ทุกคนเปลี่ยนอาชีพ : แต่นักฝึกมังกรกากสุดงั้นเหรอ? ตอนที่ 15 แดนลับแห่งโอกาส
นอกจากเธอแล้วคนอื่นมีทั้งหญิงและชาย มีคนที่แก่กว่าสักหน่อย ส่วนใหญ่อายุราวยี่สิบปีและสวมชุดที่เหมือนกับดอกไม้
ชายวัยกลางคนคนหนึ่งมีดาบสองมือที่หลังและเป็นผู้เปลี่ยนอาชีพเลเวลสูง แม้จะไม่รู้เลเวลของเขา ลู่ฟานก็เดาได้ว่าเขาจะต้องมีเลเวลมากกว่า 20 แน่นอน
ดูจากเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว พวกเขาต้องไม่ใช่นักล่าวัตถุดิบแน่นอน น่าจะเป็นเด็กสาวคนนั้นที่เพิ่งจะเปลี่ยนอาชีพ และครอบครัวก็ส่งยอดฝีมือมาปกป้องในตอนที่เธอมาเก็บเลเวลในทุ่งภูเขาเพื่อเตรียมสอบใหญ่
ลู่ฟานคิดและตัดสินใจเก็บเสี่ยวเย่ในพื้นที่เก็บสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
มิใช่ว่าลู่ฟานขี้ขลาด แต่มันเป็นเพราะเขาไม่รู้ตัวตนของคนเหล่านั้น ทั้งเลเวล กำลังของกลุ่มทั้งหมด มันคงไม่ฉลาดถ้าเปิดเผยความจริงที่ว่าเขามีมังกรเร็วเกินไป
เดิมทีลู่ฟานคิดจะรอจนกว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะไปก่อนที่เขาจะหาสมบัติด้วยตัวเอง
ในพื้นที่ป่าแบบนี้ เป็นการดีที่จะหลีกเลี่ยงการติดต่อกับมนุษย์อื่นถ้าเป็นไปได้
แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปในเร็ว ๆ นี้เลย พวกเขาอยู่กับที่ดูเหมือนจะพักและหารืออะไรบางอย่าง
ลู่ฟานหมดความอดทนและเดินลงเขาตั้งใจจะหาสมบัติและกลับ
ในตอนนี้ เขาเดินมาถึงตีนเขา
ฉินฉิวมีคทาในมือ ใบหน้าน่ารักเต็มไปด้วยความผิดหวังและเป็นกังวล
“ลุงเก้อ เราจะพลาดโอกาสดีแบบนี้จริงเหรอ?”
“ลุงเก้อ” ที่เธอพูดถึงมีชื่อว่าซุนเก้อ เขาคือชายวัยกลางคนที่มีดาบสองมือที่ลู่ฟานให้ความสนใจเป็นพิเศษ
เขามีเลเวลสูงและแข็งแกร่งที่สุดจากทุกคน และเขายังเป็นศูนย์กลางของคนทั้งหมดด้วย
เมื่อเจอกับคำถามของเด็กสาว ซุนเก้อยิ้มหน้าหมอง เขาลูบเคราที่สั้นจนเหลือแต่ตอแข็ง
“คุณหนู เราทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ”
“แดนลับแห่งโอกาสต้องการคนอย่างน้อยแปดคนและเรามีแค่เจ็ดคน ไม่มีทางที่เราจะเข้าไปได้เลย”
ฉินฉิวขมวดคิ้วและคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“แล้วถ้าเราให้พี่ไค่เอ๋อที่เร็วที่สุดกลับไปที่เมืองเจียงไห่แล้วเรียกคนเก่ง ๆ มาล่ะ…”
ผู้หญิงสวมเกราะหนังที่ดูธรรมดา ๆ ส่ายหน้าและราดน้ำเย็นใส่ฉินฉิว
“แบบนั้นก็ไม่ได้หรอก”
“ที่นี่ไกลเกินไปจากเมืองเจียงไห่ ถึงจะเป็นฉันก็ต้องใช้เวลาเกินหนึ่งวันทั้งไปและกลับ”
“สิ่งที่เรียกว่าแดนลับแห่งโอกาสนี้มันจะสุ่มเกิดที่ไหนก็ได้ในป่า ถ้าไม่มีคนเข้าไป มันก็จะหายไปและไปปรากฏที่อื่นต่อ”
“หรือก็คือ ถ้าเราจะกลับไปขอความช่วยเหลือที่เมืองเจียงไห่และเข้ามาที่แดนลับ เราจะกลับมาไม่ทันเวลาแน่”
“ถ้าเป็นแบบนั้น…”
ฉินฉิวพูดไม่ออก
นานกว่าที่เธอจะถอนหายใจยาวออกมา
แดนลับนั้นเหมือนกับดันเจียน
แต่ว่ามันต่างจากดันเจียน พูดโดยรวมนั้นดันเจียนจะถูกเล่นกี่ครั้งก็ได้เมื่อมันปรากฏ ถ้าโชคดีพอก็จะได้อุปกรณ์สวมใส่มาเป็นรางวัล แต่มันก็ยากที่จะได้เจอกับสิ่งที่ดี
ส่วนแดนลับนั้นต่างออกไป แม้ว่ามันแทบจะเหมือนกับดันเจียน แต่อัตราการได้รับรางวัลใหญ่ของแดนลับนั้นเหนือกว่าดันเจียนเป็นอย่างมาก
มีทั้งอุปกรณ์สวมใส่คุณภาพสูง หนังสือสกิล หรือสิ่งมีค่าที่รอคอยการถูกค้นพบ มันแทบจะทำให้ผู้เปลี่ยนอาชีพกลายเป็นคนละคนได้เลย
ดังนั้นการได้มาเจอกับแดนลับ โดยเฉพาะแดนลับที่ปรากฏแบบสุ่มนั้นไม่ต่างกับการได้เจอเงินหล่นบนพื้น
ใครกันจะทนเห็นเงินบนพื้นแต่ก้มลงไปเก็บไม่ได้เพราะคนไม่พอ?
เมื่อเห็นฉินฉิวผิดหวัง ซุนเก้อยิ่งต้องเปิดใจและปลอบใจเธอ
“คุณหนูไม่ต้องห่วง ด้วยความสามารถที่คุณหนูมี คุณหนูจะต้องได้ตำแหน่งแชมป์เมืองเจียงไห่มาครองแน่ ต่อให้จะเป็นทางใต้ คุณหนูจะต้องได้เป็น 20 อันดับแรกแน่นอน”
“แล้วคุณหนูยังเป็นอาชีพลับ คุณหนูจะต้องเลือกสถาบันใดก็ได้ในสถาบันที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิบ ถ้าได้เข้าสถาบันที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิบแล้วสถาบันจะเตรียมแดนลับให้คุณหนูได้สำรวจอีกเยอะ”
“ลุงเก้อ ชั้นรู้ทุกอย่างแล้ว…”
ฉินฉิวส่ายหน้าและยิ้มอย่างขมขื่น
“ลุงเก้อพูดถูก ถ้ามันไม่ได้เป็นของชั้น ชั้นจะไม่ฝืน ถ้าเราเข้าไปยังแดนลับแห่งโอกาสตรงนี้ไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ…”
เมื่อเห็นว่าคุณหนูทำใจปล่อยมันไปได้ ซุนเก้อกำลังจะพูดคำปลอบใจเพิ่ม แต่ด้วยสัญชาตญาณของนักรบมันทำให้เขาตึงเครียดและเอื้อมมือไปจับด้ามดาบสองมือของเขาและมองไปยังทิศทางหนึ่งพร้อมกับตะโกน
“ใครน่ะ?!”
ทุกคนตกใจและหยิบอาวุธของตัวเองขึ้นมาคุ้มกันให้ฉินฉิวอยู่ตรงกลาง
ลู่ฟานไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสอบสนองอย่างรุนแรงแต่เขาก็ไม่สนใจ เขาเดินออกมาช้า ๆ และพูดเสียงดัง
“ไม่ต้องห่วง แค่ผ่านทางมาน่ะ”
ผ่านทางมาเรอะ?!
ซุนเก้อและคนอื่นล้วนตกตะลึงเมื่อเห็นคนประหลาดอย่างลู่ฟานเดินออกมาในพื้นที่เปิดที่ห่างจากพวกเขาเพียง 20 เมตรและหยุดลงครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปข้างหน้าโดยไม่แม้แต่มองพวกเขา ดูเหมือนว่าเขาเพียงแค่ผ่านทางมาและกำลังจะจากไป