บทที่ 285 การประชุมเทียนหวังผ่านมติเอกฉันท์, ภารกิจครองพื้นที่เสร็จสิ้น?

ยามค่ำคืน ลมพัดเบา ๆ เข้ามา

ท้องฟ้ายามค่ำคืนของเมืองชางซีถูกปกคลุมด้วยเมฆหนาทึบ จากนั้นฝนปรอยๆ ก็เริ่มตกลงสู่พื้น การปกครองของฤดูฝนยังคงดำเนินต่อไป

ในขณะเดียวกัน ที่ศูนย์ปล่อยจรวด เมื่อแผน “เทียนหวัง” ถูกเฉินซิงเสนอขึ้น จ้าวเฉินกวงก็ได้ติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง รวมถึงศูนย์วิจัยดาวเทียมของทางการ

ในด้านอื่น ๆ จ้าวเฉินกวงอาจจะไม่มีความมั่นใจมากนัก แต่ในวงการอวกาศ เขาเชื่อว่าตนยังมีเส้นสายอยู่บ้าง

เพียงไม่กี่ชั่วโมง การประชุมออนไลน์ที่ครอบคลุมทุกศูนย์วิจัยลับของประเทศจีนก็เริ่มต้นขึ้นอย่างราบรื่น

“วันนี้คนมาครบกันดีนะ ขนาดพวกแกยังมาด้วย”

เสียงพูดของชายวัยกลางคนอายุประมาณห้าสิบปีที่มีแผลเป็นขนาด 2 เซนติเมตรอยู่ใต้ตาซ้าย ดูเหมือนจะโดนของมีคมบาด

แม้จะมีแผลเป็น แต่เขากลับไม่ได้ให้ความรู้สึกดุดันแต่อย่างใด ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเนื้อแก้มของเขาทำให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่นและเชื่อถือได้

เขาไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหัวหน้าศูนย์ปล่อยจรวดซานหยวน ซึ่งมีตำแหน่งเดียวกับจ้าวเฉินกวง นามว่า หวังปี้อัน

แน่นอนว่า

แม้ตำแหน่งเดียวกัน แต่สิทธิ์การใช้อำนาจนั้นต่างกัน

ศูนย์ปล่อยจรวดชางซีเมื่อเปรียบเทียบกับศูนย์ปล่อยจรวดซานหยวนแล้ว ทั้งสองมีมูลค่าต่างกันราวฟ้ากับเหว

เพียงแค่เรื่องการบริหารศูนย์ปล่อยจรวดชางซีก็ยังมีฐานปล่อยจรวดชางเหวินอยู่ใต้การดูแล ขณะที่ซานหยวนไม่มี

นอกจากนี้ เบื้องหลังของครอบครัวจ้าวเฉินกวง และตำแหน่งของเขาในกองทัพ ยิ่งเป็นสิ่งที่หวังปี้อันไม่สามารถเทียบได้

เมื่อหวังปี้อันทักทาย เหล่าผู้อาวุโสที่เข้าร่วมการประชุมก็เริ่มแซวกัน

“เฮ้! ปี้อัน นายยังไม่ตายเหรอ?”

“ดูเหมือนว่าการแพทย์ของเราจะมีความก้าวหน้าอีกแล้ว ปี้อันคนนี้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเมื่อหลายปีก่อน ตอนนี้ยังเดินเตะเท้าไปมาอยู่”

“จริง ๆ ชีวิตมันเหนียว”

“เราอาจต้องถนอมการพบกันไว้สักหน่อย ใครจะรู้ นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน”

การที่กล้าล้อเลียนหวังปี้อัน เหล่าผู้อาวุโสเหล่านี้ก็ต้องไม่ใช่คนธรรมดาเช่นกัน

มีทั้งหัวหน้าศูนย์ปล่อยจรวดเฉวียนจิ่ว หัวหน้าสถาบันวิจัยดาวเทียม และผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเทคโนโลยีจรวดขนส่ง

พวกเขาทั้งหมดล้วนอยู่ในวงการอวกาศ

วงการอวกาศมีขนาดไม่ใหญ่ พวกเขาเป็นคนที่เห็นหน้ากันบ่อย ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี

หวังปี้อันนิ่งไปชั่วครู่ก่อนที่จะเพิ่มเสียงแก้ไขว่า “อะไรนะ ถนอมการพบกัน น่าจะพูดให้ถูกหน่อยนะ ฉันไม่ได้เป็นมะเร็ง แต่เป็นโรคกระดูกสันหลังยึดติด มันคือมะเร็งที่ไม่ตาย!”

“ยังไงก็เป็นมะเร็งอยู่ดี”

มีคนยกมือทั้งสองขึ้นและยิ้มเบาๆ

คนอื่นๆ ก็พยักหน้าตามไปและพูดขึ้นว่า

“นายเองก็พูดว่ามันคือมะเร็ง พวกเราไม่เข้าใจหรอกอะไรคือกระดูกสันหลังยึดไม่ยึดนั่น”

“แค่นายบอกว่าใช่มะเร็งหรือเปล่าก็พอ!”

“อย่ามาพูดเรื่องมะเร็งเลย พี่จ้าวทำไมยังไม่เปิดไมค์อีก หรือเปิดไม่เป็น?”

“ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ แล้วผู้ช่วยล่ะ?”

เมื่อเห็นว่าจ้าวเฉินกวงยังไม่พูดอะไร หลายคนก็หันไปพูดถึงเขาแทน

พวกเขาล้วนเป็นคนสูงอายุ แม้จะไม่เข้าใจเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบัน และเรื่องการประชุมออนไลน์ แต่พวกเขามีผู้ช่วย ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เองเลย

(หยางกู่หนงเข้าร่วมการประชุม)

ทันใดนั้น

ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นที่ด้านล่างของห้องประชุม

เมื่อหยางกู่หนงปรากฏตัวขึ้น เสียงในห้องประชุมก็เงียบลง แม้กระทั่งการหายใจก็เหมือนจะหยุดไปด้วย

เฉพาะคนในวงการนี้เท่านั้นที่รู้ว่า “หยางกู่หนง” มีความหมายว่าอะไร

เป็นที่รู้กันดีว่าประเทศจีนได้ประกาศศูนย์ปล่อยจรวดอย่างเป็นทางการแค่สามแห่ง ได้แก่ ศูนย์ปล่อยจรวดซานหยวน, เฉวียนจิ่ว, และชางซี

และศูนย์ปล่อยจรวดที่หยางกู่หนงดูแลอยู่ก็คือศูนย์ปล่อยจรวดแห่งที่สี่ของประเทศจีน ซึ่งถูกเรียกกันว่า “ศูนย์ปล่อยจรวดของกองทัพ”

ไม่เพียงแต่สามารถปล่อยจรวดขนส่งได้ แต่ยังสามารถปล่อยขีปนาวุธข้ามทวีปได้ รวมถึงหัวรบนิวเคลียร์

การปรากฏตัวของผู้อาวุโสท่านนี้ นับได้ว่าเป็นการปรากฏตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

“ได้ยินไหม?” เสียงที่ฟังดูแก่แต่ยังแฝงด้วยพลังส่งมาจากไมโครโฟนของหยางกู่หนง พร้อมกับสัญญาณเสียงที่กระพริบบ่งบอกว่าเขากำลังพูดอยู่

“ได้ยินครับ ได้ยินครับ ไม่คิดว่าอาจารย์หยางจะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย”

“อาจารย์หยาง คุณคือไอดอลของผมเลยครับ!”

“อาจารย์หยาง ช่วงนี้มีเวลาว่างไหมครับ ผมอยากหาโอกาสไปเยี่ยมคุณ”

ไม่ยากที่จะเห็นว่า

พวกเขาต่างกระตือรือร้นที่จะสร้างความสัมพันธ์

ยังไม่ทันที่หยางกู่หนงจะตอบอะไร เสียงแจ้งเตือนจากห้องประชุมอีกครั้งที่ด้านซ้ายล่าง

(ฟางห่าวเข้าร่วมการประชุม)

(เฉียนฟูซูเข้าร่วมการประชุม)

(หวังเยว่เข้าร่วมการประชุม)

……

ผู้ที่มีชื่อเสียงในวงการและนักวิจัยด้านอวกาศคนอื่นๆ เข้าร่วมการประชุมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทุกคนไม่สามารถสงบใจได้อีกต่อไป

เดิมทีคิดว่านี่เป็นแค่การประชุมปรึกษาธรรมดา แต่ไม่คิดว่าจะเต็มไปด้วยบุคคลระดับสูง ไม่มีใครรู้ว่าจ้าวเฉินกวงมีแผนอะไรกันแน่

ในฐานะรองผู้อำนวยการของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ และหัวหน้าศูนย์วิจัยชิปเป่ยโต่ว หวังฉีมองไปที่ชื่อคนดังในวงการที่เต็มหน้าจอแล้วก็รู้สึกประหม่าและกดดัน

เดิมคิดว่าตัวเองมีความสำคัญแล้ว แต่พอมองดูชื่อคนอื่นๆ ก็เข้าใจว่าตนเองยังเป็นแค่ระดับกลางเท่านั้น

เมื่อเห็นว่าคนมาถึงเกือบครบแล้ว จ้าวเฉินกวงก็เปิดไมค์ของเขาและพูดว่า “คนมาครบแล้ว พี่ ๆ อาจารย์ ๆ ทุกท่าน พวกเรามาเริ่มหัวข้อหลักของคืนนี้เกี่ยวกับการประชุมวิจัย ‘สถานีฐานดาวเทียม’ กันเถอะ”

“สถานีฐานดาวเทียม?”

“สถานีฐานดาวเทียม?”

เมื่อคำว่า “สถานีฐานดาวเทียม” ถูกพูดออกมา นักวิจัยหลายท่านถึงกับอุทานพร้อมกัน พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีสถานีฐานดาวเทียมด้วย

สถานีฐานไม่ใช่เรื่องของเครือข่ายหรือ?

สถานีฐานดาวเทียมคืออะไรกันแน่?

พวกเขาไม่ได้พูดอะไร ต่างตั้งข้อสงสัยรอให้จ้าวเฉินกวงอธิบาย

จ้าวเฉินกวงไม่รอช้า หยุดไปสักครู่ก่อนจะอธิบายว่า “สถานีฐานดาวเทียมเป็นแนวคิดที่ถูกเสนอขึ้นโดยDragonstar TechnologyและบริษัทKunpeng ใช้สำหรับการวางโครงข่าย 5G”

“เฉินซิง?”

หวังฉีอดที่จะอุทานไม่ได้

เขารู้จักกับเฉินซิงมานาน ทั้งสองคนเคยเดินทางไปที่ศูนย์ปล่อยจรวดชางซีเพื่อติดต่อจ้าวเฉินกวงสำหรับการปล่อยดาวเทียมเป่ยโต่ว

ผู้เชี่ยวชาญท่านอื่นๆ ก็เคยได้ยินชื่อเฉินซิง แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจไม่ใช่เฉินซิง แต่เป็นการวางโครงข่าย 5G

หวังปี้อันซึ่งเป็นผู้ที่มีปัญหาโรคกระดูกสันหลังยึดติด จับประเด็นสำคัญได้ทันทีและถามว่า “พี่จ้าวหมายความว่าไง? Dragonstar TechnologyกับบริษัทKunpengทำเครือข่าย 5G เสร็จแล้วหรือ?”

“ใช่แล้ว”

จ้าวเฉินกวงพยักหน้า แล้วกล่าวต่อว่า “ทุกท่านก็น่าจะรู้ว่า ตอนนี้ทางสหรัฐฯ ได้ล้มโต๊ะแล้ว”

“พวกเขาไม่เพียงแค่ระเบิดสถานีฐานของKunpengในปากีสถาน แต่ยังออกประกาศคว่ำบาตรอีกด้วย ถ้าDragonstar TechnologyกับKunpengต้องการจะยุติปัญหานี้ พวกเขาจำเป็นต้องสร้างสถานีฐานในอวกาศ เพื่อให้เครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก”

บุคคลระดับสูงที่สามารถเข้ามานั่งตรงนี้ได้ ต่างไม่มีใครปิดข่าว

แม้ว่าพวกเขาอาจจะไม่สนใจหรือไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็สามารถสั่งให้ผู้ช่วยตรวจสอบสถานการณ์ในปากีสถานได้ทันที

“หมายความว่า Dragonstar Technologyได้พัฒนาเครือข่าย 5G แล้ว และเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ในปากีสถานเกิดซ้ำ พวกเขาจึงหันมาหาจ้าวเฉินกวง จึงจัดการประชุมนี้ขึ้นมาใช่ไหม”

หยางกู่หนงสรุป

พูดได้ว่าท่านเป็นคนของกองทัพที่สังกัดอยู่ในเขตทหารภาคใต้ เรื่องที่บริษัทในเขตของตนถูกทำร้ายนั้น แน่นอนว่าเขารู้

เขารู้ข้อมูลภายใน ว่าเดิมทีเขตทหารภาคใต้ตั้งใจจะยิงมิสไซล์ส่งตรงไปยังเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ ที่จอดอยู่ในทะเลอาหรับ

แต่เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย สุดท้ายจึงเลือกใช้การตอบโต้ที่เท่าเทียมกัน

โดรนพลีชีพของเขตทหารเฟิ่งเทียนเองก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มันสามารถตอบโต้ได้อย่างสบาย ๆ จนเสร็จสิ้นภารกิจการตอบโต้ที่เท่าเทียมกันได้อย่างสมบูรณ์

“ใช่แล้ว ท่านอาจารย์หยาง” จ้าวเฉินกวงพยักหน้าแล้วกล่าวต่อว่า “เครือข่าย 5G จะทำให้ทุกสิ่งเชื่อมต่อถึงกันได้ ผมคิดว่าเรามีหน้าที่ต้องช่วยเหลือในการวางเครือข่ายนี้ เพราะด้วยความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่มีการตอบสนองสูงขึ้น มันจะทำให้โดรนของเรามีความคล่องตัวมากขึ้น และอาจทำให้เราสามารถควบคุมเครื่องบินรบและรถถังจากระยะไกลได้ด้วย”

“ท่านได้ยืนยันแล้วหรือว่านี่เป็นเรื่องจริง?”

มีคนตั้งคำถามขึ้น

ไม่ใช่ว่าเขาสงสัยโดยไร้เหตุผล แต่เพราะความเร็วในการวิจัยของDragonstar Technologyรวดเร็วเกินไป เทคโนโลยีการสื่อสารแบบ มิลลิเมตรเวฟ เพิ่งจะถูกเปิดเผยออกมาได้ไม่นาน แต่ตอนนี้กลับเสร็จสิ้นการพัฒนาเครือข่ายไปแล้ว

จ้าวเฉินกวงเหลือบมองไปที่คนที่ตั้งคำถาม ซึ่งก็คือ ซุนปิ่งหนาน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยจรวดขนส่งซีรีส์หยวนเจิ้ง

ชัดเจนว่าเขากลัวว่าจะโดนหลอก

จรวดขนส่งหยวนเจิ้ง ถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีการเก็บกู้จรวด แต่ค่าใช้จ่ายต่อการยิงแต่ละครั้งก็ยังคงอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านหยวน

เขาไม่รู้ว่าสถานีฐานดาวเทียมจะต้องยิงขึ้นไปกี่ดวง แต่เมื่อประเมินตามดาวเทียมเป่ยโต่ว จำนวนคงไม่น้อยแน่

“ตรวจสอบแล้ว” จ้าวเฉินกวงยืนยันด้วยการตบอก ถึงแม้ว่าเขาจะโกหก แต่เขาก็เลือกที่จะเชื่อในตัวเฉินซิง เพราะชายคนนั้นไม่เคยทำให้เขาผิดหวัง

เช่นเดียวกับโรงงานลิโทกราฟฟี่ซึ่งก็เพิ่งจะสร้างเสร็จไปเมื่อไม่นานนี้

ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จไฟแบบ Star Flash ชิป ไคเทียน หรือแม้แต่โรงงานลิโทกราฟฟี่ คำพูดใหญ่โตของเฉินซิงนั้นล้วนกลายเป็นความจริงทั้งสิ้น จ้าวเฉินกวงเชื่อมั่นในตัวเขาและพร้อมที่จะรับความเสี่ยงแทนเขา

เมื่อได้รับการยืนยันจากจ้าวเฉินกวง ผู้อาวุโสในห้องประชุมออนไลน์ต่างเงียบไป พวกเขาทุกคนเริ่มตกอยู่ในภวังค์การคิดอย่างรวดเร็ว

ผ่านไปสิบนาที มีคนถามขึ้นว่า “ถ้าจะทำสถานีฐานดาวเทียมนี้ ต้นทุนรวมทั้งหมดจะเท่าไหร่?”

“เริ่มต้นที่ 5 แสนล้านหยวน”

จ้าวเฉินกวงไม่ปิดบัง

เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ ทุกคนต่างเงียบกันไปอีกครั้ง จำนวนเงินมากขนาดนี้ พวกเขาไม่กล้าตัดสินใจโดยพลการ

อย่างไรก็ตามในขณะนั้น หวังฉี ก็เปิดปากขึ้น เพื่อช่วยจ้าวเฉินกวงถามเสริมว่า “ค่าใช้จ่ายเหล่านี้พวกเขาจะรับผิดชอบเองใช่ไหม? แล้วเครือข่าย 5G นี้คงไม่ได้มีแค่ประโยชน์เล็กๆ แค่นี้ใช่ไหมครับ?”

“พวกเขาบอกว่าจะรับผิดชอบเอง” จ้าวเฉินกวงย่อมเข้าใจเจตนาของหวังฉีดี เขาต้องการให้โครงการสถานีฐานดาวเทียมเริ่มต้นก่อน แล้วค่อยมาเจรจารายละเอียดกันทีหลัง

แต่จ้าวเฉินกวงเป็นใครกันเล่า?

คนซื่อชื่อเสียงโด่งดังในสิบหมู่บ้าน

เหตุผลที่เขาเคยมีความขัดแย้งกับซ่งเว่ยกั๋ว ก็เพราะซ่งเว่ยกั๋วเป็นคนเจ้าเล่ห์ และเคยฉวยโอกาสที่เขาซึ่งเป็นคนซื่อไม่เข้าใจโลก จนทำให้เขาต้องย้ายมาที่ชางซี

หากเขารู้มากกว่านี้ในตอนนั้น เขาก็คงไม่ต้องมาทำงานด้านการปล่อยจรวดเช่นนี้

เมื่อพูดจบว่า “พวกเขาบอกว่าจะรับผิดชอบเอง” เขาก็รีบเสริมทันทีว่า “แต่ผมคิดว่าเราน่าจะช่วยพวกเขากันสักหน่อย แต่ละคนแบ่งกันจ่ายนิดหน่อย ช่วยพวกเขาสร้างให้เสร็จไปเลย”

หวังฉี: "..."

ซุนปิ่งหนาน: "..."

หวังปี้อัน: "..."

แบ่งกันจ่าย? ระดมทุนกันหรือไง?

พวกเขาบางหน่วยงานก็มีงบประมาณที่จำกัดอยู่แล้ว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ได้แต่ลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง ไม่มีเงินว่างเลยสักนิด

ขณะที่ทุกคนยังเงียบกันอยู่ จ้าวเฉินกวงก็เสริมอีกว่า “ไม่ได้หมายความว่าให้ฟรีนะ เฉินซิงสัญญาว่าจะเปิดให้เราใช้เครือข่าย 5G ด้วยความเร็วสูงสุดแบบฟรีๆ เลย”

“ความเร็วเท่าไหร่?”

หยางกู่หนงอดที่จะถามขึ้นไม่ได้

เขารู้สึกสนใจ เพราะหลังจากที่ได้เห็นโดรนพลีชีพของกองทัพภาคเฟิ่งเทียนแล้ว เขาเชื่อว่าในอนาคตอาวุธเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในทุกเขตทหาร

แนวคิดของเครือข่าย 5G ที่มีปิงต่ำ ความเร็วสูง และเชื่อมต่อทุกสิ่งเข้าด้วยกัน อาจจะทำให้ยุทธวิธีของโดรนก้าวไปสู่ระดับใหม่

“ตอนนี้ 4 เมกะไบต์ต่อวินาที เฉินซิงยังสัญญาว่าภายในหนึ่งปี เขาจะเพิ่มตัวเลขนี้ขึ้นอีกห้าเท่า และภายในสามปี จะเพิ่มขึ้นสิบเท่า”

ความเร็วเพิ่มขึ้นห้าเท่าในหนึ่งปี และเพิ่มขึ้นสิบเท่าในสามปี ทำให้คนที่อยู่ในห้องประชุมส่วนใหญ่เริ่มรู้สึกสนใจ แต่ก็ยังขาดอะไรบางอย่าง จ้าวเฉินกวงจึงกล่าวต่อว่า “หลังจากที่สร้างสถานีฐานดาวเทียมเสร็จแล้ว ระบบวิทยุสื่อสารจะถูกแทนที่ด้วยการสื่อสารผ่านดาวเทียม ซึ่งจะทำให้การเข้ารหัสสามารถป้องกันการแฮกได้ดีขึ้น”

การดักฟังสัญญาณวิทยุไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

หากสามารถทำให้การสื่อสารมีความปลอดภัยมากขึ้น รวมถึงการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุดได้ สถานีฐานดาวเทียมนี้ก็จะไม่ถูกจำกัดแค่การใช้งานสำหรับประชาชนเท่านั้น พูดได้ว่ามีทั้งการใช้งานทางทหารและพลเรือน

“ถ้าสามารถรับประกันความเป็นไปได้ของสถานีฐานดาวเทียมได้ ผมคิดว่าการช่วยเหลือก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย อย่างน้อยก็เป็นบริษัทของประเทศจีนเรา” หวังปี้อันออกความเห็น

เมื่อมีคนเริ่มพูดแล้ว หวังฉีก็สนับสนุนว่า “ผมก็เห็นด้วยว่าน่าจะช่วย เพราะสถานีฐานดาวเทียมนี้ไม่เพียงแต่ใช้เพื่อการพลเรือน ยังสามารถใช้ในทางทหารได้ด้วย เรามีดาวเทียมเป่ยโต่วแล้ว แต่ก็ยังต้องการสถานีฐานดาวเทียมที่จะเป็นปากและหูของมัน”

“เห็นด้วย”

ซุนปิ่งหนานสนับสนุนทันที

เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศกันอยู่แล้ว วิสัยทัศน์ของพวกเขาจึงเป็นระดับสูงสุด ไม่จำเป็นต้องมีการถกเถียงหรือการโน้มน้าวใจมากนัก

“ในเมื่อทุกคนเห็นด้วยแล้ว สถาบันวิจัยของเราก็พร้อมที่จะช่วย เพราะเครือข่าย 5G ที่เชื่อมต่อทุกสิ่งนั้นมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์”

“งั้นไม่มีอะไรต้องถกเถียงแล้ว พี่จ้าวแค่ส่งข้อความหาผมทาง WeChat ก็พอ”

“ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร รายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร จะให้ความร่วมมืออย่างไร ต้องการสนับสนุนทางเทคนิคแบบไหน ค่อยมาว่ากัน”

เมื่อได้เห็นว่าผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศเหล่านี้ตอบรับกันอย่างรวดเร็ว จ้าวเฉินกวงก็รู้สึกขอบคุณอย่างมากและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าเลยครับ”

“ไม่ต้องเกรงใจ นี่เป็นความรับผิดชอบและหน้าที่ของพวกเรา”

“ใช่แล้ว เพื่อฟื้นฟูประเทศจีน พวกเราต้องไม่ปฏิเสธ เครือข่าย 5G จะสามารถเปลี่ยนแปลงเครือข่าย 4G และท้าทายความหยิ่งยโสของชาวตะวันตกได้”

“เห็นด้วย ผมชอบฟังประโยคนี้จริง ๆ”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมจะขอออกไปก่อน ตอนนี้ปวดหลังนิดหน่อย หมอบอกให้พักผ่อนเร็ว ๆ ห้ามนอนดึก”

“ตกลง”

“ผมก็ขอออกด้วยแล้วกัน”

หลังจากนั้นไม่นาน “ผู้เชี่ยวชาญด้านอวกาศ” ก็ทยอยออกจากห้องประชุมออนไลน์ จ้าวเฉินกวงก็ปิดการประชุม และมองออกไปยังดวงดาวนอกหน้าต่าง

“การเจรจาผ่านไปได้ด้วยดี ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับการทดสอบยิงครั้งแรกแล้ว” จ้าวเฉินกวงพึมพำกับตัวเองอย่างตื่นเต้น

เขาสามารถมองเห็นได้อย่างเลือนรางว่า เมื่อสถานีฐานดาวเทียมเริ่มใช้งาน วันนั้นโลกตะวันตกทั้งหมดย่อมต้องสั่นสะท้าน

ครั้งหนึ่ง บุคคลสำคัญที่ล่วงลับไปแล้วของสหรัฐฯ เคยกล่าวไว้ว่า ในอนาคตใครก็ตามที่สามารถครองอวกาศได้ คนนั้นก็จะได้เปรียบในการชนะสงคราม

คำพูดนี้เป็นจริงแล้วหรือยัง?

เห็นได้ชัดว่าเป็นจริงแล้ว

สงครามอ่าวเป็นตัวอย่าง

เมื่อระบบนำทาง GPS ถูกปิด ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรบ ปืนใหญ่ หรือขีปนาวุธ ก็กลายเป็นเศษเหล็ก เพราะคุณไม่สามารถโจมตีเป้าหมายได้ และนี่คือความสำคัญของการครองอวกาศ

“ใครก็ตามที่ครองอวกาศได้ คนนั้นก็จะได้เปรียบในการชนะสงคราม” คำพูดนี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

จ้าวเฉินกวงก็ไม่คาดคิดว่า เมื่อแผน “เทียนหวัง” ถูกนำมาปฏิบัติจริง ประเทศจีนทั้งหมดจะเข้าสู่ “แผนการอวกาศ” ที่เจิดจรัสและเติบโตเร็วที่สุด ซึ่งจะกำหนดทิศทางของอวกาศในอนาคต

แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องในอนาคต ยังไม่ต้องพูดถึงในตอนนี้

……

อีกด้านหนึ่ง

ที่หลงกัง เมืองเซินเจิ้น

สำนักงานใหญ่ของDragonstar Technology

หลังจากเพิ่งดื่มเหล้าและพูดคุยเรื่องความร่วมมือกับเหรินกั๋วเฟย เฉินซิงก็กลับมาที่ห้องทำงานของตนเอง ยังไม่ทันที่เขาจะได้ดื่มชาแก้เมา เสียงในหัวก็ดังขึ้นมาอย่างคุ้นเคย

【ติ๊ง!】

【ตรวจพบว่ามูลค่าตลาดรวมของบริษัทDragonstar Technologyเข้าสู่สามอันดับแรกของการจัดอันดับบริษัทมือถือระดับโลก ภารกิจครองพื้นที่กำลังถูกประเมิน หากเป็นที่หนึ่งของโลก ภารกิจจะเสร็จสิ้น】

【กำลังคำนวณผลกระทบของบริษัท...】

【กำลังคำนวณส่วนแบ่งการตลาด...】

【กำลังคำนวณการยอมรับของตลาด...】

【กำลังคำนวณความเร็วในการขึ้นอันดับ...】