บทที่ 200 พาฉันไปด้วยได้ไหม?
[\แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร\มาติดตามในแฟนเพจ\เพื่อติดตามข่าวสารได้นะ\]
[\Thai-novel \ลงไวกว่าที่อื่น\ทุกที่ 5 ตอน\แต่จะราคาแพงที่สุด\]
[\หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง จะแก้ไขแบบเทียบคำต่อคำให้ตรงตามหลักไวยากรณ์ อ่านแบบเทียบภาษาต้นฉบับคำต่อคำ ซึ่งถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ\100คน\ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ซึ่งถ้ารู้ว่าหลุดจากที่ไหนก็จะไม่แก้ไขตรงเว็บนั้นครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบเวอร์ชั่นแรกไปนะครับ\]
บทที่ 200 พาฉันไปด้วยได้ไหม?
กู่เฉินหนานตัวแข็งทื่อ ยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับถูกสาป
อากาศรอบข้างราวกับหยุดนิ่ง เวลาก็เหมือนถูกกดปุ่มหยุดไว้
【นี่... นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?】
【ทำไมเฉียนโม่ถึงรู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่?】
ใจของกู่เฉินหนานสั่นสะท้าน
【งั้น... งั้นก็หมายความว่าเฉียนโม่รู้ว่าฉันกำลังจะไป?!】
"ใช่แล้ว เหลือเวลาอีกหนึ่งวันกับแปดชั่วโมงคุณก็จะไป ไม่สิพูดให้ถูกคือเหลือเวลาอีกแค่หนึ่งวันกับเจ็ดชั่วโมง"
ซูเฉียนโม่มองกู่เฉินหนานด้วยแววตาอาลัย ใบหน้าอันงดงามเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
【บ้าเอ๊ย! อย่าคุยกับเสียงภายในใจฉันแบบนี้สิ มันน่าขนลุกนะ!】
"รู... รู้แล้ว" ซูเฉียนโม่เม้มริมฝีปาก
【ยังจะพูดอีก!】
"มะ... ไม่พูดแล้ว" ซูเฉียนโม่รีบยกมือขึ้นปิดปากพร้อมกับกระพริบตาปริบ ๆ
"เฮ้อ"
กู่เฉินหนานถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา
"คุณเริ่มได้ยินตั้งแต่เมื่อไหร่?" กู่เฉินหนานหันมาถามด้วยสีหน้าสิ้นหวัง
"กะ... ก็ตั้งแต่วันที่คุณลักพาตัวฉันมาน่ะ" ซูเฉียนโม่ตอบด้วยท่าทีเขินอาย
กู่เฉินหนานพอได้ยินก็เข้าใจทันที!
【บ้าชิบ! ที่แท้สิ่งที่ฉันคิดมาตลอด เฉียนโม่ก็รู้หมดเลยงั้นสิ?!】
【โชคดีที่ไม่ได้คิดอะไรแปลก ๆ ไม่อย่างนั้นคงขายหน้าตายเลย!】
【ไม่คิดแล้ว ไม่คิดแล้ว ความคิดภายในใจฉันมันเหมือนถูกเปิดเผยต่อหน้าเฉียนโม่หมดเลย นี่มันน่าอายเกินไปแล้ว! มันต่างอะไรกับการแก้ผ้าล่อนจ้อนกันเล่า?】
กู่เฉินหนานส่ายหัว พยายามขับไล่ความคิดในหัวออกไป
"ขอโทษ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงห่อเหี่ยว
"ทำไมต้องขอโทษด้วยล่ะ" ซูเฉียนโม่ซบศีรษะลงบนไหล่ของกู่เฉินหนานเบา ๆ ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาไหลริน "ฉันรู้เรื่องที่คุณจะไปตั้งนานแล้ว... มันไม่ใช่ความผิดของคุณสักหน่อย"
กู่เฉินหนานเช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน "ขอบคุณนะ"
"ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว" ซูเฉียนโม่ลุกขึ้นนั่งทันที บีบรอยยิ้มออกมา "ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งวันกับเจ็ดชั่วโมง เรายังมีเวลาอีกเยอะ"
"กู่เฉินหนาน!"
ทันใดนั้นเอง ฟางหยวนหยวนก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูห้องโถงใหญ่ด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว มือทั้งสองข้างเท้าเอว
แสงแดดจากภายนอกส่องผ่านด้านหลังของเธอ ทำให้รูปร่างเล็ก ๆ ของเธอดูเปล่งประกายระยิบระยับราวกับเทพธิดา
"ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!" เธอออกคำสั่ง
...
ณ ภายนอกห้องพักผ่อน
"เรียกผมออกมาทำไม อย่าบอกนะว่าจะให้ผมมานั่งดูวิวเป็นเพื่อนพี่เนี่ย?"
กู่เฉินหนานพูดหยอกล้อฟางหยวนหยวนที่ยืนหันหลังให้เขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ
"ฉันรู้ทุกอย่างแล้ว"
ฟางหยวนหยวนหันกลับมา สีหน้าเคร่งขรึมอย่างยิ่ง
【รู้ทุกอย่างแล้ว? รู้อะไร?】
【หรือว่า... อึก ฟางหยวนหยวนก็ได้ยินเสียงภายในใจฉันเหมือนกัน?】
กู่เฉินหนานกระพริบตาด้วยความไม่แน่ใจ
【ไม่แน่ใจ ลองดูหน่อยแล้วกัน...】
【ฟาง... ฟางหยวนหยวนเป็นพวกงี่เง่า?】
"ทำไมนายไม่พูดอะไรล่ะ?" ฟางหยวนหยวนถามกู่เฉินหนานที่เอาแต่นิ่งเงียบอยู่นาน
กู่เฉินหนานดีใจขึ้นมาทันที
【เยี่ยมไปเลย ดูเหมือนฟางหยวนหยวนจะไม่ได้ยินเสียงภายในใจฉัน งั้นก็หมายความว่า... มีแค่เฉียนโม่คนเดียวที่ได้ยิน?】
"ไม่มีอะไร" กู่เฉินหนานส่ายหัว "พี่รู้อะไรบ้างล่ะ?"
"ฉันรู้ทุกอย่างแล้ว!" ฟางหยวนหยวนลูบคางด้วยท่าทางรู้มาก "งั้นก็แสดงว่าโลกนี้เป็นโลกในนิยายสินะ?"
"อะไรนะ...!"
กู่เฉินหนานเบิกตากว้างทันที
【บ้าอะไรเนี่ย เธอน่าจะไม่ได้ยินเสียงภายในใจฉันไม่ใช่เหรอ แล้วเธอไปรู้อะไรมาว่านี่เป็นโลกในนิยาย?】
ฟางหยวนหยวนมองกู่เฉินหนานด้วยหางตา ยกนิ้วขึ้นพูดด้วยท่าทางรู้มากเหมือนเดิม "ฟังฉันพูดก่อน"
"ฉันรู้สึกมานานแล้วว่าโลกนี้มันแปลกๆ คนที่นี่ไม่มีใครใช้เวทมนตร์ได้เลย ใช้ชีวิตซ้ำซากจำเจเหมือนเครื่องจักร เรื่องราวความฝันกับการเดินทางไกลอะไรนั่นมันก็แค่เรื่องโกหก เพราะงั้นโลกใบนี้ก็เป็นของปลอม!"
พูดจบเธอก็วิ่งเข้ามากระชั้นชิดกู่เฉินหนาน "บอกฉันมาเร็ว โลกของนาย ไม่สิ โลกแห่งความเป็นจริงมันเป็นยังไง?"
"มันเหมือนในอนิเมะไหม ทุกคนใช้เวทมนตร์ได้?"
กู่เฉินหนานเห็นแววตาเปี่ยมไปด้วยความหวังของฟางหยวนหยวนก็ถึงกับสะอึก
【คนในโลกสองมิตินี้ช่างน่ากลัว ช่วยอยู่ห่าง ๆ ฉันหน่อยเถอะ】
"พี่ฟาง พี่ไปรู้อะไรมา?" กู่เฉินหนานถาม
ฟางหยวนหยวนแกว่งนิ้วไปมา "อย่าเพิ่งสนใจเรื่องนั้น ตอบคำถามฉันมาก่อน"
"เฮ้อ"
กู่เฉินหนานถอนหายใจ "พูดตามตรงนะ โลกแห่งความเป็นจริงมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับโลกนี้เท่าไหร่ เอ่อ... พูดให้ถูกคือ มันไม่ได้น่าสนใจเท่าโลกนี้เลย"
"หา?"
ดวงตาของฟางหยวนหยวนหรี่ลง "ไม่จริงน่า?"
"จริงสิ" กู่เฉินหนานเสริม "ถ้าในโลกความจริงล่ะก็ สิ่งที่พี่ทำน่ะ โดนประหารชีวิตไปหลายสิบรอบแล้ว"
"เชอะ!" ฟางหยวนหยวนโบกมือ "ไม่เชื่อหรอก"
กู่เฉินหนานขี้เกียจพูดต่อ เขาไหวไหล่แล้วพูดว่า "เข้าไปข้างในเถอะ ข้าวทำเสร็จแล้ว ไปกินข้าวกัน"
แต่พอกำลังจะหันหลังไป ก็รู้สึกว่าชายเสื้อถูกดึงเอาไว้
"พี่จะทำอะไรอีกเนี่ย?"
ฟางหยวนหยวนเม้มปาก "ถ้านายจะกลับไป... พา... พาฉันไปด้วยได้ไหม?"
"ไม่เอาน่า" กู่เฉินหนานหันกลับมา "โลกน่าเบื่อแบบนั้น พี่ก็อยากไปด้วย? ในโลกนี้พี่เป็นถึงหัวหน้า แต่ในโลกนั้นพี่ไม่เป็นอะไรเลยนะ"
"ฉันไม่สน" ฟางหยวนหยวนพูดอย่างหนักแน่น "เรื่องที่ผู้กล้าข้ามไปต่างโลกแล้วผจญภัยสุดมหัศจรรย์ ต้องมีฉันไปด้วยสิ!"
ต่างโลกเหรอ...
กู่เฉินหนานกระตุกมุมปาก "บอกแล้วไงว่าโลกนั้นมันน่าเบื่อ ไม่ใช่ต่างโลกอะไรสักหน่อย"
(อีกอย่าง ฉันก็ไม่น่าจะพาพี่ไปได้ด้วย...)
"ไม่เชื่อ ฉันต้องเห็นกับตา!" ฟางหยวนหยวนยังคงดื้อรั้น
เอ่อ...
กู่เฉินหนานถอนหายใจอย่างจนใจ "ก็ได้ ผมจะลองดู"
"ตกลง งั้นก็เรียบร้อย!" ฟางหยวนหยวนดีใจจนกระโดดขึ้นหลังกู่เฉินหนานทันที สองมือโอบรอบคอเขา สองขาเกี่ยวเอวเขาไว้
กู่เฉินหนานจับขาฟางหยวนหยวนไว้แล้วดึงขึ้น "ตกไปผมไม่รับผิดชอบนะ"
"ได้!"
พูดจบ สีหน้าที่เคยดีใจของฟางหยวนหยวนก็เปลี่ยนไป
เธอซบหน้าแนบกับแผ่นหลังของกู่เฉินหนาน ดวงตาแดงก่ำในพริบตา
ต่างโลกอะไรกัน... ฉันก็ไม่ได้อยากไปต่างโลกสักหน่อย...
ฉันแค่อยากอยู่กับนายตลอดไปต่างหาก!
เข้าไปในห้องโถง
หลิวหมิงรุ่ยเตรียมอาหารไว้เต็มโต๊ะแล้ว
ไป๋หยูเทียนก็ยกซุปไก่ที่ตุ๋นเสร็จแล้วมาวางบนโต๊ะ
"เฉินหนานมากินข้าวเร็วเข้า!"
"คุณชายกู่ ซุปไก่มาแล้วค่ะ!"
หลิวหมิงรุ่ยในชุดผ้ากันเปื้อน โบกมือเรียกกู่เฉินหนานราวกับภรรยา ไป๋หยูเทียนยิ้มแย้มสดใสพร้อมกับซุปไก่ในมือ
กู่เฉินหนานรู้สึกเหมือนโดนภาพตรงหน้าเล่นงานเข้าอย่างจัง
หัวใจของเขากระตุกวูบ ราวกับถูกฟ้าผ่า
ภาพตรงหน้าช่างงดงาม งดงามเสียจนไม่อยากจะทำลายมันลง
เมื่อคิดว่าต่อไปจะไม่ได้เจอพวกเธออีกแล้ว กู่เฉินหนานก็รู้สึกเคว้งคว้าง
ช่วงเวลาที่ผ่านมา ราวกับความฝันที่งดงาม ฝันที่ไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย
กู่เฉินหนานตั้งสติ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม "ในที่สุดก็เสร็จสักที หิวจะแย่แล้ว"