บทที่ 208 เย่เหริน: ให้หน้าแล้วนะ?
[\แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร\มาติดตามในแฟนเพจ\เพื่อติดตามข่าวสารได้นะ\]
[\Thai-novel \ลงไวกว่าที่อื่น\ทุกที่ 5 ตอน\แต่จะราคาแพงที่สุด\]
[\หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง จะแก้ไขแบบเทียบคำต่อคำให้ตรงตามหลักไวยากรณ์ อ่านแบบเทียบภาษาต้นฉบับคำต่อคำ ซึ่งถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ\100คน\ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ซึ่งถ้ารู้ว่าหลุดจากที่ไหนก็จะไม่แก้ไขตรงเว็บนั้นครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบเวอร์ชั่นแรกไปนะครับ\]
บทที่ 208 เย่เหริน: ให้หน้าแล้วนะ?
ทันใดนั้น เย่เหรินก็จ้องมองชิ้นส่วนเทพเจ้าด้วยแววตาเป็นประกาย เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงคล้ายหยั่งเชิง
"นายทรงพลังมากงั้นเหรอ?"
ได้ยินคำถามของเย่เหริน ชิ้นส่วนเทพเจ้าถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง
ราวกับได้ยินเรื่องตลกขบขัน จึงอดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ทว่า กลับเป็นเพียงเสียงหัวเราะไร้คำตอบ
คำตอบนั้น ชัดเจนอยู่แล้ว
เพราะสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คือชิ้นส่วนแห่งเทพเจ้า!
จ้าวแห่งห้วงลึกอย่างสหายรัก ต่อให้เขาจิบชาไปด้วยก็สามารถเล่นงานจนตายได้นับพันครั้ง
"ถ้าเช่นนั้น เราลองมาทำข้อตกลงกันดีไหม?"
เย่เหรินอดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้ม
ใครบ้างจะรังเกียจผู้ช่วยที่มากเกินไปกันล่ะ จริงไหม?
ชิ้นส่วนเทพเจ้าชะงักไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่ได้คาดคิดว่าเย่เหรินจะเสนอข้อตกลงเช่นนี้
"เจ้าอยากทำข้อตกลงอะไร?"
"ง่ายมาก ฉันจะช่วยนายให้หลุดพ้นจากพันธนาการแห่งโซ่ตรวนนี้ และเพื่อเป็นการตอบแทน นายต้องมาช่วยฉันจัดการกับคนอื่นเมื่อฉันต้องการ ตกลงไหม สหาย?"
เย่เหรินกล่าวพลางหมุนแก้วชาในมือไปมา
เทวทูตตกสวรรค์ "(⊙_⊙)?"
ผู้สร้างภาพลวงตา "(ΩДΩ) ???"
บ้าไปแล้ว! เจ้าหมอนี่มันบ้าไปแล้ว!
กล้าทำข้อตกลงกับชิ้นส่วนเทพเจ้าแบบนี้เนี่ยนะ?!
แถมยังอยากให้ชิ้นส่วนเทพเจ้ามาเป็นนักเลงให้ตัวเองอีก?!
นี่มันช่าง...
อวดดี!
หยิ่งยโส!
ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!!!
ทว่า เมื่อเผชิญหน้ากับคำพูดที่แทบจะเป็นการลบหลู่ของเย่เหริน ชิ้นส่วนเทพเจ้ากลับไม่โกรธเคือง
เพียงแต่มองเย่เหรินด้วยสายตาลึกซึ้ง น้ำเสียงแฝงไปด้วยความแปลกประหลาดและจนใจ
"ข้าอยากจะทำข้อตกลงกับเจ้าใจจะขาด แต่..."
ชิ้นส่วนเทพเจ้าเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกลับ "เจ้าคิดว่า เจ้าทำได้งั้นรึ?"
โซ่ตรวนแห่งห้วงลึกที่สามารถพันธนาการชิ้นส่วนเทพเจ้าเอาไว้ได้
จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะแก้ไขได้?
"ทำได้หรือไม่ได้ ลองดูก็รู้แล้ว" เย่เหรินยิ้มอย่างไม่ยืนยัน ไม่ได้พูดให้ชัดเจน
เขาค่อยๆลุกขึ้นยืน มือค่อยๆเอื้อมไปด้านหลัง น้ำเสียงแฝงไปด้วยความมั่นใจที่ไม่อาจปฏิเสธได้
"นายคงลองมาหลายวิธีแล้วสินะ? แต่ก็ล้มเหลวทั้งหมด ใช่ไหม?"
