บทที่ 114 มากมาย (2)
[_แปลโดยแฟนเพจ ยักษา_แปร_มาติดตามในแฟนเพจ_เพื่อติดตามข่าวสารได้นะ.]
[_Thai-novel _ลงไวกว่าที่อื่น.ทุกที่ 5 ตอนแต่_จะราคาแพงที่สุด_]
[_หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น_อีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ_100คน. ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบเวอร์ชั่นแรกไปนะครับ_]
บทที่ 114 มากมาย (2)
อ๊ะ ไม่ใช่นะครับ ตั้งแต่แรกผมก็ไม่มีปัญหาเลย พูดแบบนี้จะเหมารวมเกินไปหน่อยไหมครับ?
จากคำถามของชเวซองกุน ทำให้คังวูจินรู้สึกได้ถึงลางร้ายของการเข้าใจผิด ถ้าปล่อยไปเฉย ๆ เรื่องมันต้องบานปลายแน่ ๆ วูจินจึงรีบพูดขึ้นมาทันที
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ”
“ไม่เป็นไร ฉันเองก็ไม่ชอบให้ใครมาเหมารวมเหมือนกัน”
ชเวซองกุนพูดแทรกขึ้นมาเหมือนกับจะบอกว่าไม่ต้องห่วง
"พอถึงตอนประชุม ฉันจะลองเสนอชื่อนายไปแบบเดี่ยว ๆ ดู จริง ๆ แล้วถ้าไปกันแบบยกกลุ่มมันจะไม่ค่อยดีกับนายเท่าไหร่ เพราะถ้าพลาดขึ้นมานายอาจจะต้องรับผิดชอบทุกอย่างคนเดียว ภาระมันจะหนักเกินไป แถมการไปแบบเหมารวมมันก็ไม่ส่งผลดีต่อค่าตัวของนายที่กำลังพุ่งสูงขึ้นด้วย"
ชเวซองกุนพูดประโยคที่ยากจะเข้าใจออกมา วูจินรู้สึกถึงวิกฤตบางอย่าง เขาจึงพยายามจะอ้าปากพูดอีกครั้ง แต่ทว่า
"คุณวูจิน! สแตนบายแล้วคร้าบบ!"
เวลาพักของเขาได้จบลงแล้ว
หลังจากนั้น
วันหนึ่งช่างยาวนาน แต่กาลเวลากลับล่วงเลยผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับปาฏิหาริย์ นี่คือเรื่องราวของคังวูจิน ตารางงานที่แน่นขนัด ถ่ายทำ ถ่ายทำ และถ่ายทำตารางงานที่แม้ แต่คนอื่นมองยังต้องอ้าปากค้าง แต่วูจินก็ยังคงยืนหยัดและอดทนต่อไป
หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ในสายตาของคนอื่นเป็นแบบนั้น
"ดูคุณวูจินสิ ทำไมถึงดูปกติดีจัง"
"เออ ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน! ช่วงนี้คุณวูจินยุ่งมาก ๆ เลยไม่ใช่เหรอ? แถมตารางถ่ายทำก็แน่นขนาดนั้น แต่ไม่เห็นสีหน้าเขาเปลี่ยนไปเลย"
"แถมฝีมือการแสดงก็ไม่ตกเลยสักนิด"
"อะไรกัน? ปกติแบบนี้ต้องพึ่งเครื่องดื่มชูกำลังไปแล้วไม่ใช่เหรอ??"
แล้วเมื่อคอนเซปต์และพละกำลังใกล้ถึงขีดจำกัด คังวูจินก็จะรีบพาร่างกายไปยังมิติว่างเปล่า ทันทีที่ไปถึงมิติว่างเปล่าที่มืดมิดไร้ที่สิ้นสุด วูจินก็ได้ฟื้นฟูตัวเองในแบบของเขา
“นี่มืดแล้วเหรอเนี่ย เวลานี่ผ่านไปเร็วเป็นบ้าเลย แป๊บ ๆ ก็หายไปวันนึงแล้ว เซ็งชะมัด”
เขากลอกตาไปมากับเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันเวลาของคังวูจินนั้นยาวนานกว่าคนอื่นอยู่แล้ว เพราะเขามีทั้งชีวิตจริง บวกกับเวลาในมิติว่างเปล่า ถึงอย่างนั้นวันเวลาของเขาก็ยังคงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
นี่สินะ ชีวิตของอินฟลูเอนเซอร์สุดฮอต ?
วูจินตั้งใจถ่ายทำรายการ ‘เพื่อนชาย’ ท่ามกลางตารางงานที่วุ่นวาย แต่เขาก็ยังต้องจัดการงานเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกมากมายด้วยความช่วยเหลือจาก ชเวซองกุน ผู้จัดการฝีมือดี ทั้งผลงานที่จะถ่ายทำ การติดต่อประสานงานโฆษณา และตารางงานอื่น ๆ
แค่คิดคร่าว ๆ ก็แทบจะบ้าอยู่แล้ว แต่ชเวซองกุนก็ยังคงดูแลคังวูจินได้อย่างสมบูรณ์แบบควบคู่ไปกับงานของผู้บริหาร
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นไปได้ก็เพราะคังวูจินอดทนได้ดี
ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้เอง ชเวซองกุนก็...
“อ้าว ผู้กำกับคัง ได้ข่าวแว่ว ๆ มาว่าเซ็นสัญญารับงานภาพยนตร์เรื่องใหม่แล้วนี่ครับ? แถมยังเป็นบริษัทภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ด้วยใช่ไหม?”
“ฮ่า ๆ ๆ สมกับเป็น CEO ชเว จริง ๆ แหล่งข่าวเร็วกว่าแสงอีกนะครับ”
“ถ้าทางนั้นต้องการข้อมูลบริษัทภาพยนตร์ ติดต่อมาได้เลยนะครับ จะบอกเท่าที่รู้นะ”
การสร้างคอนเน็กชั่น รวมถึงผู้กำกับชินดงชุนก็ไม่ละเลยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เมื่อการถ่ายทำ 'เพื่อนชาย' ดำเนินมาถึงกลางคัน Netflix ก็ยิ่งทุ่มเทให้กับการโปรโมตมากขึ้นไปอีก ไม่ใช่แค่ปล่อยบทความ แต่ยังอัปโหลดวิดีโอสัมภาษณ์แบบโฆษณาลง Youtube อีกด้วย
แน่นอนว่าในวิดีโอมีข้อความทักทายจากคังวูจินและฮวาลินรวมอยู่ด้วย แถมยังได้พลังจากสาธารณชนเข้ามาเสริมทัพ
- ตอนนี้ที่โรงเรียนเรากำลังถ่ายทำ 'เพื่อนชาย' อยู่ㅠㅠㅠㅠ เห็นคังวูจินกับฮวาลินด้วย!! ทั้งคู่ตัวจริงคือที่สุดㅠㅠㅠㅠㅠㅠㅠ�
เรื่องราวเกี่ยวกับ 'เพื่อนชาย' จากปากต่อปากก็เริ่มแพร่สะพัดออกไป นอกจากนี้ ต่างจากช่วงแรก 'Netflix ญี่ปุ่น' ก็เข้าร่วมวงด้วย
『'เพื่อนชาย' ของคังวูจินและฮวาลิน ก้าวข้าม Netflix เกาหลี สู่การเปิดตัวในญี่ปุ่น!』
เริ่มประกาศว่า 'เพื่อนชาย' กำลังจะก้าวข้ามเกาหลีไปสู่ Netflix ญี่ปุ่น
ส่วนข่าวจากทางอื่น ๆ ก็…
『กระแสแรงไม่หยุด ''เสเพล'' นิติวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ 2 สัปดาห์ซ้อน ครองอันดับ 1 บน Netflix ญี่ปุ่น/ ภาพประกอบ』
'นิติจิตวิทยาเสเพล' นิติวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ที่เปิดตัวใน Netflix ญี่ปุ่นเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ยังคงครองอันดับ 1 ของคอนเทนต์ทั้งหมดอย่างเหนียวแน่น นั่นหมายความว่าความนิยมกำลังทวีคูณ
ณ เวลานี้ คังวูจินได้พบกับทีมที่จะมาดูแลช่อง Youtube ของเขา
"คนนี้คือ PD ครับ PD รู้จักคังวูจินของเราดีอยู่แล้วใช่ไหมครับ?"
"แน่นอนครับ ฮ่า ๆ ๆ สวัสดีครับ"
"ครับ สวัสดีครับ"
ชเวซองกุน เป็นผู้ดูแลการประชุมครั้งนี้ มีทั้งทีมงาน PD และ บรรณาธิการ เข้ามาร่วมประชุมด้วย เริ่มต้นจากคนห้าคนบทสนทนาเกี่ยวกับช่องYoutubeแปลก ๆ ก็เริ่มต้นขึ้น ณ วินาทีนั้นคังวูจินรู้สึกแปลกใจมาก
‘แค่เปิดช่องYoutubeเองถึงกับต้องตั้งทีมกันเลยเหรอ?’
แค่เปิดช่องของตัวเองทำไมถึงกับต้องมีการจัดตั้งทีมขึ้นมาขนาดนี้ วูจินเหลือบมองไปที่พนักงานฝ่ายออกแบบเพราะเขานึกถึงตัวเองในอดีต
ชเวซองกุนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็พูดจบบทสนทนาพร้อมกับรอยยิ้ม
“เอาล่ะ ทีมก็ตั้งกันเรียบร้อยแล้ว สตูดิโอสำหรับถ่ายทำก็จองเรียบร้อย เท่านี้ทุกอย่างก็พร้อมแล้วนะ”
ช่องYoutubeของคังวูจินที่พูดถึงกันมาตลอดตอนนี้ก็เหลือแค่การลงมือทำจริง ๆ แล้ว
“อ้อ แล้วก็วูจิน ฉันได้รับการติดต่อมาว่าการเรียบเรียงและแก้ไขเนื้อเพลงเสร็จเรียบร้อยแล้ว อีกไม่นานนายก็สามารถไปฟังไกด์ได้”
ทั้งการอัดเสียงการตัดต่อและการอัปโหลดเสร็จสิ้นเสียที
และในคืนวันนั้น
“······โอ้โห นี่มันรถคันแรกของฉัน”
คังวูจินเพิ่งเลิกงานและได้มาพบกับรถคันแรกในชีวิตรถนำเข้าสีขาวจากบริษัท B ภายในตก แต่งด้วยสีน้ำตาลชเวซองกุนและทีมผู้จัดการกลับไปกันหมดแล้ว เหลือเพียงคังวูจินยืนอยู่ที่ลานจอดรถใต้ดินคนเดียว เขาจึงแสดงความดีใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“สุดยอดไปเลย แจ่มมาก ดูสีสิ ว้าววววว”
ไม่มีความแอ๊บเลยสักนิด วูจินเดินวนไปวนมาในรถสูดดมกลิ่นรถใหม่เอี่ยมและถุงพลาสติกที่ยังไม่ได้แกะด้วยความรู้สึกมันล้นอก
“บ้าไปแล้ว ฉันนึกว่าทั้งชีวิตนี้จะต้องเดินเท้าซะแล้ว”
ในที่สุดเขาก็ได้เป็น ‘เจ้าของรถนำเข้า’ อย่างที่ใคร ๆ พูดกัน ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยุ่งจนไม่มีเวลาไปลองขับก็เถอะ
“หรือว่าวันนี้นอนในรถเลยดี?”
ท่ามกลางความวุ่นวายที่แสนจะชุลมุนวุ่นวาย ความรู้สึกเบิกบานใจขนาดนี้ ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง ในตอนนี้ ยอดเงินในบัญชีของเขาก็กำลังเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ
ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ การมีบ้านเป็นของตัวเอง คงไม่ใช่แค่ความฝันอีกต่อไป
และแล้ว อีกไม่กี่วันต่อมา ในเช้าวันที่ 30 ที่โตเกียว
ชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ล็อบบี้ของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ท่ามกลางคนญี่ปุ่นมากมาย เขากลับดูโดดเด่นด้วยออร่าความเป็นเกาหลีอย่างประหลาด ชายหนุ่มสวมแว่นตาไร้กรอบ ใบหน้าฉายแววเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด
เขาคือ ยุนบยองซอน PDชื่อดังแห่งวงการบันเทิง
"ดูซิ... อาหารเช้านี่กินที่ไหนนะ"
ยุนบยองซอนบ่นพึมพำ มือก็ลูบท้องที่เริ่มส่งเสียงประท้วง ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องอาหาร เขาแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนเลยสักนิด ทั้งงานบริหารช่อง 'Sport Day' และงานเตรียมผลิตรายการวาไรตี้ใหม่ ทำให้เขาแทบจะไม่ได้หยุดพัก
การมาญี่ปุ่นครั้งนี้ก็เป็นเพราะรายการวาไรตี้รายการใหม่เช่นกัน
หลังจากเสร็จงานที่นี่ ในสัปดาห์หน้า เขาก็ต้องบินไปยุโรปกับทีมงาน เพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องสถานที่ถ่ายทำให้กับรายการวาไรตี้รายการใหม่ ตอนนี้ทีมงานได้นักแสดงครบหมดแล้ว เหลือเพียงแค่สถานที่ถ่ายทำที่จะช่วยดึงเสน่ห์ของนักแสดง แต่ละคนออกมาเท่านั้น
ยุนบยองซอนทานมื้อเช้าจนอิ่ม จึงเดินออกจากโรงแรม
- ตุบ!
เขาก้าวขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่ด้านหน้า พร้อมกับทีมงาน รถตู้ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากโรงแรมอย่างช้า ๆ ระหว่างที่รถกำลังแล่นอยู่บนท้องถนน ยุนบยองซอนเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์มือถือ ก่อนเอ่ยถามทีมงานด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"เราต้องย้ายที่พักกันได้แล้วใช่ไหม?"
"ใช่ค่ะ ก็คุณPDบอกว่าไม่ค่อยชอบโอซาก้าเท่าไหร่"
"อืม... ที่นั่นมันธรรมดาเกินไป"
"ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้เราย้ายไปเกียวโตกันดีไหมคะ"
"แล้วเรื่องรถขายอาหารล่ะ"
"ทีม 2 กำลังดู ๆ ไว้อยู่ค่ะ"
ยุนบยองซอนพยักหน้ารับเบา ๆ ใบหน้าครุ่นคิดอย่างจริงจัง เขาต้องคิดและตัดสินใจหลายอย่างเหลือเกิน ทันใดนั้นเอง...
- ซ่าาาาา
สายตาของเขาเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว เลื่อนไปสะดุดกับป้ายโฆษณาอันหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดตึก
“โอ้-”
PD ยุนบยองซอน อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อได้เห็นภาพโฆษณาที่ปรากฏ
“‘ผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยาเสเพล’ มีโฆษณาด้วยเหรอเนี่ย?”
เหล่าทีมงานคนอื่น ๆ หันไปมองตาม พลันนักเขียนบทคนหนึ่งก็เอ่ยปากขึ้นราวกับรู้ดี
“ตอนนี้ที่ญี่ปุ่น นิติจิตวิทยา กำลังฮิตนี่ครับ ป้ายโฆษณาแบบนี้ก็ไม่แปลก”
“งั้นก็แสดงว่า วูจิน กับ ฮเยยอน ก็ดังที่ญี่ปุ่นมากขึ้นด้วยสิ?”
“ก็น่าจะงั้นนะครับ ต้องลองเช็คดูอีกที แต่ถ้าเป็น ฮเยยอน เธอก็เป็นระดับท็อปอยู่แล้วนี่ครับ น่าจะเป็น วูจิน มากกว่าที่ดูเหมือนจะได้รับความนิยมขึ้น เห็นได้จากยอดคอมเมนต์ภาษาญี่ปุ่นที่พุ่งขึ้น ทั้งในวิดีโอ ‘Sport Day’ และในโซเชียลของ วูจิน”
แม้จะตามติดสถานการณ์ในญี่ปุ่นทั้งหมดไม่ไหว แต่ PD ยุนบยองซอนก็รู้กระแสในประเทศเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวคราวความเคลื่อนไหวของเหล่านักแสดงที่จะมาร่วมงานในรายการวาไรตี้ใหม่
PD ยุนบยองซอน ยิ้มมุมปาก
“ตอนนี้ วูจิน ฮวาลิน แล้วก็ ฮเยยอน สามคนนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงเลยสินะ”
“ครับ ทั้งเรื่อง ‘เพื่อนชาย’ ‘เกาะแห่งผู้สูญหาย’ แต่ที่เป็นประเด็นหนักที่สุด”
“ก็คือ วูจิน”
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดดูตารางนัดหมายที่แน่นขนัด
“ถึงเวลาที่เราจะประกาศทุกอย่างแล้วล่ะ”
PD ยุนบยองซอน พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ตั้งแต่ชื่อรายการ แนวคิด ไปจนถึงรายชื่อนักแสดง”
คืนวันเดียวกัน ณ ห้องพักของ คังวูจิน
ร่างสูงของคังวูจินก้าวลงมาจากรถตู้พร้อมกับสะพายเป้ใบโต บรรจุบทละครและข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว ใบหน้าของเขาเรียบนิ่งราวกับไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องใด แต่ภายในใจกลับ…
'เตียง เตียง เตียง!'
เขาคร่ำครวญถึงเตียงอันแสนสบาย ต่อมาวูจินก็พูดปิดท้ายเบา ๆ กับทีมงานในรถ
“ทุกคนทำงานกันเหนื่อยกันมากแล้วนะครับ”
ในตอนที่เขาหันหลังกลับไป
-แกร๊ก
ประตูฝั่งคนขับก็เปิดออก
“วูจิน”
ชเวซองกุนก้าวลงมาจากรถ เรื่องแปลกก็เกิดขึ้น เพราะนาน ๆ ทีเขาจะลงจากรถมาทักทายวูจิน แถมยัง...
“เอ่อ ซูฮวาน เยจอง เข้าไปก่อนเลย”
“แล้วท่านประธานล่ะครับ?!”
“แถวนี้มีธุระน่ะ นั่งแท็กซี่กลับก็ได้”
“ครับ!”
ชเวซองกุนมองตามรถตู้ที่จากไป ในมือของเขาถือแฟ้มใสอยู่ คังวูจินเอียงคออย่างสงสัย 'อะไรกันนะ? บรรยากาศวันนี้แปลกไปจากทุกที' วูจินถามชเวซองกุนที่เดินเข้ามาหาด้วยน้ำเสียงต่ำ
“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
ชเวซองกุนยิ้มมุมปากเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่รถนายมาส่งแล้วไม่ใช่เหรอ? ไปดูกันหน่อยสิ”
“... เชิญทางนี้ครับ”
“อ่า”
ถึงแม้จะรู้สึกแปลก ๆ แต่วูจินก็พาชเวซองกุนไปยังที่จอดรถสุดรักของเขา และเมื่อชเวซองกุนได้เห็นรถยนต์นำเข้าสีขาวที่เปล่งประกายก็ยกนิ้วโป้งให้
“โห สุดยอด ไปลองขับมาบ้างหรือยัง?”
“ยังเลยครับ ไม่มีเวลาขับไปไหนเลย”
“ก็นะ แต่ถ้าพักเมื่อไหร่นายต้องขับมันให้ตายไปข้างเลยล่ะ รถน่ะต้องทำให้มันเชื่องตั้งแต่แรก ๆ ถึงจะขับดีไปตลอด รู้ใช่ไหม?”
ทันใดนั้นชเวซองกุนก็ชี้ไปที่เบาะข้างคนขับ
“เปิดประตูหน่อยสิ ขอขึ้นไปดูหน่อย”
“······”
“...”
คังวูจินเดินเข้าไปใกล้รถ คู่หน้าก็เปิดออกพร้อมกับกระจกมองข้างที่ปรับเองโดยอัตโนมัติ คงเป็นเพราะกุญแจรถอยู่ในกระเป๋าเป้ของวูจิน ในไม่ช้าชเวซองกุนก็นั่งประจำที่ฝั่งคนขับ ส่วนวูจินขึ้นไปนั่งฝั่งคนขับ ชเวซองกุนเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาก่อน
“ยังไม่ได้แกะพลาสติกออกอีกเหรอ?”
“ไม่เห็นต้องแกะเลยครับ”
“ก็นั่นสินะ ฮ่า ๆ รถดีนี่! ว่าแต่ถ้าทำแบบนี้อีกสักปี นายก็น่าจะได้ขับรถที่แพงกว่านี้อีกหลายเท่าเลยล่ะ”
สายตาของชเวซองกุนที่กำลังสำรวจรถไปทั่วก็สบเข้ากับคังวูจินที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับ บนใบหน้าของวูจินไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ ซึ่งชเวซองกุนตีความได้ว่านี่เป็นสัญญาณให้เขาเริ่มพูดเรื่องจริงจังได้แล้ว
สีหน้าของชเวซองกุนที่กำลังเกาหัวอยู่ดูคลุมเครือ
“อืม วูจิน ลองดูนี่ก่อนสิ”
เขาส่งแฟ้มใสที่เตรียมมาให้วูจิน คังวูจินรับมาดูด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในแฟ้มมีกระดาษที่ปริ้นคอมเมนต์และโพสต์ต่าง ๆ อยู่ คังวูจินค่อย ๆ อ่านทีละแผ่น ๆ
ไม่นานวูจินก็รู้ตัว
‘อ๋อ นี่มัน’
ทั้งหมดนี้คือข้อความของคนรอบข้างในอดีตที่เขาแทบจะจำไม่ได้แล้ว มีไม่ต่ำกว่าสิบข้อความ บรรจุอยู่ในกระดาษทั้งหมด 4 แผ่น ในจำนวนนั้นมีคอมเมนต์ที่คังวูจินเคยเห็นอยู่ด้วย
‘มาถึงขั้นนี้แล้วเหรอ?’
หมายความว่าถึงเวลาที่คอนเซปต์ที่เขาพยายามรักษามาตลอดกำลังจะเริ่มเผยพิรุธออกมาแล้วนั่นเอง
แน่นอน วูจินก็เคยเห็นโพสต์แบบนี้บ่อย ๆ ตอนนั้นก็รู้สึกกังวลอยู่บ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี หลังจากนั้นวูจินก็เตรียมใจเอาไว้แล้ว ยิ่งมีคนรู้จักมากขึ้นเท่าไหร่ คนที่รู้ 'ตัวตนที่แท้จริง' ของเขาก็ต้องโผล่มาเรื่อย ๆ
'ก็นะ ฉันมันแค่ไอ้คนธรรมดา ๆ ที่ซ่อนอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์นั่นแหละ'
ที่แน่ ๆ คังวูจินในตอนนี้ที่ทั้งตัวตนที่แท้จริงและคอนเซ็ปต์หลอมรวมกันกับอดีตนั้นต่างกันราวฟ้ากับดิน ถึงขั้นที่พ่อแม่เห็นแล้วยังบอกว่าไม่ใช่ลูกฉัน เพราะแบบนี้โพสต์แบบนั้นถึงได้โผล่มาไม่หยุด
ถ้าคิดแบบง่าย ๆ แค่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนก็จบ
แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไปเลยก็ได้ ทำเป็นหน้าด้านเข้าไว้ นั่นแหละคือความเชี่ยวชาญของคังวูจินในตอนนี้
ณ จุดนี้เอง
"ในนั้นบางอันก็ถูกลบไปแล้ว บางอันก็ยังอยู่พวกเราแค่รวบรวมมาให้ดู มันมีตั้งแต่สมัยมัธยมต้น มัธยมปลาย ส่วนโพสต์จากคอมมูนิตี้พนักงานบริษัทก็น่าจะเป็นบริษัทออกแบบที่นายเพิ่งลาออกมาสินะ ดูเหมือนจะเป็นแหล่งที่มาใหญ่เลยด้วย"
"······"
"โพสต์พวกนี้มีมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่เมื่อนานมาแล้วจนถึงโพสต์ของคนที่เพิ่งรู้จักนาย อืม...โพสต์พวกนี้ไม่ได้จะขุดคุ้ยอดีตนายนะ แค่โพสต์แบบนี้มันไม่ได้มีเยอะมากก็จริง แต่มันก็มีมาเรื่อย ๆ ฉันก็เลยต้องมาเช็คกับนายก่อนไง บริษัทก็ต้องเตรียมพร้อมรับมือไว้ก่อน ถูกไหมล่ะ?"
ชเวซองกุนเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า
"จริง ๆ เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ หรอกนะ แต่มันก็มีมาเรื่อย ๆ เคสนายนี่ค่อนข้างแปลกหน่อยมี แต่คนบอกว่านายกลายเป็นคนละคนไปแล้วบลา ๆ ตลกชะมัด"
เขาหัวเราะออกมาอย่างขบขันปนเหลือเชื่อ
“เอ่อ... วงการนี้มันก็อย่างที่รู้กันใช่มั้ยล่ะ? ยิ่งถ้าไปให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้ มันจะต้องมีเรื่องวุ่นวายตามมาแน่ ๆ ถ้าพวกนักข่าวบันเทิงเอามันมาเล่นข่าวต่อ ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญได้เหมือนกัน พวกนี้ถนัดแต่งเรื่องกันอยู่แล้ว”
วิธีการของสื่อบันเทิงมันก็อย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
“ถึงมันจะไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่ช่วงนี้นายก็อยู่ในช่วงที่ค่อนข้างอ่อนไหวอยู่แล้ว ถ้ามีอะไรมาเติมเชื้อไฟเข้าไปอีก อาจจะเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นมาได้ ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมาจริง ๆ เราจะจัดการแบบไหนดี จะตอบโต้แบบรุนแรงไปเลยดี หรือจะปล่อยผ่านไป หรือว่าจะหาวิธีอื่น ๆ ฉันแค่อยากรู้ว่านายจะเอายังไง?”
เขาอธิบายพลางมองหน้าคังวูจินราวกับต้องการคำตอบ
“การที่ข่าวแบบนี้มันหลุดออกมาเนี่ย มันมีเหตุผลอื่นอีกรึเปล่า? แบบว่าจะมีมาเรื่อย ๆ อะไรแบบนี้? บอกมาตรง ๆ ได้เลยนะ”
คังวูจินครุ่นคิด 'หรือว่า... เราควรจะบอกความจริงกับเขาก็ดีนะ? '
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาต้องต่อสู้กับเรื่องราวต่าง ๆ มาเพียงลำพังเสมอมา ความจริงแล้ว เบื้องหลังเปลือกนอกที่ทุกคนเห็น มันมีอะไรซ่อนอยู่มากมาย ณ ตอนนี้ ชเวซองกุนอยู่ข้างเขา 100%
ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถของผู้ชายคนนี้... มันเหนือจินตนาการสุด ๆ
'ถึงคนอื่นจะไม่รู้ แต่ถ้าเป็นเขาล่ะก็น่าจะบอกไปก็ดี 'การที่จู่ ๆ เรื่องราวมันเปิดเผยออกมาแบบนี้ มันก็ยากที่จะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนต่อไปได้ 'เอาเถอะ...'
'เล่าเรื่อง 'การแสดง' ไปตามความจริงก็แล้วกัน เล่าแค่ว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไง'
คังวูจินหายใจเข้าเบา ๆ หัวใจเต้นรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเมื่อคิดจะเอ่ยปาก แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจพูดออกไป
“คุณซองกุนครับ ที่จริงแล้ว... ตลอดเวลาที่ผ่านมา... ผม แสดง... เอ่อ... แสดงมาตลอดเลยครับ”
ทันทีที่ได้ยินดังนั้น ดวงตาของชเวซองกุนก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
“······ ไม่จริงใช่ไหม ที่ผ่านมา นายแกล้งทำเป็นคนธรรมดาเรื่อยมาเนี่ย?”
“ใช่ครับ”
เอ๋? เดี๋ยวก่อนสิ คังวูจินเพิ่งตอบไป ก็รู้สึกได้ว่ามันแปลก ๆ ‘แกล้งทำเป็นคนธรรมดา?’ ทันใดนั้นชเวซองกุนก็เอามือข้างหนึ่งปิดหน้าตัวเอง แล้วถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ สุดยอดเลยนะ นี่นายใช้ชีวิตทั้งชีวิตมาฝึกฝนการแสดงงั้นสิ?”
บนใบหน้าเรียบเฉยของคังวูจินมีเครื่องหมายคำถามผุดขึ้นมา
‘เอ๋?’
เพราะความรู้สึกที่เขาพูดออกไปมันถูกบิดเบือนไปอย่างสิ้นเชิง
จบ