โลแลนถือหอยทากสื่อสารที่มีรูปลักษณ์เป็นเอกลักษณ์ หอยทากตัวนี้มีสีขาวเป็นสีพื้น และมีสีดำล้อมรอบบริเวณหู ตา และจมูก ดูแล้ว... คล้ายกับหมีแพนด้าเล็กน้อย...

เสียงการสนทนาระหว่างคาลิฟากับลุจจิและบรูโน่ก็ถูกถ่ายทอดออกมาจากหอยทากตัวนี้

“บ้าจริง! พวกเจ้าพวกนี้เป็นคนของรัฐบาลโลก!”

เมื่อได้ยินคาลิฟาติดต่อกับลุจจิและบรูโน่ ไอซ์เบิร์กก็มั่นใจแล้วว่าทุกสิ่งที่โลแลนพูดนั้นเป็นความจริง! ท่าทางการพูดคุยที่เหมือนเพื่อนร่วมงานกันนั้นเป็นหลักฐานชัดเจนว่าพวกเขาคือสายลับ!

เมื่อไอซ์เบิร์กเชื่อแล้ว โลแลนก็ไม่จำเป็นต้องให้เขาฟังอะไรเพิ่มเติม จึงเก็บหอยทากสื่อสารอัจฉริยะเข้าไปในระบบ แต่การดักฟังและการขัดสัญญาณยังคงเปิดทำงานอยู่ โลแลนสามารถฟังการสนทนาของพวกเขาได้ผ่านจิตของตัวเอง

ไอซ์เบิร์กซึ่งกำลังอารมณ์พลุ่งพล่านมองไปที่โลแลนและพูดว่า “นายน้อยโลแลน ในเมื่อเรายืนยันได้แล้วว่าพวกเขาเป็นสายลับ ตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี? ถ้าพวกเขาเปิดเผยตัว มันจะลำบากมากแน่ๆ”

แม้ว่าไอซ์เบิร์กจะไม่กลัวตาย แต่เขาก็ไม่ต้องการให้แฟรงกี้ต้องเดือดร้อนไปด้วย ตอนที่เขามอบแบบแปลนเรือรบพลูตันให้แฟรงกี้ เขาบอกให้แฟรงกี้ออกจากเมืองวอเตอร์เซเว่น แต่แฟรงกี้กลับไม่ยอมไปเพราะยังห่วงเขา ตอนนี้ไอซ์เบิร์กเริ่มกังวลเกี่ยวกับแฟรงกี้มากขึ้น

โลแลนส่งสายตาให้อย่างสงบ “ไม่ต้องห่วงหรอก สายลับ CP9 แค่นี้ฉันจัดการได้ แต่ฉันมีเงื่อนไขหนึ่ง”

ไอซ์เบิร์กสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “นายน้อยโลแลน หรือว่า...เงื่อนไขนั้นคือแบบแปลนเรือรบพลูตัน... นายไม่ได้บอกว่าตัวเองไม่สนใจมันหรือ?”

“มันไม่ได้เป็นอย่างที่นายคิดหรอก” โลแลนยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะขยับตัวลงจากโต๊ะ “เงื่อนไขของฉันคือนายต้องทำลายแบบแปลนเรือรบพลูตันทิ้งซะ!”

“ทำลาย!?”

ไอซ์เบิร์กดูตกใจเล็กน้อย เขาเคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แต่เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่อาจารย์ของเขาทิ้งไว้ เขาจึงรู้สึกลังเลใจที่จะทำลายมัน

โลแลนมองไอซ์เบิร์กและถามด้วยน้ำเสียงสงบ “นายกเทศมนตรีไอซ์เบิร์ก ตอนที่อาจารย์ของนายมอบแบบแปลนนี้ให้ นายบอกให้นายสร้างเรือรบพลูตันขึ้นมาหรือเปล่า?”

ไอซ์เบิร์กส่ายหัว “เปล่า! อาจารย์ไม่ได้ให้สร้างเรือเลย กลับกัน เขายังเตือนให้ฉันเก็บมันไว้อย่างดี และอย่าให้ใครได้มันไป ไม่ว่าอย่างไร ห้ามให้เกิดอาวุธที่ทำลายล้างโลกแบบนี้ขึ้น”

“งั้นนายลองคิดดีๆ กับคำพูดของอาจารย์ ถ้านายอยากทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครได้แบบแปลนนี้ไป วิธีที่ดีที่สุดคืออะไร?”

ไอซ์เบิร์กเงยหน้าขึ้นอย่างฉับพลัน “ทำลายมัน?”

“ใช่แล้ว ในเมื่ออาจารย์ของนายไม่ต้องการให้อาวุธนี้ปรากฏขึ้นมา การทำลายแบบแปลนจะเป็นการสานต่อเจตนาของเขาอย่างดีที่สุด”

โลแลนเดินเข้ามาใกล้ไอซ์เบิร์ก มองตรงเข้าไปในดวงตาเขาและพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ถ้านายไม่ทำลายมัน ครั้งนี้เป็น CP9 แต่ครั้งหน้าอาจเป็น CPO หรือสายลับที่แข็งแกร่งกว่านี้ นายคิดว่านายจะซ่อนไว้ได้นานแค่ไหน?”

ไอซ์เบิร์กรู้สึกหนักใจอย่างมาก เขาต้องยอมรับว่าโลแลนพูดถูก! การซ่อนไว้ไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน เขาอาจซ่อนไว้ได้ชั่วชีวิต แต่คนรุ่นต่อไปล่ะ? พวกเขาจะเก็บมันไว้ได้ไหม? ถ้าเกิดความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว อาวุธที่ทำลายล้างโลกจะปรากฏขึ้น และตอนนั้นเขาจะมีหน้าไปพบอาจารย์ของเขาได้ยังไง?

หลังจากคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง ไอซ์เบิร์กก็มองไปที่โลแลนด้วยสีหน้าจริงจังและพยักหน้าในที่สุด

“นายน้อยโลแลน นายพูดถูก การทำลายแบบแปลนคือวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องความลับ ฉันจะไปทำลายมันเดี๋ยวนี้ เพื่อให้รัฐบาลโลกหมดหวังเสียที!”

พูดจบ ไอซ์เบิร์กก็เดินออกไป

แต่ก่อนที่เขาจะก้าวไปได้สองสามก้าว เขาก็หยุดและหันมาพูดกับโลแลนที่เดินตามมา “นายน้อยโลแลน ขอโทษที่รบกวนนายหลายเรื่องแล้ว เรื่องนี้ไม่อยากรบกวนอีก นายรอที่นี่เถอะ ฉันจะนำข่าวดีมาให้”

“อะไรนะ? นายกลัวว่าฉันจะฉวยโอกาสเอาแบบแปลนไปเหรอ?” โลแลนพูดแซว

“เอ่อ...”

มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่จะให้พูดออกมาตรงๆ ได้ยังไงล่ะ!

จะไม่รู้สึกอึดอัดได้ยังไง?

เมื่อเห็นไอซ์เบิร์กเต็มไปด้วยความอึดอัด โลแลนก็หัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า ไปเถอะ!”

ไอซ์เบิร์กถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อโลแลนยอมอยู่ที่นี่ เขาก้มศีรษะลงลึกๆ เป็นการขอบคุณ “ขอบคุณนายน้อยโลแลนที่เข้าใจ!”

จากนั้นเขาก็หันหลังเดินออกไปโดยไม่หันกลับมา

โลแลนไม่ได้ตามไป เพราะยังคงเชื่อใจในตัวไอซ์เบิร์กอยู่ หากแบบแปลนเรือรบพลูตันถูกทำลายจริง ระบบจะตอบสนองและรางวัลก็จะมาทันที หากไม่ได้รับรางวัล นั่นหมายความว่าแบบแปลนยังไม่ถูกทำลาย ตอนนั้นค่อยใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดก็ยังทัน!

โลแลนเอนตัวลงบนโซฟา พร้อมกับดักฟังการสนทนาของ CP9 ต่อไป

ได้ยินลุจจิพูดขึ้นว่า “ไอ้เด็กคนนี้ มังกี้ ดี. โลแลน คงไม่รู้ว่าเราคือคนของรัฐบาลโลก ถ้ารู้ เขาคงไม่กล้าเข้ามายุ่งเรื่องนี้แน่ๆ งั้นคาลิฟา เธอรออยู่ที่นี่ก่อน เราจะไปจัดการเอง”

“เข้าใจแล้ว” คาลิฟาพยักหน้า

จุดเด่นของหอยทากสื่อสารอัจฉริยะก็คือ แม้หอยทากสื่อสารของฝ่ายตรงข้ามจะไม่ได้รับสาย แค่พกไว้ก็สามารถใช้เป็นเครื่องดักฟังได้แล้ว

เมื่อได้ยินว่าลุจจิและพวกออกจากบาร์บรูโน่ไปแล้ว และเหลือแค่คาลิฟาอยู่คนเดียว โลแลนก็ใช้หอยทากสื่อสารอัจฉริยะทำการปรับแต่งหอยทากสื่อสารของคาลิฟาให้ทุกสายที่โทรหาเธอถูกโอนเข้ามายังหอยทากสื่อสารอัจฉริยะของเขาแทน จากนั้นโลแลนก็กดโทรหาคาลิฟา

ในฐานะสายลับ หอยทากสื่อสารของเธอเป็นสายเฉพาะที่มีแค่คนในหน่วยงานเท่านั้นที่โทรมาได้ เมื่อเห็นว่าเป็นสายของผู้บังคับบัญชา CP9 สแปนดัม คาลิฟาก็ตอบรับทันที

“ผู้บังคับบัญชา”

โลแลนที่ได้ทำการจำลองเสียงของสแปนดัม พูดออกไปว่า “คาลิฟา ฉันได้รับข่าวมาว่าเมื่อกี้เธอถูกโอนย้ายงานไปเป็นเลขาของ มังกี้ ดี. โลแลน ใช่ไหม?”

“ใช่ค่ะ” คาลิฟาตอบ โดยไม่ได้แปลกใจที่อีกฝ่ายรู้ข่าวเร็ว เพราะนอกจาก CP9 แล้ว ยังมีสายลับของรัฐบาลโลกอีกมากในเมืองวอเตอร์เซเว่น เฉพาะในที่ทำงานของนายกเทศมนตรีก็มีอยู่เป็นสิบคน!

“ดีมาก! คาลิฟา นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากมาก! หยุดภารกิจเก่าไปก่อน ฉันจะมอบภารกิจใหม่ให้เธอ!”

“สแปนดัม” พูดด้วยความตื่นเต้น

คาลิฟาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่เนื่องจากเป็นคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา เธอจึงไม่อาจปฏิเสธได้ “กรุณาสั่งการค่ะ”

“สแปนดัม” พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “เธอต้องแฝงตัวเป็นเลขาของมังกี้ ดี. โลแลนอย่างแนบเนียน! เก็บข้อมูลทุกอย่างที่เขาพูดออกมา เพราะพ่อของเขาคือหัวหน้ากองทัพปฏิวัติ มังกี้ ดี. ดราก้อน!”

“คาลิฟา นี่เป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่มาก! เธอห้ามเปิดเผยตัวเด็ดขาด! จนกว่าจะได้รับคำสั่งเพิ่มเติม อย่าทำอะไรพล่อยๆ เธอต้องแสดงบทบาทเลขาให้ดีที่สุด ทำตามคำสั่งของเขาทุกอย่าง ห้ามทำให้เขาไม่พอใจเด็ดขาด! อย่าให้เขามีข้ออ้างในการไล่เธอออก!”

“เธอพร้อมจะทำภารกิจนี้ไหม?”

เมื่อได้ยิน “สแปนดัม” พูดด้วยน้ำเสียงเร้าใจ คาลิฟาก็ตระหนักได้ว่าภารกิจนี้สำคัญมาก!

คาลิฟาปรับลมหายใจของเธอเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ค่ะ! ท่านผู้บังคับบัญชา! ฉันจะทำภารกิจนี้ให้สำเร็จอย่างแน่นอน!”

5 1 โหวต

Article Rating

0 Comments

Inline Feedbacks

ดูความคิดเห็นทั้งหมด