ตอนที่แล้วตอนที่ 17 ราคาที่น่าตกใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 19 หัวใจของเชฟ

ตอนที่ 18 สามจานเด็ด


ตอนที่ 18 สามจานเด็ด

นักท่องเที่ยวสาวสองคนยืนอยู่หน้าเมนู กระซิบกระซาบปรึกษากันเบาๆ

ผ่านไปพักใหญ่ สาวหน้ากลมจึงหันไปมองเซี่ยหยูที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ แล้วหัวเราะแห้งๆ

"ฮ่าๆ... คือว่า ราคาลดลงหน่อยได้ไหมคะ? ราคาเพื่อน ลด 10% ไม่สิ 20% หรือถ้าคุณจะใจดีลด 30% ก็ได้นะคะ พวกเราตั้งใจจะสั่ง 3 จานเล็กๆ มาลองชิม"

เซี่ยหยูฟังแล้วก็อึ้งไป เขามองหน้าตาน่ารักของสาวคนนั้นอย่างสงสัย

"ผมยังไม่ใช่เจ้าของร้านหรอกครับ" เซี่ยหยูยักไหล่พลางกล่าว

"ผมแค่เป็นพ่อครัวเท่านั้น ก็เลยขอโทษด้วยนะครับที่เรื่องราคาคงช่วยอะไรไม่ได้"

สาวทั้งสองได้ยินดังนั้นก็มองหน้ากันอย่างจนใจ

"งั้นก็ถือว่าเป็นการกินหรูๆ ในโรงแรมแล้วกัน!" สาวหน้ากลมกัดฟันพูด

"แต่บอกไว้ก่อนนะ ถ้าอาหารร้านคุณไม่อร่อย ฉันจะเอาไปแฉในบล็อกเวยป๋อของฉันแน่!"

ว่าแล้วเธอก็เชิดหน้าอย่างภาคภูมิใจ "อย่ามาดูถูกฉันนะ ฉันเป็นอินฟลูเอนเซอร์คนดัง มีผู้ติดตามในเว็ปเวยป๋อตั้ง 600,000 คน และในวงการอาหาร ฉันก็มีชื่อเสียงอยู่บ้างนะ!"

เซี่ยหยูชะงักไปครู่หนึ่ง มองหน้าตาน่ารักของเธออย่างสงสัย

"คุณเป็นบล็อกเกอร์อาหารที่มีชื่อเสียงเหรอครับ?"

เซี่ยหยูเอามือเท้าคาง พูดขึ้นมาทันที

"งั้นเอาอย่างนี้ไหม มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง แล้วคุณช่วยเขียนรีวิวลงในบล็อกให้หน่อย ช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนจีนในญี่ปุ่นรู้ว่า ที่อาเมะ โยโกะโช มีร้านอาหารจีนแท้ๆ แบบนี้อยู่"

สาวหน้ากลมได้ยินแล้วก็ตาเป็นประกาย "โอเค! ตกลง!"

เพื่อนสาวข้างๆ กระซิบ "เธอแน่ใจเหรอ? ถ้าอาหารไม่อร่อยจริงๆ ล่ะ?"

"ไม่ต้องกังวลน่า" สาวหน้ากลมตอบเสียงเบา "ถ้าไม่อร่อยจริงๆ ฉันก็แค่ไม่เขียนรีวิวก็หมดเรื่อง"

สาวหน้ากลมได้ยินแล้วก็ลังเลเพียงไม่กี่วินาที ก่อนจะส่ายหน้าด้วยสีหน้าจริงจัง "ไม่ได้!"

"การเขียนบันทึกการท่องเที่ยวเชิงรีวิวอาหารในบล็อกของฉันเป็นแค่งานอดิเรก ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเชิงพาณิชย์ใดๆ ทั้งสิ้น!"

เซี่ยหยูยักไหล่

"งั้นก็ได้ ผมคงต้องใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี ทำให้พวกคุณพอใจ จนอยากเขียนรีวิวด้วยความสมัครใจแล้วล่ะ..."

นักท่องเที่ยวสาวทั้งสองสั่งอาหาร 3 อย่าง ได้แก่ เนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวน หมูทอดซอสเปรี้ยวหวาน และปลาร่างกระรอก รวมราคาทั้งหมด 11,000 เยน

ใน 3 อย่างนี้ เนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวนเป็นเมนูที่ทำได้ค่อนข้างง่ายที่สุด

หลายวันก่อน ปู่ได้หั่นเนื้อวัวเป็นชิ้นๆ แล้วนำมาต้มพร้อมกับลิ้นวัว หัวใจวัว และกระเพาะวัว ปรุงรสด้วยเครื่องเทศ เกลือ พริกเสฉวนป่น และเครื่องปรุงอื่นๆ ต้มด้วยไฟแรง เมื่อเสร็จแล้วก็นำขึ้นมาผึ่งให้แห้ง แล้วหั่นเป็นชิ้นบางๆ เก็บไว้

เมื่อมีลูกค้าสั่ง ก็แค่นำชิ้นเนื้อที่เตรียมไว้มาจัดใส่จาน เติมน้ำต้ม น้ำมันถั่ว พริกเสฉวนป่น น้ำมันพริก งา ถั่วลิสง และต้นหอม คลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็พร้อมเสิร์ฟได้แล้ว

ดังนั้น จานแรกที่เซี่ยหยูนำมาเสิร์ฟสาวทั้งสอง จึงเป็นจานเนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวน สีแดงสด

"เชิญลิ้มลองได้เลยครับ!"

เซี่ยหยูวางจานลงแล้วหมุนตัวกลับไปที่เคาน์เตอร์ครัว

"เทียบกับเนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวนในเมืองจีน ก็ไม่เห็นมีอะไรพิเศษนี่"

สาวหน้ากลมหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปอาหาร "เก็บหลักฐานไว้ก่อน แล้วค่อยลงมือชิม!"

เพื่อนสาวหน้าคมที่นั่งข้างๆ ดูเหมือนจะชินกับพฤติกรรมนี้ของเธอแล้ว

"รู้สึกว่ากลิ่นหอมนี้ไม่ธรรมดานะ..." สาวหน้าคมลงมือชิมก่อน

เธอคีบเนื้อวัวแผ่นบางๆ เข้าปาก รสชาติของเครื่องเทศต่างๆ ผสมผสานกับรสเนื้อวัวอย่างลงตัว ระเบิดความอร่อยในปากของเธอ

ภาพหลอนปรากฏขึ้นตรงหน้า เธอเหมือนอยู่บนทุ่งหญ้ากว้าง แต่หญ้าใต้เท้าไม่ได้เขียวขจี กลับเป็นสีแดงสดของพริก แม้แต่อากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นหอมพริกและความชาของพริกเสฉวน

ฝูงวัวที่ดูแข็งแรงวิ่งผ่านไป สาวหน้าคมทำตาโตด้วยความประหลาดใจ วัวพวกนี้ไม่ใช่วัวธรรมดา ไม่มีจุดดำขาวของวัวนม แต่ดูเหมือนเพิ่งอาบน้ำออกมาจากแม่น้ำซุปเผ็ด ตัวเปื้อนน้ำมันหอมรสเผ็ดไปทั่ว

เธอเคี้ยวเนื้อวัวโดยไม่รู้ตัว เมื่อกลืนเนื้อที่เคี้ยวละเอียดแล้วลงคอ ภาพประหลาดตรงหน้าก็หายไป สาวหน้าคมอ้าปากด้วยความตกใจ แก้มร้อนผ่าวและแดงระเรื่อ

"อร่อย!"

"อร่อยมาก!"

ข้างๆ เธอ เพื่อนสาวก็กำลังหลับตาพริ้ม ดื่มด่ำกับรสชาติอาหารเช่นกัน

เมื่อเซี่ยหยูนำหมูทอดซอสเปรี้ยวหวานมาเสิร์ฟ จานเนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวนก็ถูกกวาดเกลี้ยงไปแล้ว

เขาวางจานหมูทอดซอสเปรี้ยวหวานลง พลางขมวดคิ้ว

"ผมยังไม่ทันตักข้าวให้เลย อาหารก็หมดแล้ว..."

"ไม่ ไม่ ไม่ต้องเสิร์ฟข้าวหรอก พวกเรากินแต่กับข้าวก็พอ" สาวหน้ากลมพูดโดยไม่เงยหน้า และจ้องมองอาหารที่ส่งกลิ่นหอมฉุยอยู่บนโต๊ะ

ต้องยอมรับว่าแค่เห็นสีแดงสดของอาหาร และบรอกโคลีที่ตกแต่งบนจาน ก็ทำให้น้ำลายสอแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลิ่นหอมของหมูชุบแป้งทอดพร้อมราดด้วยซอสเปรี้ยวหวานที่โชยมา ยิ่งกระตุ้นให้น้ำย่อยหลั่งออกมามากขึ้น

"รอสักครู่นะครับ ยังเหลืออีกหนึ่งจาน ผมจะตักข้าวให้ก่อน!"

เซี่ยหยูจึงวุ่นวายอีกครั้ง วิ่งไปมาระหว่างครัวกับหน้าร้าน

โชคดีที่คืนนี้มีลูกค้าแค่ 2 คนนี้ ไม่งั้นคงวุ่นวายจนหัวหมุนแน่ๆ

"ตึ้ง ตึ้ง ตึ้ง... ปลาร่างกระรอก เสร็จแล้วครับ!"

ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา เซี่ยหยูหอบเล็กน้อย วางจานปลาใหญ่ตรงหน้าสองสาว

"เชิญลิ้มลองได้เลยครับ!"

