ตอนที่ 1395 ดาบหญ้า (ฟรี)
ตอนที่ 1395 ดาบหญ้า
ลู่โจวไม่ค่อยคุ้นเคยกับดินแดนดอกบัวเขียว เขานั้นเคยไปแค่เมืองเซียงหยางและทางเชือกลอยฟ้าเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงต้องการให้ฉินไน่เหอนำทาง
“ฉินเหรินเยว่ดุเจ้ารึเปล่า?” ลู่โจวมองดูฉินไน่เหอที่กำลังติดตามเขา
“ท่านปรมาจารย์ฉินก็ยังคงเป็นท่านปรมาจารย์ฉินคนเดิม ท่านไม่ได้พูดอะไรที่ไม่สมควร แต่น่าเสียดายที่พวกเราไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตได้” ฉินไน่เหอส่ายหัว
“เจ้าอยากจะกลับไปที่ตระกูลฉินรึเปล่า?” ลู่โจวถาม
ฉินไน่เหอตกใจกับคำถามนี้ “ไม่ ข้าจงรักภักดีต่อศาลาปีศาจลอยฟ้า ข้าไม่มีเจตนาอื่น”
ลู่โจวไม่ได้พูดอะไรต่อ เขารีบบินไปข้างหน้า
พวกเขาทั้งสองบินผ่านทะเลเมฆ ภูเขามากมาย และแม่น้ำ จากนั้นพวกเขาก็บินผ่านเมืองของมนุษย์
ถึงแม้ว่าดินแดนดอกบัวเขียวจะได้รับผลกระทบจากความไม่สมดุล แต่มันก็ยังคงเสถียรกว่าดินแดนดอกบัวทองคำ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสภาหอคอยทมิฬและสภาหอคอยขาว มนุษย์ในดินแดนดอกบัวทองคำคงจะถูกกวาดล้างไปแล้ว
ลู่โจวนึกถึงคำพูดของเยว่ฉีเกี่ยวกับการโจมตีของสัตว์ทะเลที่ถูกควบคุมโดยผู้ฝึกสัตว์ร้ายจากดินแดนแห่งความว่างเปล่า และความหมายที่แฝงอยู่ในคำพูดของเยว่ฉีที่บอกว่าวิหคเซียนเป็นของหลานซีเหอ
‘ทำไมหลานซีเหอถึงได้ทำแบบนั้น? ยี่เทียนซินเป็นท่านเจ้าหอคอยแห่งสภาหอคอยขาว หากหลานซีเหอเป็นคนชั่วร้ายจริงๆ แบบนี้ยี่เทียนซินคงจะตกอยู่ในอันตรายแน่’ ลู่โจวคิดในใจ
เขาเปิดใช้งานพลังแห่งการมองเพื่อสังเกตการณ์ยี่เทียนซิน
…
“เจ้าได้ยืนยันข้อมูลแล้วรึยัง?” ยี่เทียนซินมองดูผู้อาวุโสแห่งสภาหอคอยขาว
“ครับ ท่านหนึ่งกับท่านสองแห่งศาลาปีศาจลอยฟ้านำศพกลับไปยังดินแดนดอกบัวทองคำแล้ว”
“ศพ?” ยี่เทียนซินทำหน้าไม่ถูกเมื่อได้ยินแบบนั้น
“ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น ข้าหมายถึง ในมุมมองของคนธรรมดาๆ แล้ว คงจะไม่มีทางเลือกอื่น แต่อย่างไรก็ตามข้าได้ยินมาว่าท่านเจ้าศาลากำลังตามหาวิธีการปลุกชีพ” ผู้อาวุโสรีบแก้ไขคำพูด
ยี่เทียนซินไม่ได้โกรธ นางลุกขึ้นยืน “พรุ่งนี้ข้าจะไปที่ศาลาปีศาจลอยฟ้า”
“ครับ”
…
ลู่โจวตัดการเชื่อมต่อพลังแห่งการมองหลังจากที่ยืนยันแล้วว่ายี่เทียนซินนั้นปลอดภัย แต่เพื่อความปลอดภัย เขาจึงใช้เครื่องรางส่งข้อความไปบอกยี่เทียนซิน ให้นางอยู่ที่ศาลาปีศาจลอยฟ้าและไม่ต้องกลับไปที่สภาหอคอยขาว
…
หลังจากเดินทางมาสามวัน ลู่โจวและฉินไน่เหอก็มาถึงทิศตะวันตกสุด ที่นี่มีประชากรเบาบางและดูรกร้าง
“ภูเขานี้ถูกเรียกว่าภูเขาที่สาบสูญ ในอดีตท่านปรมาจารย์ฉินกับท่านปรมาจารย์เย่มักจะมาพูดคุยเรื่องเต๋าและประลองกันที่นี่ ในเมื่อที่นี่อยู่ไกลจากเมืองของมนุษย์ มันจึงเป็นสถานที่ที่ดีสำหรับปรมาจารย์ผู้ทรงเกียรติที่จะประลองกัน” ฉินไน่เหอชี้นิ้วไปยังภูเขา
“ประลองงั้นเหรอ?” ลู่โจวไม่คิดว่าพวกเขาจะประลองกัน
“อะไรทำนองนั้นล่ะ ข้าคิดว่าพวกเขากำลังแข่งขันกันมากกว่า หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อสภาพแวดล้อมที่นี่แย่ลง พวกเขาก็ย้ายไปที่ภูเขาชิงเทียน” ฉินไน่เหอพูดต่อ “ข้าไม่ได้ไปที่ดินแดนดอกบัวทองคำมานานแล้ว หากต้องเลือก ข้าคงจะเลือกดินแดนดอกบัวทองคำ มันสงบสุขกว่า”
“ทำไมเจ้าถึงพูดแบบนั้นล่ะ?” ลู่โจวถามอย่างไม่คาดคิด เขาไม่คิดเลยว่าฉินไน่เหอจะพูดแบบนี้ เพราะยังไงซะฉินไน่เหอก็เป็นคนจากดินแดนดอกบัวเขียว
“ข้าเคยฝัน ในความฝัน ข้าบอกกบที่อยู่ก้นบ่อว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่มาก ข้าบอกว่ามันจะมองไม่เห็นอะไรเลยหากมันยังคงอยู่ในบ่อน้ำ มันควรจะออกจากบ่อไป แบบนี้มันก็จะสามารถเปิดโลกทัศน์และเห็นโลกใบนี้ได้ จากนั้นกบก็บอกว่าข้าโกหก มันบอกว่ามันใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายและมีความสุขในบ่อน้ำ ทำไมมันต้องออกไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่รู้จักด้วยล่ะ?” ฉินไน่เหอยิ้ม “สิ่งที่ไม่รู้จักมักจะนำความไม่สบายใจและความกลัวมาให้ ข้าไม่อาจโต้แย้งกับกบได้”
“เจ้าพูดถูก แต่เจ้าทำพลาดอย่างมหันต์” ลู่โจวกล่าว
“อะไรเหรอ?” ฉินไน่เหอเกาหัว
“เจ้าไม่ได้ฆ่ากบ” ลู่โจวที่พูดจบบินลงไป
ฉินไน่เหอตกตะลึง เขาไม่เข้าใจความหมายของลู่โจว หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็มองดูลู่โจว “ท่านปรมาจารย์พูดถูก”
…
ณ ป่าที่สาบสูญ
ลู่โจว ฉินไน่เหอ และวิซซาร์ด กำลังบินอยู่
ภูมิประเทศที่ขรุขระและสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายทำให้ลู่โจวขมวดคิ้ว
“ที่นี่น่าจะเคยเกิดสงครามครั้งใหญ่ ทำให้ผืนดินถูกทำลาย” ฉินไน่เหอกล่าว
“แล้วผืนดินที่ถูกทำลายไปอยู่ที่ไหน?” ลู่โจวมองดูพื้นดิน
“บางทีมันอาจจะลอยไปอยู่ในมหาสมุทรไม่มีที่สิ้นสุด...” ฉินไน่เหอตอบ
บทสนทนานี้ไม่มีประโยชน์อะไร เป้าหมายของลู่โจวคือการตามหาเส้นทางอักษรโบราณ
พวกเขาทั้งสองบินลึกเข้าไปในป่า
ในระหว่างนั้น พวกเขาก็ได้พบกับสัตว์ร้ายไม่กี่ตัว แต่อย่างไรก็ตามฉินไน่เหอก็สามารถจัดการกับพวกมันได้อย่างง่ายดาย ไม่มีอะไรท้าทาย ดินแดนที่สาบสูญนั้นแตกต่างจากดินแดนที่ไม่รู้จัก ที่นี่ไม่มีสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งมากมาย
“น่าจะอยู่ข้างหน้า” ฉินไน่เหอชี้นิ้วไปข้างหน้า
ไม่นานนัก พวกเขาทั้งสองก็ร่อนลงใกล้ๆ กับลำธารแห่งภูเขาที่สาบสูญ
ฉินไน่เหอใช้ดาบพลังงานฟันเถาวัลย์ เส้นทางอักษรโบราณปรากฏขึ้น
“ในเมื่อพวกเขาตัดสินใจที่จะแยกตัวออกจากโลกภายนอก การมีเส้นทางอักษรโบราณมันจะมีประโยชน์อะไร?” ลู่โจวถามอย่างไม่เข้าใจ
“มนุษย์มักจะชอบยึดติดกับบางสิ่งบางอย่าง เหมือนกับผู้ชายบางคนที่บอกว่าตัวเองจงรักภักดี แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ยังคงแอบคิดถึงผู้หญิงคนอื่น” ฉินไน่เหอยิ้ม
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะเข้าใจตัวเองดีนะ” ลู่โจวพยักหน้า
ฉินไน่เหอ “...”
พวกเขาใช้เวลาสักพักในการเคลียร์ใบไม้และฝุ่นออกจากเส้นทางอักษรโบราณ “เจ้าไม่ต้องไปกับข้าหรอก” ลู่โจวก้าวไปข้างหน้า
“มัน...มันไม่ค่อยเหมาะสมรึเปล่า?”
“การที่เจ้าไปกับข้ามันคงไม่สะดวกน่ะ” ลู่โจวโบกมือ
“ตกลง ข้าจะรอคอยการกลับมาของท่านปรมาจารย์” ฉินไน่เหอพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
หลังจากที่วิซซาร์ดเดินเข้าไปในเส้นทางอักษรโบราณ ลู่โจวก็เปิดใช้งานมัน
ลำแสงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อแสงสว่างหายไป ลู่โจวและวิซซาร์ดก็หายตัวไป
…
ประมาณสิบห้านาทีต่อมา
ลำแสงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าจากกองใบไม้
วิซซาร์ดส่งเสียงร้อง มันสลัดร่างกายเพื่อกำจัดใบไม้
“นี่คือดินแดนดอกบัวเขียวคู่ขนานงั้นเหรอ?” ลู่โจวที่บินขึ้นไปบนท้องฟ้าพึมพำ
เขาลอยตัวอยู่เหนือป่า เขามองไปรอบๆ “บินสูงขึ้นไปอีกหน่อย”
วิซซาร์ดบินสูงขึ้น เมื่อมาถึงระดับความสูง 1,000 เมตร ลู่โจวก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นป่าที่ดูเหมือนกับจะไม่มีที่สิ้นสุด แล้วแบบนี้เขาจะไปหาเฉินฟูได้ยังไง? ป่าล้อมรอบเขาเอาไว้ทุกทิศทุกทาง ไม่มีใครให้ถามทาง
“วิซซาร์ด เจ้าอยากจะไปทางไหน? เลือกเองเลย” ลู่โจวกล่าว
วิซซาร์ดส่งเสียงร้อง
“ตกลง ในเมื่อเจ้าหันหัวไปทางนั้น งั้นพวกเราก็ไปทางนั้น หากเจ้าเลือกผิดทางล่ะก็ ข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้าแน่” ลู่โจวกล่าว
วิซซาร์ด “?”
วิซซาร์ดบินไปข้างหน้า มันเชื่อฟังคำสั่งของลู่โจว หลังจากที่กินแก่นแท้ของสัตว์ร้ายสองดวง ความเร็วของมันก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เมื่อมันบินด้วยความเร็วสูงสุด ความเร็วของมันก็ไม่ด้อยไปกว่าผู้ฝึกยุทธอิสระ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังไม่ต้องใช้พลังชีวิตในการบินอีกต่างหาก
…
ลู่โจวและวิซซาร์ดบินต่อไปอีกสองชั่วโมง ในที่สุดลู่โจวก็เห็นหมู่บ้าน เขารีบบินลงไป ตราบใดที่เขาพบกับใครสักคน เขาจะสามารถถามทางได้
“ผู้อาวุโส” ลู่โจวหายตัวไปก่อนจะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าชายชราที่กำลังหลับตาพิงต้นไม้อยู่ที่ทางเข้าหมู่บ้าน
“ผะ...ผู้ฝึกยุทธ?” ชายชราลืมตาขึ้น เขารู้สึกกังวลและหวาดกลัวเล็กน้อย
“ไม่ต้องกลัว ข้าไม่ได้คิดร้าย เจ้ารู้จักเฉินฟูรึเปล่า?”
“หา? ท่าน...ท่านกล้าเรียกเซียนด้วยชื่อได้ยังไง?!” ชายชราหน้าซีดเผือด
ลู่โจวลืมไปว่าเฉินฟูคือเซียนในดินแดนดอกบัวคู่ขนาน เป็นธรรมดาที่เฉินฟูจะเป็นบุคคลสำคัญที่นี่ “ตอนนี้เซียนอยู่ที่ไหน?”
“ขะ...ข้าไม่รู้...”
“...”
ดูเหมือนว่าเขาจะถามคำถามนี้ไปอย่างเปล่าประโยชน์
“ที่นี่มีผู้ฝึกยุทธอยู่บ้างรึเปล่า?” ลู่โจวถาม
การพูดคุยกับผู้ฝึกยุทธนั้นดีกว่าการพูดคุยกับคนธรรมดาๆ เพราะยังไงซะคนธรรมดาๆ ก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกแห่งการฝึกยุทธมากนัก
“ที่ภูเขานั่นน่าจะมีอยู่บ้าง” ชายชราชี้นิ้วไปยังภูเขาทางเหนือของหมู่บ้าน
“ขอบใจ” ลู่โจวพูดจบก็หายตัวไป
ชายชรากลอกตา เขาหลับตาลง
…
ที่เชิงเขา
“ศิษย์พี่ ข้าใกล้จะทะลวงขีดจำกัดไปยังขอบเขตพลังร้อยวิถีแล้วแล้ว ท่านระวังตัวด้วยล่ะ!”
“ข้าเปิดใช้งานกลีบดอกบัวกลีบที่สามในขอบเขตพลังร้อยวิถีแล้ว! ศิษย์น้อง เจ้าต้องพยายามให้มากกว่านี้นะ!”
ผู้ฝึกยุทธสองคนกำลังฝึกฝนวิชาดาบ ดาบพลังงานมากมายบินว่อนไปมา
เมื่อมองดูจากบนท้องฟ้า ดินแดนดอกบัวคู่ขนานนั้นกว้างใหญ่มาก มันน่าจะเป็นดินแดนที่กว้างใหญ่ที่สุดในบรรดาดินแดนทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ลู่โจวจึงรู้ว่าการหาเฉินฟูนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ไม่แปลกใจเลย ทำไมดินแดนแห่งความว่างเปล่าถึงได้หาเมล็ดพันธุ์แห่งความว่างเปล่าไม่พบ หากศิษย์ของเขาถูกเปิดโปงและหนีไป ต่อให้เซียนทั้งสิบสองแห่งดินแดนแห่งความว่างเปล่าจะลงมือ มันก็คงจะเป็นเรื่องยากที่จะตามหาพวกเขาพบ
ฟิ้ว!
“เจ้าหนุ่ม” ลู่โจวปรากฏตัวขึ้นข้างๆ ผู้ฝึกยุทธทั้งสอง
พวกเขาทั้งสองตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของลู่โจว
ลู่โจวสัมผัสได้ถึงพลังฝึกฝนของพวกเขา ด้วยความแตกต่างของพลังฝึกฝน หากพวกเขาไม่มีของวิเศษ การจะหนีลู่โจวได้ไม่ใช่เรื่องง่าย
“ท่าน...ท่าน...ท่านเป็นใครกัน?” ผู้ฝึกยุทธอาวุโสกว่าถาม
“เซียนเฉินอยู่ที่ไหน?”
“ท่านล้อเล่นอะไรอยู่รึเปล่า? คนอย่างพวกเราจะไปรู้ได้ยังไงว่าเซียนอยู่ที่ไหน?”
“แล้วพวกเจ้ารู้รึเปล่าว่าเขามักจะไปที่ไหน?” ลู่โจวถาม
“ขออภัยด้วย ข้าไม่รู้จริงๆ แต่ท่านสามารถไปที่เฟิงอันในเมืองหลวงตะวันออกหรือลั่วหยางในเมืองหลวงตะวันตกก็ได้ ที่นั่นมีคนสำคัญมากมาย บางทีท่านอาจจะได้เบาะแสอะไรก็ได้” ผู้ฝึกยุทธคนนั้นส่ายหัว
“ดี” ลู่โจวพยักหน้า
“ไม่ทราบว่าท่านเป็นผู้ที่ชื่นชมเซียนเฉินรึเปล่า?” ผู้ฝึกยุทธคนนั้นถาม
“หืม?”
“ข้าเคยได้ยินมาว่ามีคนมากมายที่อยากจะพบกับเซียนเฉิน การตามหาเขาไม่ต่างอะไรกับเสียเวลาเปล่า”
ลู่โจวไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้น เขามองดูดาบในมือของผู้ฝึกยุทธอาวุโสคนนั้น “ดาบมีสามประเภท ดาบของคนธรรมดา ดาบของขุนนาง และดาบของจักรพรรดิ รากฐานของเจ้านั้นยังคงอ่อนแอ เจ้าต้องพยายามให้มากกว่านี้”
จากนั้นลู่โจวก็ชี้นิ้วไปยังผู้ฝึกยุทธอีกคนหนึ่ง “ส่วนเจ้า รากฐานของเจ้านั้นไม่เลว เจ้าสามารถเริ่มเรียนรู้วิชาดาบขั้นสูงได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามเจ้าต้องฝึกฝนอุปนิสัย จุดอ่อนของเจ้านั้นชัดเจน เจ้าไม่ยืดหยุ่นมากพอ”
ผู้ฝึกยุทธทั้งสองตกตะลึง
“เจ้าสามารถเริ่มฝึกฝนการควบคุมดาบพลังงาน หากเจ้าฝึกฝนหกชั่วโมงทุกวัน อีกหกปีเจ้าจะต้องเห็นผลลัพธ์ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะจำคำพูดของข้าไว้ หากพวกเจ้าทำได้ พวกเจ้าจะต้องกลายเป็นยอดฝีมือแน่ ลาก่อน” ลู่โจวพูดจบก็เหยียบพื้นดิน เขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและหายตัวไป
วิซซาร์ดรอคอยเขาอยู่บนท้องฟ้า
ผู้ฝึกยุทธทั้งสองเกาหัวอย่างไม่เข้าใจ
“เขาเป็นใครกัน? ทำตัวน่าหมั่นไส้จริงๆ”
“แต่คำพูดของเขาฟังดูมีเหตุผล...”
“เจ้าคิดแบบนั้นเพราะคำพูดของเขาเป็นประโยชน์กับเจ้า เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้รึไงว่ารากฐานของเจ้าเป็นยังไง?”
“พวกเจ้าทะเลาะกันอีกแล้วรึไง?” ผู้ฝึกยุทธวัยกลางคนที่สวมชุดคลุมยาวรีบวิ่งมาจากที่ไกลแสนไกล
“ท่านอาจารย์ เมื่อครู่มีคนบ้ามาที่นี่ เขาชี้แนะพวกเรา เขาบอกว่าหากพวกเราทำตามคำแนะนำของเขา พวกเราก็จะกลายเป็นยอดฝีมือ”
“หืม?”
จากนั้น ผู้ฝึกยุทธอาวุโสก็เล่าเรื่องที่ลู่โจวพูดให้ท่านอาจารย์ฟัง
“ก็แค่พวกเสียสติ! ในอนาคตหากพวกเจ้าได้พบกับคนแบบนี้อีก อย่าได้ไปสนใจพวกเขา!” ผู้ฝึกยุทธวัยกลางคนตกใจ
“ครับ!”
โลกใบนี้เป็นแบบนี้ เป็นเรื่องยากที่ผู้คนจะเชื่อว่ามีคนหวังดีกับพวกเขา
…
ลู่โจวที่คิดว่าเขาแสดงได้ดีบินไปข้างหน้าอย่างมีความสุข
“วิซซาร์ด ฉันลืมถามทางไปยังเมืองหลวงตะวันออกและตะวันตก” ลู่โจวพูดขึ้น
วิซซาร์ด “???”
ลู่โจวหันหลังกลับไป
…
ผู้ฝึกยุทธทั้งสองยังคงฝึกฝนวิชาดาบ
“เจ้าหนุ่ม” ลู่โจวกระโดดลงไป
“ท่าน...ท่าน...ทำไมท่านถึงได้กลับมาอีกล่ะ?!” พวกเขาทั้งสองตกใจ
“เมืองหลวงตะวันออกอยู่ที่ไหน?” ลู่โจวถาม
“ทางทิศตะวันออก” ผู้ฝึกยุทธอาวุโสชี้นิ้วไปทางทิศตะวันออก
ลู่โจวพยักหน้า “งั้นข้าจะเล่าเรื่องวิถีแห่งดาบของข้าให้ฟัง...”
“ไม่ๆๆๆ ท่านอย่ามาชี้แนะพวกเราเลย หากท่านอาจารย์รู้เข้า ท่านอาจารย์จะต้องฆ่าพวกเราแน่ ท่านไปเถอะ”
ลู่โจว “...”
เขาถอนหายใจ เขาได้แต่ส่ายหัว
“ท่านผู้อาวุโส ถ้างั้นท่านก็แสดงให้พวกเราดูสักกระบวนท่าสิ” ผู้ฝึกยุทธรุ่นน้องกล่าว
“รับนี่ไป!” ผู้ฝึกยุทธวัยกลางคนรีบพุ่งเข้ามาหา
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
วิชาดาบของผู้ฝึกยุทธวัยกลางคนนั้นค่อนข้างจะเฉียบคม
แต่ลู่โจวกลับยืนเอามือไขว้หลัง เขาสามารถหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย
ผู้ฝึกยุทธวัยกลางคนโจมตีไปแล้วมากกว่าร้อยครั้ง แต่ก็ยังคงไม่โดนเป้าหมาย เขาโมโห ในขณะที่เขากำลังจะปลดปล่อยดาบพลังงานออกมา...
ลู่โจวก็เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วแสง เขายื่นสองนิ้วออกไปหนีบดาบเอาไว้ เขาสะบัดข้อมือ
เปรี๊ยะ!
ดาบหัก
จากนั้น ลู่โจวก็ยื่นมือออกไป พลังฝ่ามือโจมตีหน้าอกของผู้ฝึกยุทธวัยกลางคน
“ท่านอาจารย์!”
ผู้ฝึกยุทธทั้งสองหน้าซีดเผือด
ลู่โจวผลักผู้ฝึกยุทธวัยกลางคนให้ถอยห่างไป เขาไม่ได้โจมตีอย่างโหดร้าย เขายกมือขึ้น
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ใบหญ้ามากมายลอยขึ้น มันดูเหมือนกับดาบ แต่มันกลับไม่มีดาบพลังงาน
ดาบหญ้าที่ดูเหมือนกับจะปกคลุมท้องฟ้าพุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
ต้นไม้โดยรอบถูกดาบหญ้าแทงทะลุ
“มีคนมากมายที่อยากจะให้ข้าชี้แนะ แต่พวกเจ้ากลับไม่เห็นคุณค่าของมัน คนบางคนก็ช่วยไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ”
เสียงของลู่โจวดังก้องไปทั่วหลังจากที่เขาหายตัวไป
พวกเขาทั้งสามมองดูต้นไม้ที่ตอนนี้เต็มไปด้วยรู พวกเขาได้แต่นึกถึงดาบหญ้า