ชิ้นส่วนเทพเจ้าพยักหน้ารับอย่างไม่ยืนยันเช่นกัน ไม่ได้ปฏิเสธ
เดิมทีได้ลองวิธีมากมายหลายหลากแล้ว แต่โซ่ตรวนแห่งห้วงลึกเหล่านี้ ไม่ว่าจะดิ้นรนขัดขืนเพียงใด ก็ไม่อาจสลัดหลุดพ้น
"งั้นก็จับตาไว้ให้ดี!"
เย่เหรินกำมือขึ้นราวกับจะคว้าจับบางสิ่ง
วิ้งงงง!
เสียงอื้ออึงแผ่วเบา ดังขึ้นพร้อมกับแสงสีแดงเข้มที่ค่อยๆแผ่ขยายจากด้านหลังของเย่เหริน
นั่นคือ...
มลทินแห่งความกลัว!
สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจนี้ ชิ้นส่วนเทพเจ้าก็พลันหน้าถอดสี!
ชิ้นส่วนเทพเจ้า "(ΩДΩ)?"
มองเย่เหรินด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ร้องอุทานออกมาอย่างลืมตัว
"นี่... นี่มันอะไรกัน?!"
ท่ามกลางแสงสีแดงเข้มฉาน
หมอกสีเลือดแดงแผ่พุ่งพลังอำนาจที่แม้แต่ชิ้นส่วนเทพเจ้าก็ไม่อาจหยั่งถึง
ท่ามกลางความกลัวสุดขีดอันรุนแรงและบริสุทธิ์
"ไม่นะ... นี่มัน..."
น้ำเสียงของชิ้นส่วนเทพเจ้าสั่นสะท้านอย่างปิดไม่มิด
กลิ่นอายนี้ แม้แต่ตัวมันเองยังรู้สึก...
คุ้นเคย?!
เย่เหรินไม่ได้สนใจอาการตกตะลึงของชิ้นส่วนเทพเจ้า
แสงสีแดงเข้มรวมตัวกันที่ฝ่ามือค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นคมดาบสีเลือดน่าสะพรึงกลัว!
หมอกสีเลือดแดง พร้อมกับกลิ่นคาวเลือดคลุ้งตลบอบอวล แผ่ซ่านออกมาจากดาบโลหิต
ชิ้นส่วนเทพเจ้า "..."
นี่มันอะไรกันเนี่ย!?
พลังบ้าอะไรกันนี่!?
โกงเกินไปแล้ว!
แม้แต่เทพอย่างมันก็ไม่อาจเข้าใจ!
ทว่า เย่เหรินกลับไม่สนใจความตกตะลึงของชิ้นส่วนเทพเจ้า
หมอกสีเลือดแดงเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต กัดกินโซ่ตรวนแห่งห้วงลึกที่พันธนาการชิ้นส่วนเทพเจ้าอย่างตะกละตะกลาม
โซ่ตรวนที่เคยแข็งแกร่ง ดื้อดึง แม้แต่ชิ้นส่วนเทพเจ้ายังไม่อาจทำอันใดได้
บัดนี้กลับเหี่ยวเฉาลงอย่างเห็นได้ชัด ราวกับผักที่โดนน้ำร้อนลวก
"ซู่ๆๆ..."
โซ่ตรวนเสียดสีกัน ส่งเสียงน่าขนลุก ราวกับกำลังทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
หรือบางที อาจจะหวาดกลัวต่อบางสิ่งบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัว จนตัวสั่นเทิ้ม!
ภาพตรงหน้า สร้างความตื่นตะลึงให้กับชิ้นส่วนเทพเจ้าราวกับโดนคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำ!
นับครั้งไม่ถ้วนที่ผ่านมา นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นห้วงลึกโซ่ตรวน แสดงท่าทีแปลกประหลาดเช่นนี้!
บ้าเอ๊ย!
ตอนที่พันธนาการข้า เจ้ายังทำเบ่งใส่ข้าอยู่เลย!
ตอนนี้พวกเจ้าเป็นบ้าอะไรกัน?
ตั้งสติกันหน่อยได้ไหม!?
เย่เหรินหรี่ตาลง จ้องมองโซ่ตรวนแห่งห้วงลึกที่กำลังสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว
เหมือนเช่นเคย เขาเอ่ยปากขึ้นว่า
"ปล่อยเขาซะ"
ทันทีที่ได้ยินคำสั่งของเย่เหริน โซ่ตรวนแห่งห้วงลึกก็สั่นสะท้านรุนแรงยิ่งขึ้น
"ซู่ๆๆ..."
โซ่ตรวนแห่งห้วงลึกส่งเสียงร้องโหยหวนราวกับกำลังวิงวอนขอความเมตตาจากเย่เหริน
เย่เหรินขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขารู้สึกได้ว่าโซ่ตรวนแห่งห้วงลึกพวกนี้ต้องการจะสื่อสารบางอย่าง
แต่มันไม่มีความสามารถในการพูด หรือเชื่อมต่อทางจิตกับเย่เหรินได้
ทำได้เพียงแสดงความหวาดกลัวและวิตกกังวลออกมา เหมือนสัตว์ป่าที่ตื่นตระหนก
"พวกแกต้องการจะบอกอะไร?" เย่เหรินลองถาม
ทว่าโซ่ตรวนแห่งห้วงลึกก็ยังคงสั่นเทา ไม่สามารถตอบสนองใดๆได้
"ซู่ๆๆ..."
พวกมันพยายามอย่างหนักที่จะอธิบาย แต่ก็ทำไม่ได้
"พวกแกกำลังกลัวอะไร?" น้ำเสียงของเย่เหรินอ่อนลงเล็กน้อย "ปล่อยเขาไปซะ มันไม่เป็นไรหรอก"
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่เหริน โซ่ตรวนแห่งห้วงลึกกลับรัดชิ้นส่วนเทพเจ้าแน่นขึ้นไปอีก
เย่เหริน "?"
เย่เหรินเริ่มมีน้ำโห ให้หน้าแล้วไม่รับ!
"งั้นก็คงต้องตัดพวกแกทิ้งแล้วล่ะ"
เย่เหรินพึมพำกับตัวเอง
หมอกสีแดงฉานพลุ่งพล่านอยู่เบื้องหลังเย่เหริน เขายกดาบโลหิตขึ้น เตรียมจะฟันลงไปที่โซ่ตรวนแห่งห้วงลึกในชั่วพริบตา
ทันใดนั้น พลังจิตมหาศาลก็ระเบิดขึ้นในหัวของเย่เหรินโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า!
"ตู้ม——!!!"
ดวงตาของเย่เหรินเบิกกว้าง
ภาพเหตุการณ์มากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเย่เหรินราวกับคลื่นยักษ์ โจมตีจิตสำนึกของเขา
เขาเห็น...จักรวาล!
จักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล เต็มไปด้วยดวงดาวและฝุ่นละอองนับไม่ถ้วน!
ทว่าในตอนนี้ จักรวาลแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งหายนะและความสิ้นหวัง
ดวงดาวขนาดมหึมาดวงแล้วดวงเล่าพังทลายลง กลายเป็นหลุมดำที่มืดมิด กลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวอย่างตะกละตะกลาม
ดาวเคราะห์ที่สวยงามซึ่งเคยเป็นแหล่งกำเนิดของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วน บัดนี้กลับถูกบดขยี้ด้วยมือที่มองไม่เห็น กลายเป็นเศษฝุ่นละอองล่องลอยอยู่ในห้วงอวกาศอันไร้ที่สิ้นสุด
อารยธรรมนับไม่ถ้วนกำลังล่มสลายลง พวกเขาเคยมีเทคโนโลยีที่รุ่งโรจน์ เคยมีวัฒนธรรมที่งดงาม
แต่ในเวลานี้ ทุกสิ่งทุกอย่างกลับไร้ความหมาย
เพราะภัยพิบัติที่ไม่อาจอธิบายได้ กำลังลากจักรวาลทั้งจักรวาลไปสู่ความสิ้นหวัง!
【ภาวะมิติถดถอย】
คำคำนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเย่เหริน
เขาเห็นเส้นใยบางๆสีฟ้าเรืองแสงทอดยาวไปทั่วทุกมุมของจักรวาล
ทุกที่ที่เส้นใยสีฟ้าเคลื่อนผ่าน สสารทั้งหมดจะถูกย่อยสลายและประกอบขึ้นใหม่ กลายเป็นพื้นผิวสองมิติที่บางเฉียบ
กาแล็กซีที่ส่องประกายระยิบระยับ เมื่อเผชิญหน้ากับเส้นใยสีฟ้าเหล่านี้
ก็เหมือนกับภาพวาดที่ถูกขยำจนเสียรูปทรง สูญเสียสีสันและมิติทั้งหมดไปในพริบตา กลายเป็นภาพแบนๆไร้ชีวิตชีวา
เย่เหรินได้ยินเสียงกรีดร้องและคร่ำครวญด้วยความสิ้นหวังของสิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนในวินาทีสุดท้ายก่อนที่กาแล็กซีจะถูกทำลาย