ทุกคนเปลี่ยนอาชีพ : แต่นักฝึกมังกรกากสุดงั้นเหรอ? ตอนที่ 17 ร่วมมือในแดนลับ
ลู่ฟานอดไม่ได้ที่จะประทับใจ เขาได้เจอคนใหญ่คนโตของจริง
ฉินชางไห่ เทศมนตรีแห่งเมืองเจียงไห่นั้นเป็นคนดังของเมืองเจียงไห่
ไม่เพียงแต่จะเป็นผู้ทรงอำนาจเหนือสุดในเมืองเจียงไห่ แต่เขายังเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดด้วย ว่ากันว่าเขาเป็นอัศวินเลเวล 54 และกำลังจะถึงระดับสาม
ไม่เป็นการกล่าวเกินจริงเลยว่าตระกูลฉินนั้นเป็นตระกูลใหญ่ที่สุดในเมืองเจียงไห่
ซุนเก้อบอกที่มาของกลุ่มพวกเขาโดยตรงโดยมีความตั้งใจว่าจะใช้ตัวตนของเขาเพื่อขมขู่ลู่ฟาน เพราะอย่างไรก็ไม่มีใครในเมืองเจียงไห่ที่กล้าจะทำให้ตระกูลฉินไม่พอใจ
แต่สำหรับลู่ฟานนั้น ตัวตนของอีกฝ่ายทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อยเท่านั้น
เพราะลู่ฟานในตอนนี้มีเสี่ยวเย่แล้ว และเขาก็มีศักยภาพไข้ขีดจำกัดในอนาคต ซึ่งมันเทียบไม่ได้กับตระกูลฉินเล็ก ๆ นี้เลย
หลังจากซุนเก้อปล่อยมือ เขาพูดกับลู่ฟาน
“น้องชาย ขอพูดตามตรงนะ”
“พวกเรามาจากตระกูลฉิน เราเดินทางในครั้งนี้ก็เพื่อจะติดตามคุณหนูฉินมาเก็บเลเวลและเตรียมการสอบใหญ่”
“แต่เมื่อไม่นานนี้ เราได้เจอแดนลับแห่งโอกาส แดนลับแห่งโอกาสนี้ต้องการแปดคนเข้าไป แล้วเราก็ขาดหนึ่งคนพอดี”
“การมาของน้องชายถือเป็นประสงค์ของพระเจ้า”
“เราจะให้หนึ่งแสนเหรียญมังกรเพื่อชวนน้องชายเข้าทีม เติมคนที่ขาดของเราในแดนลับครั้งนี้ ในแดนลับ น้องชายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ทุกการต่อสู้พวกเราจะเป็นคนจัดการ แม้แต่วัตถุดิบในแดนลับก็จะเป็นของน้องชายด้วย”
“คิดว่าไงล่ะ? โอกาสแบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ หรอกนะ”
ว่ากันตามตรรกะแล้ว ซุนเก้อใช้ตัวตนของเขาและเสนอเงื่อนไขที่มีน้ำใจต่ออีกฝ่ายอย่างมาก เป็นอะไรที่นักล่าวัตถุดิบทั่วไปไม่มีทางจะได้รับ
เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นโอกาสหาเงินฟรี ๆ และยังสร้างมิตรกับตระกูลฉินได้ด้วย สำหรับนักล่าสมบัติแล้ว นี่คือเรื่องดีที่เกินฝันด้วยซ้ำไป
แต่ลู่ฟานส่ายหน้า ซึ่งเกินความคาดหมายของซุนเก้อ
“ผมไม่ได้สนใจเรื่องเงินหรือวัตถุดิบหรอก แต่ผมสนใจรางวัลสุดท้ายของแดนลับมากกว่า”
หลังลู่ฟานพูดจบ ไค่เอ๋อที่อยู่หลังซุนเก้อก็พูดออกมาด้วยความแค้นอย่างอดทนไม่ได้
“นี่ อย่าให้มันมากนัก! แกเป็นแค่คนที่มาเติมให้ครบเท่านั้น เราให้เงินทั้งมากมาย เงื่อนไขนี้ก็นับว่ามีน้ำใจแล้ว กล้าดียังไงถึงมาต่อรอง?”
