ตอนที่ 464 รายละเอียดเล็กๆ ที่ ซู หนิงซวง พูดถึง

หากย้อนคิดกลับไป ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป และสถานการณ์ต่างๆ เองก็พลิกผันรวดเร็วเกินไปมาก

แม้แต่ จาง เชี่ยนเชี่ยน ที่ถือเป็นผู้หญิงที่มักจะมาเที่ยวบาร์บ่อยๆ และคิดว่าตัวเองเคยเห็นโลกมามากแล้ว ก็ยังรู้สึกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเหลือเชื่อ

ตั้งแต่ที่เธอตบชายวัยกลางคนที่น่ารังเกียจ เพื่อปกป้องความปลอดภัยของเพื่อนร่วมห้อง ไปจนถึงการปรากฏตัวของ เฮียหู่ จากนั้นแฟนหนุ่มของเธอ เซวีย ว่านซิน ที่ขี้ขลาดกลายเป็นคนขี้แพ้ และสุดท้าย เฮียหู่ ก็ ‘ระเบิดหัว’ ตัวเองถึงสองครั้งไปเพราะข้อความเดียว

ทั้งหมดนี้ราวกับอยู่ในความฝัน..

หลังจากที่เกิดเรื่องวุ่นวายไปเมื่อครู่ เย่เฉิน ไม่มีอารมณ์ที่จะอยู่เล่นต่อไปแล้ว แถมเวลานี้ก็ดึกแล้ว ดังนั้นเขาจึงเสนอว่า :

“พวกเราไปกันเถอะ”

ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งสี่คนเดินออกจากบาร์ LA BARON มาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก

จนถึงตอนนี้ จาง เชี่ยนเชี่ยน และหลี่หาน เพิ่งจะเริ่มตั้งสติได้เล็กน้อย ทั้งสองคนมอง เย่เฉิน ด้วยสายตาแปลกๆ

โดยเฉพาะ จาง เชี่ยนเชี่ยน ที่ในที่สุดก็เข้าใจว่าทำไมเมื่อเธอเจอ เย่เฉิน ครั้งแรกเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เธอถึงได้รู้สึกว่า เย่เฉิน มีบรรยากาศบางอย่างที่ไม่สามารถบรรยายได้ หรือจะเรียกมันว่า ‘อำนาจ’ ก็ไม่ผิดนัก

และตอนนี้เธอสามารถอธิบายมันได้แล้ว..

มันคือความสงบที่ ‘แม้ภูเขาไท่ซานจะถล่มตรงหน้า ก็ไม่สะทกสะท้าน’ มันเป็นความสงบที่มาจากการควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในกำมือ

ความรู้สึกนี้มักจะพบในบุคคลสำคัญ ซึ่งครองตำแหน่งสำคัญ และทรงอำนาจมากมาย

ความรู้สึกแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในตัวนักศึกษาที่อายุได้แค่ราวๆ 20 ปี ดังนั้น จาง เชี่ยนเชี่ยน ถึงไม่สามารถอธิบายความรู้สึกนี้ได้ในตอนแรก

ในความเป็นจริง อำนาจนี้ของ เย่เฉิน เกิดขึ้นจากการที่เขาพัฒนาตนเองผ่านทักษะระดับสูงต่างๆ จากเกม และการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้มีอำนาจอิทธิพลมหาศาล และนักธุรกิจใหญ่ๆ จนมันค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา

นักศึกษาธรรมดาๆ คนหนึ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องมหาเศรษฐีเลย คนส่วนใหญ่อาจไม่มีโอกาสเจอคนรวยเลยในชีวิต

ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถมีบรรยากาศ หรืออารมณ์เช่นนี้ได้

“ขอบคุณนะ..”

จาง เชี่ยนเชี่ยน พูดขอบคุณ เย่เฉิน อย่างจริงจัง

“ถ้าไม่มีคุณ วันนี้พวกเราอาจจะ...”

จาง เชี่ยนเชี่ยน ฉลาดมาก เธอเดาออกทันทีว่าข้อความที่ทำให้ เฮียหู่ หน้าซีดเผือกได้นั้นเกิดจาก เย่เฉิน

หลี่หาน ที่ตอบสนองช้าหน่อย แต่เมื่อได้ฟัง จาง เชี่ยนเชี่ยน พูด เธอก็เข้าใจทันที

“ขอบคุณมากนะ เย่เฉิน”

หลี่หาน ก็กล่าวขอบคุณ เย่เฉิน เช่นกัน

“ไม่เป็นไร พวกคุณเป็นเพื่อนร่วมห้องของ หนิงซวง ก็นับว่าเป็นเพื่อนของผมด้วย”

เย่เฉิน โบกมือเบาๆ

แม้ว่า เย่เฉิน จะพูดเช่นนั้น แต่ จาง เชี่ยนเชี่ยน และหลี่หาน ก็ยังอยากจะขอบคุณ เย่เฉิน อยู่ดี

“ถ้าพวกคุณอยากขอบคุณผมจริงๆ ก็ช่วยดูแล หนิงซวง ให้ผมหน่อย อย่าปล่อยให้พวกคนที่มาตามจีบเธอเข้ามาก่อกวนเธอได้ในอนาคต”

ตอนที่เขาไปเยี่ยมชมคณะเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้พร้อมกับ หนิงซวง เย่เฉิน สังเกตเห็นแล้วว่ามีนักศึกษาชายหลายคนมองมาที่เขาด้วยสายตาอิจฉาปนความไม่พอใจ

ซู หนิงซวง เพิ่งมาเรียนที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไม่กี่วัน แต่ก็ทำให้ผู้ชายหลายคนคลั่งไคล้ได้ ความมีเสน่ห์ของ หนิงซวง ช่างมากมายเกินต้านจริงๆ

เมื่อก่อนที่มหาวิทยาลัยเจียงโจว คนส่วนใหญ่ที่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง เย่เฉิน กับซู หนิงซวง ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าจะเข้ามาไล่ตามจีบ หนิงซวง

แต่ตอนนี้ หนิงซวง มาอยู่ที่มหาวิทยาลัยใหม่ ย่อมมีผู้ชายมาแวะเวียนเข้ามาก่อกวนเธออย่างแน่นอน ซึ่งมันจะทำให้เธอปวดหัว และอาจส่งผลต่อการเรียนของเธอได้

“เข้าใจแล้ว เรื่องนี้ฉันจัดการเอง ฉันจะไม่ให้พวกผู้ชายมายุ่งกับ หนิงซวง แน่นอน”

จาง เชี่ยนเชี่ยน เข้าใจความหมายของ เย่เฉิน เธอทุบอกตัวเอง และให้คำมั่นสัญญา

“ฉันเองก็จะช่วยด้วย จะไม่ให้พวกผู้ชายเข้าใกล้ หนิงซวง ได้เลยแม้แต่ก้าวเดียว”

หลี่หาน ยิ้ม และกล่าวอย่างมั่นใจ

สิ่งอื่นๆ เธออาจจะทำไม่ได้ แต่เรื่องแบบนี้เธอมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม

ข้างๆ หนิงซวง ที่ได้ยินคำพูดของ เย่เฉิน เธอพลันรู้สึกอบอุ่นใจ เย่เฉิน ช่างใส่ใจเธอจริงๆ คิดถึงเธอในทุกแง่มุม

“เอ่อ...ขอถามหน่อยได้ไหมว่าข้อความที่ เฮียหู่ ได้รับข้างในมันมีเนื้อหาอะไรอย่างไรเหรอ?”

จาง เชี่ยนเชี่ยน ที่อดทนมานาน ในขณะที่ทั้งกลุ่มกำลังรอรถแท็กซี่อยู่ เธอก็อดไม่ได้ที่จะถาม เย่เฉิน ด้วยความสงสัย

หลี่หาน ก็มองไปที่ เย่เฉิน ด้วยความอยากรู้เช่นกันว่า เฮียหู่ ได้รับข้อความอะไรถึงได้ตกใจจนหน้าซีดขนาดนั้น

“จริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ผมให้เพื่อนทนายส่งข้อมูลบางอย่างไปให้เขาเท่านั้น”

เย่เฉิน ตอบ

ในยุคนี้ พวกนักเลงท้องถิ่นที่มีอำนาจนิดหน่อยอย่าง เฮียหู่ มักจะหวาดกลัวในหลายสิ่งหลายอย่าง

เย่เฉิน เคยทำภารกิจท้าทายสำเร็จจนได้ครอบครองสำนักงานกฎหมาย ‘ซุ่นเหิง’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสำนักงานกฎหมายชั้นนำของประเทศ ซึ่งมีสาขาอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้นี้ด้วยเช่นกัน

หลังจากที่ เฮียหู่ ปรากฏตัว เย่เฉิน ก็ส่งข้อความไปให้หัวหน้าสาขาของสำนักงานกฎหมายในเซี่ยงไฮ้

อย่าประเมินพลังของสำนักงานกฎหมายนี้ต่ำเกินไป เพราะการที่ ‘ซุ่นเหิง’ ติดหนึ่งในสิบสำนักงานกฎหมายชั้นนำของประเทศได้ ย่อมไม่ธรรมดา..

สำนักงานกฎหมาย ซุ่นเหิง ในเซี่ยงไฮ้ มีเครือข่ายความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งมาก หลังจากได้รับข้อความจาก เย่เฉิน หัวหน้าสำนักงานก็รีบสืบข้อมูลเกี่ยวกับ เฮียหู่ อย่างรวดเร็ว

เฮียหู่.. ก็แค่นักเลงอันธพาลท้องถิ่นตัวเล็กๆ

เพียงแค่ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ข้อมูลทั้งหมดของ เฮียหู่ แม้กระทั่งวันที่เขาไปนอนที่บ้านของผู้หญิงคนไหน ก็ถูกสืบค้นออกมาหมด

หัวหน้าสำนักงานกฎหมายรวบรวมข้อมูลอย่างรวดเร็ว และส่งประวัติด้านมืดของ เฮียหู่ มาให้เขา ซึ่ง เฮียหู่ รู้ดีว่าถ้าประวัติเหล่านี้ถูกเปิดเผยออกมาแล้วถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร…

ดังนั้น เมื่อเขาเห็นข้อความดังกล่าว เขาจึงได้ดูราวกับเห็นผี และรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง

“ในสายตากฎหมาย ไม่มีคำว่า ‘พี่ใหญ่’ หรือ ‘พี่น้อง’ ถึงเวลานั้น.. ทุกอย่างล้วนเป็นแค่เศษขยะ”

เย่เฉิน พูดขึ้น

“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง”

จาง เชี่ยนเชี่ยน และหลี่หาน เข้าใจทันที และชื่นชม เย่เฉิน มากยิ่งขึ้น

ในขณะที่พวกเธอตื่นตระหนกตกใจ จนสมองขาวโพลนไปหมด แต่ เย่เฉิน ยังคงนิ่งสงบ และมีสติครบถ้วน พวกเธอจะไม่ชื่นชมเขาได้อย่างไร?

จาง เชี่ยนเชี่ยน มอง เย่เฉิน ด้วยความนับถือ

เมื่อเปรียบเทียบกับ เย่เฉิน แฟนหนุ่มของเธอ ไม่สิ ตอนนี้ควรจะเรียกว่าอดีตแฟน เซวีย ว่านซิน เขาช่างไร้ค่าเหมือนขยะ ท่ามกลางขยะ มีดีแค่เปลือกนอกเท่านั้น

ไม่นานนัก รถแท็กซี่ก็มาถึง เย่เฉิน ส่ง ซู หนิงซวง และคนอื่นๆ กลับไปที่มหาวิทยาลัยก่อน หลังจากนั้นเขาก็นั่งรถไปยังสนามบิน

ตอนนี้เป็นเวลาประมาณสี่ทุ่มแล้ว เย่เฉิน ยังต้องบินกลับไปที่เจียงโจวอีก

ต้องยอมรับว่าถ้ามีรถมันจะสะดวกกว่านี้มาก ครั้งหน้าถ้ามาเซี่ยงไฮ้อีก เขาคงต้องหารถไว้ใช้สักคันหนึ่งแล้ว

เมื่อ เย่เฉิน กลับมาถึงบ้านของเขาในเจียงโจว ก็เป็นเวลาค่อนข้างดึกแล้ว

ในอีกไม่กี่วันต่อมา เย่เฉิน ก็มีงานยุ่งมาก

นอกจากไปเรียนแล้ว เขายังต้องติดตามความคืบหน้าของบริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป อีกด้วย รวมถึงเขายังต้องสั่งการต่างๆ ให้กับบริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ ด้วย

ช่วงนี้บริษัท เฟิงจี้ อินเตอร์แอคทีฟ มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่รู้ว่า เย่เฉิน ได้เซ็นสัญญากับนักร้องชื่อดังระดับโลกอย่าง เทย์เลอร์ สวิฟต์

เจ้าของบริษัท เฟิงจี้ อินเตอร์แอคทีฟ อย่าง หลู เซิ่งเจี๋ย ก็รู้สึกถึงภัยคุกคาม

และเพื่อต้องการชนะในข้อตกลงเดิมพัน หลู เซิ่งเจี๋ย จึงพยายามทุ่มสุดตัว

นอกจากบริษัท เซิ่งไห่ เอนเตอร์เทนเมนท์ แล้ว ยังมีเรื่องของบริษัทเกมที่เขาได้ร่วมมือกับ โม่ เมิ่งเฟย เองก็ด้วย

แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็น โม่ เมิ่งเฟย ที่ดูแล แต่เขาในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เย่เฉิน ก็ไม่สามารถอยู่เฉยได้ เขาจึงใช้เครือข่ายคนรู้จักในการจัดหาบุคลากร, รับสมัครงาน และดึงตัวคนเก่งๆ มาให้ได้มากที่สุด เพื่อให้บริษัทเกมเปิดดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้

ในวันพุธ ระหว่างที่ เย่เฉิน และซู หนิงซวง คุยกัน เย่เฉิน ก็สังเกตเห็นรายละเอียดเล็กๆ อย่างหนึ่งที่ ซู หนิงซวง พูดถึงโดยไม่ตั้งใจ

มันเป็นรายละเอียดเล็กๆ ที่ ซู หนิงซวง บ่นขึ้นมาโดยเฉพาะ…