ในห้องนี้ไม่มีผีนะ...แต่ในห้องน้ำมี (อ่านฟรี 21/01/2568)
“ห้องของเธอ น่ารักดีนะ” เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพัง ชายหนุ่มก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี เขาจึงกล่าวออกมาด้วยความประหม่า
“พี่ชอบไหม ถ้าชอบจะย้ายมาอยู่ด้วยกันก็ได้นะคะ” หญิงสาวกล่าวออกมาด้วยถ้อยคำเชิงหยอกเย้า
เธอรู้ดีว่าอีกฝ่ายต้องไม่ตอบรับคำเชิญชวนของเธออยู่แล้ว เธอจึงกล้าพูดคำเหล่านี้ออกมาโดยไม่ได้คิดอะไรมากนัก
ซึ่งสิ่งที่เธอคิดนั้นก็เป็นเรื่องจริงเลยทีเดียว และเย่เซวียนก็ไม่ได้คิดมากเรื่องที่อีกฝ่ายแซวเขาด้วย
“พี่ขอเก็บไปคิดดูก่อนก็แล้วกันนะ ช่วงนี้ตกงานยังไม่ได้หางานใหม่เลย ถ้าไม่มีบ้านอยู่เมื่อไรจะมาขออยู่ด้วยก็แล้วกัน” ชายหนุ่มตอบกลับไปอย่างติดตลก
แต่จะว่าไปแล้วตัวเขาในตอนนี้จะเรียกว่าตกงานก็ได้ เพราะเขาไม่ได้ไปทำงานขี่รถส่งอาหารส่งของเหมือนเดิมแล้ว
ทุกวันนี้ก็ใช้เงินที่เหลืออยู่เพื่อกินข้าวไปวัน ๆ ก็เท่านั้นเอง
ในส่วนของตัวบริษัทเจิ้งหลี่คอนดัคชั่นกับชุมชนเล่ยเฉิงนั้น ชายหนุ่มยังไม่ได้เข้าไปพูดคุยและตรวจสอบรายละเอียดของค่าใช้จ่ายกับรายรับเลยสักนิด
แต่เขาก็คิดว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้ง เพราะยังไงทั้งสองแห่งก็กลายเป็นของเขาอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
“พี่ชายตกงานอยู่เหรอคะ? แล้วที่ศาลเจ้านั่นคือ...” หญิงสาวกล่าวถามออกมาด้วยความแปลกใจ
“ที่ศาลเจ้านั่นไม่เชิงเป็นงานหรอก เรียกว่าเป็นงานอดิเรกก็ได้มั้ง” ชายหนุ่มไม่รู้จะอธิบายยังไง เลยเลือกที่จะตอบอีกฝ่ายไปแบบนี้แทน
“จะว่าไป พี่ชายมองเห็นพวกวิญญาณ ผี อะไรแบบนั้นได้จริงเหรอคะ?” เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายบอก แมรี่ก็นึกอะไรขึ้นมาได้เลยกล่าวถามออกมา
“ก็ใช่นะ น้องสาวมีอะไรสงสัยรึเปล่า?” เย่เซวียนกล่าวถามกลับไปโดยไม่ได้คิดอะไรมาก
ในตอนแรกที่ยังไม่ได้รับดวงตาคู่ใหม่มา ชายหนุ่มก็ไม่ใช่คนที่กลัวพวกภูติผีวิญญาณอะไรอยู่แล้ว
สำหรับตัวเขานั้น ความจนมันน่ากลัวกว่าเยอะ!
“ถ้าอย่างนั้น...ในห้องนี้มีผี...รึเปล่าคะ?” หญิงสาวกล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
เธอไม่ค่อยจะถูกโรคกับพวกวิญญาณหรือสิ่งที่มองไม่เห็นสักเท่าไรนัก
คนทั่วไปก็กลัวผี วิญญาณอยู่แล้วนี่นา จริงไหมล่ะ?
“ห้องนี้เหรอ...อืมม” ชายหนุ่มที่ได้ยินคำถามของอีกฝ่ายก็นิ่งไปสักครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็มองไปรอบ ๆ ห้องแห่งนี้อย่างใช้ความคิด
ทางด้านของหญิงสาวที่เห็นท่าทางของอีกฝ่ายก็รอลุ้นด้วยหัวใจที่เต้นรัว ถึงแม้เธอจะอยู่ห้องแห่งนี้มาหลายปีแล้วไม่เคยเจออะไรก็เถอะ
แต่ถ้าอยู่ดี ๆ วันหนึ่งเธอดันเห็นผีหรืออะไรภายในห้องนี้ขึ้นมา เธอคงไม่รู้จะทำยังไงแน่ ๆ !
ถ้าได้รู้ก่อนแต่เนิ่น ๆ เธอจะได้ไปหาพระหรือเครื่องรางมาไล่ผี!!
“ในห้องนี้...ไม่มีนะ”
“ค่อยยังชั่วหน่อย หนูก็นึกว่า.....” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้กล่าวจบ เสียงของชายหนุ่มข้างกายก็ดังขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน
“แต่ในห้องน้ำมีนะ”
“ห๊ะ! พี่ว่ายังไงนะคะ?!” แมรี่อุทานออกมาด้วยความตกใจปนหวาดกลัว
ที่อีกฝ่ายพูดออกมา มันเป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?!
ครึ่งหลัง
แสดงว่าความรู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีบางสิ่งตอนที่เธออาบน้ำในบางครั้ง เธอไม่ได้แค่คิดไปเอง!
ไหนจะก๊อกน้ำในอ่างล้างหน้าที่ชอบไหลอ่อย ๆ เหมือนมีคนปิดไม่สนิท
ตอนแรกเธอก็นึกว่าเป็นที่ตัวล็อคด้านในมันหลวมหรืออะไร ที่แท้เป็นเพราะในห้องน้ำมีผีนี่เอง!!
“ในห้องน้ำของเธอ มีผีอยู่ตัวนึง”
“เป็นผีผู้หญิง สวมชุดนักศึกษาน่ะ” เย่เซวียนพยายามนึกถึงรูปลักษณ์ของผีตนนั้นก่อนจะกล่าวอธิบายออกมา เขาคิดว่าอย่างน้อยก็เป็นผีผู้หญิง อีกฝ่ายจะได้ไม่ต้องรู้สึกอายมากนักเวลาเข้าห้องอาบน้ำ
แต่นั่นมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักเท่าไรเลย!
“...พี่ชายช่วยไปบอกผีตนนั้นให้ย้ายออกไปจากห้องของหนูได้ไหมคะ?” แมรี่กล่าวขอร้องออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ในตอนนี้เธอรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมามากเลยทีเดียว
อารมณ์ความกระหายในตอนแรกได้หายวับไปหมดแล้ว เป็นใครมันยังจะไปมีอารมณ์ได้กันถ้าได้ยินว่าในห้องตัวเองมีผี!
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปคุยให้ก็แล้วกัน” ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับในทันที
พอคุยกันจบ ทั้งสองคนก็เดินออกนอกห้องนอนตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องครัวทันที โดยมีเย่เซวียนเดินนำ ส่วนแมรี่เดินตามหลังไม่ห่าง
ชายหนุ่มมองท่าทางของหญิงสาวที่ตื่นตกหนกด้วยอารมณ์ขบขัน คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่ดูท่าทางภายนอกเป็นชาวต่างชาติขนาดนี้จะกลัวผีด้วย
“พี่ชาย...ตรงไหนเหรอคะ?” หญิงสาวกล่าวถามออกมาเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มตรงหน้ายืนนิ่งอยู่หน้าห้องน้ำไม่ยอมเข้าไปสักที เธอพยายามชะโงกดูด้านในก็ไม่พบอะไรนอกจากห้องน้ำปกติที่เธอใช้อยู่เป็นประจำ
“ข้างหน้านี่แหละ” เย่เซวียนมองไปยังภาพตรงหน้า ที่มีร่างของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยเลือดสีแดงสดถูกแขวนคอจ้องมองมายังตัวเขาด้วยความรู้สึกแปลก ๆ
ถึงปกติเขามักจะเห็นภาพของผี วิญญาณมาหลายแบบนับตั้งแต่ได้รับดวงตาคู่ใหม่มาก็เถอะ แต่ก็ไม่เคยมายืนเผชิญหน้ากับอะไรแบบนี้ตรง ๆ สักที
พอมาเห็นแบบนี้มันก็อดที่จะรู้สึกแปลก ๆ ขึ้นมาไม่ได้ มันไม่ใช่ความกลัว แต่เหมือนจะเป็นความขยะแขยงหรืออะไรแบบนั้นมากกว่า
เพราะร่างของหญิงสาวตรงหน้าเต็มไปด้วยรอยเน่า กลิ่นเหม็น แผลน้ำเหลือง หนอนชอนไช ทำไมตายไปแล้วถึงไม่โผล่มาในสภาพที่มันดูดีสักหน่อยนะ ตายแล้วต้องมีสภาพน่ากลัวทุกคนเลยรึไงกัน!
“แกเป็นใคร!” วิญญาณผีสาวตะคอกถามออกมาด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น ดวงตาของเธอเบิกโพลงจ้องมองมายังชายหนุ่มด้วยความโกรธ เหมือนเธอจะรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายสามารถมองเห็นเธอได้
“อืมมม ก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง เป็นพี่ชายของเจ้าของห้องแห่งนี้ ประมาณนั้นแหละ” ชายหนุ่มตอบกลับไปด้วยท่าทางปกติ
“พวกแกออกไปให้พ้น! ไม่งั้นฉันจะฆ่าพวกแก!” วิญญาณผีสาวยังคงตะคอกออกมาด้วยน้ำเสียงดุดันเช่นเดิม ทำเอาเย่เซวียนที่พยายามจะพูดคุยด้วยดี ๆ เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา
“มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่าคะพี่ชาย?” ทางด้านแมรี่ที่มองไม่เห็นวิญญาณตรงหน้า แต่เธอก็รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าคงกำลังพูดคุยกับอะไรบางอย่างจึงกล่าวถามออกมา
“อ๋อ! ก็เป็นวิญญาณผีผู้หญิงนักศึกษาผูกคอตายในห้องน้ำ ประมาณนั้นน่ะ ตอนนี้ก็กำลังขู่จะฆ่าพวกเราให้ได้เลยถ้าพวกเราไม่ไปให้พ้น” ชายหนุ่มตอบกลับไปตามตรง
“ละ...แล้ว แล้วหนูต้องทำยังไงคะ ห้องนี้หนูก็ผ่อนตั้งนานกว่าจะหมด ถ้าต้องย้ายออกก็คงจะไม่ไหว”
“ทำไมต้องมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับหนูกัน หนูไปทำอะไรให้เขาทำไมเขาต้องอยากมาฆ่าแกงกันด้วย” หญิงสาวผุ้เป็นเจ้าของห้องเมื่อได้ยินดังนั้นก็เกิดความรู้สึกกลัวมากขึ้นกว่าเดิม นอกเหนือไปจากความกลัวก็มีความรู้สึกไม่พอใจเจือปนอยู่เป็นส่วนมาก
“ไม่ต้องห่วงนะ พี่มีวิธีดี ๆ อยู่” ชายหนุ่มยิ้มให้กับหญิงสาวที่กำลังวิตกกังวลพลางกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ
ทางด้านวิญญาณผีสาวที่ได้ยินคำกล่าวของอีกฝ่ายก็อดที่จะรู้สึกขนลุกขึ้นมามิได้ ทั้ง ๆ ที่เธอตายไปแล้วแต่ทำไมถึงยังรู้สึกขนลุกได้อีกกัน?!