คราวนี้เซี่ยหยูไม่รีบกลับออกไป เขายืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ กวาดตามองไปที่โต๊ะ

เห็นได้ชัดว่าจานหมูทอดซอสเปรี้ยวหวานก็ว่างเปล่าแล้ว ข้าว 2 ชามก็หมดไปครึ่งหนึ่ง สาวหน้าคมลูบท้อง ดูเหมือนจะอิ่มแล้ว แก้มยังแดงระเรื่อ ตาเหม่อลอย

ส่วนคุณน้องสาวหน้ากลมคนนั้น ก้มหน้าก้มตาจดจ่อกับการเขียนอะไรบางอย่างในมือถือ แม้เซี่ยหยูจะส่งเสียงดังขณะเสิร์ฟอาหาร ก็ไม่ได้ทำให้เธอสะดุ้งตื่นแต่อย่างใด

"กำลังเขียนบนบล็อกเวยป๋อเหรอครับ?" เซี่ยหยูอดสงสัยไม่ได้ จึงชะโงกไปดูใกล้ๆ

และก็จริงอย่างที่คิด เธอกำลังเขียนรีวิวที่มีความยาวหลาย 100 ตัวอักษร พร้อมแนบรูปภาพที่ถ่ายมุมสวยๆ แม้จะไม่ได้ผ่านการตกแต่งใดๆ แต่ภาพอาหารจีนเหล่านั้นก็ดูน่ากินมาก ชวนให้น้ำลายสอเลยทีเดียว

เย้!

พอเห็นภาพอาหารสองจานนั้น ทั้งเนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวน และหมูทอดซอสเปรี้ยวหวาน เซี่ยหยูก็อดยิ้มกว้างไม่ได้

เธอคนนี้เก่งใช้ได้เลย ไม่เสียแรงที่เขาทุ่มเทใส่ใจกับการปรุงสองจานหลังนี้

เซี่ยหยูจิ้มนิ้วเบาๆ ที่ไหล่เธอ แล้วเอ่ยเตือน

"ไม่ต้องรีบนะครับ รอถ่ายรูปจานสุดท้าย ปลาร่างกระรอกด้วย แล้วค่อยชิมพร้อมเขียนความรู้สึก มีทั้งภาพและเนื้อหา รีวิวจะได้สมบูรณ์แบบ!"

เสียงอุทานดังขึ้นทั่วร้านทันที

ในบรรดา 3 จานนี้ จานที่มีความเป็นศิลปะมากที่สุด คงหนีไม่พ้นจานปลาร่างกระรอกนี่แหละ! เป็นปลาทอดราดซอส มีรสเปรี้ยวหวานตามสไตล์อาหารจีนเจียงซู ปลาตัวใหญ่วางอยู่บนจานกระเบื้องสีขาวเนียน ดูราวกับเพิ่งกระโดดขึ้นมาจากสระน้ำ หางและหัวชี้สูงขึ้นฟ้า ส่วนลำตัวประดับด้วยเครื่องเคียงหลากสี

ทั้งถั่วลันเตา เม็ดสน เมล็ดข้าวโพด...

สาวนักท่องเที่ยวชาวจีนสองคนรู้สึกเกรงใจไม่กล้าลงมือ และในที่สุดก็ต้องคีบเนื้อปลาชิ้นที่ทอดจนเหลืองกรอบเข้าปากช้าๆ หลังจากที่เซี่ยหยูคอยเร่งอยู่พักใหญ่

ไม่ถึง 10 นาที ปลาทั้งตัวก็ถูกกินหมดจนเกลี้ยงจาน เหลือแต่หัวกับหาง ไม่เห็นก้างสักชิ้น

จริงๆ แล้วการทำปลาร่างกระรอกนี้ ต้องใช้ทักษะการใช้มีดพอสมควร ต้องสับเนื้อปลาเป็นลายตาราง แล้วแล่ตามก้างหลักจากหัวถึงหาง แยกเนื้อออกเป็นสองส่วนอย่างระมัดระวัง เอาก้างออกให้หมด แต่ต้องให้หางยังติดอยู่ ไม่ให้เนื้อปลาแยกออกจากกัน

เซี่ยหยูชงชาข้าวบาร์เลย์ให้ทั้งสองคนอย่างเงียบๆ เพื่อช่วยขจัดไขมันและช่วยย่อย

หลังกินอิ่มและดื่มจนหนำใจ สาวทั้งสองคนเดินแทบไม่ไหว พึงพอใจเต็มอิ่ม

"ช่วยให้คะแนนหน่อยสิครับ" เซี่ยหยูชี้ไปที่จานทั้งสามที่เหลือแต่น้ำซอส

"พวกคุณคิดว่าจานไหนอร่อยที่สุด?"

เขาคิดว่าทั้งสองคนคงต้องครุ่นคิดสักพัก แต่ไม่คิดว่าพอถามปุ๊บ ทั้งสาวหน้ากลมและสาวสวยหมวยเซ็กซี่ก็ตอบพร้อมกันว่า

"เนื้อวัวผัดสไตล์เสฉวน!"

"..."

"โอ้ย! บ้าชิบ"

ในตอนนั้น เซี่ยหยู ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวทันที

ที่สวนหลังร้าน ปู่ที่นั่งดูอยู่วางถ้วยชาลง แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์แบบจิ้งจอก

สีหน้าเหมือนจะบอกว่า “ไอ้หนู เจ้ายังอ่อนนัก!”

แต้มไม่ถึง 500 จะไม่สามารถฟื้นฟูได้ นี่มันเรื่องอะไรกัน…โว้ย…

--------------------------------

ฝากติดตาม สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ

หากพบคำผิด แจ้งได้เลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด