ตอนที่แล้ว73 - โชคร้ายของกงซุนชง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป75 - ตบปาก

74 - ไท่จื่อสอบสวนคดี


74 - ไท่จื่อสอบสวนคดี

หลี่อวี้ซู่ขมวดคิ้ว "ข้าไม่อยากรู้ หากเจ้าจะไปช่วยก็ไปเถอะ แต่อย่ามาเกี่ยวข้องกับข้า ข้าอยากให้เจ้าโง่ฉินตายเสียด้วยซ้ำ!"

ตั้งแต่วันที่ฉินโม่ประกาศต่อหน้าทุกคนบอกว่านางไม่คู่ควรที่จะเป็นนายหญิงของตระกูลฉิน นางก็เกลียดเขาเข้าไส้

นายหญิงตระกูลฉินน่ะหรือ นางไม่เห็นจะต้องการ!

"เจ้าโง่ฉินรู้ดีว่าทุกฤดูหนาวในวังหลวงจะขาดแคลนผักสด และพี่เจ็ดเองก็ชอบกินผักมาก เขาจึงมุ่งหน้าปลูกผักในไร่ตระกูลฉิน เพียงเพื่อให้พี่เจ็ดได้กินผักสด"

"เจ้าโกหก หากเขาทำเพื่อข้าแล้วทำไมถึงทำให้ข้าอับอายวันนั้น?"

"พี่เจ็ด ท่านก็รู้ดีว่าฉินโม่เป็นคนโง่เขาแต่กลับปล่อยให้พี่น้องทุกคนเหยียบย่ำความพยายามของเขา เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วท่านคิดว่าเขาจะอดกลั้นโทสะได้อย่างไร?"

เพื่อช่วยฉินโม่ หลี่เยว่จึงต้องพูดโกหก

ถ้าหลี่อวี้ซู่ยินดีช่วย เขาก็มั่นใจถึงเจ็ดในสิบว่าเขาจะช่วยฉินโม่ได้

อีกทั้งหลี่อวี้ซู่มีความสำคัญอย่างมากในการช่วยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฉินโม่ชัดเจนขึ้น

"และเรื่องของร้านหม้อไฟ ฉินโม่ก็บอกว่ามันเป็นการยกระดับหม้อไฟธรรมดา เพราะบรรยากาศในวังหลวงไม่เหมาะ เขาจึงเปิดร้านหม้อไฟข้างนอก และยังเตรียมห้องส่วนตัวพิเศษเพื่อท่านโดยเฉพาะด้วย!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่อวี้ซู่ก็ลังเล

จริงหรือ?

"พูดเหลวไหล เขาเปิดร้านเพื่อหาเงินชัดๆ!"

"พี่เจ็ด หากฉินโม่ต้องการเงิน เขาจะเปิดร้านก่อนหน้านี้หรือหลังจากนี้ก็ได้ ทำไมถึงต้องเลือกเวลาเช่นนี้? ก็เพื่อให้ท่านได้กินหม้อไฟที่อร่อยที่สุดเท่านั้น!"

หลี่เยว่ถอนหายใจ "ฉินโม่อาจจะโง่ในบางเรื่อง แต่เขาไม่ใช่คนโง่ทุกเรื่องแน่นอน วันนั้นเขาทำให้ท่านอับอายที่ไร่ตระกูลฉิน เขารู้สึกผิดอยู่แล้ว แต่เพราะรักศักดิ์ศรีจึงไม่กล้าขอโทษออกมา"

"หลี่เยว่ เจ้าพูดแต่เรื่องดีๆ ทั้งที่ความจริงฉินโม่เป็นคนอย่างไร้ข้ารู้ดีที่สุด!"

"พี่เจ็ด ท่านจะเชื่อหรือไม่ก็สุดแล้วแต่ ข้าเพียงแต่รู้สึกว่า เจ้าโง่ฉินถูกกล่าวโทษอย่างไม่เป็นธรรม เขาทำทุกอย่างเพียงเพื่อรอยยิ้มของท่าน แต่สุดท้ายกลับถูกใส่ร้ายเช่นนี้

เขาเป็นสามีของท่าน ต่อให้ท่านจะไม่ชอบ แต่เรื่องนี้ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้!"

"อย่าพูดอีก ข้าบอกแล้วว่าจะไม่ช่วย ก็คือไม่ช่วย!"

"พี่เจ็ด แม้ว่าท่านจะไม่คิดถึงเจ้าโง่ฉิน ก็ต้องคิดถึงตนเองบ้าง ต่อให้ฉินโม่ตายท่านก็ต้องแต่งเข้าตระกูลฉินสามปีอยู่ดี ในช่วงเวลาสามปี้นี้ท่านเคยคิดหรือไม่ว่าตัวเองจะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร?!"

หลี่เยว่พยายามพูดทุกอย่าง แต่หลี่อวี้ซู่ก็ไม่ยอมเปิดประตู

เขาไม่มีทางเลือกแล้ว หากหลี่อวี้ซู่ไม่ยอมออกมา เขาคงต้องบุกไปยังคุกฉางอานและช่วยพี่น้องของเขาออกมาด้วยตัวเอง

ช่วยฉินโม่ ถึงแม้จะเป็นการทำให้หลี่ซินโกรธ แต่ก็มีโอกาสสูงที่จะได้รับการสนับสนุนจากฉินกว๋อกง

อีกทั้ง เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าจะชิงบัลลังก์

ทุกคนล้วนเป็นบุตรของพระบิดา ในเมื่อหลี่ซินไม่เห็นเขาเป็นพี่น้อง แล้วหลี่เยว่ยังต้องกลัวอะไรอีก?

เขากัดฟันเตรียมจะจากไป

ทันใดนั้น ประตูตำหนักเฟิ่งหยางก็เปิดออก

หลี่อวี้ซู่ในชุดสีแดงสดเดินออกมา ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความโกรธ แต่นางก็พยายามแสดงท่าทีสงบนิ่ง "อย่าคิดมาก ข้าออกมาเพื่อชื่อเสียงของข้าเอง"

หลี่เยว่ดีใจอย่างยิ่ง "ขอบคุณพี่เจ็ด!"

"เตรียมตัว เราจะไปพบพระบิดา!"

"ไม่ ไปพบพระบิดาไม่มีประโยชน์ พระบิดาได้มอบหมายให้ไท่จื่อดูแลเรื่องนี้ทั้งหมดแล้ว!"

หลี่เยว่กำหมัดแน่น

เฉินว่านชิงถูกลดขั้นเป็นสามัญชนตามที่คาดไว้ เพราะเขาเป็นเพียงผู้ว่าการเมือง การควบคุมตัวราชบุตรเขยถือเป็นความผิดร้ายแรง

การล่วงเกินผู้มีอำนาจเป็นสิ่งต้องห้ามมาแต่โบราณ

เขาเป็นเพียงแพะรับบาปเท่านั้น

แม้ว่ากงซุนชงและพรรคพวกจะถูกถอดจากตำแหน่งพี่เลี้ยงของไท่จื่อ แต่มันก็ไม่มีผลกระทบมากนัก

ครั้งนี้ฉินโม่ได้งัดข้อกับไท่จื่อแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายไม่มีทางกลับมาเป็นปกติได้ หลี่เยว่ตั้งใจจะใช้โอกาสนี้สร้างฐานอำนาจให้กับตัวเองไปพร้อมกัน

"ถ้าเช่นนั้น ข้าจะไปพบไท่จื่อ!"

หลี่อวี้ซู่ขมวดคิ้วแล้วเดินจากไป

หลี่เยว่กัดฟันแล้วเดินตามไปด้วย

เมื่อทั้งสองไปถึงตำหนักตะวันออกก็พบว่าไท่จื่อไม่ได้อยู่ที่นั่น เมื่อถามจึงได้รู้ว่าไท่จื่อได้นำทหารไปสอบสวนที่กรมอาญาแล้ว!

"แย่แล้ว!"

ใบหน้าของหลี่เยว่เปลี่ยนไปทันที "ไท่จื่อจะต้องลงโทษเพื่อให้ฉินโม่สารภาพผิดแน่ๆ!"

หลี่อวี้ซู่กล่าว "ไม่น่าถึงขนาดนั้น เจ้าโง่ฉินอย่างไรเสียก็เป็นราชบุตรเขย ไท่จื่อคงไม่ใช้การลงโทษรุนแรง"

"พี่เจ็ด พี่ใหญ่ลงดาบแล้วมีหรือจะถอนตัวกลับมาได้ เขาจะต้องจัดการให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน"

"เจ้าหมายความว่า..."

สีหน้าของหลี่อวี้ซู่ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน "เร็ว ไปที่กรมอาญา!"

ในขณะเดียวกัน ที่กรมอาญา

ไท่จื่อนั่งบนบัลลังก์สูง ด้านหลังมีแผ่นป้าย "กระจกส่องธรรม" แขวนอยู่

เหล่าทหารของตำหนักตะวันออกยืนเรียงรายสองฝั่ง ข้างนอกมีราษฎรมากมายมามุงดู

ด้านล่างมีสี่คนยืนอยู่ โดยมีฉินโม่อยู่แถวหน้า และข้างหลังของเขามีเฉิงต้าเป่า เฉิงเสี่ยวเป่า และหลี่หยงเมิ่ง

ใบหน้าของหลี่ซินเคร่งขรึมอย่างมาก "พวกเจ้าใจกล้าเหลือเกิน กล้าบุกเรือนจำของเมืองฉางอาน พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าการปล้นนักโทษมีโทษถึงตาย?"

"ไท่จื่อ ฉินโม่ไม่ใช่นักโทษ!" เฉิงต้าเป่ากล่าวคำนับ

"ถูกต้อง ฉินโม่คือพี่ใหญ่ของข้า!" เฉิงเสี่ยวเป่ากล่าวเสริม พวกเขาทั้งสามบุกเข้าไปในเรือนจำเพื่อช่วยฉินโม่ แต่ฉินโม่กลับปฏิเสธไม่ยอมออกมา แถมยังบอกว่าเรือนจำนี้ดีมาก มีทั้งอาหารและที่พักไม่คิดเงิน ถือเป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยม

หลี่หยงเมิ่งมีสติปัญญาสูงที่สุดในบรรดาพี่น้องสามคน เขากัดฟันได้กล่าวว่า "ไท่จื่อ แม้ฉินโม่จะซื่อบื้อไปบ้าง แต่เขาไม่มีเจตนาร้ายใดๆ และเหล้าที่เขาขายก็ไม่ได้ทำจากเมล็ดข้าวใหม่ ส่วนเรื่องที่เขาถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์กับองค์ชายแปดนั้น เป็นเรื่องไร้สาระทั้งสิ้น!

โปรดไท่จื่อพิจารณาด้วยความเมตตา!"

ใบหน้าของหลี่ซินยิ่งเคร่งขรึม "ถอยไป หากพวกเจ้ากล้าพูดเพื่อปกป้องฉินโม่อีก ข้าจะถือว่าพวกเจ้าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด!"

หลังจากนั้นมีสองคนยืนอยู่เบื้องหลังพวกเขา

หนึ่งคือเฉิงซานฝูผู้ไม่เกรงกลัวใคร อีกคนคือเฉิงอ๋อง หลี่ซุนกง

หากจะเทียบกัน ไท่จื่อยังต้องเรียกหลี่ซุนกงว่า "พระอา"

ส่วนหลี่หยงเมิ่งนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ๆ ของเขา แต่กลับยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของฉินโม่

"ข้าไม่ถอย!"

เฉิงเสี่ยวเป่าเชิดหน้าขึ้น "พวกเราสาบานกันไว้ว่า แม้ไม่ได้เกิดวันเดียวกันแต่จะขอตายในวันเดียวกัน และท่านพ่อของข้าก็กล่าวว่าหากช่วยเจ้าโง่ฉินไม่ได้ ข้ากับพี่ใหญ่ก็จะถูกเฆี่ยนจนตาย!"

"บังอาจ!"

หลี่ซินกัดฟันกรอด "พวกเจ้าต้องการรวมกลุ่มก่อกบฏหรือ? ในสายตาพวกเจ้ายังเห็นข้าเป็นไท่จื่ออยู่หรือไม่? เฉิงซานฝูส่งเสริมให้พวกเจ้าบุกเรือนจำ นี่จะถือว่าเป็นการกบฏหรือไม่?"

เมื่อพูดจบ บรรยากาศรอบๆ ก็ตึงเครียดขึ้นทันที

เฉิงต้าเป่ารีบตบหลังศีรษะของเฉิงเสี่ยวเป่า "ใครบอกให้เจ้าพูดออกมาน่ะ!"

หลังจากตบเฉิงเสี่ยวเป่าเสร็จ เขารีบพูดว่า "ไท่จื่อ ท่านกล่าวหนักเกินไปแล้ว พวกเราเป็นเพียงเพื่อนสนิทกัน หากการคบเพื่อนคือการรวมกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ เช่นนั้นขอไท่จื่อกรุณาชี้แนะว่าพวกเราควรคบเพื่อนในฐานะใด?

อีกอย่าง บิดาของข้ากล่าวว่า เจ้าโง่ฉินเป็นคนซื่อ เขาไม่มีทางทำเรื่องชั่วร้ายได้ หากมี ก็ต้องถูกชักจูงโดยคนชั่ว โปรดไท่จื่อพิจารณาด้วยความเมตตา!"

เฉิงต้าเป่าไม่ใช่คนโง่ เขาทำงานในวังมาหลายปี หากเขาโง่จริงๆ เขาคงถูกขับไล่ออกจากวังไปนานแล้ว

หลี่ซินต่อยลมด้วยความโกรธ และสายตาของเขาก็ยิ่งเย็นชา "หุบปาก ข้าจะเตือนพวกเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย หากยังกล้าเล่นลิ้นอีก ข้าจะถือว่าพวกเจ้าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับฉินโม่!"

…………..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด