ตอนที่ 65 ฐานผู้ลี้ภัย (ฟรี)
ตอนที่ 65 ฐานผู้ลี้ภัย
หลังจากได้ยินคำพูดของฉู่เจียงเยว่ ชายชราร่างผอมก็ไม่รู้จะอธิบายอารมณ์ของตนอย่างไรดี
ในตอนแรก ทัศนคติของพวกเขาก็ไม่ค่อยเป็นมิตรมากนัก
คาดไม่ถึงว่าเธอจะมอบของดีเช่นนี้ให้ โดยไม่คำนึงถึงคำพูดแย่ๆ ในอดีต
"มันสามารถทำให้เราเพิกเฉยต่อสภาพอากาศที่ร้อนจัด และป้องกันตัวเองจากซอมบี้ได้จริงเหรอ"
ต่างจากความรู้สึกขอบคุณของชายชรา ชายหนุ่มที่ติดตามเขามากลับตั้งคำถาม
ไม่ว่าเขาจะคิดยังไง เขาก็รู้สึกว่าคำพูดของเธอ มันไม่ค่อยน่าเชื่อถือเลย
กระดาษธรรมดาๆ จะมีความสามารถที่น่าทึ่งแบบนั้นได้ยังไง?
“พวกคุณจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่เลย”
ต้องลองใช้ดูเท่านั้นถึงจะรู้ว่าจริงหรือไม่ การฟังคำพูดของคนอื่น และสัมผัสด้วยตัวเองนั้นไม่เหมือนกัน
“แล้วต้องใช้ยังไงล่ะ?”
หากให้บางสิ่งบางอย่าง ก็ต้องบอกวิธีใช้มาด้วย ไม่งั้นต่อให้เป็นของที่มีประโยชน์มากแค่ไหน หากใช้ผิดวิธีก็อาจจะเป็นผลเสียแทน
“หยิบขึ้นมาสักแผ่น เดี๋ยวคุณก็รู้เอง”
มีทั้งหมดเป็นร้อยแผ่น ดังนั้นจึงไม่สำคัญว่าจะใช้สักแผ่นเพื่อทดสอบ
ชายหนุ่มจึงหยิบใบปลิวจากกองใบปลิวที่อยู่ในอ้อมแขนของชายชราร่างผอม จากนั้นไม่นาน เขาก็มองไปที่ฉู่เจียงเยว่
"นี่มัน…!"
ชายชราผอมบาง และชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ข้างๆ ชายคนนั้นก็รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
ไม่มีซอมบี้ในชุมชน ดังนั้นจึงไม่สามารถทดสอบเกี่ยวกับการป้องกันได้ แต่แค่นี้ก็มากเกินพอแล้ว
ยังมีผู้ปลุกพลังอยู่ในชุมชนของพวกเขา ตราบใดที่พวกเขาไม่เผชิญหน้ากับฝูงซอมบี้ พวกเขาก็จะไม่ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง
“คุณ...ทำไมคุณถึงให้ของดีๆ แบบนี้กับเราล่ะ”
ชายหนุ่มที่ถือใบปลิวมองไปที่ฉู่เจียงเยว่ด้วยความเขินอาย
"เพราะฉันต้องการให้มีคนรู้เกี่ยวกับโรงแรมเจียงหลินมากขึ้น ก่อนจะไปที่โรงแรม ให้เตรียมสิ่งของมีค่าหรือแก่นคริสตัลเอาไว้ แล้วพวกคุณจะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน"
“ขอบคุณ ขอบคุณมากจริงๆ!”
ชายชราร่างผอมมองที่ฉู่เจียงเยว่ด้วยสายตาที่แตกต่างไปจากเดิม สายตาของเขาด้วยความเคารพ และความกตัญญู
การที่สามารถในการเปิดโรงแรมในวันสิ้นโลกพิสูจน์ให้เห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าเขาต้องมีความสามารถอย่างมาก
ด้วยกลัวว่าอาหารจะเหม็นหืนก่อนที่จะได้กิน ชายชราร่างผอมจึงขอให้คนที่ตามขนกลับไปพร้อมกับใบปลิว ไม่นานพวกเขาก็หายไปจากระยะสายตาของฉู่เจียงเยว่ และคนอื่นๆ
หลังจากที่อีกฝ่ายจากไปแล้ว ฉู่เจียงเยว่ก็ไม่คิดจะอยู่ที่นี่นาน จึงเก็บข้าวของ และออกจากชุมชน
อย่างไรก็ตาม ก่อนออกเดินทาง ฉู่เจียงเยว่ได้เหลือบมองเถาวัลย์ที่พันอยู่ที่ประตูชุมชน
คราวนี้ ซูจู้เฉิงเป็นคนขับ และฉู่เจียงเยว่ยังคงนั่งอยู่บนเบาะหลัง
อาจเป็นเพราะคนที่ฐานมักจะเดินทางตามเส้นทางนี้ ฉู่เจียงเยว่ และคนอื่น ๆ จึงเดินทางต่อได้ค่อนข้างราบรื่น
แม้ว่าพวกเขาจะเผชิญหน้ากับซอมบี้ ก็จะมีเพียงหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น และเนื่องจากออฟโรดสีเงินมีความสามารถในการป้องกันซอมบี้ พวกเขาจึงไม่ถูกโจมตี
แต่เสิ่นจื้อกุยยังคงขว้างสายฟ้า เผาซอมบี้ที่พบจนกลายเป็นถ่าน
ฉู่เจียงเยว่ก็ใช้เถาวัลย์เพื่อช่วยม้วนเอาแก่นคริสตัลกลับมา ในขณะที่ซูจู้เฉิงใช้พลังวิเศษเพื่อล้างเลือดออก
หากใครเห็นพวกเขาใช้พลังเช่นนี้ คงตะโกนว่าสิ้นเปลืองจริงๆ
ไม่นาน พวกเขาก็มาถึงจุดที่ทีมก่อสร้างจากฐานผู้ลี้ภัยกำลังทำงานอยู่ มีการก่อสร้างจากจุดหมายทั้งสองด้านพร้อมๆ กันเพื่อทำให้ถนนเส้นนี้สร้างเสร็จโดยเร็วที่สุด
คนเหล่านั้นก็กล่าวทักทายอย่างสุภาพมากเมื่อพวกเขาเห็นฉู่เจียงเยว่ และเสิ่นจื้อกุย
"เถ้าแก่ คุณเสิ่น..."
ฉู่เจียงเยว่ และเสิ่นจื้อกุยต่างก็พยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบสนอง
“พวกคุณจะไปที่ฐานผู้ลี้ภัยเหรอ?”
หลายคนจากทีมก่อสร้างคาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นฉู่เจียงเยว่ที่นี่
ในความเห็นของพวกเขา ฉู่เจียงเยว่ไม่จำเป็นต้องออกจากโรงแรมเจียงหลิน เธอมีอาหาร และเสื้อผ้าเพียงพอ และไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกเพื่อเสี่ยง
หากพวกเขาเป็นฉู่เจียงเยว่ พวกเขาคงไม่มีวันออกจากโรงแรมเจียงหลินอย่างแน่นอน
“การสร้างถนนคืบหน้าไปมากเลยทีเดียว”
วัสดุก่อสร้างที่ฉู่เจียงเยว่เตรียมไว้ให้จะส่งผลอย่างสมบูรณ์ได้ในทันทีเมื่อเชื่อมต่อเข้าหากันอย่างสมบูรณ์
นั้นทำให้ขึ้นอยู่พวกเขาว่าจะสร้างถนนเสร็จได้เมื่อไหร่
“แน่นอน ใกล้พร้อมสำหรับการสัญจรไปมาแล้ว”
เมื่อพูดจบ พวกเขาก็หลีกทางให้อย่างชาญฉลาด
ซูจู้เฉิงจึงเหยียบคันเร่ง และขับรถต่อไปตามทาง
ครั้งนี้ มันเป็นการเดินทางที่ราบรื่นจริงๆ
มีรถผ่านไปมาไม่มากนัก และโดยพื้นฐานแล้วรถเหล่านั้นกำลังมุ่งหน้าไปยังโรงแรมเจียงหลิน
ฉู่เจียงเยว่ และคนอื่นๆ กำลังไปในทิศทางตรงกันข้ามกับคนส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงค่อนข้างโล่ง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเดินทางจะราบรื่น แต่ก็ยังต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการขับรถจากที่นี่เพื่อให้ไปถึงหน้าฐานผู้ลี้ภัยในเมือง B
เมื่อรถหยุดที่ทางเข้าฐานผู้ลี้ภัย ฉู่เจียงเยว่รู้สึกราวกับว่าเธออยู่ในอีกโลกหนึ่ง
ภาพในความทรงจำย้อนกลับมา เธอได้กลับมาที่นี่อีกครั้งแล้ว
“ลงจากรถแล้ว ฉันจะปิดระบบนำทาง”
หลังจากพูดจบ ฉู่เจียงเยว่ก็เป็นผู้นำในการเปิดประตูรถ และลงมา
“หยุด! จำเป็นต้องลงทะเบียนก่อนเพื่อเข้าสู่ฐาน”
เมื่อพวกเขาจะเข้าไปในฐาน พวกเขาก็ถูกหยุด แต่เรื่องนี้ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก
จากนั้น อีกฝ่ายก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาแล้วยื่นให้ฉู่เจียงเยว่ และคนอื่นๆ อย่างละแผ่น
“กรุณากรอกข้อมูลลงไป หากไม่มีบัตรผ่าน พวกคุณแต่ละคนจะต้องมอบข้าว 2 กิโลกรัมหรือวัสดุอื่นที่มีมูลค่าเท่ากัน”
ข้าว 2 กิโลกรัมไม่ใช่ปริมาณเล็กน้อยในช่วงเวลานี้
แต่ฉู่เจียงเยว่ไม่ได้กังวล เธอไม่มีข้าวสาร แต่มีข้าวโพด และมันฝรั่ง
ในกระดาษ นอกเหนือจากชื่อ และเพศแล้ว สิ่งแรกคือ คำถามที่ว่าได้ปลุกพลังหรือไม่?
ฉู่เจียงเยว่ก็ไม่เคยต้องการที่จะซ่อนพลังวิเศษ ดังนั้นเขาจึงเขียนพลังไม้ลงไป
ส่วนคำถามอื่นๆ เธอตอบแบบสุ่มๆ
ไม่ว่ายังไง คงไม่มีใครมาตรวจสอบเรื่องนี้ และต่อให้พวกเขาทำก็ไม่มีปัญหา ฐานผู้ลี้ภัยในเมือง B ยังคงหวังพึ่งโรงแรมของเธอในการจัดหาเสบียงให้ พวกเขาย่อมไม่กล้ารุกรานเธออย่างแน่นอน
ฉู่เจียงเยว่เป็นคนแรกที่กรอกเสร็จ และมอบให้คนที่เฝ้าประตู
“คุณเป็นผู้ปลุกพลังไม้เหรอ?”
ชายคนนั้นมองไปที่ข้อมูลที่ฉู่เจียงเยว่กรอก และดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นเมื่อมองมาที่เธออีกครั้ง
ฉู่เจียงเยว่พยักหน้า เธอรู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงรู้สึกประหลาดใจเมื่อเขาเห็นว่าเธอมีพลังไม้
เนื่องจากพื้นดินเต็มไปด้วยมลพิษ ทางฐานกำลังศึกษาวิธีเพราะปลูกให้ได้ผลผลิตมากที่สุด
ผู้ปลุกพลังไม้ถือเป็นกำลังหลักของเรื่องนี้
ชาติก่อนเธอก็ทำงานในทีมเกษตรกรรม และได้รับการดูแลค่อนข้างดี
นั่นเป็นเหตุผลที่เจียงเจิ้นเจินมุ่งเป้ามาที่เธอ และหลอกลวงเธอหลายต่อหลายครั้ง
“ทางฐานกำลังรับสมัครผู้ปลุกพลังไม้ หากคุณสนใจ ฉันสามารถช่วยแนะนำได้”
หากเขาสามารถโน้มน้าวเธอมาทำงานในฐานได้ เขาจะได้รับรางวัลอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น หากได้ทำความรู้จักกันเอาไว้ เขาอาจจะได้รับผลไม้สดใหม่จากเธอในอนาคต
นี่เป็นอีกช่องทางหนึ่งสำหรับเขาในการสร้างรายได้พร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย
“ไม่ ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเจียงหลิน”
ผู้คนที่ฐานผู้ลี้ภัยแห่งนี้รู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของโรงแรมเจียงหลิน และยังรู้ด้วยว่าฐานจะจัดกลุ่มคนไปที่โรงแรมเจียงหลินทุกวัน โดยรับส่งให้ฟรีๆ
ชายคนนี้ที่เฝ้าประตูก็เคยได้ที่โรงแรมเจียงหลินด้วย แต่เขาโชคไม่ดีนัก เมื่อเขาไปถึง ห้องพักนั้นเต็มหมดแล้ว เขาจึงไม่สามารถพักที่นั่นได้ และเขาก็ยังไม่เคยพบกับเจ้าของโรงแรมที่หลายคนพูดถึงเลย
เมื่อได้ยินว่าฉู่เจียงเยว่พักอยู่ที่โรงแรมเจียงหลิน ร่องรอยของความอิจฉาก็แวบขึ้นมาในดวงตาของเขา
“งั้นก็น่าเสียดาย แต่ก่อนพวกคุณจะได้เข้าไปต้องมีการตรวจร่างกายก่อน”