ตอนที่ 268 ค่ายกลหวู่เซิน (ฟรี)
ตอนที่ 268 ค่ายกลหวู่เซิน
หลังจากที่หลงหยิงได้ยินคำพูดของกวงลู่ เขาก็ไม่ลังเลเลยอีกต่อไป และหยิบตราอันหนึ่งที่เปล่งแสงสีทองออกมา แล้วบุกเข้าไปในม่านพลังที่ขวางกั้นจวนขององค์รัชทายาทเอาไว้
หลังจากเห็นเหตุการณ์นี้ ขุนนางทุกคนที่กำลังมองดูอยู่ก็ตกตะลึง และพวกเขาก็แทบจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
นั่นคือตราต้าเฉียน หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของจักรวรรดิต้าเฉียน มันอยู่ในมือของจักรพรรดิต้าเฉียนมาโดยตลอด เป็นสิ่งที่ใช้กักเก็บโชคชะตาของจักรวรรดิ!
มีตราต้าเฉียนทั้งหมด 9 อันเท่านั้น พวกมันเป็นอาวุธวิเศษชั้นยอดที่ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิองค์แรกของจักรวรรดิต้าเฉียน ด้วยการหลอมรวมของโชคชะตา!
ตราทั้งเก้านี้เป็นอาวุธวิเศษอันดับต้นๆ ของโลกปาหวง และยังสามารถกักเก็บโชคชะตาได้อีกด้วย มันมีพลังมหาศาล และเป็นอาวุธวิเศษที่หาตัวจับได้ยาก
หากนำตราทั้งเก้ามารวมกัน พวกมันจะสามารถอยู่เหนืออาวุธเซียนสวรรค์ได้ ซึ่งมีพลังมากกว่าอาวุธเซียนสวรรค์ถึงสามเท่า ซึ่งเทียบได้กับสมบัติประจำสำนักของสิบดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เมื่อจักรวรรดิต้าเฉียนก่อตั้งขึ้น มีเพียงเก้ามณฑล ดังนั้นจึงมีเพียงเก้าตราเท่านั้นที่ถูกหลอมขึ้น ในปีต่อๆ ไป อาณาเขตของจักรวรรดิต้าเฉียนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดสถานการณ์ปัจจุบันที่มีมากถึงสิบสามมณฑล
อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าวิธีหลอมสร้างตราต้าเฉียนได้สูญหายไปแล้ว ดังนั้นตราที่อยู่ในมือจักรพรรดิต้าเฉียนองค์ต่อๆ มาจึงมีจำนวนเท่าเดิม
นี่เป็นสิ่งที่กักเก็บโชคชะตาของจักรวรรดิต้าเฉียน แม้แต่ตัวจักรพรรดิเองก็ต้องปกป้องมันอย่างระมัดระวัง ท้ายที่สุด หากตราสูญหาย โชคชะตาของจักรวรรดิต้าเฉียนก็จะต้องได้รับผลกระทบ!
นั่นทำให้เมื่อทุกคนเห็นหลงหยิงหยิบตราต้าเฉียนออกมา พวกเขาจึงตกใจมาก
จักรพรรดิต้าเฉียนต้องไว้วางใจในตัวหลงหยิงมากเพียงใดถึงได้มอบตราต้าเฉียนให้เขาเก็บรักษาเอาไว้
เกรงว่าจะมากกว่าความไว้วางใจระหว่างบิดา และบุตรเสียอีก!
“ดูเหมือนว่าข้าจะต้องพยายามอย่างเต็มเพื่อที่จะทำให้เขาพอใจในอนาคต น่าเสียดายที่เขามักจะเป็นเหมือนมังกรไม่เห็นหาง เว้นแต่จะถูกเรียกเข้าเฝ้า เขาก็แทบไม่ปรากฏตัวเลย” ขุนนางบางคนหรี่ตาเล็กน้อยแล้วจึงพูดกับตัวเองในใจ
“ไม่จำเป็นให้ข้าเก็บรักษา ขอแค่ให้ข้าได้สัมผัสตาต้าเฉียนสักครั้ง ข้าก็ตายโดยไม่เสียใจแล้ว!” ขุนนางอีกคนมองไปที่หลงหยิงด้วยความอิจฉา
ตราอันนี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของสถานะเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความไว้วางใจของจักรพรรดิ สิ่งนี้จะไม่ทำให้ทุกคนรู้สึกอิจฉาริษยาได้อย่างไร
ไม่นาน ร่างของหลงหยิงก็หายไปอย่างรวดเร็ว และเขาก็เข้าไปในจวนขององค์รัชทายาทโดยตรง
ต้นกำเนิดของหลงหยิงเป็นความลับมาก ยกเว้นขุนนางขั้นหนึ่งเพียงไม่กี่คน ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา แม้แต่ฉินเฉิงเย่ก็ไม่รู้ว่านี่คือ ร่างโคลนของจักรพรรดิต้าเฉียน
หลังจักรพรรดิต้าเฉียนเดินเข้าไปในจวน เขาก็ได้เห็นเหตุการณ์บนท้องฟ้า
ห้าสัตว์เทพได้ผนึกกำลังกัน โดยพยายามต่อสู้กับพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์!
“นี่มัน...ทัณฑ์สวรรค์?” เมื่อจักรพรรดิต้าเฉียนเห็นสิ่งนี้ ดวงตาของเขาหดตัวลงเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดด้วยสีหน้าหวาดกลัว
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ค่ายกลหวู่เซินถูกกระตุ้น เป็นเพราะทัณฑ์สวรรค์นี่เอง!
เขามีชีวิตอยู่มาหลายปีแล้ว แต่ความเข้าใจเกี่ยวกับทัณฑ์สวรรค์นั้นพบเห็นแค่ในบันทึกโบราณเท่านั้น และเขาไม่เคยเห็นมันด้วยตาของเขาเอง
ดังนั้น เขาจึงอยากรู้เกี่ยวกับทัณฑ์สวรรค์มากกว่าจะเป็นความกลัว
จักรพรรดิต้าเฉียนถอนสายตาออกไป แต่เมื่อเขาเห็นภายในจวนที่ยุ่งวุ่นวาย สีหน้าของเขาก็มืดลง
มีศพอยู่มากมายบนพื้น และแต่ละศพก็เป็นใบหน้าที่คุ้นเคยสำหรับเขา
นี่คือ เสาหลักของจักรวรรดิต้าเฉียน เป็นใครกันที่ฆ่าพวกเขาเหล่านี้!
จักรพรรดิต้าเฉียนบังคับระงับความโกรธในใจ จากนั้นมองไปที่ฉินเฉิงเย่ด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล หลังจากที่เขายืนยันได้ว่าบุตรชายไม่ได้เป็นอะไร ในที่สุดเขาก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
คนเหล่านั้นตายก็ถือเป็นโชคร้าย มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ตราบใดที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับบุตรชายของเขาก็พอ
จักรวรรดิต้าเฉียนไม่เคยขาดแคลนขุนนาง แต่ไท่จื่อมีเพียงคนเดียวเท่านั้น จึงไม่อาจเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้เป็นอันขาด มิฉะนั้น แม้แต่รากฐานของจักรวรรดิต้าเฉียนก็จะสั่นคลอน!
ทันทีที่ร่างของหลงหยิงปรากฏขึ้น ลู่ซุนก็มองมา
แสงสีทองจางๆ ส่องประกายในดวงตาของเขา และเขามองผ่านโฉมหน้าที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่หลังหน้ากากของหลงหยิง รวมถึงโชคชะตาที่ยิ่งใหญ่อย่างหาใดเปรียบ และพลังมังกรในตัวอีกฝ่าย
“ชายคนนี้ควรจะเป็นจักรพรรดิต้าเฉียนองค์ปัจจุบัน เขาดูไม่ธรรมดาเลยจริงๆ” หลังจากที่ลู่ซุนครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ค่อย ๆ พูด
ตั้งแต่ยุคโบราณ จักรพรรดิมักจะอายุไม่ยืนยาว นี่เป็นกฎที่ไม่อาจฝ่าฝืน อย่างไรก็ตาม คำสาปนี้ถูกทำลายลงในจักรวรรดิต้าเฉียน ซึ่งทำให้ลู่ซุนอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก
พวกเขาใช้วิธีการอะไร? สามารถแหกกฎได้จริงหรือ!
แม้ว่าจะเป็นตัวลู่ซุนเอง แต่ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้จักรพรรดิมีชีวิตยาวนาน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจักรวรรดิต้าเฉียนถึงมีวิธีการ และภูมิหลังเช่นนั้น
ระดับพลังยุทธ์ของจักรพรรดิต้าเฉียนนั้นสูงส่งไม่น้อย ไม่ด้อยกว่าลู่ไห่ในขณะนี้ เขาเป็นกึ่งอมตะแล้วด้วยความช่วยเหลือจากโชคชะตาของจักรวรรดิ และพลังมังกร!
และในขณะนี้ ในนครหลวง พลังของจักรพรรดิต้าเฉียนได้เพิ่มมากขึ้น และความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ด้อยไปกว่าอมตะเลย!
“ดูเหมือนว่าจักรวรรดิต้าเฉียนจะทรงพลังมากกว่าที่ข้าคิดไว้มาก แล้วสถานะ และระดับพลังยุทธ์ของคนที่พวกขาเรียกว่ากั๋วซือนั้นสูงแค่ไหน เป็นไปได้ไหมว่าเขาก็เป็นอมตะที่ลงมายังโลก” ลู่ซุนขมวดคิ้วแล้วคิดกับตัวเอง
เดิมทีเขาคิดว่าจักรวรรดิต้าเฉียนอย่างมากก็มีผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตมหายานสักสองสามคน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขายังคงประเมินค่ายักษ์ใหญ่ที่ครอบงำครึ่งหนึ่งของดินแดนตงหวงต่ำเกินไป!
เพียงแค่ความแข็งแกร่งที่เปิดเผยโดยจักรวรรดิต้าเฉียน ในตอนนี้ก็เหนือกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตงซวนที่ลู่ซุนเคยไปเยือนมาก่อน
แน่นอนว่า หากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตงซวนใช้มหาค่ายกลผนึกสวรรค์ พวกเขาก็ยังคงมีความสามารถในการต่อสู้จนตายไปข้างกับจักรวรรดิต้าเฉียน
แม้ว่าค่ายกลหวู่เซินนี้จะถือว่าดี แต่เมื่อเปรียบเทียบกับมหาค่ายกลผนึกสวรรค์ มันก็เต็มไปด้วยช่องโหว่ เช่นเดียวกับของเด็กเล่น
“แม้ว่าค่ายกลนี้ค่อนข้างหยาบ แต่ก็ถือว่าทรงพลังไม่น้อยด้วยความช่วยเหลือจากโชคชะตาของจักรวรรดิต้าเฉียน” ลู่ซุนเหลือบมองค่ายกลหวู่เซินอีกครั้ง แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
ค่ายกลหวู่เซินสามารถฆ่าอมตะได้ นั่นไม่ใช่แค่คำพูดเลื่อนลอย เมื่อหลายปีก่อน กล่าวกันว่ามันเคยใช้ฆ่าอมตะจริงๆ มาก่อน
หลังจากที่เกาเจี๋ยเห็นสิ่งนี้ เขาก็กลืนน้ำลาย ใบหน้าของเขาซีดลง และเขาก็รู้สึกขอบคุณทางเลือกของตัวเองอย่างลับๆ
โชคดีที่เขาไม่ค่อยมาที่นี่ และเขาไม่เคยทำอะไรที่เป็นอันตรายจึงไม่ได้ดึงดูดสายตาที่คอยสอดส่องจากค่ายกลหวู่เซิน ไม่งั้น เขาก็คงจะกล้าเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว