ตอนที่แล้วตอนที่ 5 พระยาพิชิตสงคราม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 7 เรียนรู้สกิลแม่ไม้มวยไทย

ตอนที่ 6 เริ่มต้นการฝึกฝน


ก้องภพหยิบเครื่องเล่นเกมออกจากศีรษะจากนั้นมองไปที่นาฬิกาตรงหัวเตียง

“เทคโนโลยีสมัยนี้ดีจังเลยแฮะ ขนาดใช้เวลาในเกมตั้งนาน แต่ชีวิตจริงเพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่สิบนาที”

ชายหนุ่มบิดตัวอย่างขี้เกียจพลางลุกขึ้นจากเตียง จากนั้นเดินมาหยุดอยู่ริมหน้าต่างเพื่อมองวิวภายนอก ทำให้เห็นภาพบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้า โดยมียานพาหนะและโดรนส่งของคอยวิ่งสัญจรผ่านไปผ่านมาให้เห็นเป็นระยะ

หลังจากหยุดมองอยู่ครู่หนึ่ง ก้องภพก็เดินไปยังห้องครัวและทำการเปิดตู้เย็นเพื่อหาว่าพอจะมีอะไรให้กินเล่นได้บ้าง เขาใช้สายตาสาดส่องไปทั่วทั้งตู้ก่อนจะเลือกหยิบเค้กช็อกโกแลตครึ่งก้อนที่กินเหลือจากวันก่อนออกมา

ชายหนุ่มทิ้งร่างนั่งลงที่โซฟาพร้อมกับออกคำสั่งเสียงเปิดทีวีโฮโลแกรม

“เปิดทีวี”

หน้าจอโฮโลแกรมสว่างวาบขึ้นมาตรงหน้าของเขา พร้อมกับฉายรายการทีวีของปี 2050 ไม่ว่าจะเป็นละครซีรีส์ที่ผู้ชมสามารถเลือกทิศทางของเนื้อเรื่องหรือปรับบทคำพูดของตัวละครให้ตรงตามความต้องการของตนเองได้

รายการสารคดีที่ได้ถูกยกระดับไปสู่รูปแบบสามมิติ ทำให้ผู้ชมสามารถมองเห็นรูปร่างของสัตว์ พืชพรรณ อาคารบ้านเรือนได้อย่างสมจริง สร้างประสบการณ์รับชมราวกับการได้เดินทางไปยังสถานที่แห่งนั้นจริงๆ

ก้องภพเปลี่ยนช่องไปเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดที่ช่องข่าวช่องหนึ่ง

“บริษัทวอร์เท็กซ์ อินเตอร์แอคทีฟเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีพัฒนาเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่ที่สามารถเชื่อมโยงโลกเสมือนจริงเข้ากับโลกความเป็นจริงได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยขณะนี้เครื่องเล่นเกมของพวกเขามียอดขายไปแล้วทั้งสิ้นสามสิบล้านเครื่อง” เสียงผู้ประกาศข่าวอ่านรายงาน

“ก้าวต่อมาของความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของบริษัทวอร์เท็กซ์ อินเตอร์แอคทีฟคือการเปิดตัวเกม เลเจนด์ส์ ออฟ ออดิสซีย์ ซึ่งเป็นเกมแนว MMORPG ที่ให้ผู้เล่นเข้าไปผจญภัยในโลกแฟนตาซีที่กว้างใหญ่และสัมผัสกับระบบการเล่นที่ล้ำสมัย”

“ภายหลังการเปิดตัว เกมของพวกเขาก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม มียอดผู้ลงทะเบียนแตะถึงหนึ่งล้านบัญชีภายในระยะเวลาสามเดือน ส่งผลทำให้ราคาหุ้นของบริษัทวอร์เท็กซ์ อินเตอร์แอคทีฟพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลล่าสุดวันนี้ได้พุ่งทะยานแตะถึงหุ้นละ 800 ดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นการเติบโตที่ก้าวกระโดดจากสองปีที่แล้วถึง 48 เปอร์เซ็นต์”

จากนั้นภาพก็ได้ตัดไปที่ฉากของนักข่าวกำลังรุมขอสัมภาษณ์ ธารา อิทธิเดช ผู้เป็นเจ้าของบริษัทวอร์เท็กซ์ อินเตอร์แอคทีฟขณะกำลังเดินออกมาจากประตูบริษัท

“ท่านคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับราคาหุ้นของบริษัทที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์คะ?” เสียงนักข่าวสาวเอ่ยถาม

“ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมกับ วอร์เท็กซ์ อินเตอร์แอคทีฟ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานทุกคนในบริษัท นักลงทุน รวมไปถึงผู้เล่นทั่วโลกที่ทำให้ เลเจนด์ส์ ออฟ ออดิสซีย์ กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ในวงการเกม”

“ส่วนเรื่องราคาหุ้นของเราที่เติบโตอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจอย่างมาก แต่สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขมากกว่านั้นก็คือการได้เห็นผู้เล่นได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจจากผลงานของเรา เพราะเราไม่ได้แค่สร้างเกม แต่เรากำลังสร้างประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนในชีวิตจริง”

“แล้วทิศทางของบริษัทหลังจากนี้จะเป็นยังไงบ้างครับ?” นักข่าวอีกคนเอ่ยถาม

“แน่นอนว่าการเติบโตนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เรามีแผนที่จะขยายขอบเขตของ วอร์เท็กซ์ อินเตอร์แอคทีฟ ออกไปให้กว้างมากยิ่งขึ้นเพื่อทำให้โลกของเกมกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ สุดท้ายนี้ผมจึงอยากจะขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับความไว้วางใจและการสนับสนุนของทุกคน ผมสัญญาว่า วอร์เท็กซ์ อินเตอร์แอคทีฟ จะยังคงมุ่งมั่นและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ต่อไปอย่างไม่หยุดพัก ขอบคุณครับ”

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำตัดเข้ารูปยิ้มบางๆ พร้อมทำท่าทางขอตัวจากสื่อมวลชน ก่อนจะเดินไปขึ้นรถด้วยท่าทางสุขุม โดยระหว่างทางมีบอดี้การ์ดร่างสูงใหญ่สี่ห้าคนทำหน้าที่กันนักข่าวออกจากตัวเขา...

ก้องภพเหลือบมองนาฬิกาและพบว่าตอนนี้ผ่านมาแล้วประมาณครึ่งชั่วโมง

“โอ๊ะ น่าจะได้เวลากลับไปฝึกพอดี”

หากเวลา 1 วันภายในเกมเทียบเท่ากับ 1 ชั่วโมงในชีวิตจริง นั่นก็แปลว่าเวลาครึ่งวันภายในเกมจะประมาณครึ่งชั่วโมงในชีวิตจริงนั่นเอง

ก้องภพไม่รอช้า ทำการออกคำสั่งปิดทีวีและตรงไปที่เตียงเพื่อหยิบเครื่องเล่นเกมมาสวมศีรษะอีกครั้งหนึ่ง

ชายหนุ่มออกคำสั่งเปิดเกมภายในใจ และเสี้ยววินาทีต่อมาแสงสีขาวก็ได้สว่างวาบเข้ามาในสายตาของเขา

ก้องภพกลับมายืนอยู่ภายในห้องนอนของบ้านเรือนไทยอีกครั้ง โดยที่ตอนนี้เป็นเวลารุ่งเช้า แสงแดดอ่อนๆ ได้สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างไม้

ชายหนุ่มเปิดประตูเรือนนอนและเดินไปตามชานบ้าน จนเมื่อมาถึงหอกลาง เขาได้พบกับหญิงวัยกลางคนสองคนที่น่าจะเป็นบ่าวรับใช้กำลังปัดกวาดเช็ดถูเรือน

โดยมีผู้หญิงอีกคนกำลังเฝ้ามองบ่าวทั้งสองทำงาน การแต่งกายของเธอนั้นแสนจะงดงาม ท่อนบนสวมใส่สไบสีทองอร่ามพาดผ่านไหล่อันขาวเนียน ส่วนท่อนล่างนุ่งโจงกระเบนสีชมพูอ่อน โดยที่ทั้งตัวประดับประดาไปด้วยสร้อยคอ ต่างหูและกำไลทองคำ

เธอผู้นี้คือ คุณหญิงวาสนา ภรรยาของพระยาพิชิต

แม้ว่าอายุของเธอจะก้าวเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว แต่หน้าตากลับอ่อนเยาว์ราวกับยังเป็นสาวแรกรุ่น ใบหน้าเรียวรูปไข่ได้สัดส่วน ดวงตาเปล่งประกายมีเสน่ห์ ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อเป็นธรรมชาติ ผมยาวดำขลับของเธอถูกเกล้าไว้อย่างเรียบร้อย

ความสวยของเธอทำให้ก้องภพอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง

“เอ็งคือก้องภพกระมัง?” คุณหญิงวาสนาหันมาเจอเข้ากับก้องภพจึงเอ่ยปากทักทายก่อน

“ชะ...ใช่ครับ” ก้องภพพยักหน้าพร้อมทั้งโน้มตัวทักทายอย่างนอบน้อม

“เช่นนั้นเอ็งก็คือผู้ที่คำทำนายว่าไว้เยี่ยงนั้นสินะ”

“คะ...ครับ” ก้องภพตอบรับด้วยท่าทางเคอะเขิน “แล้วพี่สาวคือใครเหรอครับ?”

คุณหญิงวาสนาไม่ได้เอ่ยตอบอะไรนอกจากส่งยิ้มให้เขา

“ท่านผู้นี้ก็คือคุณหญิงวาสนา ภริยาของท่านพระยาพิชิตอย่างไรล่ะเจ้าคะ” หนึ่งในบ่าวรับใช้หญิงเอ่ยปากตอบแทน

“ฮะ!! ภรรยาของอาจารย์คือพี่สาวคนนี้เนี่ยเหรอ?” ก้องภพอุทานอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

“มิแปลกดอกเจ้าค่ะ ตอนอิฉันพบคุณหญิงครั้งแรกก็นึกว่าเธอเป็นลูกสาวของท่านพระยา พอมารู้ว่าอายุอานามของคุณหญิงไล่เลี่ยกับอิฉัน อิฉันนี่ต๊กกะใจแทบแย่เลยเจ้าค่ะ” บ่าวรับใช้หญิงอีกคนเอ่ยขึ้นมาบ้าง

“พอแล้วพี่ฉอด” คุณหญิงวาสนาโบกไม้โบกมือด้วยท่าทางเคอะเขินก่อนจะหันมากล่าวกับก้องภพ

“เอ็งรออยู่ตรงนี้สักประเดี๋ยวเถิด เพลานี้คุณพี่กำลังเขียนจดหมายถึงท่านเทพพยากรณ์สูงสุดอยู่ ประเดี๋ยวคงออกมา”

และในตอนนั้นเองพระยาพิชิตได้เปิดประตูเรือนที่อยู่ด้านขวามือของก้องภพออกมา

“อ้าว มาแล้วรึ” พระยาพิชิตเอ่ยทักทายก้องภพ ก่อนจะหันมองไปรอบๆ และเอ่ยถามกับคุณหญิงวาสนา “แล้วแม่แก้วไปไหนเสียเล่า?”

“เมื่อครู่ยังเห็นนั่งเล่นอยู่แถวนี้ อิฉันเผลอครู่เดียวก็หายไปเสียแล้ว คงหนีไปเล่นซุกซนอีกแล้วกระมังเจ้าคะ”

“เฮ้อ ไอ้ลูกคนนี้ ประเดี๋ยวกลับมาคงต้องอบรมเสียหน่อยแล้ว” พระยาพิชิตถอนหายใจยาวๆ ก่อนจะหันมาพูดกับก้องภพ

“แล้วเอ็งพร้อมรับการฝึกจากข้าหรือยังเจ้าก้องภพ”

“พร้อมครับอาจารย์” ก้องภพตอบด้วยท่าทางมุ่งมั่น

“เช่นนั้นก็ตามข้ามา”

ก้องภพเดินตามพระยาพิชิตลงจากบ้านเรือนไทยพลางมองสภาพแวดล้อมที่อยู่ไม่ไกลจากเรือนของพระยาพิชิต โทนสีฟ้าอ่อนๆ ผสมกับสีชมพูและสีส้มถูกแต่งแต้มอยู่บนขอบฟ้าพร้อมกับเสียงร้องของนกที่ดังเจื้อยแจ้ว

ผู้คนเดินสัญจรผ่านไปผ่านมาอย่างคึกคัก บางคนมาวางแผงขายของ บางคนก็มาเดินจ่ายตลาดหรือบางคนจูงวัวจูงควายเพื่อไปทำไร่ทำนา

พระยาพิชิตเดินนำก้องภพมาหยุดอยู่ที่ลานกว้างบริเวณด้านหลังเรือนไทย โดยพื้นที่รอบๆ ลานกว้างเป็นสวนหย่อมที่มีการปลูกต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ทำให้สถานที่แห่งนี้ทั้งร่มรื่นและสวยงาม

“วันนี้เริ่มต้นด้วยการฝึกขั้นพื้นฐานก่อน”

พระยาพิชิตหันมาหาก้องภพพลางเอามือไพล่หลังและกล่าวต่อ

“สิ่งแรกที่เอ็งจักต้องเรียนรู้ก็คือท่าทางการยืนและการย่างสามขุมอย่างถูกต้อง เพราะการยืนที่มั่นคงเป็นรากฐานของทุกการเคลื่อนไหว หากเอ็งล้มนั่นหมายถึงชีวิต”

เมื่อพูดจบพระยาพิชิตก็เปลี่ยนท่าทางการยืน ทำการยกแขนขึ้นมาตั้งการ์ดพร้อมกับเริ่มย่างสามขุมไปข้างหน้าและถอยหลังด้วยการทิ้งน้ำหนักลงที่ปลายเท้า

“การเคลื่อนไหวเอ็งจักต้องลงน้ำหนักที่ปลายเท้าเพราะจักทำให้เอ็งยืนได้อย่างมั่นคง”

ก้องภพมองร่างกายของชายวัยกลางคนที่เปลือยท่อนบนและนุ่งเพียงโสร่งบางๆ ทำให้เห็นถึงมัดกล้ามขาและแขนที่แน่นจนนูนออกมาเด่นชัด ด้วยร่างกายอันกำยำนี้ยิ่งทำให้ดูน่าเกรงขามแก่ผู้พบเห็นไม่มากก็น้อย

“เอ้า ไหนเอ็งลองทำให้ข้าดูสิ”

“ครับอาจารย์”

ก้องภพทำตามแบบที่พระยาพิชิตสอนได้ในทันทีเพราะมีพื้นฐานสมัยเป็นสตันท์แมนอยู่แล้ว

“เอ้อ เข้าท่า เข้าท่า เอ็งหัวไวใช้ได้นี่หว่า” พระยาพิชิตพยักหน้าชอบใจ

“แหะๆ ขอบคุณครับอาจารย์”

“ถ้าเช่นนั้นก็เริ่มบทเรียนต่อไปเลยแล้วกัน”

พระยาพิชิตก้าวออกมาตรงกลางลานกว้างพร้อมทำการโบกมือกลางอากาศ จากนั้นต้นกล้วยขนาดสูงใหญ่ได้ปรากฏขึ้นในบริเวณที่พระยาพิชิตยืนอยู่

“หน้าที่ของเอ็งวันนี้คือการต่อยต้นกล้วยให้หักสิบต้น โดยแต่ละต้นจักต้องมีสภาพเยี่ยงนี้ถึงเรียกว่าผ่าน”

เมื่อพูดจบชายวัยกลางคนหันหลังและเริ่มย่างสามขุมเข้าไปที่ต้นกล้วย ก่อนจะออกหมัดแย็บสองจังหวะ เกิดดาเมจคริติคอลสองครั้งพร้อมกับที่ต้นกล้วยหักเป็นสองท่อนและสลายหายไปทันที จากนั้นไม่นานต้นกล้วยต้นใหม่ก็ได้ปรากฏขึ้นมาทดแทน

ก้องภพได้แต่ยืนมองด้วยความตกตะลึง

คนเราสามารถต่อยได้แรงขนาดนี้จริงๆ เหรอฟะ?

“เอ้า ถึงตาเอ็งแล้ว”

“คะ...ครับอาจารย์”

ก้องภพพยักหน้าพร้อมเดินไปยังต้นกล้วยสูงใหญ่ เขาย่างสามขุมตามแบบที่พระยาพิชิตสอนพร้อมกับส่งแรงปล่อยหมัดไปยังต้นกล้วยแบบเน้นๆ ทว่าดาเมจที่เขาสร้างกลับทำได้เพียงน้อยนิด มันได้เกิดรอยช้ำเล็กๆ ขึ้นที่ต้นกล้วยเท่านั้น

“ไม่จริงน่า...เราใส่ไปเต็มแรงเลยนะ ทำไมยังทำดาเมจได้แค่นี้?”

“หึหึ เป็นเรื่องธรรมดาของการฝึกครั้งแรก เอ็งจงทำต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าร่างกายจะคุ้นเคยกับท่าทางเหล่านี้”

“ครับอาจารย์”

ชายหนุ่มจัดการต่อยซ้ำไปที่ต้นกล้วย เกิดดาเมจขึ้นอีกเล็กน้อย เขายังไม่ยอมแพ้ทำการต่อยอีกครั้งและอีกครั้ง จนถึงการต่อยครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ เมื่อกำปั้นของก้องภพปะทะกับต้นกล้วย ลำต้นของมันก็ได้หักลงเป็นสองท่อน

[ผู้เล่น ก้องภพ ทำการ ล้มต้นกล้วยต้นที่ 1 ได้สำเร็จ]

[ทักษะการต่อย เลื่อนระดับเป็นขั้นที่ 2]

“ในที่สุดก็ล้มสักที!” ก้องภพตะโกนขึ้นมาอย่างดีใจ

“อื้มๆ ท่าทางการเคลื่อนไหวของเอ็งใช้ได้แล้ว เช่นนั้นเองจงฝึกต่อไปให้ครบสิบต้น ส่วนข้าจะกลับไปพักผ่อนที่เรือน เอ็งทำครบเมื่อใดค่อยมาเรียกข้าแล้วกัน”

หลังจากพูดจบพระยาพิชิตก็เอามือไพล่หลังและเดินกลับไปที่เรือน ปล่อยให้ก้องภพยืนงงอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด