมันอีกตลอดชีวิตเลยก็ได้!"

ตอนนั้นดวงตาเป็นประกายของสาวน้อยคนนั้น ทำเอาเซี่ยหยูงุนงงไปเลย

เขาไม่ได้บอกว่า 'เนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวน' เป็นฝีมือของปู่

สาวน้อยเลยบ่นไม่หยุดว่าเขาทำอาหารสองจานหลังแบบไม่ตั้งใจ ตอนจ่ายเงินกลับบ้านก็ยังมองด้วยสายตาน้อยใจ เซี่ยหยูอัดอั้นตันใจพูดอะไรไม่ออก

"โดนแทงใจดำหรือ?"

เสียงแหบๆ ดังขึ้นกะทันหันจากด้านหลัง

"ไม่มีทาง..."

เซี่ยหยูรู้ทันทีว่าเป็นเสียงใคร รีบเปลี่ยนน้ำเสียงให้ดังขึ้น พร้อมกับพับแขนเสื้อโชว์แขนที่แข็งแรง

"ผมไม่มีวันยอมแพ้หรอก!"

แต่แล้วเขาก็ห่อไหล่ลงอย่างกลัดกลุ้ม "ปู่ครับ บอกผมหน่อยสิว่าอาหารของผมกับปู่ต่างกันตรงไหน?

ผมศึกษาขั้นตอนการทำอาหารจากคู่มือของปู่อย่างละเอียดเลยนะ"

ปู่ไม่ได้อธิบายยืดยาว เขาใช้เวลาไม่กี่นาทีปรุงจาน 'เนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวน' ด้วยน้ำราดเนื้อ, น้ำมันถั่ว, ผงพริกเสฉวนและเครื่องปรุงอื่นๆ แล้ววางไว้บนโต๊ะในครัว "ลองชิมดูสิ"

"ก่อนหน้านี้แกฝึกแค่พื้นฐานการใช้มีด ตอนนี้แกก็นับว่าเป็นเชฟฝึกหัดได้แล้ว ปัญหาที่แกสงสัยทั้งหมด จะได้คำตอบจากในอาหารจานนี้เอง..."

พอได้ฟังปู่พูดแบบนั้น เซี่ยหยูก็ตบหน้าผากตัวเองเบาๆ

จริงด้วย หลังจากฝีมือการทำอาหารของเขาพัฒนาขึ้น เขายังไม่เคยได้ชิมอาหารฝีมือปู่อย่างจริงจังเลย

ก่อนหน้านี้เขาเป็นแค่มือใหม่ ความประทับใจในอาหารของปู่ ก็แค่อร่อย เหมือนคนนอกที่แค่มาชมๆ ไม่รู้ว่าในอาหารมีเคล็ดลับอะไร ตัวเองก็ชิมไม่ออก

แต่ตอนนี้ฝีมือการทำอาหารของเขาพัฒนาขึ้นทุกวัน ถือว่าเปลี่ยนไปมากจนต้องมองกันใหม่ น่าจะชิมออกถึงรายละเอียดอื่นๆ ได้แล้วสินะ?

คิดในใจแบบนั้น เซี่ยหยูก็หยิบตะเกียบมา ทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล ค่อยๆ เอื้อมไปคีบเครื่องในชิ้นหนึ่งเข้าปาก เคี้ยวช้าๆ ชิมอย่างพินิจพิเคราะห์

รสชาติของเครื่องเทศ พริก และพริกเสฉวนระเบิดอยู่บนปลายลิ้น

สีหน้าของเขาเปลี่ยนจากตกตะลึง เหลือเชื่อ จนถึงความสุขสบายที่ได้สมปรารถนาในรสชาติ

แค่คำเดียวเท่านั้น ยังไม่ถึงกับอิ่มท้อง แต่แค่คำเดียวนี่แหละ ความปรารถนาในการ 'กิน' ก็ได้รับการเติมเต็มแล้ว

เซี่ยหยูได้สติ ดวงตาฉายแววเข้าใจ

ไม่แปลกเลยที่สาวๆ สองคนนั้นบอกว่า 'เนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวน' ของปู่อร่อย

นี่ไม่ใช่แค่อร่อยแล้ว แต่เป็นความสุขในระดับจิตวิญญาณเลยทีเดียว

แม้จะแค่ชิมเนื้อวัวหรือเครื่องในชิ้นเล็กๆ จากเนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวน คำเดียว คนที่ได้ชิมคงจะรู้สึกว่าอาหารอื่นๆ ที่กินในวันนั้นจืดชืด ว่างเปล่าไปหมด

มันยอดเยี่ยมมาก!

เซี่ยหยูเข้าใจถึงจิตวิญญาณของพ่อครัวที่แฝงอยู่ในเนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวน จานนี้อย่างประหลาด

โลกบ้าอะไรกันแบบนี้?

เซี่ยหยูได้แต่อึ้ง เมื่อก่อนถ้าใครมาบอกว่ามีฝีมือการทำอาหารในระดับจิตวิญญาณ หรือที่สาวหน้ากลมเรียกว่า "เวทมนตร์" ในการทำอาหาร เขาคงหัวเราะเยาะไปแล้ว

แต่ในโลกนี้ ปู่ของเขาสามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณของเชฟผ่านอาหารจีนดั้งเดิมจานเดียว แสดงให้เห็นเป็นรูปธรรมต่อหน้าเซี่ยหยู จนเขาต้องยอมรับโดยไม่มีข้อสงสัย

หลังจากได้ชิมเนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวนจานนี้ เซี่ยหยูนึกย้อนกลับไป ถึงได้ตระหนักถึงความไม่รู้ของตัวเองและร่างเดิม

เขากินอาหารฝีมือปู่มา 10 กว่าปี แต่ยังคงก้มหน้าก้มตาฝึกแค่พื้นฐานการใช้มีด ไม่มีทีท่าว่าจะเข้าใจอะไรเลย ไม่แปลกที่ปู่จะไม่พอใจ

สำหรับทายาท ปู่คงฝากความหวังไว้มากมาย แต่ร่างเดิมกลับเป็นแค่ไม้ซุง นี่คงเป็นสาเหตุที่ปู่ไม่ได้สอนวิชาการทำอาหารให้มากกว่านี้สินะ

"ระบบ: ปลดล็อกพรสวรรค์ขั้นสูง [หัวใจแห่งเชฟ]

เมื่อผู้ใช้ระบบเลื่อนเป็นเชฟระดับ 1 ดาว จะสามารถจัดสรรคะแนนพรสวรรค์ เพื่อเพิ่มระดับพรสวรรค์ขั้นสูงของตนเองได้"

เอ๊ะ?

ข้อความแจ้งเตือนจากระบบที่ปรากฏขึ้นกะทันหัน ทำให้เซี่ยหยูอ้าปากค้าง

หัวใจแห่งเชฟ?

เมื่อเปิดหน้าจอระบบ บนแผนภูมิต้นไม้พรสวรรค์ส่วนตัว ไอคอนพรสวรรค์ระดับสูงปรากฏขึ้นอย่างโดดเด่น ท่ามกลางพื้นหลังสีดำ

บนแผนภูมิต้นไม้พรสวรรค์ ชั้นล่างสุดคือทักษะพื้นฐานหลายอย่าง รวมถึงการใช้มีด การควบคุมไฟ การปรุงรส และการแยกแยะวัตถุดิบ

ถัดมาคือคุณสมบัติทางร่างกายหลายอย่าง ทั้งพละกำลัง ความคล่องแคล่ว จิตใจ และปฏิกิริยาประสาท ซึ่งก็นับเป็นส่วนหนึ่งของแผนภูมิต้นไม้พ่อครัว อยู่ในส่วนของทักษะพื้นฐาน

"[หัวใจแห่งเชฟ] (พรสวรรค์ขั้นสูง): เชฟคือศิลปิน คือวาทยกร พวกเขาสามารถควบคุมความอยากอาหารของลูกค้า

ทำให้ 'เผ็ด' กลายเป็นรสชาติที่รุนแรง

ทำให้ 'หวาน' อบอุ่นหัวใจอย่างแท้จริง

ทำให้ผู้ที่ชิม 'ขม' รู้สึกราวกับผ่านการแสวงบุญอันยากลำบาก...

รสชาติในมือของเชฟประเภทนี้ กลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของอารมณ์ ควบคุมทั้งเสียงหัวเราะและน้ำตาของลูกค้า"

เมื่ออ่านคำอธิบายจากระบบจบ เซี่ยหยูก็พูดอะไรไม่ออก

พอขึ้นเป็นพ่อครัวระดับ 1 ดาวที่ Lv.10 ผมต้องเอาคะแนนมาลงที่พรสวรรค์นี้แน่ๆ!

มันเกินตัวมากเลย!

ปู่มาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย และจากไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเช่นกัน

ดึกแล้ว เซี่ยหยูเปิดหมวดการเรียนรู้ แล้วถามในใจ

"ระบบ ความคืบหน้าในการเรียนรู้คู่มือทำอาหารของปู่เป็นยังไงบ้าง?"

"คืบหน้า 96% เหลืออีก 4%..."

"ดี คืนนี้จะเรียนให้ครบ 4% ที่เหลือ!"

ระบบจึงรวบรวมข้อมูลที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนให้เขา ทำหน้าที่เป็นทั้งครูและผู้กระตุ้น ทุกครั้งที่เซี่ยหยูทำได้ไม่ดีพอ ระบบจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "ไม่ผ่าน"

เซี่ยหยูจมอยู่ในโลกแห่งการทำอาหาร โดยไม่รู้ตัวว่าที่มุมนอกห้องครัว มีร่างสูงใหญ่ยืนอยู่กับเขาจนดึกดื่น ดวงตาที่เปล่งประกายในความมืดเผยความพึงพอใจและภาคภูมิใจ

วันรุ่งขึ้น

เซี่ยหยูถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา เพราะเสียงเครื่องยนต์รถ เขาพึมพำเบาๆ พลางขยี้ผมยาวปานกลางที่ยุ่งเหยิง เปิดหน้าต่างห้องใต้หลังคามองออกไปนอกถนน แล้วก็ต้องตกตะลึง

รถเก๋งสีดำคันยาว ดูคุ้นตา

เหลือบมองทะเบียนรถ เซี่ยหยูก็ตบหน้าผาก หัวเราะเบาๆ

"หญิงสาวเย่อหยิ่งคนนั้นมาอีกแล้วสินะ กี่โมงแล้วนะ?"

เขาจับศีรษะที่มึนงง หันไปมองนาฬิกาปลุกที่หัวเตียง 9:15 น.

"คุณเซี่ยฉิง..."

ตำแหน่งสูงสุดแห่งโทสึกิก็มาด้วย นาคิริ เซนซาเอม่อน ยังคงสวมชุดซามูไรแบบดั้งเดิม สวมรองเท้าไม้ ยืนอยู่หน้าร้าน เซี่ยหยูพยายามชะโงกหน้าออกไปมอง และเห็นเพียงแค่ครึ่งตัวของเขา กับกระเป๋าเดินทางสีดำที่ดูบวมๆ วางอยู่ข้างเท้า

กระเป๋าเดินทาง?

สะดุ้งตื่นทันที ความง่วงหายไปหมด เซี่ยหยูไม่สนใจที่จะล้างหน้าแปรงฟันแล้ว สวมรองเท้าแตะ เปิดประตูห้องนอน วิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว

--------------------------------

ฝากติดตาม สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ

หากพบคำผิด แจ้งได้เลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด