บทที่ 37: น้องชาย! นายคิดจะลักพาตัวเจ้าหญิงเหรอ?
ฮาคิสังเกตขั้นสูง! นี่เป็นพลังที่ดีพอๆ กับฮาคิเกราะเลยทีเดียว! ถ้าพลาดโอกาสนี้ไป ใครจะรู้ว่าอนาคตจะมีโอกาสแบบนี้อีกไหม?
แต่เมื่อเห็นเงื่อนไขของการเลือกครั้งนี้ โลแลนก็แสดงสีหน้าแปลกๆ ระบบเอ๋ย... นี่นายจะให้ฉันเดินทางนี้ไปจนสุดทางจริงๆ ใช่ไหม?
แต่ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ไม่มีทางเลือก ต้องเลือกตัวเลือกที่ 3 เท่านั้น!
โลแลนจึงส่ายหัวและพูดกับโรบิน "เอ่อ...โรบิน ฉันเริ่มคิดแล้วว่า บางทีฉันอาจจะเข้าใจผิดไปจริงๆ"
เมื่อวีวี่ได้ยินเช่นนั้น เธอก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดีแล้ว! โชคดีที่ฉันมีไหวพริบ ไม่งั้นคงโดนจับได้แน่ๆ!
"เข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ?" โรบินยังคงสงสัย
"น่าจะใช่" โลแลนพยักหน้าแล้วหันไปถามวีวี่อย่างจริงจัง "ฉันจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย เธอใช่เจ้าหญิงวีวี่ไหม?"
"ฉันไม่ใช่แน่นอน!" วีวี่ตอบกลับอย่างหนักแน่น
โลแลนยิ้มและพูดต่อ "งั้นฉันบอกความจริงให้เธอรู้เลยนะ ฉันเป็นทหารเรือ และตอนนี้โรบินก็อยู่ข้างฉันแล้ว เรียกได้ว่าเธอก็เป็นพวกของทหารเรือด้วย ถ้าเธอไม่ใช่เจ้าหญิงวีวี่ งั้นเธอก็คืออาชญากรของบาโรคเวิร์คส์ และฉันต้องจับตัวเธอไป!"
ยังแสดงต่ออีกเหรอ? พวกนี้ช่างไม่ยอมแพ้จริงๆ! วีวี่คิดอย่างขบขันในใจ
“งั้นก็จับฉันไปสิ! แต่พวกคุณไม่มีทางจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับบาโรคเวิร์คส์จากฉันหรอก! ฉันจะไม่มีวันทรยศเพื่อนพ้อง!” วีวี่แกล้งทำท่าทางเหมือนพร้อมจะตายเพื่อองค์กร
ดีมาก โลแลนคิดในใจ "งั้นมากับฉันหน่อยแล้วกัน"
โลแลนยื่นมือออกไปจับแขนทั้งสองข้างของวีวี่ดึงไปด้านหลัง และมัดด้วยเชือกอย่างเรียบร้อย
"ไอ้คนทรยศ!" วีวี่หันไปมองโรบินด้วยสายตาดุดัน ก่อนจะด่าด้วยความโกรธ
ในเมื่อพวกคุณอยากแสดงละครกัน งั้นฉันก็จะเล่นด้วย ให้พวกคุณเห็นความภักดีของฉันต่อบาโรคเวิร์คส์!
โรบินยังคงสงสัยเล็กน้อย เธอหันไปถามโลแลน "แน่ใจเหรอว่าเธอไม่ใช่?"
"น่าจะไม่ใช่จริงๆ!" โลแลนตอบพลางพยักหน้า จากนั้นเขาก็พาวีวี่เดินออกจากตรอก
เมื่อออกมาถึงข้างนอก นามิและทาชิงิเห็นโลแลนกับโรบินพาผู้หญิงคนหนึ่งออกมา ทั้งสองจึงรีบเข้ามาหา
"นายน้อย เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ? เธอคือเจ้าหญิงวีวี่หรือเปล่า?" นามิถามอย่างสงสัยขณะมองไปที่วีวี่
"เธอเหรอ~" โลแลนทำท่าทางเบื่อหน่าย "ไม่ใช่หรอก เธอเป็นเจ้าหน้าที่ของบาโรคเวิร์คส์ เป็นอาชญากร"
"อ้าว! งั้นยังไม่เจอเจ้าหญิงวีวี่เลยเหรอ? เธอหายตัวไปตั้งหลายวันแล้ว กษัตริย์โคบร้าคงจะกังวลใจมากแน่ๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดออกมา แต่ใจเขาคงร้อนรนไม่ใช่น้อย ฉันหวังจริงๆ ว่าจะช่วยเขาได้บ้าง..." นามิพูดพร้อมแสดงสีหน้าเศร้าและผิดหวัง
ฮ่าๆ พวกเขายังไม่ยอมแพ้จริงๆ! วีวี่คิดในใจอย่างขบขัน คนของบาโรคเวิร์คส์นี่ช่างมีความพยายามเสียจริง ตอนแรกไม่สำเร็จ ก็พยายามเอาใหม่อีกครั้ง... และอาจจะมีแผนการอะไรต่ออีกสินะ? แต่พวกเขาคงไม่รู้ว่าที่จริงแล้ว พ่อของฉันไม่กังวลอะไรหรอก เพราะทุกอย่างได้ถูกเตรียมการไว้หมดแล้ว!
ตอนนี้พวกแกมาพูดว่าพ่อฉันกังวล นั่นยิ่งพิสูจน์ว่าพวกแกกำลังเล่นละครอยู่! วีวี่คิดในใจพร้อมกับแอบยิ้มขำกับสถานการณ์
ทาชิงิเม้มริมฝีปากเล็กน้อยและกล่าวว่า “นายน้อย วันนี้เป็นวันสุดท้ายตามที่เราตกลงไว้ เราจะขยายเวลาออกไปอีกไหม?”
"ไม่จำเป็นแล้ว! ตัวการสำคัญก็ถูกจับแล้ว พวกเราควรออกจากที่นี่ได้แล้ว" โลแลนตอบอย่างมั่นใจ ในใจคิดถึงรางวัลที่รออยู่หลังจากที่ออกจากอาลาบัสต้า
“เข้าใจแล้วค่ะ” ทาชิงิพยักหน้าเห็นด้วย
สองชั่วโมงต่อมา โลแลนและพวกพ้องเดินทางมาถึงท่าเรือ
ด้วยพลังของเนตรสีขาว โลแลนสามารถมองเห็นสถานการณ์ที่ท่าเรือจากระยะไกลได้ และเมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่น โลแลนก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง
หืม? โลแลนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เมื่อเห็นกลุ่มคนจำนวนมากยืนอยู่ที่ท่าเรือ นอกจากกลุ่มของปู่การ์ปแล้ว ยังมีกลุ่มคนอื่นๆ อยู่ด้วย
เดี๋ยวนะ! นั่นมันพวกขุนนางและกษัตริย์โคบร้าแห่งอาลาบัสต้าหนิ?
เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่กันหมดล่ะ?
ถ้าให้พวกเขาเห็นวีวี่เข้า งานนี้ฉันจะพาเธอออกไปได้ยังไงล่ะ? แบบนี้รางวัลฮาคิสังเกตขั้นสูงก็ไม่ได้สิ! โลแลนคิดอย่างรวดเร็ว
เขาจึงบอกให้ทุกคนรออยู่ที่เดิม ก่อนจะหายตัวไปซื้อเสื้อคลุมตัวใหญ่จากตลาดกลับมา
“นายน้อย คุณซื้อเสื้อคลุมนี้มาทำไมเหรอคะ?” นามิถามด้วยความสงสัย
โลแลนยิ้มและพูด “ฉันจะใช้มันคลุมให้เจ้าหญิงวีวี่ไงล่ะ” เขาก้มศีรษะแล้วสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ให้วีวี่ ซึ่งมีหมวกคลุมศีรษะขนาดใหญ่ที่สามารถปกปิดใบหน้าของเธอได้
“เอ่อ... นายน้อย คุณทำแบบนี้ทำไมเหรอ?” นามิถามพลางเอียงศีรษะเล็กน้อยพร้อมขมวดคิ้ว
โลแลนยักไหล่แล้วตอบพร้อมรอยยิ้ม “ก็เพราะเดี๋ยวตอนขึ้นเรือรบจะมีคนเยอะใช่ไหมล่ะ? แม้ว่าเธอจะเป็นนักโทษ แต่เธอก็ยังเป็นเด็กสาวอยู่ การที่คนมากมายเห็นว่าเธอยังอายุน้อยแต่ถูกจับ มันคงจะน่าอายมาก ฉันทำแบบนี้เพื่อให้เธอไม่ต้องรู้สึกขายหน้ายังไงล่ะ เมื่อเธอพ้นโทษแล้วจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง”
“อ๋อ เข้าใจแล้ว!” นามิยิ้มพร้อมกับยกชายหมวกขึ้น เผยให้เห็นใบหน้าของวีวี่ “นายน้อยเราช่างมีหัวใจที่อบอุ่นจริงๆ ใช่ไหม?”
วีวี่ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ มันก็อบอุ่นใจอยู่หรอกนะ... ถ้าแค่พวกคุณไม่ได้กำลังเล่นละครกันอยู่!
ทาชิงิพยักหน้าเห็นด้วยอย่างหนักแน่น “นายน้อยช่างคิดรอบคอบจริงๆ!”
"เอาล่ะ ออกเดินทางได้!" โลแลนสั่งการ นามิและทาชิงิจับวีวี่เดินนำหน้าไป ในขณะที่โลแลนแกล้งเดินช้าลง ลากโรบินมาด้านหลัง
โรบินหันมาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม "พูดมาสิ มีอะไรอยากจะบอกพี่สาวคนนี้ไหม?"
"เอ่อ..." โลแลนมองโรบินด้วยสีหน้าแปลกๆ "เธอนี่รู้ทันไปหมดจริงๆ นะ พี่สาวที่รู้ใจทุกเรื่องเลย"
จากนั้น โลแลนก็พูดต่อ "เดี๋ยวพอขึ้นเรือรบ เธอช่วยใช้พลังของผลปีศาจปิดปากเธอไว้หน่อย อย่าให้เธอส่งเสียงออกมา"
“โอ้~?” โรบินหยุดเดิน สายตาของเธอแสดงถึงความสงสัยคล้ายได้กลิ่นแผนการบางอย่าง ดวงตาสีสวยของเธอเปล่งประกายและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะจ้องมองโลแลนอย่างไม่วางตา
“เฮ้ๆๆ มองฉันแบบนั้นทำไมล่ะ? เหมือนมองคนร้ายอย่างนั้นแหละ” โลแลนพูดพลางทำหน้าตาเบื่อหน่าย
โรบินยังคงจ้องมองโลแลนเงียบๆ สักพัก ก่อนที่เธอจะยกนิ้วแตะที่หน้าผากของเขาเบาๆ และยิ้มอย่างลึกลับ "บอกฉันมาตรงๆ เถอะ มิสส์เวนส์เดย์คือเจ้าหญิงวีวี่ใช่ไหม?"
โลแลนเงียบไปสองวินาทีก่อนจะยักไหล่ “ก็ใช่”
“อ๋อ จริงด้วยสินะ?” โรบินอุทานด้วยความประหลาดใจ
เมื่อได้ยินคำยืนยันจากโลแลน โรบินถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอจับไหล่ของโลแลนแน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่เชื่อหูตัวเอง "ไอ้น้องบ้า! นี่นายคิดจะลักพาตัวเจ้าหญิงเหรอ!?"
โรบินทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อว่าคนตรงหน้าจะกล้าทำอะไรแบบนี้