ตอนที่แล้วตอนที่ 1 ชีวิตก็เหมือนละคร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 3 การมาถึงของลิ้นเทพ

ตอนที่ 2 ภารกิจแรก


ตอนที่ 2 ภารกิจแรก

"โฮสต์ได้รับ [ภารกิจแรก]"

"คำแนะนำ: ในฐานะลูกมือในครัว คุณควรก้าวสู่ความเป็นอิสระ ลงมือทำอาหารจานหนึ่งที่ทำให้ตัวคุณเองและลูกค้าพึงพอใจ"

"รางวัล: สูตรอาหาร 'เต้าหู้หม่าล่า' (สีน้ำเงิน)"

เอ๋?

ในขณะที่เซี่ยหยูกำลังรู้สึกดีใจกับสิทธิพิเศษของนักเดินทางจากต่างโลก แต่ไม่คิดว่าระบบเทพแห่งการทำอาหารจะมอบภารกิจแรกให้เขาเร็วขนาดนี้

ภารกิจแรก ทำอาหารหนึ่งจาน?

นั่นไม่ยากเลย! เซี่ยหยูยิ้มกว้างทันที แต่แล้วระบบก็แจ้งเตือนเขา อย่างเย็นชา

"อาหารของคุณต้องได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าด้วย จึงจะถือว่าภารกิจสำเร็จ"

"ลูกค้า? ลูกค้าที่ไหนล่ะ?" เซี่ยหยูอดยิ้มอย่างขมขื่นไม่ได้

ร้านอาหารจีนเล็กๆ ของเขา เปิดขายเดือนหนึ่งแทบจะขายไม่หมดเลยสักครั้ง ไม่ใช่เพราะอยู่ห่างไกล

แต่เพราะปู่ของเขาที่มีนิสัยแปลกประหลาดเกินไป เป็นตาแก่ที่ดุร้ายเหมือนปีศาจ หากเป็นแบบนี้นานวันเข้า ใครจะมากินอีกล่ะ?

เซี่ยหยูเคยพยายามชักชวนลูกค้า แต่ปู่ประเมินการกระทำของเขาสั้นๆ ว่า

"ไร้ประโยชน์"

เป็นคำพูดที่ตรงไปตรงมา แต่เซียหยูกล้าสาบานได้ว่า นี่คือคำพูดจากตาแก่นั่น และเขาไม่ได้ปรุงแต่งแม้แต่น้อย

เขาถอนหายใจว่า ทำไมถึงต้องมาติดอยู่กับตาแก่ดื้อรั้นคนนี้ด้วย

แต่เซี่ยหยูซึ่งไม่กล้าอยู่บนชั้นสองของบ้านนี้นานเกินไป จึงรีบแปะพลาสเตอร์ปิดแผลที่ฝ่ามือ ถอดชุดนักเรียนออก เปลี่ยนเป็นชุดทำงานที่ซักจนสีซีดและมีกลิ่นเหงื่อจางๆ แล้ววิ่งรีบลงบันไดไป …ตึกๆ

เซี่ยหยูนั่งลงบนเก้าอี้อันเตี้ย แล้วเริ่มจัดการวัตถุดิบ

จริงๆแล้วทุกคืน เขาต้องจัดการกับวัตถุดิบมากมาย ทั้งเนื้อปลาชิ้นใหญ่ และผักผลไม้นานาชนิด

ทุกเย็นที่เซี่ยหยูกลับจากโรงเรียนก็จะเห็นวัตถุดิบกองเต็มอยู่ที่มุมห้องครัว แต่ไม่เคยเห็นคนส่งวัตถุดิบเลยสักครั้ง

อีกอย่าง แม้ว่าร้านจะไม่มีลูกค้า แต่วัตถุดิบก็หมดไปอย่างน่าตกใจ

เซี่ยหยูเริ่มจากความสงสัยและพยายามหาคำตอบทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ต่อมาก็ค่อยๆ เลิกสนใจ

ในใจ เซี่ยหยูเรียกเหตุการณ์นี้ว่า 'เหตุการณ์ประหลาดที่ร้านอาหารจีนตระกูลเซี่ย ครั้งที่สอง'

ส่วนเหตุการณ์ประหลาดครั้งแรกก็คือ โอ่งใบนั้นและก้อนหินแปลกๆ ในโอ่ง

"ปั๊บ"

ก้อนเนื้อวัวสดใหม่ชิ้นใหญ่ถูกทิ้งลงบนเขียงไม้ เซี่ยหยูยืนลับมีดตามปกติ แล้วถือมีดที่คมกริบอยู่หน้าเขียง

การหั่นเนื้อวัวต้องใช้เทคนิค ซึ่งเซี่ยหยูชำนาญมานานแล้ว

ตามคำกล่าวที่ว่า "หั่นเนื้อวัวตามขวาง หั่นเนื้อหมูตามยาว" เขาวางมีดตั้งฉากกับลายเนื้อ พอฟันลงไปทีเดียว ชิ้นเนื้อวงกลมใหญ่ก็แยกออกมา

เขาหั่นก้อนเนื้อทั้งหมดเป็นวงๆ จากนั้นก็แบ่งสัดส่วนต่อ บางส่วนจะใช้ทอด บางส่วนหั่นเป็นชิ้นหรือเส้น เพื่อทำอาหารจานอื่น

ขั้นตอนนี้ทำล่วงหน้า แต่มีตู้เย็นเก็บ จึงไม่ต้องกังวลว่าเนื้อจะเสียความสด

เซี่ยหยูแพ็คเนื้อที่หั่นแล้วแยกประเภท จัดเก็บในช่องแช่แข็ง แล้วหันไปจัดการอาหารทะเลสด

ปลาต้องขอดเกล็ด ตัดเหงือก เอาเครื่องในออก ส่วนหอยและกุ้งยุ่งยากกว่า

เซี่ยหยูแยกหอยกับกุ้งใส่ถังน้ำใหญ่หลายใบ หยิบเกลือจากเคาน์เตอร์ครัวมาโรยลงไป แล้วเทน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย แค่พอให้ลอยบนผิวน้ำ

ใครๆ ก็รู้ว่าน้ำมันลอยอยู่บนผิวน้ำจะกั้นออกซิเจน พวกหอยสดในถังที่ขาดอากาศหายใจ ก็จะอ้าปากหายใจเต็มที่ ทำให้คายดินทรายออกมา เวลาปรุงอาหาร ลูกค้าจะได้ไม่ต้องเคี้ยวเจอดินทราย รสชาติก็จะอร่อยจนได้รับคำชมไม่ขาดสาย

วุ่นวายกันอยู่พักใหญ่กว่าจะถึงเที่ยงคืน นาฬิกาโบราณที่แขวนอยู่หน้าร้านส่งเสียงตีดังเป็นจังหวะ

"ฮู้ววว..."

เซี่ยหยูถอดผ้ากันเปื้อนที่เปรอะคราบน้ำและเลือด ขยำเป็นก้อนโยนเข้าห้องน้ำ แล้วตักน้ำสะอาดมาหนึ่งอ่าง เริ่มเช็ดโต๊ะเก้าอี้ในร้าน

เสียงตะหลิวดังมาจากครัว เซี่ยหยูเหลียวไปมอง

ไม่ผิดคาด ตาแก่นั่น เริ่มลงมือทำอาหารแล้ว นี่คือช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของวัน!

ในที่สุดก็ไม่ต้องกินขนมปังจากร้านสะดวกซื้อ และมีอาหารมื้อดึกร้อนๆ ให้กินแล้ว!

เซี่ยหยูรู้สึกอยากร้องไห้ด้วยความปลาบปลื้ม รีบทำงานอย่างกระตือรือร้นมากขึ้น และหูผึ่งฟังเสียงจากในครัว

ปัง!

ไม่นาน ชามราเมนร้อนๆ สองชามใหญ่ถูกวางบนเคาน์เตอร์ ปู่ของเขาถอดหมวกเชฟ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า "เอาไปสิ"

เซี่ยหยูรีบหยิบชามหนึ่งมาไว้ตรงหน้าตัวเอง

ร้านเล็กๆ แคบๆ แบบนี้ไม่มีโต๊ะเก้าอี้หรอก

ถ้าเคยดูซีรีส์ "ร้านอาหารเที่ยงคืน" ก็คงนึกภาพออก

อาหารมื้อดึกวันนี้ เป็นราเมนน้ำใส ซึ่งปู่ของเขาคิดมาแล้วอย่างรอบคอบ ไม่ใส่เครื่องปรุงที่ทำให้ระคายเคืองกระเพาะ มีแค่น้ำมันบางๆ ลอยอยู่และต้นหอม พร้อมเนื้อวัวทอดกรอบหอมน่ากินไม่กี่ชิ้น

กลิ่นหอมอบอวลทั่วร้าน เซี่ยหยูถือตะเกียบ พนมมือด้วยท่าทางนอบน้อม

"ขอบคุณสำหรับอาหาร!"

แล้วก้มหน้ากินอย่างตะกละตะกลาม

กินราเมนไปสองสามคำ จิบน้ำซุป อาหารร้อนๆ ไหลผ่านลำคอ เซี่ยหยูอดชมไม่ได้ "นี่แหละ คืออาหารจริงๆ..."

เขาคุกเข่าให้กับฝีมือของตาแก่ที่เป็นปู่ของเขาในชาตินี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว

อาหารมื้อดึกของปู่แทบจะไม่ซ้ำกันเลย

นี่เป็นมื้อที่อร่อยที่สุดของเซี่ยหยูในทุกวัน ส่วนมื้ออื่นๆ อย่างอาหารเช้า กลางวัน เย็น …ฮึ ฮึ

สองมื้อแรกกินระหว่างทางไปโรงเรียนหรือที่ร้านในโรงเรียน มื้อหลังก็แวะกินตอนเลิกเรียนกลับบ้าน

ถ้าไม่มีอาหารดึกมื้อใหญ่นี้ เซี่ยหยูคงตายไปนานแล้ว!

ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติก่อน เซี่ยหยูกล้าพูดได้เลยว่าไม่เคยกินอาหารของใครอร่อยเท่าฝีมือปู่เขามาก่อน

ราเมนน้ำ เป็นแค่หนึ่งในเมนูเด็ดของปู่เท่านั้น

เมนูที่เซี่ยหยูประทับใจที่สุด คือเกี๊ยวทะเล ที่ได้กินเมื่อครึ่งปีก่อน

แค่นึกถึงก็น้ำลายสอ เซี่ยหยูกลืนน้ำลาย รีบกินราเมนชามใหญ่จนหมด แล้วดันชามเปล่าออกไป ยื่นมือไปกำลังจะหยิบอีกชาม แต่กลับได้ยินเสียงซู๊ดดดด ดังมาจากข้างๆ

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

เฮ้ย นี่มันราเมนของฉันนะ แกเป็นใครกัน?

เขามองดูเคาน์เตอร์ตรงหน้าที่ว่างเปล่า แล้วมองลูกค้าที่นั่งข้างๆ ก้มหน้ากินราเมนอย่างเอร็ดอร่อย เซี่ยหยูอดแหงนหน้ามองเพดานไม่ได้ และพยายามกลั้นน้ำตาไว้

"อร่อยจริงๆ อร่อยมาก!"

ลูกค้าคนนี้ยังเลวร้ายกว่านั้น กินไปชมไป "สมแล้วที่เป็นฝีมือของเถ้าแก่เซี่ย ฮ่าๆ คืนนี้โชคดีจริงๆ!"

สำเนียงภาษาจีนติดๆ ขัดๆ ทำให้เซี่ยหยูรู้ในทันทีว่า ไอ้คนไร้มารยาทนี่เป็นคนญี่ปุ่น

เขาแทบไม่เคยเห็นคนญี่ปุ่นที่สนิทสนมและหยิบของคนอื่นกินแบบนี้มาก่อน

สำหรับคนญี่ปุ่น การสร้างความลำบากใจให้ผู้อื่นถือเป็นเรื่องผิด แต่นี่ไม่ใช่แค่ความลำบากธรรมดา มันคืออาหารที่ถูกขโมยกิน! เซี่ยหยูโกรธจนแทบระเบิด!

เอ๊ะ! เซี่ยหยูขมวดคิ้ว

พอมองดีๆ เขาถึงเห็นว่าชายคนนี้แปลกประหลาดมาก อากาศร้อนขนาดนี้ แต่กลับสวมเสื้อโค้ทสีดำแบบนักสืบ สวมหมวกสีดำ ยกปกเสื้อสูง

แต่งคอสเพลย์เป็นเชอร์ล็อก โฮล์มส์หรอ?

จะเอากล้องสูบยาเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากด้วยไหม?

ตามปกติการกินราเมนแบบนี้ต้องเหงื่อท่วมตัวแน่ๆ ร้านก็แคบ ไม่ได้เปิดพัดลม แถมอากาศยังร้อนอบอ้าว

แต่ชายคนนี้กินจนหมดชาม พร้อมลูบท้องอิ่ม

เซี่ยหยูกลับไม่เห็นเหงื่อสักหยดบนผิวที่โผล่พ้นเสื้อผ้าของชายคนนี้เลย

เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมอง ลูกค้าคนนี้จึงเงยหน้าขึ้น ยิ้มให้เซี่ยหยูแบบเห็นฟัน

ชายวัยกลางคน หน้าตาดูดีมีเสน่ห์

ในขณะที่ เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ เซี่ยหยูกลั้นความอยากต่อยเขาไว้ และกัดฟันพูดว่า "มีต้นหอนติดที่ริมฝีปากคุณ..."

"อ้อ งั้นหรอ?"

ชายวัยกลางคนที่กินเสร็จแล้ว ท่าทางสง่างามและสบายๆ ได้ยินแบบนั้นก็หยิบกระดาษทิชชูจากเคาน์เตอร์มาเช็ดต้นหอนออกเบาๆ

เขาลุกขึ้นขยำทิชชูเป็นก้อนโยนลงถังขยะ แล้วกลับมานั่งที่เดิม

จากนั้น ชายวัยกลางคนก็จ้องมองเซี่ยหยูด้วยสายตาสนใจ

--------------------------------

ฝากติดตาม สนับสนุน และเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ

หากพบคำผิด แจ้งได้เลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด