ทุกคนเปลี่ยนอาชีพ : แต่นักฝึกมังกรกากสุดงั้นเหรอ? ตอนที่ 26 มอนสเตอร์ตัวสุดท้าย
นักดาบมากประสบการณ์อย่างซุนเก้อไม่รู้ว่ามอนสเตอร์ตัวสุดท้ายซ่อนตัวอยู่ไหน แต่เขามีความคิดที่ดีและพูดปลอบ
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลหรอกนะ”
“แดนลับที่นี่นับว่าเล็ก มันจะไปซ่อนตรงไหนได้? เราอาจจะหาไม่ทั่วเองก็ได้ มันอาจจะอยู่ในบ้านซักหลัง”
ฉินฉิวพยักหน้าพูดฃ
“ไม่อย่างนั้นก็ไปที่หมู่บ้านแล้วหาให้ดีอีกครั้งเถอะ หนูเป็นจอมเวทย์แสงศักดิ์สิทธิ์ ยังรู้สึกว่ามีธาตุมืดอยู่ที่นั่น มันอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่”
“ตัวสุดท้ายจะต้องอยู่ใกล้ ๆ แน่!”
คนอื่นพยักหน้าและคิดว่ามันเป็นทางเดียว
เมื่อทุกคนกำลังจะเดินต่อ พวกเขาก็พบว่าลู่ฟานนั้นไม่ขยับเขยื้อนราวกับว่ากำลังใช้ความคิด
“น้องชาย มีอะไรรึ? คิดอะไรออกรึเปล่า?”
ซุนเก้อเดินมาตบบ่าลู่ฟาน
หลังจากการต่อสู้ ซุนเก้อนับถือลู่ฟานเป็นอย่างมาก ความสัมพันธ์ของพวกเขาใกล้ชิดกว่าตอนแรก
ลู่ฟานส่ายหน้าบ่งบอกว่าเขาคิดอะไรไม่ออก แต่เขาพูดเสริม
“ผมว่าเราน่าจะมองข้ามบางอย่างไป”
“มันคืออะไร?”
ฉินฉิวถามด้วยความสนใจ
ลู่ฟานเปิดหน้าต่างภารกิจและแสดงให้ทุกคนเห็น จากนั้นเขาจึงชี้ไปที่ข้อความ
“ภารกิจให้คำอธิบายว่าจุดเริ่มต้นของหมู่บ้านสิ้นหวังเกิดจากคนในหมู่บ้านบางคนที่ติดเชื้อโรคระบาด จากนั้นศพก็ไปกองกันอยู่ริมลำธาร”
“สามวันต่อมา ศพได้กลายพันธุ์กลายเป็นซอมบี้”
“ผมเลยสงสัยว่าปัญหาที่แท้จริงอาจจะไม่ใช่หมู่บ้าน แต่เป็นลำธารเล็ก ๆ ถัดจากหมู่บ้านรึเปล่า?”
คำพูดของลู่ฟานทำให้ทุกคนตาสว่าง
มันมีลำธารน้อยในแดนลับนี้จริง อยู่ถัดจากหมู่บ้านสิ้นหวังพอดี
ลำธารนั้นไม่ได้ใหญ่มากนัก อย่างน้อยก็ใหญ่กว่าบ่อน้ำเล็กน้อย มันเต็มไปด้วยน้ำสีดำและกลิ่นเหม็น ไม่มีใครเข้าใกล้มันมาก่อน
ถ้าหากไม่มีมอนสเตอร์ในหมู่บ้านสิ้นหวัง มอนสเตอร์ตัวสุดท้ายก็ต้องน่าจะอยู่ที่ใต้ลำธารนี้!
ซุนเก้อพูดด้วยความดีใจ
“น้องลู่พูดถูก พวกเราไม่ได้ตรวจดูว่ามีมอนสเตอร์ซ่อนอยู่ในน้ำนั่นไหม”
“ถ้าถามผม ต้นเหตุของโรคระบาดในหมู่บ้านสิ้นหวังนี้อาจจะมาจากใต้ลำธารก็ได้ ใต้ลำธารจะต้องเป็นที่ซ่อนของบอสแดนลับ!”
ฉินฉิวพยักหน้าเห็นด้วย เธอยิ้มและพูด
“ถ้างั้นก็ไปหาดูที่ลำธารกันเถอะ”
พวกเขาออกเดินและไปถึงลำธารเล็กถัดจากหมู่บ้านสิ้นหวังในเวลาไม่นาน
ผิวลำธารนั้นสงบนิ่งเหมือนกับกระจก ยากที่จะจินตนาการว่ามีอะไรอยู่เบื้องล่าง
ฉินฉิวขยับคทา ลูกไฟสีขาวนับไม่ถ้วนควบแน่นบนอากาศและถาโถมลงไปบนผิวลำธาร
ไม่เพียงแต่ฉินฉิว แต่จอมเวทย์อีกสองคนในทีมยังปล่อยลูกไฟออกมาระเบิดลำธาร ทันใดนั้นก็มีน้ำมากมายที่ระเหยเป็นไอพร้อมกับกลิ่นเหม็นไหม้ซากศพ ทำให้หลายคนขมวดคิ้ว
ลำธารเล็กเริ่มขยับ หลังจากนั้นก็มีบางอย่างเกิดขึ้น
เกิดน้ำวนที่กลางลำธาร ในขณะเดียวกันก็มีอากาศสีดำมากมายระเบิดออกมาจากใต้ลำธารพัดพาเปลวเพลิงที่ฉินฉิวและจอมเวทย์อีกสองคนออกไป
“มอนสเตอร์ตัวสุดท้ายอยู่ที่นี่!”
ซุนเก้อตั้งใจ เขาคว้าดาบสองมือมายืนด้านหน้า
“ทุกคนระวัง มันน่าจะเป็นบอสของแดนลับ มันจัดการไม่ง่ายแน่!”
ทันทีที่ซุนเก้อพูดจบก็เกิดเสียงระเบิดดังจากกลางน้ำวน ร่างทมิฬกระโดดออกมาจากใต้ลำธาร อากาศสีดำลอยออกมาจากร่างของมัน มันพุ่งไปทางซุนเก้อเหมือนกับกระสุนปืนใหญ่
เสียงดัง ‘ปั้ง’ พร้อมกับซุนเก้อที่กระเด็น ความต่างของความแกร่งทั้งสองฝ่ายนั้นแสดงออกมาอย่างชัดเจน
ซุนเก้อกระเด็นไปพร้อมกับกระอักเลือด ขณะเดียวกันเงาทมิฬก็พุ่งมาที่แนวหลังจากทีมด้วยความเร็วสุดขั้ว เสี่ยวเจี๋ยที่นับว่ามีค่าความคล่องแคล่วต่ำไม่มีเวลามาหยุดมัน
ฉินฉิวหน้าซีดเมื่อมองเงาทมิฬอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งเข้าใส่ เธอรู้สึกว่าเลือดในตัวหยุดนิ่ง
แต่ในตอนนั้นเองก็มีอีกร่างที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วที่ไม่ต่ำไปกว่าเงาทมิฬ
แน่นอนว่าลู่ฟานย่อมไม่ยืนรอมอนสเตอร์สังหารแนวหลังของทีม เขาตอบสนองด้วยความเร็วสูง หลังจากซุนเก้อกระเด็นเขาก็ลากดาบใหญ่เกล็ดมังกรดำขึ้นมาขวางเงาดำแล้ว
“คุกเข่าลง!”
ลู่ฟานตำโกนเบา ๆ และใช้ดาบเขี้ยวมังกรฟันไปทางเงาทมิฬ
หัวมังกรขนาดใหญ่ทะยานคำรามและกดลงมาใส่เงาทมิฬไม่ให้มันเคลื่อนไหว
ดาบเขี้ยวมังกรไม่ได้ฆ่ามันในทันที ดาบใหญ่เกล็ดมังกรดำฟันไปที่ไหล่ของมันไม่เพียงแต่จะสร้างบาดแผลลึกจนเห็นกระดูก แต่พลังของทำให้มันคุกเข่าลงหนึ่งข้างด้วยแรงมหาศาล
เมื่อมันหยุดการเคลื่อนไหว พวกเขาจึงได้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเงาทมิฬ
มันเองก็เป็นซอมบี้ แต่รูปลักษณ์ของมันน่ากลัวและแปลกกว่า
มันตัวดำสนิทเหมือนกับก้อนโคลนที่ปั้นเป็นรูปมนุษย์ แม้แต่ใบหน้ายังไม่ชัดเจน มันเหมือนกับศพที่ชุ่มโชกไปด้วยน้ำมาหลายปีแต่ยังไม่เน่า
ในมือนั้นมีโซ่เหล็กหนาเท่าข้อมือที่เต็มไปด้วยสนิม
ลู่ฟานร่ายเวทย์ระบุตัวตนเพื่อมองค่าสถานะของมันทันที