ทุกคนเปลี่ยนอาชีพ : แต่นักฝึกมังกรกากสุดงั้นเหรอ? ตอนที่ 16 เติมจำนวน
ที่จริงแล้วลู่ฟานค่อนข้างเขินอาย
แม้ว่าเสี่ยวเย่ ตัวตนอันสุดยอดจะทำให้ลู่ฟานเก่งขึ้น ลู่ฟานกลับทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์น่าอายหลังจากต่อสู้ตามหาพิกัดของลายแทงสมบัติ
ในวันที่ผ่านมา แต่ได้ต่อสู้กับสัตว์ป่าดุร้ายเพื่อสั่งสมประสบการณ์การต่อสู้ ร่างกายของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยบาดแผลและมีเลือดมากมายราวกับขอทาน
“เขาน่าจะเป็นนักล่าวัตถุดิบใช่ไหม?”
ซุนเก้อจ้องลู่ฟานพร้อมขมวดคิ้ว
“แต่ที่นี่มันใกล้กับส่วนลึกของทุ่งภูเขา แล้วเขายังมาตามลำพังไม่มีพรรคพวกงั้นหรือ?”
ลู่ฟานดูเหมือนกับนักล่าวัตถุดิบ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะถูกสงสัยว่าเป็นนักล่าวัตถุดิบ
นักล่าวัตถุดิบนั้นไม่มีชื่อเสียงที่ดีนัก เพราะใครก็ตามที่ทำงานนี้นั้นเป็นพวกทำเพื่อเงิน นักล่าวัตถุดิบหลายคนปล้นและฆ่าในป่าเพื่อทำเงิน ซึ่งนั่นทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาไม่ดีนัก
ดังนั้น คนอย่างซุนเก้อที่ถูกเลี้ยงโดยตระกูลใหญ่มักจะดูถูกพวกนักล่าวัตถุดิบอยู่เสมอ
แต่ฉินฉิวกลับตาลุกวาว เธอดึงชายเสื้อของซุนเก้อและพูด
“ลุงเก้อ เรารับเขามาอยู่กับเราชั่วคราวให้คนพอดีได้ไหม?”
“ถ้าเป็นแบบนั้นเราก็จะเข้าแดนลับแห่งโอกาสได้…”
“รับนักล่าวัตถุดิบมากับพวกเราเรอะ?”
ซุนเก้อขมวดคิ้วแน่นยิ่งกว่าเดิม เขาไม่อยากจะติดต่อกับพวกนักล่าวัตถุดิบเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นว่าซุนเก้อไม่เห็นด้วยและลู่ฟานก็กำลังจะจากไป ฉินฉิวรีบพูด
“เขามาแค่คนเดียวเองนะ ต่อให้เขาคิดร้าย มันก็ยากที่เขาจะทำอะไรพวกเราได้”
“แต่โอกาสที่ได้มาเจอแดนลับนั้นไม่ง่าย บางดีเราอาจจะได้อาวุธทองในแดนลับก็ได้! คงน่าเสียดายถ้าเราพลาดมันไป…”
ซุนเก้อเองก็คิดแบบเดียวกัน
เขาคิดว่าลู่ฟานไม่ได้อายุมากนักและเลเวลเขาก็ไม่สูง
ต่อให้คนประเภทนี้ไม่ใช่คนดี มันก็ไม่ยากที่จะคุมตัวเขา
อย่างเลวร้ายที่สุดเขาก็แค่ต้องระวังตัวมากกว่าเดิมและจับตาดูเขาอย่างใกล้ชิดในแดนลับ ปล่อยให้เขาเป็นจำนวนคนที่พอดีกับเงื่อนไขเข้าแดนลับเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ดูจากฐานะของตระกูลฉินในเมืองเจียงไห่ นักล่าวัตถุดิบธรรมดา ๆ หน้าไหนจะกล้าพอต่อต้านตระกูลฉินเล่า?
ดังนั้นซุนเก้อจึงพยักหน้า
“คุณหนูพูดถูก ถ้างั้น ไค่เอ๋อ ไปคุยกับนักล่าวัตถุดิบคนนั้นที บอกเขาว่าเราจะให้เขาแสนหยวนและให้เขามาเป็นคนเข้าร่วมแดนลับกับเรา เขาจะตกลงไหม?”
“เข้าใจแล้ว”
ไค่เอ๋อพยักหน้าและใช้สกิลอาชีพมือสังหารวิ่งเร็วออกไป ค่าสถานะความคล่องแคล่วของเธอเพิ่มขึ้นและวิ่งไปทางลู่ฟานด้วยความเร็วสูง
ค่าสถานะของลู่ฟานนั้นสูงมาก เขาจึงสัมผัสได้อยู่แล้วว่ามีบางคนในกลุ่มนั้นกำลังไล่ตามเขาอยู่ เขาหยุดและหันกลับไปถามทันที
“คิดจะทำอะไรน่ะ?!”
ไค่เอ๋อหยุดที่ห่างจากเขาสิบเมตรและยกมือขึ้นบอกว่าเธอไม่ได้มาร้าย
“ไม่ต้องกลัวนะน้องชาย”
“ชั้นมาตกลงธุรกิจกับนายแทนคุณหนูน่ะ”
“ธุรกิจอะไร?”
ลู่ฟานถาม
ไค่เธอตอบ
“เราจะให้นายแสนหยวนเพื่อให้นายเข้าร่วมทีมกับเราและช่วยเราเข้าไปที่นั่น นายไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ตามพวกเรามาก็พอ พองานจบแล้วจะได้เงินทันที คิดว่าไง?”
ไค่เอ๋อยิ้มและพูดต่อ
“ตามเรามาแล้วก็ได้แสนหยวน แบบนี้มันดีสำหรับนักล่าวัตถุดิบเลยใช่ไหม?”
“แสนหยวนเพื่อเพิ่มจำนวนคนงั้นเหรอ?”
ลู่ฟานเดาความตั้งใจของอีกฝ่ายได้ในทันที เขายิ้มตอบ
“เจอแดนลับที่ระบุจำนวนคนเข้าใช่ไหม?”
ไค่เอ๋อไม่ตอบ ซึ่งเป็นการสื่อว่าเป็นเรื่องจริง
เพราะสำหรับเรื่องแบบนี้ ยิ่งเธอพูดคลุมเครือมากเท่าใด มันก็เป็นธรรมดาที่ลู่ฟานจะคาดเดา
ลู่ฟานไม่ได้สนใจเงินแสนหยวน แต่เขาค่อนข้างสนใจรางวัลของการผ่านแดนลับ
เขาไม่คิดเลยว่าในตอนที่เขามาตามหาสมบัติ เขาจะได้เจอกับทีมที่มีคนพอจะเข้าแดนลับ
ลู่ฟานคิดครู่หนึ่งและพูด
“ใครเป็นคนตัดสินใจในทีมคุณล่ะ? พาไปเจอเขาหน่อยสิ”
ไค่เอ๋อรู้สึกว่าลู่ฟานจะข้ามหัวเธอไปคุยกับซุนเก้อโดยตรง ซึ่งนับว่าเป็นการหยามเกียรติของเธอ
แต่เธอไม่มีทางเลือกนอกจากกัดฟันพูด
“ก็ได้ ตามมา”
ลู่ฟานตามไค่เอ๋อมาหาพวกฉินฉิวและคนอื่น ๆ ไค่เอ๋อกลับมาหาทีมและกระซิบข้างหูซุนเก้อและฉินฉิว เธอบอกว่านักล่าวัตถุดิบคนนี้น่าจะสนใจเรื่องแดนลับและค่อนข้างโล�
ซุนเก้อพยักหน้าไม่ส่งเสียงและเป็นฝ่ายเดินออกมาหาลู่ฟานก่อนพร้อมกับยื่นมือ
“สวัสดี ขอแนะนำตัว ชั้นชื่อซุนเก้อ หัวหน้าคณะเดินทางตระกูลฉินในเมืองเจียงไห่”
“ตระกูลฉินรึ?”
ลู่ฟานเหลือบมองเขา คิดครู่หนึ่ง และยื่นมือออกไปจับกับซุนเก้อ
“เป็นตระกูลฉินของฉินชางไห่ เทศมนตรีเมืองเจียงไห่ใช่ไหม?”
ซุนเก้อยิ้มด้วยความเย่อหยิ่ง
“ใช่ ตระกูลฉินตระกูลนั้นนั่นแหละ”