ตอนที่ 473 ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน, ตอนที่ 474 ความลับเล็กๆ ของ ซู หนิงซวง และเย่เฉิน
ตอนที่ 473 ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
หลังจากได้ยินคำถามของหญิงสาวคนรักของเขา เศรษฐีอ้วนก็ส่ายศีรษะ
“ไม่รู้จริงๆ ว่าคนแบบนี้เข้ามาร่วมงานเปิดตัวสินค้าของ Prada ได้ยังไง?”
หญิงสาวสวยถามด้วยความสงสัยว่า :
“คุณคิดว่าไอ้พวกบ้านนอกพวกนั้นแอบย่องเข้ามาหรือเปล่า?”
“เป็นไปไม่ได้ นี่มันงานเปิดตัวสินค้าของ Prada สำคัญมาก การรักษาความปลอดภัยเองก็เข้มงวด ไม่มีทางที่คนธรรมดาจะแอบเข้ามาได้”
เศรษฐีอ้วนส่ายศีรษะ
“คนที่เธอเรียกว่าพวกบ้านนอกนั้น อาจจะเป็นผู้จัดการเล็กๆ ของ Prada หรือไม่ก็ญาติของใครบางคนที่เข้ามาโดยใช้เส้นสายเพื่อหาประสบการณ์”
เศรษฐีอ้วนคาดเดา
ส่วนสาเหตุที่เขาเปลี่ยนสีหน้าไปเมื่อครู่นี้ก็เป็นเพราะว่าเขาเห็นหญิงสาวสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้ชายคนนั้น
เขาไม่ขาดแคลนเงิน ดังนั้น ‘นกในกรงทอง’ ที่เขาเลี้ยงดูไว้ก็ย่อมผ่านการคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน
อย่างเช่นหญิงสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าเขา หรือที่รู้จักในนาม ‘ชวนชวน’ นอกจากนี้ยังมีคนอื่นๆ อีกหลายคน
หนึ่งในนั้นเป็นหญิงสาวสวยระดับดอกไม้งามประจำมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้
แต่ผู้หญิงสองคนที่อยู่ข้างๆ ไอ้หนุ่มคนนั้น คนหนึ่งหน้าตาไม่ต่างจากดอกไม้งามประจำมหาวิทยาลัยที่เขาเลี้ยงดูไว้
ส่วนอีกคนสวยยิ่งกว่า มีรูปร่างที่ดียิ่งกว่า ขนาดที่ใช้คำว่า ‘งามล่มเมือง’ มาบรรยายก็ไม่เกินจริง
นั่นทำให้เศรษฐีอ้วนรู้สึกอิจฉา เย่เฉิน อย่างยิ่ง
เด็กหนุ่มที่ใช้เส้นสายเข้ามาในงานกลับมีสาวงามสองคนข้างกายแบบนี้
เขาจะไม่อิจฉาได้อย่างไร?
ในความเป็นจริง หญิงสาวสวยข้างกายของเขาก็แอบอิจฉา ซู หนิงซวง เช่นกัน
เนื่องจากคนที่ยืนอยู่ข้างกาย ซู หนิงซวง คือ ..เย่เฉิน
แต่ข้างกายเธอคือชายอ้วนที่อ้วนจนเกือบกลายเป็นลูกบอล อายุนี่ก็แก่เสียยิ่งกว่าพ่อเธออีก
ถ้าไม่ใช่เพราะเงินใครจะอยากอยู่กับเขาล่ะ?
แน่นอนว่าความน้อยใจของหญิงสาวสวยก็พูดบ่นได้แค่ในใจเท่านั้น
ภายนอกเธอไม่กล้าแสดงความไม่พอใจใดๆ ต่อ ‘แฟนหนุ่ม’ ของเธอ
“งานเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Prada กำลังจะเริ่มแล้ว”
หญิงสาวเหลือบมองนาฬิกาก็เห็นว่าใกล้เวลาแล้ว
“เราไปกันเถอะ”
เศรษฐีอ้วนคิดแผนดีๆ ขึ้นมาได้
ในวินาทีต่อมาเขาก็พาหญิงสาวสวยที่อยู่ข้างกายเขาเดินตรงเข้าไปหา เย่เฉิน
“น้องชาย ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน นี่ครั้งแรกของคุณหรือเปล่า?”
เศรษฐีอ้วนยิ้มแย้มด้วยท่าที ‘เป็นมิตร’ พร้อมกับพูดทักทาย เย่เฉิน
“งานเปิดตัวสินค้าใหม่กำลังจะเริ่มแล้ว ฉันอยู่แถวที่สาม คุณล่ะอยู่แถวไหน?”
เศรษฐีอ้วนถาม
เมื่อเขาพูดว่าเขานั่ง ‘แถวที่สาม’ เขาเน้นน้ำเสียงนั้นของเขาเป็นพิเศษ
การได้นั่งแถวที่สามในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Prada Group ถือว่าไม่ธรรมดา
มองไปทั่วทั้งงาน คนที่ได้นั่งแถวที่สามมีไม่มากนัก
ครั้งนี้เขาเพียงแค่อยากอวดตำแหน่งของตัวเองต่อหน้า เย่เฉิน, ซู หนิงซวง และจ้าว ซูซวน
เขาวางแผนไว้แล้วว่าหลังจากงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สิ้นสุด เขาจะเข้ามาหา เย่เฉิน เพื่อดำเนินการขั้นต่อไป
“ที่รัก ครั้งนี้คุณได้ที่นั่งแถวที่สามจริงๆ เหรอ?”
หญิงสาวสวยคนนั้นแสดงความประหลาดใจทันที
ก่อนหน้านี้เธอ กับเศรษฐีอ้วนเคยไปเข้าร่วมงานเปิดตัวสินค้าหรูหลายงาน
แต่ส่วนใหญ่พวกเขามักจะนั่งแถวที่สี่ หรือห้า
ในทุกๆ ครั้งเธอจะอิจฉาคนที่ได้นั่งสามแถวแรกมาก
และแม้แต่แถวที่สามก็ยังถือว่าดีมากแล้ว
ครั้งนี้เธอไม่ได้ถามอะไรเยอะนัก แต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะได้สิ่งที่ฝันไว้
อย่างไร ‘แฟนหนุ่ม’ ของเธอก็ยอดเยี่ยมกว่า
ชายหนุ่มคนนี้นอกจากจะดูหนุ่ม และหน้าตาดีหน่อยแล้ว ยังมีอะไรดีอีกล่ะ?
ก็แค่พวกบ้านนอกที่อาศัยเส้นสายเข้ามาเพื่อหาประสบการณ์บางอย่างเท่านั้นเอง
เมื่อคิดแบบนี้ หญิงสาวก็รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างมาก
“แน่นอน เรานั่งแถวที่สาม เป็นเรื่องปกติ”
เมื่อได้ยินคำของเธอ เศรษฐีอ้วนก็ยิ่งภาคภูมิใจ ก่อนจะตอบด้วยท่าทีโอ้อวด
พูดจบเขาหันไปมอง เย่เฉิน, ซู หนิงซวง และจ้าว ซูซวน
ในขณะนั้น ซู หนิงซวง และจ้าว ซูซวน ยังคงมองไปรอบๆ อย่างสนใจ
แม้ว่า เย่เฉิน จะได้ยินคำของเศรษฐีอ้วนแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ
เมื่อเห็นเช่นนี้ สีหน้าของเศรษฐีอ้วนก็เปลี่ยนไปเป็นน่าเกลียดเล็กน้อย
ความพยายามโอ้อวดของเขาได้ผลลัพธ์แย่ขนาดนี้เลยเหรอ?
“น้องชาย พวกคุณอยู่แถวไหนล่ะ?”
เศรษฐีอ้วนพลันถามขึ้นด้วยเจตนาไม่ดี
ในความคิดของเขา เย่เฉิน และคนอื่นๆ ต้องนั่งแถวสุดท้าย หรือแถวรองสุดท้ายแน่ๆ
ซึ่งไม่สามารถเทียบกับที่นั่งของเขาได้
“แถวไหน? ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
เย่เฉิน ส่ายศีรษะ เขาไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่วันนี้เขาพบเจอกับ เหอเจียน ประธานของ Prada ประจำภูมิภาคจีน ซึ่งเขารู้ว่าเขาจะต้องมา..
ดังนั้น เขาคงจัดที่นั่งไว้ให้แล้ว
เมื่อเขามาถึงหน้างาน เจ้าหน้าที่ก็คงจะแจ้ง เหอเจียน ให้ทราบแล้ว
ส่วนเรื่องที่นั่ง เขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่า ..อยู่แถวไหน?
พอได้ยิน เย่เฉิน พูดแบบนั้น เศรษฐีอ้วนยิ่งมั่นใจว่า เย่เฉิน และคนอื่นๆ คงใช้เส้นสายเข้ามาแน่นอน
เดี๋ยวพวกเขาอาจไม่มีที่นั่งด้วยซ้ำ
ถ้าได้รับเชิญมาจริงๆ ทำไมไม่มีตำแหน่งระบุไว้ในบัตรเชิญล่ะ?
เขาเคยไปงานเปิดตัวสินค้าหรูหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งบัตรเชิญจะระบุตำแหน่งที่นั่งอย่างชัดเจน
เศรษฐีอ้วนยิ่งยิ้มเยาะด้วยความภาคภูมิใจ
งานเปิดตัวสินค้าใกล้เริ่มแล้ว ผู้ได้รับเชิญหลายคนเริ่มเดินไปยังที่นั่งของตน
ขณะที่เศรษฐีอ้วนกำลังจะอวดตำแหน่งของตัวเอง และดูถูก เย่เฉิน อีกครั้ง แต่ทันใดนั้น จู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเดินเข้ามา…
………………..
ตอนที่ 474 ความลับเล็กๆ ของ ซู หนิงซวง และเย่เฉิน
“เชิญท่านตามผมมาครับ”
เจ้าหน้าที่พูดกับ เย่เฉิน ด้วยความสุภาพอย่างยิ่ง
วินาทีถัดมา ภายใต้สายตาเจ้าเล่ห์ของเศรษฐีอ้วน และหญิงสาวคนนั้น เย่เฉิน, ซู หนิงซวง และจ้าว ซูซวน ก็ถูกเจ้าหน้าที่พาเดินออกไปอีกทางด้านหนึ่ง
“ที่รัก คุณคิดว่าพวกเขาจะนั่งแถวไหน? แถวรองสุดท้าย หรือแถวสุดท้าย?”
หญิงสาวคนนั้นมองแผ่นหลังของ เย่เฉิน ด้วยสายตาดูถูก และพลันถามขึ้นอย่างประชดประชัน
“แถวรองสุดท้าย หรือแถวสุดท้าย? ฮ่าฮ่าๆ”
เศรษฐีอ้วนหัวเราะเยาะ
“ฉันว่าพวกเขาไม่มีที่นั่งหรอก ก็คงจะยืนอยู่ข้างหลังดูแค่พอเป็นพิธีเท่านั้นเอง”
เศรษฐีอ้วนตอบอย่างมั่นใจ
เมื่อครู่ไอ้หนุ่มนั่นบอกว่าเขาไม่รู้ว่าอยู่แถวไหน ตอนนี้ก็มีเจ้าหน้าที่มาหาเขาโดยตรง คงไม่ต้องสงสัยอะไรแล้ว
แน่นอนว่าเป็นเพราะเจ้าหน้าที่คงกลัวว่า เย่เฉิน ซึ่งเป็น ‘พวกใช้เส้นสาย’ จะเดินไปทั่วงานตอนที่งานเปิดตัวเริ่มขึ้น
จึงจัดให้พวกเขาไปยืนอยู่ข้างหลังสุดตั้งแต่เนิ่นๆ
“ไม่มีที่นั่งเหรอ ฮ่าๆ งั้นพวกเขาก็คงต้องยืนดูไปนานๆ เลยล่ะสิ”
หญิงสาวหัวเราะเยาะอย่างสะใจ
“แน่นอน คุณดูเองสิ”
เศรษฐีอ้วนเตรียมดู เย่เฉิน พลาดท่าก่อนจะไปนั่งที่ของตัวเอง
แต่ไม่นานเศรษฐีอ้วนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“ที่รัก พวกเขาไม่ได้จะไปหลังสุดนี่ ทำไมทิศทางถึงไม่ถูกต้องล่ะ?”
หญิงสาวก็สังเกตเห็นความผิดปกติเช่นกัน
ทำไมเจ้าหน้าที่พา เย่เฉิน ไปทิศทางที่ตรงกันข้ามกับที่พวกเขาคาดว่าจะเป็นแถวหลังสุด?
ในตอนนี้ เจ้าหน้าที่พา เย่เฉิน และคนอื่นๆ เดินมาถึงแถวหน้า
“อาจจะเพราะต้องอ้อมหน่อยก็ได้..”
เศรษฐีอ้วนพึมพำเบาๆ เพื่อปลอบใจตัวเอง
แต่ไม่ทันที่เขาจะพูดจบ เจ้าหน้าที่ก็พา เย่เฉิน และคนอื่นๆ ไปนั่งที่แถวแรกตรงกลางพอดี
เย่เฉิน นั่งตรงกลาง ซู หนิงซวง นั่งข้างขวา ส่วน จ้าว ซูซวน นั่งข้างๆ ซู หนิงซวง
ถ้าไม่ใช่เพราะงานเปิดตัวกำลังจะเริ่ม และเหอเจียน ติดงานยุ่ง เจ้าหน้าที่ที่มารับ เย่เฉิน คงไม่ใช่คนคนนี้ แต่จะเป็น เหอเจียน เอง
ที่นั่งที่ดีที่สุดในงานนี้ปกติจะเก็บไว้ให้ผู้บริหารระดับสูงของ Prada Group เสมอ
ถ้าวันนี้ประธานของ Prada มาเอง ที่นั่งนั้นก็จะเป็นของเธอ
แต่วันนี้ประธานของ Prada ไม่ได้มา มีแค่รองประธานที่มาจากสำนักงานใหญ่เท่านั้น
เมื่อเทียบกับ เย่เฉิน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ Prada Group รองประธานที่ไม่มีหุ้นใดๆ ในมือก็ต้องยอมถอยไปอยู่แถวหลัง
และตำแหน่งที่นั่งนี้จึงตกเป็นของ เย่เฉิน..
จากระยะไกล เมื่อเห็นว่า เย่เฉิน และคนอื่นๆ นั่งอยู่ที่แถวแรกตรงกลาง เศรษฐีอ้วนที่เคยยิ้มเยาะก็ถึงกับชะงักไปทันที
หญิงสาวคนนั้นเองก็ถึงกับอ้าปากค้างเช่นกัน
ทั้งสองคนแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
“อึกอึก, เอ่อ... ที่รัก...?”
หญิงสาวกลืนน้ำลายหลายครั้งแล้วถามเศรษฐีอ้วนที่อยู่ข้างๆ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“พวกเรา...เจอ...ปัญหา...ใหญ่แล้ว...”
เศรษฐีอ้วนก็พูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
หัวใจเขาเต้นระรัวแทบกระดอนขึ้นมาถึงลำคอ
เมื่อครู่ไอ้หนุ่มคนนั้นไม่ได้เข้ามาด้วยเส้นสาย
การได้ที่นั่งแถวหน้าสุดตรงกลางแบบนี้ ..หมายความว่าเขามีเพียงสองสถานะเท่านั้นที่เป็นไปได้
หนึ่งคือคนคนนั้นจะต้องเป็นผู้บริหารระดับสูงของ Prada Group
หรือไม่ก็เป็นบุคคลสำคัญที่ Prada ให้ความสำคัญอย่างมาก เช่น มหาเศรษฐีชั้นนำ..
ซึ่งไม่ว่าจะสถานะไหน เขาก็ไม่กล้าหาเรื่องทั้งนั้น
เมื่อคิดได้แบบนี้ เศรษฐีอ้วนก็รู้สึกแข้งขาอ่อนแรงขึ้นมา
เขาเผลอไปอวดตัวเองต่อหน้าบุคคลระดับนี้เชียวหรือ?
ตุบ!
เศรษฐีอ้วนทรุดตัวลงนั่งกับพื้นในทันที
ในสายตาของคนระดับนี้ เขาจะต้องดูเหมือนตัวตลกแน่ๆ?
หญิงสาวเองก็รู้สึกตกตะลึง และอับอาย
และทั้งนี้เธอยังรู้สึกละอายใจกับความคิดตื้นเขินของตัวเอง
“พาฉันลุกขึ้นเร็ว พวกเราต้องรีบไป รีบไปเร็วๆ เถอะ”
เศรษฐีอ้วนไม่กล้าเจอ เย่เฉิน อีก..เป็นครั้งที่สอง ดังนั้นเขาจึงรีบพูดกับหญิงสาวข้างกายของเขา
พวกเขาต้องรีบออกจากงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Prada
ไม่สิ.. ไม่ใช่แค่ออกจากงาน แต่ต้องออกจากเซี่ยงไฮ้ในทันที
หากความ ‘หยาบคาย’ เมื่อครู่นี้ทำให้คนระดับนั้นไม่พอใจ พวกเขาคงจบเห่แน่..
ด้วยน้ำหนักเกือบสองร้อยจิน(ประมาณ 100+ กก.)ของเศรษฐีอ้วน หญิงสาวต้องใช้แรงทั้งหมดที่มีจึงพอจะพยุงตัวเขาขึ้นมา
หลังจากทุลักทุเลอยู่หลายครั้ง ในที่สุดเธอก็พยุงเขาลุกขึ้นมาได้สำเร็จ
จากนั้นทั้งสองคนก็พยายามหนีออกจากงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ไปอย่างทุลักทุเล
คืนนั้น พวกเขาขึ้นเครื่องบินเพื่อหนีออกจากเซี่ยงไฮ้ ไปยังเมืองอื่นเพื่อหลบซ่อนตัว
ขณะเดียวกันที่งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Prada เย่เฉิน ดูงานอยู่พักหนึ่งก็เริ่มรู้สึกเบื่อ ดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น
ส่วน ซู หนิงซวง และจ้าว ซูซวน กลับดูงานอย่างสนุกสนานนานกว่าชั่วโมง
“ซูซวน พวกเราไปกันเถอะ”
แม้ว่างานเปิดตัวจะยังไม่จบ แต่เมื่อ ซู หนิงซวง สังเกตเห็นว่า เย่เฉิน ไม่ค่อยสนใจมากนัก เธอจึงเสนอให้กลับ
วันนี้พวกเธอถือว่าได้สัมผัสบรรยากาศแล้ว
“ตกลง”
จ้าว ซูซวน เข้าใจสิ่งที่ ซู หนิงซวง หมายถึงจึงพยักหน้ารับ
ซู หนิงซวง บอกกับ เย่เฉิน และแน่นอนว่า เย่เฉิน เห็นด้วยที่จะกลับ
ก่อนที่ เย่เฉิน จะออกไป เหอเจียน ก็แอบเข้ามาคุยกับ เย่เฉิน สองสามคำ
หลังจากออกจากงานเปิดตัวสินค้า ทั้งสามก็ไปทานอาหารมื้อดึก และเดินเล่นที่รอบๆ เดอะบันด์
“จริงสิ เรื่องย้ายมาเรียนที่เซี่ยงไฮ้เป็นอย่างไรบ้าง?”
ซู หนิงซวง ถาม เย่เฉิน ขณะที่พวกเขากำลังเดินเล่นกันอยู่
“ใกล้แล้ว และน่าจะอีกไม่นานนี้”
เย่เฉิน ตอบกลับ
การย้ายมาเรียนที่เซี่ยงไฮ้ต้องทำให้ดูเป็นเรื่องปกติ และสมเหตุสมผลอยู่บ้าง การจัดการเรื่องนี้จึงมีความยุ่งยากเล็กน้อย
เนื่องจากที่นี่เป็นมหาวิทยาลัย ไม่ใช่โรงเรียนมัธยม
ไม่กี่วันก่อน เย่เฉิน เพิ่งได้รับข่าวว่าเรื่องนี้ใกล้จะเรียบร้อยแล้ว
“คุณต้องรีบหน่อยนะ อากาศเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ..จะได้ใส่บางอย่างได้”
ซู หนิงซวง หน้าแดง แล้วเริ่มพูดเป็นนัยๆ บางอย่างกับ เย่เฉิน
“แน่นอน”
เย่เฉิน พยักหน้าทันที
เขารู้ดีว่า ซู หนิงซวง กำลังหมายถึงอะไร และนี่คือความลับเล็กๆ ระหว่างพวกเขาทั้งสองคน
ขณะที่ จ้าว ซูซวน ที่เดินอยู่ข้างๆ ใบหน้าเธอกลับเต็มไปด้วยความสงสัย เธอไม่เข้าใจว่าทั้งสองคนนี้กำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่
จ้าว ซูซวน รู้สึกอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก
หลังจากนั้น เย่เฉิน ก็เรียกแท็กซี่เพื่อพา ซู หนิงซวง และจ้าว ซูซวน กลับมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้
ส่วน เย่เฉิน เองก็กลับไปที่บ้านของเขาเองที่ทอมสัน ริเวียร่า
ดึกคืนนั้น เย่เฉิน เปิดเกมตามปกติ และเข้าไปในร้านค้าระดับห้าดาว
วันนี้สินค้าในร้านค้าระดับห้าดาวมีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง
และสินค้ารายการหนึ่งเรียกได้ว่าแทบจะสะดุดตา เย่เฉิน ทันทีที่เห็นมัน!!!