ตอนที่ 2 เอลดรินผู้หยั่งรู้
เมื่อสายตาปรับโฟกัสแล้วกลับมามองเห็นอีกครั้ง ภาพที่ปรากฎเบื้องหน้าก้องภพก็คือบ้านเมืองที่เป็นอาคารรูปทรงสถาปัตยกรรมคล้ายกับตึกในทวีปยุโรป ถนนสายหลักถูกปูด้วยหินอ่อนสีเทา
ทั้งผู้เล่นและ NPC ต่างสัญจรเดินสวนกันไปมา ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ปากที่ขยับพูดคุยกัน ทำให้เกิดเสียงดังเซ็งแซ่ไปทั่วทั้งบริเวณ
ที่แห่งนี้คือเมือง ‘ลูเมนเซียร์’ เมืองเริ่มต้นของผู้เล่นใหม่และเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าของทวีป ‘เอลดอร์วูด’
“แล้วเราต้องไปไหนต่อล่ะเนี่ย?” ก้องภพมองทางซ้ายทีขวาทีด้วยความสับสนว่าต้องทำอย่างไรต่อไป ก่อนจะตัดสินใจเดินไปตามถนนสายหลักเพื่อสำรวจรอบๆ ตัวเมือง
เขาเดินไปเรื่อยๆ และพบว่าเมืองแห่งนี้มีร้านค้าอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านขายอาวุธที่มีตั้งแต่ดาบ ขวาน ธนู ไปจนถึงโล่และเกราะ โดยที่พ่อค้าบางร้านก็เป็นช่างตีเหล็กที่รับหลอมอาวุธให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ร้านขายขวดยาฟื้นฟูพลังชีวิตและพละกำลังที่ผู้ขายอ้างว่ามันได้ถูกต้มมาจากสมุนไพรชั้นเลิศที่หาได้จากในป่าเอลดอร์เท่านั้น
รวมไปถึงร้านอาหารที่มีตั้งแต่ร้านขนมที่ถูกจัดตกแต่งไว้อย่างดีคล้ายกับคาเฟ่ของวัยรุ่น ไปจนถึงร้านอาหารที่วางโต๊ะและเก้าอี้ไว้ริมทางเท้าคล้ายกับร้านอาหารตามสั่ง กลิ่นหอมของอาหารเหล่านี้ลอยมาแตะจมูกก้องภพอยู่เป็นระยะ
ก้องภพเดินมาหยุดยังน้ำพุขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางเมือง บนน้ำพุมีรูปปั้นเทพีตัวน้อยกำลังโผบินพร้อมกับทำท่าบรรเลงดนตรีด้วยเครื่องดนตรีคล้ายกับแซกโซโฟน เสียงน้ำที่ไหลลงมาตามชั้นหินสร้างความผ่อนคลายให้กับผู้ที่ผ่านไปผ่านมา
เขาหยุดชื่นชมบรรยากาศรอบๆ น้ำพุแห่งนี้ จากนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายบอกทางไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในเมือง ทำให้เขาเกิดความสนใจและขยับเข้าไปดูใกล้ๆ
ป้ายบอกทางได้บอกเส้นทางไปยังสถานที่ต่างๆ ภายในเมืองไม่ว่าจะเป็นทางไปตลาดที่ผู้เล่นนำไอเทมที่หามาได้จากการต่อสู้กับมอนสเตอร์มาวางขาย ทางไปประตูทางออกของเมือง หรือจะเป็นทางไปป่าเอลดอร์วูด ซึ่งหนึ่งในป้ายเหล่านั้นได้บอกทางไปยัง ‘อาคารสำหรับผู้กล้ามือใหม่’
“ที่นี่คงจะเป็นสถานที่แนะนำข้อมูลผู้เล่นใหม่สินะ ถ้างั้นเราลองไปดูหน่อยดีกว่า น่าจะทำให้รู้ข้อมูลเกมนี้มากขึ้น”
เมื่อคิดเช่นนั้นก้องภพจึงเริ่มเดินไปตามทางที่ป้ายบอก เขาเดินมาสักระยะหนึ่งก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าอาคารรูปทรงคล้ายกับโบสถ์ ทางเข้าเป็นประตูไม้ที่ถูกแกะสลักอย่างประณีตจนเกิดเป็นลวดลายวิจิตรตระการตา ป้ายด้านหน้าสลักข้อความไว้ว่า ‘ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับผู้กล้ามือใหม่’
ภายในอาคารถูกแบ่งไว้เป็นโซนๆ สำหรับให้ความรู้ในแต่ละหมวด ตรงโถงกลางมี NPC ที่เป็นชายชราหนวดเครายาวสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มปักลายดวงดาวสีทองและสวมหมวกทรงแหลมคอยให้ข้อมูลแก่ผู้เล่นที่เข้ามาสอบถาม
“ยินดีต้อนรับสู่เมืองลูเมนเซียร์ ข้าคือ ‘เอลดริน’ ผู้หยั่งรู้” ชายชรากล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและเป็นมิตร
“เจ้าอยากรู้สิ่งใดโปรดถามมาเถิด ข้าจะแถลงไขให้ฟัง”
เมื่อได้ฟังดังนั้น ก้องภพจึงเริ่มซักถามข้อมูลเบื้องต้นทันที ไม่ว่าจะเป็น วิธีการเก็บเลเวล การตั้งปาร์ตี้ การซื้อขายแลกเปลี่ยนไอเทม การสร้างกิลด์ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเมื่อถามจนเข้าใจแล้ว สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นรูปปั้นคล้ายนักรบสี่คนกำลังต่อสู้กับปีศาจรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัวที่อยู่ด้านหลังชายชรา
“รูปปั้นนั่นคืออะไรเหรอครับ?” ก้องภพเอ่ยถามพลางชี้ไปยังรูปปั้นที่อยู่เบื้องหลัง
“อ้อ รูปปั้นนี้คือการจารึกถึงเหตุการณ์สู้รบระหว่างสี่นักรบในตำนานกับจอมมาร”
“สี่นักรบในตำนานกับจอมมาร?”
“หึๆ เจ้าคงยังไม่รู้เรื่องพวกนี้สินะ เช่นนั้นข้าจะเล่าให้ฟัง” ชายชราโบกมือในอากาศเกิดเป็นภาพโฮโลแกรมจำลองเรื่องราวขึ้นมา
“ในอดีตเมื่อนานแสนนานมาแล้ว แต่ละทวีปต่างอยู่กันอย่างสงบสุข พึ่งพาอาศัยกันบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่มีใครรุกรานใคร จนกระทั่งวันหนึ่ง ‘ดาร์กทาลอส’ ผู้มีความกระหายในอำนาจได้รวมรวบกองทัพปีศาจและเริ่มรุกรานสร้างความโกลาหลไปทั่วโลก นั่นทำให้เกิดการรวมตัวเฉพาะกิจของ 10 เมืองใหญ่ที่ออกมาปราบปรามและสามารถทำลายกองทัพของดาร์กทาลอสลงได้ ซึ่งในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายผู้ที่เข้าไปประมือกับจอมมารก็คือนักรบในตำนานทั้งสี่ พวกเขารวมพลังกันก่อนที่จะโค่นดาร์กทาลอสลงได้ในที่สุด นำคืนความสงบสุขให้แก่โลกแห่งนี้”
“ฟังดูเหมือนจะจบลงด้วยดีนะครับ”
“ก็เป็นเช่นนั้นจนกระทั่งไม่นานมานี้เทพพยากรณ์สูงสุดนามว่า ‘ไลลา’ ได้ออกมาทำนายว่าสงครามและความโกลาหลครั้งใหม่กำลังจะกลับมาอีกครั้ง”
“ถ้างั้นก็แปลว่าโลกต้องกลับมาวุ่นวายอีกครั้งน่ะสิ?”
“หึๆ เรื่องนี้ข้าคงไม่สามารถให้คำตอบกับเจ้าได้ หากต้องการจะรู้เจ้าก็ไปถามกับนางเองเถิด” ชายชราหยิบแผ่นกระดาษเก่าๆ ออกมาจากชายเสื้อก่อนจะยื่นให้กับก้องภพ
“มันคืออะไรเหรอครับ?” ก้องภพมองแผ่นกระดาษในมือพร้อมกับเอ่ยถาม
“มันคือแผนที่ที่จะพาเจ้าไปหาเทพพยากรณ์ยังไงล่ะ”
ทันใดนั้นเสียงแจ้งเตือนของระบบก็ได้ดังขึ้น
[ผู้เล่น ก้องภพ ปลดล็อกเควสต์เข้าพบ เทพพยากรณ์]
ก้องภพที่ยังงงๆ กับเควสต์ที่ตนได้รับ จึงทำการลองเปิดใช้คำสั่งแผนที่และพบว่าเทพพยากรณ์นั้นอยู่ที่เมืองเอ็นแชนต์วิล ซึ่งเป็นเมืองของผู้เล่นที่เลเวล 200 ขึ้นไปแล้ว
“เดี๋ยวนะครับ เทพพยากรณ์อยู่เมืองที่เลเวลสูงขนาดนั้น แล้วผมจะไปถึงที่นั่นได้อย่างไรล่ะ?”
“จริงด้วยสินะ ข้าลืมไปซะสนิทเลย เจ้าในตอนนี้กว่าจะไปถึงที่แห่งนั้นได้ก็คงกลายเป็นอาหารของเหล่ามอนสเตอร์ไปเสียก่อน”
“ถ้างั้นผมควรเริ่มต้นยังไงดีล่ะ?” ก้องภพเอ่ยถามกับชายชราอีกครั้ง
“อืม...ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็จงไปหานักปรุงยานามว่า ‘สมศักดิ์’ ที่อยู่ตรงประตูเข้าเมืองฝั่งทิศตะวันออกเถิด ดูเหมือนตอนนี้เขากำลังเดือดร้อน” เอลดรินบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“นักปรุงยาที่อยู่ตรงประตูเมืองฝั่งทิศตะวันออกอย่างนั้นสินะ” ก้องภพทวนคำพูดของชายชรา
เอลดรินไม่ได้เอ่ยอะไรนอกจากทำเพียงพยักหน้าตอบรับ
เมื่อทราบจุดหมายปลายทาง ก้องภพจึงทำท่าทางขอตัวลากับชายชรา
“ขอให้เจ้าโชคดีกับการผจญภัย” เอลดรินยิ้มพร้อมกล่าวคำอวยพรให้แก่เด็กหนุ่มที่หันหลังเดินจากไป
หลังจากก้องภพเดินหายออกไปจากตัวอาคาร เอลดรินยกมือลูบเคราตัวเองราวกับกำลังพินิจพิเคราะห์บางสิ่ง ก่อนจะเดินกลับไปยังโถงกลางเพื่อรอให้คำอธิบายแก่ผู้มาใหม่ต่อไป...
ก้องภพเดินเตร็ดเตร่ออกจากใจกลางเมือง ฝ่าฝูงชนอันแน่นหนามาเรื่อยๆ จนผู้คนเริ่มบางตา กระทั่งเมื่อมาถึงแถบชานเมืองผู้คนบริเวณนี้น้อยมากจนนานๆ ทีถึงจะเห็นคนเดินสวนมาสักสองสามคน
ก้องภพสอดส่ายสายตามองหาร้านปรุงยาตามคำแนะนำที่ได้รับมาจากเอลดริน ก่อนจะไปพบเข้ากับร้านค้าที่หลังคามุงด้วยกระเบื้องสีแดงเลือดหมู หน้าร้านมีป้ายที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆ ว่า ‘ร้านยาลุงสมศักดิ์’
ก้องภพลองเดินเข้าไปสำรวจร้านดังกล่าว เขาใช้มือดันประตูไม้เก่าๆ เปิดออก เกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดเล็กน้อย จากนั้นก้าวเข้าไปในตัวร้าน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของสมุนไพรลอยมาแตะจมูกของเขาทันที
บนโต๊ะและชั้นวางเรียงรายไปด้วยขวดแก้วขนาดต่างๆ ที่บรรจุสมุนไพรหลากหลายชนิด แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างไม้บานเล็กๆ สร้างบรรยากาศอบอุ่นและเงียบสงบให้กับภายในร้าน
ชายวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าพื้นเมืองเดินออกจากหลังร้านพร้อมกับทำท่าทำทางต้อนรับผู้มาเยือน “โอ้ ยินดีต้อนรับพ่อหนุ่ม มาๆ นั่งก่อน นั่งก่อน ร้านลุงนี่นานๆ ทีถึงจะมีลูกค้ามาสักคน” ลุงสมศักดิ์พูดอย่างอารมณ์ดี “แล้วเอ็งมาที่นี่อยากได้อะไรจากร้านลุงล่ะ?”
“อันที่จริงผมมาที่นี่ตามคำแนะนำของเอลดรินน่ะครับ เห็นเขาบอกว่าลุงกำลังต้องการความช่วยเหลือ” ก้องภพตอบ
“เอลดรินผู้หยั่งรู้นั่นน่ะเหรอ?” ลุงสมศักดิ์พูดด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย “การที่คนผู้นั้นส่งเอ็งมาหาลุง แปลว่าเขาต้องมองเห็นศักยภาพบางอย่างในตัวเอ็งเข้าแล้วล่ะ”
ลุงสมศักดิ์ใช้สายตามองก้องภพตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพิจารณา “อืม...เอ็งก็ดูหน่วยก้านใช้ได้นะ เอางี้ละกัน ตอนนี้ลุงกำลังอยากปรุงยาตัวหนึ่งอยู่ และวัตถุดิบมันต้องเข้าไปเอาในป่าเอลดอร์ แต่ลุงเองก็แก่จนเข้าไปเดินสมบุกสมบันแบบคนหนุ่มๆ ไม่ไหวแล้ว เอ็งช่วยไปเอามาให้ลุงหน่อยได้ไหม?”
“แล้วสมุนไพรที่ลุงอยากได้มันคืออะไรล่ะครับ?”
“มันคือ ‘ดอกอาร์คาเนีย’ โดยที่มันจะโตเฉพาะบริเวณมีความชื้นสูงและแสงแดดส่องผ่านไม่มากอย่างเช่นแถวน้ำตก” เมื่อพูดถึงจุดนี้ลุงสมศักดิ์เปลี่ยนมาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“แต่บริเวณนั้นเอ็งก็ต้องคอยระวังพวกสัตว์ร้ายด้วยนะ สมัยลุงหนุ่มๆ เจอตั้งแต่หนอนพิษ แมงมุมพิษไปจนถึงเสือร้ายเลยก็มี”
“แหะแหะ...ได้ครับลุง” ก้องภพหัวเราะแห้งๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายบอก
“ถ้าอย่างนั้นลุงขอไหว้วานเอ็งเลยละกันนะ” เมื่อลุงสมศักดิ์พูดจบหน้าต่างข้อความก็ได้ปรากฎขึ้นตรงหน้าก้องภพ
[ชื่อเควสต์: เก็บสมุนไพรให้ลุงสมศักดิ์
ผู้มอบเควสต์: ลุงสมศักดิ์
เป้าหมาย: ดอกอาร์คาเนีย
รางวัลที่ได้รับ:ไม่เปิดเผย
สถานะเควสต์: กำลังดำเนินการ
ความยาก: ปานกลาง
ตำแหน่งเป้าหมาย: ป่าเอลดอร์]
ลุงสมศักดิ์หันหลังไปหยิบขวดยาสีตุ่นๆ จากบนชั้นวางมายื่นให้ก้องภพ “อะ...และนี่คือยาแก้พิษ ใช้ล้างพิษได้ทุกรูปแบบ เอ็งเอาไว้ใช้ตอนเกิดเหตุคับขัน”
“ขอบคุณครับลุง” ก้องภพกล่าวขอบคุณพร้อมกับยื่นมือไปหยิบขวดยาในมืออีกฝ่าย
“ไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวผมจะนำสมุนไพรกลับมาให้ลุงเอง” ก้องภพพูดด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ
“อืม...ลุงก็เชื่อในความสามารถของเอ็ง ขอให้โชคดีและกลับมาอย่างปลอดภัย” ลุงสมศักดิ์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่น
ก้องภพพยักหน้าตอบรับและเดินออกจากร้านเพื่อมุ่งหน้าสู่ป่าอันกว้างใหญ่ที่อยู่นอกประตูเมือง