ซุนเก้อโบกมือส่งสัญญาณให้ไค่เอ๋อไม่พูดไร้สาระและไม่ทำให้ลู่ฟานรำคาญ ถ้าหากอีกฝ่ายกลับไปตอนนี้ พวกเขาจะมีเหลือโอกาสเข้าแดนลับอีก
ฉินฉิวที่เงียบมาโดยตลอดดั่งสาวน้อย แต่คำพูดของเธอสำคัญมาก
“เราให้สิ่งตอบแทนนายฟรี ๆ ไม่ได้หรอก”
“แต่นายจะเลือกเงื่อนไขอื่นก็ได้ ถ้ามันไม่มากเกินไป เราจะพยายามทำให้ได้”
หลังจากหยุดพูด ฉินฉิวพูดอย่างจริงจัง
“ถึงเราจะต้องการความช่วยเหลือ แต่อย่าโลภให้มากนัก”
ลู่ฟานแตะจมูกและรู้ว่าถ้าเรื่องนี้เจรจากันไม่จบ มันจะมีแต่เสียทั้งสองฝ่าย
ลู่ฟานยิ้มพูด
“ทุกท่านใจดีเกินไปแล้ว”
“ที่ผมหมายถึงก็คือ ผมไม่อยากจะเป็นแค่คนเติมจำนวน แต่อยากจะผ่านแดนลับไปด้วยกันต่างหาก”
“คิดว่าทุกท่านคงรู้กฎของการทำงานร่วมกันผ่านแดนลับใช่ไหม? ตามจำนวนระดับของการฟื้นฟูและการสร้างความเสียหายน่ะ หลังจากเคลียร์แดนลับแล้วเราจะเลือกทางวัลแดนลับตามลำดับจากน้อยไปมาก”
“นายอยากจะร่วมมือกับพวกเราที่แดนลับเหรอ?”
ฉินฉิวแปลกใจเล็กน้อย
ลู่ฟานพยักหน้า
“หมายความแบบนั้นแหละ”
ฉินฉิวมองซุนเก้อ สีหน้าซุนเก้อเองก็แสดงความแปลกใจออกมาเล็ก ๆ แต่เขาก็แอบพยักหน้าให้ฉินฉิว ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นด้วยกับลู่ฟาน
พวกเขาส่วนใหญ่รู้กฎของการร่วมมือผ่านแดนลับและดันเจียนอย่างที่ลู่ฟานพูด หลังจากผ่านแดนลับแล้วเหล่าผู้เล่นจะถูกจัดอันดับตามความเสียหายและการฟื้นฟูที่ลงมือไป และผู้เล่นที่มีส่วนร่วมเยอะที่สุดจะได้รับรางวัลก่อน
วิธีนี้ยุติธรรมเป็นอย่างมาก แต่สำหรับซุนเก้อนั้นมันเป็นประโยชน์กับพวกเขาเสียมากกว่า
เพราะซุนเก้อมีเลเวลที่สูงมากและฉินฉิวเองก็มีอาชีพลับ ดูจากลักษณะตัวละครของพวกเขาแล้ว ทั้งการสร้างความเสียหายและการฟื้นฟูรวมกันจะต้องนับว่าสูงมาก และเขาสองคนจะได้สองอันดับแรกแน่นอน
ส่วนคนอื่นนั้นมีเลเวลราว 20 และยังมีอาชีพที่สร้างความเสียหายได้สูงอย่างจอมเวทย์และนักธนู
ลู่ฟานเป็นแค่นักล่าวัตถุดิบ ถ้าเขาอยากจะมีส่วนร่วมในแดนลับจริง อย่างดีเขาก็ได้แค่อยู่ในห้าอันดับแรก
แดนลับนั้นจะมีรางวัลเพียงแค่สามถึงสี่อย่าง และฉินฉิวกับคนอื่นอาจจะได้รางวัลทั้งหมดไปก็ได้
ซุนเก้อประเมินว่าลู่ฟานอาจจะรู้สึกว่าเขาล่าสัตว์ป่าและเก็บวัตถุดิบคนเดียวมามากมายในทุ่งภูเขา ดังนั้นเขาจึงมั่นใจในตัวเองมากเกินไป
แต่เขาไม่รู้เลยว่าเขาคิดผิดทั้งหมด ถ้าหากมองให้ดีแล้ว เขาอาจจะไม่อยู่ในห้าอันดับแรกของทีมเลยก้ได้
หลังจากการเหลือบมองกันระหว่างฉินฉิวและซุนเก้อ พวกเขาตกลงตามคำขอของลู่ฟาน
“เอาล่ะ ถ้านายอยากจะเคลียร์แดนลับด้วยกันแบบร่วมมือ เราก็มาร่วมมือกันเถอะ”
ฉินฉิวอาจจะดูใจดีในตอนนี้และไม่อยากให้ลู่ฟานเข้ามาทำแบบนี้ เพราะเขาอาจจะไม่ได้อะไรติดมือกลับไปเลย
หรือบางทีพวกเขาอาจจะกลัวว่าลู่ฟานที่ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปเลยจะสร้างปัญหาของพวกเขา พวกเขาเลยพูดเสริม
“แต่เรื่องเงินหนึ่งแสนที่เราสัญญา เราจะให้นายเหมือนเดิม”