ตอนที่แล้วตอนที่ 13 เดินเล่นในย่านร้านค้า (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15 อาหารที่ทำให้คนมีความสุข

ตอนที่ 14 สตูว์เนื้อวัวไวน์แดงบูร์กอญ


ตอนที่ 14 สตูว์เนื้อวัวไวน์แดงบูร์กอญ

สตูว์เนื้อวัวไวน์แดงบูร์กอญ

ในอนิเมะ ยอดนักปรุงโซมะ พระเอกโซมะ ยูกิฮิระ ได้ทำเมนูสตูว์เนื้อไวน์แดงสไตล์ยูกิฮิระในคาบเรียนแรกที่โรงเรียนโทสึกิ และทำให้อาจารย์โรลองด์ ชาเปลที่ไม่เคยยิ้ม ต้องชื่นชม

ความจริงแล้ว นี่เป็นอาหารพื้นบ้านของฝรั่งเศส

แม้จะมีสูตรมาตรฐาน แต่สตูว์เนื้อวัวไวน์แดงบูร์กอญก็มีวิธีทำที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับการตีความของเชฟแต่ละคน

เซี่ยหยูจะทำสตูว์เนื้อไวน์แดงบูร์กอญเป็นไหม? ถ้าเป็นอาหารตะวันตกอื่นๆ คงต้องตั้งเครื่องหมายคำถามใหญ่

แต่สำหรับสตูว์เนื้อไวน์แดงบูร์กอญ ในช่วงที่อนิเมะ ยอดนักปรุงโซมะ กำลังโด่งดัง

เซี่ยหยูในฐานะคนชอบกินที่มีฝีมือ ก็ได้หาสูตรจากภาคผนวกของการ์ตูนมาศึกษาอย่างจริงจังเป็นเวลานาน

ที่แย่กว่านั้นคือ สตูว์เนื้อไวน์แดงบูร์กอญที่ทำตามสูตรในการ์ตูน รสชาติไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หรืออาจถึงขั้นแย่เลยด้วยซ้ำ

ตอนนั้นเซี่ยหยูครุ่นคิดอยู่นาน จนในที่สุดก็พบจุดบกพร่องสำคัญในสูตรของการ์ตูน

ไม่มีน้ำผึ้ง!

ต่อมาโดยบังเอิญ เขาได้ยินเพื่อนที่ชอบอาหารในอนิเมะเหมือนกันพูดถึงภาพยนตร์ฝรั่งเศสปี 2009 เรื่อง "Julie & Julia" จากนั้นก็ได้ศึกษาคำอธิบายอาหารฝรั่งเศสมากมายในหนัง จนสามารถทำสตูว์เนื้อวัวไวน์แดงบูร์กอญที่แท้จริงออกมาได้สำเร็จ มีรสชาติเป็นที่ชื่นชม

"เตรียมวัตถุดิบครบแล้วหรือยัง..."

หลังล้างมือ สวมผ้ากันเปื้อนและหมวกเชฟ ทำตามกฏพื้นฐานของเชฟเรียบร้อยแล้ว เซี่ยหยูก็มองไปที่เคาน์เตอร์ครัวของร้านอาหารตะวันตก

เนื้อวัวสองก้อนใหญ่ที่ละลายน้ำแข็งแล้ว นี่คือวัตถุดิบหลัก

"【เนื้อสันไหล่วัว】 คุณภาพดีเยี่ยม แช่แข็งนาน 8 ชั่วโมง 56 นาที สด"

พอมือสัมผัสเนื้อวัว ระบบเชฟเทพก็แสดงข้อมูลการประเมินวัตถุดิบออกมา เป็นคุณภาพระดับสีเขียว

"เนื้อสันไหล่เหรอ? ดีนี่ เนื้อส่วนนี้มีเส้นใยละเอียด เนื้อสัมผัสนุ่มลื่น เหมาะสำหรับตุ๋น ย่าง อบ และทำแกงกะหรี่"

เซี่ยหยูพึมพำ สายตากวาดมองวัตถุดิบอื่นๆ

"เรามาเริ่มกันเลย!"

ปัง! ชิ้นเนื้อวัวก้อนใหญ่หนาๆ ถูกเหวี่ยงลงบนเขียง เซี่ยหยูเลือกมีดที่คมที่สุดจากแท่นวางมีดในครัว ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วโป้งจับด้ามมีดตรงส่วนที่ติดกับใบมีด หายใจเข้าออกช้าๆ สองครั้ง แล้วลงมือ!

ผู้ช่วยเชฟสองคนและเชฟใหญ่คาสุมิกาโอกะเจ้าของร้าน เห็นเพียงแสงสีเงินวาบผ่านไป เนื้อวัวบนเขียงดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

แต่การเคลื่อนไหวของเซี่ยหยูยังไม่หยุดชะงัก มือขวาเคลื่อนขึ้นลงอย่างต่อเนื่องและเป็นจังหวะ ราวกับกำลังอำนวยเพลงให้วงดนตรี เสียงมีดกระทบเขียงช่างไพเราะ

สีหน้าของเชฟใหญ่คาสุมิกาโอกะเปลี่ยนไป

เขานึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ จ้องมองเซี่ยหยูที่กำลังจัดการเนื้อวัวอย่างตั้งใจ

"...ฝีมือการใช้มีดแบบนี้... เขาเป็นนักเรียนโทสึกิหรือ?"

สิ่งที่ทำให้เขาสนใจคือ วิธีจับมีดที่แปลกไปของเซี่ยหยู

หลังจากจ้องมองเซี่ยหยูจัดการเนื้อวัวก้อนใหญ่ 2 ชิ้นจนเสร็จ เชฟใหญ่คาสุมิกาโอกะกลับยิ่งสงสัยมากขึ้น

ในหมู่นักเรียนชั้นกลางและชั้นสูงของโทสึกิ อาจมีอัจฉริยะที่มีฝีมือการใช้มีดระดับนี้

แต่ท่าทางของเด็กหนุ่มคนนี้ มีทั้งความสงบนิ่ง ความสง่างาม ราวกับเป็นเชฟมือหนึ่งที่ผ่านการทำอาหารมานาน ซึ่งนักเรียนที่ยังอยู่ในขั้นฝึกหัด ไม่มีทาง ทำแบบนี้ได้ นี่ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเลยทีเดียว!

ในช่วงเวลานั้น เชฟคาสุมิกาโอกะรู้สึกทั้งอายและคิดถึงอดีต

ตั้งแต่เซี่ยหยูเริ่มจัดการวัตถุดิบ ดูเหมือนครัวนี้จะเปลี่ยนมือไปแล้ว เขาได้แต่กลายเป็นผู้ช่วยที่คอยดูอยู่ข้างๆ

นึกย้อนไปตอนที่เขาเองก็เคยเป็นนักเรียนหัวกะทิของโรงเรียนทำอาหารนั้น การแข่งขันในโทสึกิโหดร้ายเกินไป แต่ละปีมีผู้จบการศึกษาน้อยมาก เขาถูกคัดออกตั้งแต่ปีที่2 และถูกตัดสินว่าไม่มีพรสวรรค์ในการเป็นเชฟ

"เสร็จแล้ว!"

เซี่ยหยูจัดการเนื้อวัวสองก้อนใหญ่เสร็จในคราวเดียว จากนั้นก็หยิบเบคอนมาหั่นเป็นชิ้นเท่าๆ กันอย่างประณีต

ต่อมา เขาโยนเบคอนที่หั่นแล้วลงในหม้อต้ม เปิดเตาแก๊สแล้วสั่งโดยไม่หันกลับไปมอง

"ช่วยหยิบกระดาษซับน้ำมันให้หน่อย..."

เชฟคาสุมิกาโอกะรีบส่งม้วนกระดาษซับน้ำมันให้ทันที

น้ำเป็นศัตรูสำคัญในการทำอาหารจากเนื้อวัว

ดังนั้นชิ้นเนื้อที่หั่นแล้วต้องบีบน้ำออกให้หมด นี่คือตอนที่กระดาษซับน้ำมันมีประโยชน์

เซี่ยหยูทำหน้าจริงจัง ดึงกระดาษซับน้ำมันออกมาเรื่อยๆ ห่อชิ้นเนื้อวัวแต่ละชิ้นแล้วบีบซ้ำไปซ้ำมา

แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นวัตถุดิบสำหรับหกคน ให้ทำคนเดียวคงจัดการไม่ไหว

เซี่ยหยูจึงชำเลืองมองเชฟใหญ่และผู้ช่วยเชฟหนุ่มอีกสองคนที่อยู่ข้างๆ

"ช่วยกันหน่อยสิ!"

หลังจากบีบน้ำออกจากเนื้อวัวเสร็จ บนโต๊ะครัวยังมีผักอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้จัดการ เช่น แครอท เห็ด และผักชีฝรั่ง

เซี่ยหยูมอบหมายงานล้างและหั่นผักให้เชฟใหญ่คาสุมิกาโอกะ ส่วนตัวเองหยิบกระทะก้นแบนมาตั้งไฟ ใส่น้ำมันมะกอก แล้วเริ่มทอดเบคอนที่พึ่งตักออกจากหม้อต้ม

เซี่ยหยูทอดเบคอนจนเป็นสีน้ำตาลทอง นับเวลาในใจอย่างแม่นยำทุกวินาที

เมื่อนำเบคอนออก ในกระทะเหลือน้ำมันหมูที่ได้จากการทอดเบคอน ไฟยังคงลุกอยู่ เซี่ยหยูใช้อุปกรณ์ครัวหยิบชิ้นเนื้อวัวที่บีบน้ำออกแล้วใส่ลงไปในกระทะอย่างชำนาญ

พร้อมกับเสียงน้ำมันเจียวดังซู่ซ่า เซี่ยหยูพลิกชิ้นเนื้อวัว ให้ทุกด้านกลายเป็นสีน้ำตาลเข้มสวยงาม

เมื่อได้สีน้ำตาลเข้ม ก็แปลว่าพร้อมตักออกจากกระทะได้แล้ว

เซี่ยหยูวางเนื้อวัวที่ทอดเสร็จไว้ด้านข้างชั่วคราว แล้วยื่นมือไปที่โต๊ะครัวข้างๆ

"แครอทกับหัวหอมใหญ่ที่หั่นแล้ว!"

ผู้ช่วยเชฟหนุ่มคนหนึ่งรีบส่งตะกร้าผักให้

ในกระทะยังมีน้ำมันเหลืออยู่ จึงไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันอีก เซี่ยหยูเอียงตะกร้า โยนแครอทและหัวหอมใหญ่ลงไปในกระทะพร้อมกัน ผัดสักพัก โดยไม่ต้องสุกมาก แค่ให้ผิวนอกของผักเคลือบด้วยน้ำมันเป็นสีทองก็พอ

เซี่ยหยูเทแครอทและหัวหอมใหญ่ลงในหม้อเหล็กที่เตรียมไว้ ต่อมาก็ใส่เนื้อวัวสีน้ำตาลเข้ม เติมเกลือและพริกไทยดำ ปริมาณแล้วแต่การควบคุมของเชฟ

ผู้ช่วยเชฟสองคนเบิกตากว้างมองดูอยู่ข้างๆ

"เฮ้ย เขาใส่เกลือกับพริกไทยแบบนี้ ไม่มีปัญหาจริงๆ เหรอ?" ผู้ช่วยเชฟคนหนึ่งเห็นท่าทางคล่องแคล่วของเซี่ยหยู รู้สึกกังวลในใจ

"ฉันว่าไม่มีปัญหาหรอก!" เพื่อนของเขามองไปที่แผ่นหลังที่กำลังยุ่งของเซี่ยหยู ใบหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชมและอิจฉา "เขาต้องเป็นนักเรียนโทสึกิแน่ๆ สมแล้วที่เป็นคนมีพรสวรรค์..."

นึกถึงตัวเองที่เรียนทำอาหารมาหลายปี แต่ก็ยังเป็นได้แค่ผู้ช่วยเชฟ ไม่สามารถทำอาหารได้อย่างอิสระ ชายหนุ่มคนนั้นก้มหน้าลง กำมือแน่น มีสีหน้าแสดงถึงความไม่ยอมแพ้

หลังจากเกลือและพริกไทย ก็ถึงขั้นตอนสำคัญ

แป้ง!

เซี่ยหยูกำแป้งไว้ในมือ ค่อยๆ โรยลงบนเนื้อวัวและส่วนผสมในหม้อ ให้เกิดเป็นชั้นแป้งสีขาวบางๆ เพื่อเก็บความชุ่มฉ่ำของเนื้อวัวและเพิ่มความข้นของน้ำซุป

ไม่ต้องใช้แป้งมาก แค่โรยบางๆ ก็พอ ต่อไปก็คือการคลุกเคล้า

"ติ๊ง"

เตาอบอุ่นไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 230 องศาแล้ว นำหม้อใส่เข้าไปในเตาอบโดยไม่ปิดฝา

อบ 4 นาทีแล้วนำออกมา จากนั้นโรยแป้งอีกครั้ง แล้วอบต่ออีก 4 นาที

เมื่อนำหม้อออกจากเตาอบเป็นครั้งที่ 2 กลิ่นหอมฟุ้งก็กระจายไปทั่วครัว

แต่อาหารยังไม่เสร็จ

เครื่องปรุงต่างๆ ผักชีฝรั่ง ใบกระวานบด ไทม์...

สุดท้ายเทไวน์แดงลงไป ให้ท่วมเนื้อวัวเกือบหมด เติมน้ำเปล่าลงไปนิดหน่อย แล้วนำหม้อวางบนเตาแก๊สเปิดไฟต้มให้เดือด

--------------------------------

ฝากติดตาม สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ

หากพบคำผิด แจ้งได้เลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด