ตอนที่แล้วตอนที่ 6 เริ่มต้นการฝึกฝน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 8 หนึ่งเดือนต่อมา

ตอนที่ 7 เรียนรู้สกิลแม่ไม้มวยไทย


ก้องภพกลับมามุ่งมั่นกับการฝึกอีกครั้ง เขาย่างสามขุมและออกหมัดต่อยไปยังต้นกล้วยด้วยความตั้งใจ ทว่าในระหว่างการฝึกอยู่นั้น ก้องภพก็สัมผัสได้ว่าเหมือนกำลังถูกสายตาของใครบางคนจ้องมองอยู่

ชายหนุ่มจึงลองหันหลังกลับไปและพบเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังโผล่ศีรษะออกจากชานบ้าน ท่าทางนั้นบ่งบอกว่ากำลังแอบมองเขาอยู่

เมื่อเธอเห็นว่าก้องภพหันกลับมา หญิงสาวก็รีบดึงศีรษะกลับไปเพื่อหลบสายตาของเขาทันที

“ใครกันนะ?” ก้องภพขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนจะเลิกคิดฟุ้งซ่านและหันกลับมาตั้งใจฝึกอีกครั้ง

เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงจนแสงแดดยามเย็นสาดส่องเข้ามายังลานฝึก

“เอี๊ยะ เอี๊ยะ!” เสียงอุทานของก้องภพขณะต่อยดังลั่นลานฝึก

ตุบ ตุบ!

เสียงต่อยดังอย่างต่อเนื่อง

เอี๊ยะ เอี๊ยะ!

หลังจากการต่อยครั้งสุดท้าย เกิดดาเมจคริติคอลขึ้นที่ต้นกล้วยพร้อมกับการที่มันหักเป็นสองท่อน

[ผู้เล่น ก้องภพ ทำการ ล้มต้นกล้วยต้นที่ 10 ได้สำเร็จ]

[ทักษะการต่อย เลื่อนระดับเป็นขั้นที่ 5]

“ผ่านสักทีเว้ยย!”

ก้องภพตะโกนด้วยความดีใจก่อนจะรีบวิ่งกลับขึ้นไปบนเรือนเพื่อแจ้งให้พระยาพิชิตทราบ

ก้องภพวิ่งขึ้นบันไดไม้ด้วยอาการตื่นเต้น จากนั้นเมื่อขึ้นมาบนเรือนก็พบพระยาพิชิตกำลังนั่งเล่นหมากรุกกับบ่าวรับใช้ชายที่หอกลาง

พระยาพิชิตเงยหน้าขึ้นมองก้องภพที่ยืนอยู่ตรงนั้น ราวกับรับรู้ถึงการมาของเขาตั้งแต่ก้าวแรก ก้องภพโน้มตัวลงและคลานเข้าไปหาชายตรงหน้าอย่างนอบน้อม

“ผมทำครบตามที่อาจารย์บอกแล้วครับ” ชายหนุ่มหายใจหอบเล็กน้อยขณะพูด

“อื้ม...ใช้ได้ๆ” พระยาพิชิตหันไปหาบ่าวรับใช้ชายตรงหน้า “เอ็งไปเอาตำราเล่มนั้นมาให้ข้าหน่อย”

“ท่านพระยาหมายถึงตำราที่อยู่ในหอพระเล่มนั้นหรือขอรับ?”

“ใช่เล่มนั้นแหละ เอ็งไปเอามาให้ข้าที”

“ขอรับ” บ่าวชายพยักหน้าพร้อมกับลุกออกไปและไม่นานก็กลับมาพร้อมตำราเล่มหนึ่งที่มีปกสีทอง ที่เมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์อัสดงก็ยิ่งทำให้ดูล้ำค่าและน่าค้นหา

บ่าวรับใช้ยื่นตำราในมือให้พระยาพิชิตด้วยท่าทางนอบน้อม พระยาพิชิตรับตำรามาถือไว้และมองปกตำราอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยื่นส่งให้ก้องภพ

“เอ็งนำไปอ่านและจดจำให้ขึ้นใจ”

ก้องภพยื่นมือออกไปรับพร้อมกับตรวจดูภายนอกของตำราเล่มนี้และพบว่ามันเป็นตำราที่แม้จะเก่าแต่ก็ดูทรงคุณค่า บนหน้าปกมีข้อความเขียนว่า ‘ตำราการต่อสู้’

“ส่วนการฝึกวันนี้ให้พอแค่นี้ก่อน เอ็งไปพักผ่อนเสียเถิด”

“ครับอาจารย์”

ชายหนุ่มโน้มตัวให้อาจารย์อย่างนอบน้อมก่อนจะเดินกลับไปยังเรือนนอนของตน โดยที่ระหว่างทางเขาเอาแต่เฝ้ามองตำราในมือพร้อมกับคิดในหัวด้วยความตื่นเต้น

เนื้อหาภายในตำราจะเป็นยังไงน้า? จะมีเคล็ดลับอะไรที่ช่วยให้เราฝึกฝนเก่งขึ้นหรือเปล่านะ?

ก้องภพตั้งใจว่าเมื่อถึงห้องแล้วจะทิ้งตัวนอนที่เตียงพร้อมกับเปิดอ่านตำราที่เพิ่งได้มาอย่างละเอียด

ชายหนุ่มทำการปิดประตูเรือนนอนอย่างอารมณ์ดี จากนั้นหันหลังกลับมาเพื่อเตรียมพุ่งเข้าไปที่เตียงนอนตามที่ได้ตั้งใจเอาไว้

ทว่าเมื่อเขาหันกลับมาก็ต้องสะดุ้งตกใจเพราะได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งกำลังยืนประจันหน้าอยู่ และก้องภพก็จำได้ทันทีว่าเธอคือคนที่แอบดูเขาเมื่อเช้า

“เฮ้...อู้อี้”

ก่อนที่ก้องภพจะทันได้ส่งเสียงใดๆ หญิงสาวได้โผเข้าหาพร้อมกับใช้มือเล็กๆ ของเธอปิดปากเขาไว้

“ชู่! ประเดี๋ยวพ่อข้าก็ได้ยินกันพอดี” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพลางเงี่ยหูฟังด้านนอก

“ถ้าข้าปล่อยมือออก เอ็งอย่าส่งเสียงดังเข้าใจหรือไม่?”

ก้องภพพยักหน้าช้าๆ

“ห้ามเล่นเล่ห์ล่ะ มิเช่นนั้นข้าตีเอ็งตายแน่!” เธอกระซิบขู่เสียงเข้ม

ก้องภพเบิกตากว้างก่อนจะพยักหน้าอีกครั้ง

หญิงสาวจึงค่อยๆ เอามือออกแล้วก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย

“เธอเป็นใครเนี่ย แล้วมาหาฉันต้องการอะไร?” ก้องภพรีบเอ่ยถามหญิงสาว

หญิงสาวเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสงสัย “ข้าต่างหากที่ต้องถามเอ็งว่าเอ็งเป็นผู้ใด มาจากที่ใดกัน เหตุใดพ่อข้าถึงไว้ใจและยอมสอนวิชาให้?”

“เธอเป็นลูกของอาจารย์อย่างนั้นเหรอ?”

หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไรนอกจากพยักหน้า

“เอ...คุ้นๆ ว่าเมื่อเช้าได้ยินชื่อของเธออยู่นะ ชื่อไรน้า…อ๋อ แก้ว เธอชื่อแก้วใช่ไหม?”

“โอ๊ย เลิกเฉไฉประเดี๋ยวนี้ ตอบข้ามาว่าเอ็งคือผู้ใด” แก้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“โอเคๆ คือ...จะเริ่มยังไงดีล่ะ ฉันชื่อว่าก้องภพเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์”

“ลูกศิษย์พ่อข้าอย่างนั้นรึ?” แก้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ “พ่อข้าไม่เคยสอนวิชาให้ใครเลยนอกจากคนสนิท”

“คือเรื่องมันยาวน่ะ ฉันก็มาที่นี่แบบงงๆ แถมพอมาถึงก็พบว่าตัวเองกลายเป็นคนในคำทำนายของเทพพยากรณ์ที่พ่อเธอต้องสอนวิชาให้ซะอย่างนั้น”

แก้วฟังอย่างตั้งใจ แม้ว่าดวงตาของเธอยังแฝงไปด้วยความสงสัย แต่ก็เริ่มเปิดเผยความรู้สึกในใจออกมา “พ่อยอมสอนให้แม้กระทั่งคนที่เพิ่งเคยเจอกัน แต่กับข้าที่เป็นลูกแท้ๆ กลับไม่เคยยอมสอนวิชาให้เลย...”

“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะ?” ก้องภพขมวดคิ้วอย่างสงสัย

“ก็เพราะข้าเป็นสตรีน่ะสิ พ่อบอกว่าไม่เหมาะสมที่สตรีจักฝึกการต่อสู้ แต่เหตุผลนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ทั้งๆ ที่ข้าก็อยากฝึก อยากมีความสามารถเฉกเช่นเดียวกับพวกผู้ชาย”

ก้องภพรับรู้ได้ถึงความน้อยใจและความไม่พอใจในน้ำเสียงของเธอ เขาเอื้อมมือไปจับไหล่เธอเบาๆ “บางทีพ่อของเธออาจมีเหตุผลที่ทำแบบนั้น ท่านอาจจะไม่ต้องการให้เธอไปเสี่ยงกับอันตราย”

แก้วส่ายหน้าพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มคลอในดวงตาของเธอ “ข้าไม่ต้องการความหวังดีเช่นนั้น ข้าอยากพิสูจน์ตัวเอง อยากแสดงให้พ่อเห็นว่าสตรีก็เก่งไม่ต่างจากบุรุษ”

ก้องภพนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ “อืม...เข้าใจละ ในเมื่อเธอมุ่งมั่นขนาดนั้น เอาอย่างงี้ละกัน ถ้าฉันสามารถฝึกวิชากับพ่อเธอได้สำเร็จ ฉันจะมาสอนเธอเอง”

คำพูดของก้องภพทำให้รอยยิ้มบางๆ ปรากฏบนใบหน้าของแก้ว “เอ็งพูดจริงหรือ?”

“จริงสิ ฉันให้สัญญา” ก้องภพยื่นนิ้วก้อยออกไปหาหญิงสาว

แก้วใช้มือเล็กๆ ของเธอเช็ดน้ำตาพร้อมกับยื่นนิ้วก้อยไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของอีกฝ่าย “เอ็งให้คำมั่นแล้วนะ ถ้าผิดคำมั่น เอ็งเตรียมตัวตายได้เลย” เธอชี้นิ้วขู่ก้องภพ

“สัญญาครับคุณหญิง” ก้องภพยิ้มกว้างพร้อมตอบอย่างคนอารมณ์ดี

ทันใดนั้นเสียงของคุณหญิงวาสนาก็ดังขึ้นมาจากชานบ้าน “แม่แก้ว! แม่แก้วอยู่ที่ใดลูก”

“ข้าต้องไปแล้ว ไว้พบกันใหม่นะ” แก้วกระซิบด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกพร้อมกับกระโดดออกจากหน้าต่างด้วยความคล่องแคล่ว

เธอเดินไปตามทางเดินข้างเรือนอย่างเคยชินพร้อมกับส่งเสียงตอบรับ “ข้าอยู่นี่จ้ะแม่”

ก้องภพที่เฝ้าดูการกระทำของเธอจากหน้าต่าง ได้แต่อมยิ้มกับท่าทางของเธอ

หลังจากนั้นก้องภพได้ทิ้งตัวลงนอนที่เตียงพร้อมกับหยิบตำราขึ้นมาเปิดอ่าน กลิ่นของกระดาษเก่าที่ผ่านกาลเวลามานานได้ลอยขึ้นมาแตะจมูกของเขา ดวงตาของก้องภพกวาดผ่านตัวหนังสือที่เขียนด้วยลายมือที่อ่อนช้อยอย่างช้าๆ

ในแต่ละหน้าของตำราได้บันทึกถึงกระบวนท่าแม่ไม้มวยไทย ซึ่งมีการเขียนอธิบายไว้อย่างละเอียด ตั้งแต่การยืนเตรียมพร้อม การใช้หมัด ศอก เข่าและเท้าเพื่อโจมตีและป้องกันในทุกสถานการณ์ โดยข้อมูลทั้งหมดถูกจัดเรียงไว้อย่างเป็นระเบียบ พร้อมด้วยภาพวาดประกอบที่แสดงท่าทางให้เห็นชัดเจน

“โอ้โห ที่แท้ก็เป็นตำรามวยไทยนี่เอง” ชายหนุ่มพิมพำขณะเปิดหน้าตำราไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าการสอนท่าจระเข้ฟาดหาง

ก้องภพเริ่มอ่านและทำความเข้าใจเนื้อหาในตำราอย่างตั้งใจ จนเมื่อเขาอ่านมาถึงบรรทัดสุดท้ายก็ผล็อยหลับไปด้วยความเพลีย หลังจากนั้นข้อความแจ้งเตือนของระบบได้แสดงขึ้นมา

[ผู้เล่น ก้องภพ ได้เรียนรู้และปลดล็อกสกิลแม่ไม้มวยไทย

ผู้เล่น ก้องภพ ปลดล็อกท่า จระเข้ฟาดหาง]

เมื่อเสียงร้องของนกดังเจื้อยแจ้วปลุกชายหนุ่มจากการนอน ก้องภพบิดขี้เกียจพลางมองไปยังหน้าต่างที่เวลานี้มีแสงแดดอ่อนๆ ส่องเข้ามาแล้ว จากนั้นจึงได้ลุกจากเตียงเพื่อออกจากเรือนนอนตามปกติ ในตอนนี้ก้องภพรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าพร้อมสำหรับการฝึกวันใหม่

เหตุผลก็เพราะว่าการนอนในเกมนี้สามารถช่วยฟื้นฟูค่าสถานะของตัวละครได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าความเหนื่อยล้า ค่าพลังชีวิต หรือแม้แต่ค่าติดสถานะดีบัพบางชนิด

ก้องภพเดินไปตามทางเดินที่ทอดยาวและพบเข้ากับคุณหญิงวาสนาที่กำลังนั่งพับดอกบัวถวายพระโดยมีแก้วเป็นลูกมือ

“อ้าวตื่นแล้วรึ” คุณหญิงวาสนาหันมาทักทายชายหนุ่ม

“ครับ” ก้องภพพยักหน้าพร้อมยกมือไหว้เธออย่างนอบน้อม

“ไหว้พระเถอะจ้ะ” คุณหญิงวาสนายิ้มให้เขาพลางหันไปหาลูกสาว “นี่แม่แก้ว ไหว้พี่เขาหรือยัง?”

แก้วทำหน้าทำตาเหมือนประท้วง แต่สุดท้ายก็ยอมยกมือไหว้ก้องภพแบบลวกๆ

“ประเดี๋ยวเถอะแม่แก้ว ทำกริยาเยี่ยงนี้ได้อย่างไร” คุณหญิงวาสนาพูดน้ำเสียงดุกับลูกสาว

“แหะแหะ ไม่เป็นไรหรอกครับ” ก้องภพหัวเราะเสียงแห้งพลางมองไปทั่วเรือน “แล้วอาจารย์อยู่ไหนเหรอครับ?”

“เพลานี้คุณพี่น่าจะอยู่แถวสวนหลังบ้านกระมัง เอ็งลองไปเดินหาดู”

“ครับ” ก้องภพพยักหน้าพร้อมกับทำท่าขอตัวลาอย่างนอบน้อม

ชายหนุ่มเดินไปตามเส้นทางเดิมที่ใช้เมื่อวานนี้ก่อนจะมาถึงสวนหย่อมที่อยู่ติดกับลานฝึก ชายหนุ่มสอดส่องสายตามองไปรอบๆ และพบว่าพระยาพิชิตกำลังยืนมองบ่าวชายคนหนึ่งกวาดใบไม้ในสวนอยู่

ก้องภพจึงไม่รอช้า เขารีบเดินตรงไปหาอาจารย์ทันทีและเมื่อเขาอยู่ห่างจากพระยาพิชิตไม่กี่สิบเก้า...

“มาแล้วรึเจ้าก้องภพ” ชายวัยกลางคนกล่าวทักทายก้องภพทั้งที่ยังยืนหันหลังให้ราวกับมีตาวิเศษที่มองเห็นได้จากด้านหลัง

“คะ...ครับอาจารย์” ก้องภพตอบด้วยน้ำเสียงประหลาดใจเล็กน้อย

พระยาพิชิตหันกลับมาหาชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “แล้วเมื่อคืนเอ็งได้อ่านตาราที่ข้ามอบให้หรือไม่?”

“ก็...อ่านนิดหน่อยครับอาจารย์ แต่ผมยังจำไม่ค่อยได้เท่าไร”

“อื้มๆ เอ็งจงอ่านทุกคืนจนกว่าจักจำได้ขึ้นใจ”

“ครับอาจารย์” ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับ “แล้ววันนี้จะฝึกอะไรเหรอครับ?”

“วันนี้เอ็งจักต้องเรียนรู้การเตะ” เมื่อพูดจบพระยาพิชิตก็เดินนำชายหนุ่มกลับมายืนอยู่ที่ลานฝึกอีกครั้ง

“การเตะนั้นหวังผลอยู่สองแบบ นั่นคือเตะเพื่อโจมตีและเพื่อป้องกัน โดยหากเอ็งเตะเพื่อโจมตีจักต้องวางเท้าไปด้านหน้าเพื่อหวังผลการเตะครั้งต่อไป แต่หากจะเตะเพื่อป้องกันเอ็งจักต้องวางเท้าไปยังด้านหลังเพื่อเดินถอยหลัง”

หลังจากนั้นพระยาพิชิตก็เริ่มสาธิตวิธีการวางเท้าเมื่อเตะโจมตีและป้องกันให้ชายหนุ่มดู

“เอ้า ไหนทำให้ข้าดูสิ”

ก้องภพจัดการเตะตามแบบที่พระยาพิชิตสอนได้ทันทีราวกับคนมีพรสวรรค์ด้านการจดจำ

“อื้มๆ ใช้ได้ เช่นนั้นหน้าที่ในวันนี้ของเอ็งก็คือเตะล้มต้นกล้วยให้ได้สิบต้น”

“ครับอาจารย์”

ชายหนุ่มเริ่มทำการเตะต้นกล้วยตรงหน้าโดยมีพระยาพิชิตเอามือไพล่หลังเฝ้ามองท่าทางการเตะของเขา

หลังจากนั้น ในทุกๆ วันของก้องภพก็วนเวียนอยู่กับการออกอาวุธโดยใช้ หมัด เท้า เข่า ศอก ที่พระยาพิชิตเป็นผู้สอน หน้าที่ของเขาก็คือการใช้ทักษะที่เรียนรู้มาล้มต้นกล้วย โดยที่จำนวนต้นกล้วยที่ต้องล้มในแต่ละวันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

จากสิบเป็นยี่สิบ จากยี่สิบเป็นสี่สิบ และสุดท้ายต้องล้มต้นกล้วยมากถึงวันละหนึ่งร้อยต้นเลยทีเดียว…

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด