ตอนที่แล้วตอนที่ 9 ภารกิจสุดท้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 11 ความโกลาหลครั้งใหญ่

ตอนที่ 10 กิลด์อัศวินสีเงิน


ณ ทวีปไอเซนเดล ทวีปที่สามของเกม Legends of Odyssey

กลุ่มผู้เล่นหลายสิบคนกำลังยืนอออยู่ที่ด้านหน้าดันเจี้ยนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโบราณสถานขนาดใหญ่

ท่ามกลางความวุ่นวายของผู้เล่นหลายสิบคน ชายร่างสูงใหญ่สวมชุดเกราะสีเงินเงาวับ สะพายดาบเล่มยักษ์ไว้ที่ด้านหลัง ได้ก้าวขึ้นมายืนด้านหน้าของกลุ่มผู้เล่นพร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุขุม

“พวกเราเคยผิดหวังจากการมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง นั่นทำให้พวกเราเรียนรู้และเตรียมตัวมาอย่างดี ดังนั้นครั้งนี้มันจะต่างออกไป” ชายหนุ่มสวมชุดเกราะสีเงินซึ่งมีเลเวล 126 เอ่ยพลางกวาดสายตามองสมาชิกคนอื่นๆ ในกิลด์

“พวกเราต่างก็รู้หน้าที่ของตัวเอง ดังนั้นจงทำหน้าที่ของตนให้ดีและเชื่อมั่นในกันและกัน หลังจากประตูบานนี้เปิดออก พวกเราจะเป็นผู้เล่นกลุ่มแรกที่สามารถล้มบอสตัวนี้ไปพร้อมกัน!”

สิ้นเสียงของชายหนุ่ม พลันได้เกิดเสียงเฮและเสียงตะโกนอย่างฮึกเหิมของกลุ่มผู้เล่นตามมาทันที

“โว้ว...ลุยกันเลยหัวหน้า!”

“รอบนี้ฉันจะอัดมันให้แหลกคามือเลย เอาคืนจากรอบที่แล้วให้สาสม!”

“หัวหน้าว่าไงผมก็ว่างั้น”

“หัวหน้าแม่งปลุกใจเก่งชิบเป๋งเลยว่ะ ฮ่ะฮ่ะ”

ชายคนนี้ชื่อว่า ‘มาคัส’ เป็นหัวหน้ากิลด์ ‘อัศวินสีเงิน’ หนึ่งในกิลด์อันดับต้นๆ ของเกมและเขาก็ยังเป็นหนึ่งในผู้เล่นไม่กี่คนที่เลเวลแตะถึงหลักหนึ่งร้อยได้ก่อนเวลาสามเดือนแรกของการเปิดให้บริการเกม Legends of Odyssey

เมื่อได้เห็นท่าทางที่มุ่งมั่นของลูกกิลด์ตัวเอง มาคัสจึงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว เราก็มาลุยกันเลยเถอะ”

ชายหนุ่มหันกลับไปเผชิญหน้ากับประตูหินบานใหญ่ที่มีการสลักรูปแมงป่องขนาดยักษ์ไว้บนนั้น จากนั้นใช้มือกดเข้าไปตรงจุดหนึ่งของปล้องบนลำตัวแมงป่องยักษ์ วินาทีต่อมาประตูหินก็ได้ขยับแยกออกจากกันไปทั้งสองฝั่งอย่างช้าๆ

และเมื่อประตูหินถูกเปิดออกโดยสมบูรณ์ มาคัสก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน

“เราไปสร้างสถิติใหม่ด้วยกัน!”

เฮ!! เฮ!!

กลุ่มผู้เล่นหลายสิบคนวิ่งกรูผ่านประตูหินพร้อมกับส่งเสียงอย่างฮึกเหิมไปตลอดทาง พวกเขาวิ่งไปเรื่อยๆ จนมาสุดทางอยู่ที่ห้องโถงขนาดใหญ่

ห้องโถงนี้ถูกล้อมรอบด้วยเสาหินอ่อนสีขาวสูงชะลูดสู่เพดาน พื้นเบื้องล่างมันวาวสะท้อนภาพของแสงไฟจางๆ จากคบเพลิงที่ลุกโชติช่วงอยู่บริเวณโดยรอบ

โดยที่ตรงกลางห้องโถงมีแมงป่องตัวขนาดมหึมาสีทองสลับแดงยืนอยู่ ก้ามใหญ่ทั้งสองข้างของมันมีขนาดใหญ่จนน่าตกใจดูราวกับคีมเหล็กที่สามารถบดขยี้สิ่งของหรือศัตรูได้ในพริบตา หางที่ยาวโค้งขึ้นเหนือหัวของมันสีแดงราวกับดวงอาทิตย์ ตรงปลายหางเป็นเหล็กในแม็กม่าร้อนระอุที่มีเปลวไฟปะทุออกมาเป็นครั้งคราว

เจ้าแมงป่องร้ายตัวนี้ก็คือ อินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยน เลเวล 130 บอสประจำดันเจี้ยนแห่งนี้ และเมื่อเห็นกลุ่มผู้บุกรุก มันก็ขยับร่างพร้อมกับใช้ดวงตาเรืองแสงสีแดงจ้องเขม็งใส่กลุ่มผู้มาเยือนราวกับกำลังจ้องมองเหยื่ออันโอชะ

“ทุกคน! เตรียมตัว!” มาคัสชักดาบเล่มยักษ์ออกจากด้านหลังพร้อมทั้งตะโกนสั่ง

กลุ่มผู้เล่นวิ่งเข้าประจำตำแหน่งของตัวเอง โดยผู้เล่นแถวหน้าจะเป็นผู้เล่นอาชีพนักรบแห่งแสง แถวกลางเป็นผู้เล่นอาชีพนักรบผู้พิชิตกับเงาเพชฌฆาต และแถวสุดท้ายก็คืออาชีพนักปราชญ์เวทมนตร์

อินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยนคำรามเสียงสะเทือนฟ้าดินพร้อมปล่อยไอความร้อนออกจากปาก โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง มันพุ่งเข้าหากลุ่มผู้เล่นด้วยท่าทางหิวกระหาย ก้ามคู่มหึมาฟาดเข้าใส่ผู้เล่นแถวหน้าทำให้เกิดเสียงโล่กระทบกับก้ามยักษ์ดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ

“ระวังหางของมันด้วย ดาเมจมันรุนแรงพอที่จะฆ่าเราได้ในครั้งเดียว” มาคัสตะโกนเตือนขึ้นมาอีกหน

ตู้ม!!

ยังไม่ทันขาดคำ เหล็กในแม็กม่าได้ทิ่มแทงเข้าใส่กลุ่มผู้เล่นอย่างรุนแรง พลังการโจมตีอันหนักหน่วงส่งผลให้พื้นหินละลายเป็นหลุมขนาดใหญ่พร้อมกับฝุ่นควันที่ฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ทว่าการโจมตีนี้ก็ไม่เป็นผล เพราะกลุ่มผู้เล่นรู้อยู่แล้วว่าอินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยนจะทำการโจมตีอย่างไร ดังนั้นพวกเขาจึงกระโดดหลบการโจมตีของมันได้อย่างทันควัน

“จังหวะนี้แหละ ลุยเลย!” มาคัสหันกลับไปสั่งกลุ่มผู้เล่นอาชีพนักปราชญ์เวทมนตร์

ผู้เล่นอาชีพนักปราชญ์เวทมนตร์เริ่มร่ายสกิลจากระยะไกล วงเวทสีฟ้าปรากฏขึ้นเหนืออินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยนพร้อมกับพายุน้ำแข็งถล่มเข้าใส่เจ้าแมงป่องยักษ์ ความหนาวเย็นเริ่มกัดกร่อนเกราะไฟของมันช้าๆ เปลวไฟอันร้อนระอุจากแม็กม่าที่ปลายหางของมันเริ่มมอดดับลง พร้อมกับร่างทั้งร่างที่ถูกความหนาวเหน็บแช่แข็งจนกลายเป็นเป้านิ่ง

“ตอนนี้เรามีเวลาสองนาที ก่อนที่มันจะกลับมาโจมตีได้อีกครั้ง ทุกคนลุย!” มาคัสวิ่งถือดาบเล่มยักษ์เข้าใส่อินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยนพร้อมกับสั่งการกลุ่มผู้เล่นอาชีพนักรบผู้พิชิตและเงาเพชฌฆาต

เฮ!! เฮ!!

ผู้เล่นกลุ่มสุดท้ายวิ่งเข้าใส่เจ้าแมงป่องยักษ์ด้วยความฮึกเหิม นำโดยผู้เล่นสายอาชีพเงาเพชฌฆาตที่อยู่ในชุดเกราะเบากระโดดขึ้นไปบนหลังอินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยนพร้อมกับใช้มีดสั้นทั้งสองเล่มในมือจ้วงแทงไปที่แผ่นหลังและตาบนหัวของเจ้าแมงป่องยักษ์

ส่วนทางกลุ่มผู้เล่นสายอาชีพนักรบผู้พิชิตต่างก็ใช้ทั้งดาบสั้นและดาบยาวฟันไปทั่วร่างของมอนสเตอร์ตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นก้ามขนาดใหญ่ทั้งสอง ขาอันน่าเกลียดน่ากลัวทั้งหกข้าง รวมไปถึงปล้องลำตัวที่ปกคลุมไปด้วยเกราะหนาสีเพลิง

และด้วยการโจมตีเหล่านี้เองที่ทำให้เลือดของอินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยนลดลงอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วินาที

ทว่าในระหว่างที่กลุ่มผู้เล่นกำลังเมามันกับการโจมตีเจ้าแมงป่องยักษ์ บริเวณหางที่เป็นเหล็กในแม็กม่าของอินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยนก็เริ่มกลับมาประทุอีกครั้งพร้อมกับที่ก้อนน้ำแข็งซึ่งห่อหุ้มร่างมันเอาไว้เริ่มละลายอย่างรวดเร็ว

“แย่ล่ะสิ นี่มันเร็วกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้”

มาคัสที่สังเกตเห็นว่าก้อนน้ำแข็งกำลังละลายอย่างรวดเร็วจึงตัดสินใจที่จะกระทำบางอย่าง เขากระโดดขึ้นไปบนหลังของอินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยน

“พวกนายหลบไป!” ชายหนุ่มตะโกนสั่งลูกกิลด์ที่อยู่บนหลังของเจ้าแมงป่องยักษ์

“วะ...เหวอ หลบทางให้หัวหน้าเร็ว”

เหล่าบรรดาลูกกิลด์หลายคนรีบกระโดดลงจากหลังอินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยนด้วยท่าทางแตกตื่น

มาคัสวิ่งไปตามแผ่นหลังอันทอดยาวของอินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยนพร้อมกับเรียกใช้งานสกิล

“Heavenly Slash”

แสงสีทองสว่างวาบขึ้นที่ดาบยักษ์พร้อมกับการที่ชายหนุ่มออกแรงฟาดดาบเต็มแรง ก่อให้เกิดคลื่นมหาศาลวิ่งตัดผ่านหางของเจ้าแมงป่องยักษ์

ฟับ! ตุบ!

ทั้งหางและเหล็กในแม็กม่าขาดออกจากร่างแมงป่องยักษ์ก่อนจะร่วงหล่นลงสู่พื้น จากนั้นเมื่อเหล็กในแม็กม่าสัมผัสกับพื้นเบื้องล่างก็ทำให้พื้นที่บริเวณตรงนั้นหลอมละลายเป็นหลุมเปลวไฟทันที

“ตอนนี้ล่ะทุกคน ใช้ท่าไม้ตายกับมันได้เลย!”

เมื่อได้รับคำสั่งจากมาคัส กลุ่มผู้เล่นอาชีพนักปราชญ์เวทมนตร์จึงเปิดใช้งานสกิลท่าไม้ตายทันที

“Arcane Rebirth”

เกิดออร่ารอบๆ ตัวผู้เล่นในวงปะทะพร้อมกับทำการฟื้นฟูค่าพลังชีวิตและมานากลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง และนั่นจึงทำให้ผู้เล่นทุกคนต่างพร้อมใจกันเปิดใช้ท่าไม้ตายของตนเอง

“Brute Strength”

“Righteous Strike”

“Swift Sword”

“…”

ท่าไม้ตายหลากหลายชนิดจากอาวุธนานารูปแบบประเคนเข้าใส่เจ้าแมงป่องร้ายอย่างรุนแรงจนทำให้พลังชีวิตของมันเหลือเพียงน้อยนิดเท่านั้น

และในขณะเดียวกัน มาคัสที่ยืนอยู่บนหลังของมันก็ทำการเรียกใช้งานสกิลท่าไม้ตายอีกครั้ง

“Heavenly Strike”

ชายหนุ่มกระโดดตัวพร้อมกับง้างดาบยักษ์ฟันเต็มแรง คลื่นดาบอันคมกริบได้วิ่งตัดผ่านครึ่งร่างของอินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยนทำให้มันดิ้นทุรนทุรายอยู่สองสามวินาทีก่อนจะล้มลงกับพื้นและสลายหายไป

ชั่วขณะต่อมาข้อความแจ้งเตือนก็ได้ปรากฏขึ้นมาท่ามกลางกลุ่มผู้เล่นที่กำลังยืนนิ่ง

[ผู้เล่นกิลด์ อัศวินสีเงิน สังหาร อินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยน เลเวล 130 ได้สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 641,000หน่วย]

[ผู้เล่นกิลด์ อัศวินสีเงิน เคลียร์ดันเจี้ยนความยากระดับ Normal สำเร็จ ได้รับโบนัสชิ้นส่วนเกราะอินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยนคนละ 10 ชิ้น]

[ผู้เล่น มาคัส สังหาร อินเฟอร์โนสกอร์เปี้ยน เป็นคนสุดท้ายได้รับไอเทมโบนัสได้แก่

Magma Sword ขั้นหนึ่งในโลกสำหรับผู้เล่นเลเวล 120 จำนวน 1 ชิ้น]

หลังจากอ่านข้อความประกาศ ผู้เล่นทุกคนต่างส่งเสียงเชียร์ฉลองชัยชนะดังลั่นไปทั่วทั้งห้องโถง

“วู้ว สำเร็จแล้ว โคตรมันเลย!”

“เมื่อกี้นายเห็นท่าไม้ตายฉันหรือเปล่า ฟันทีเดียวสร้างดาเมจตั้ง 1600 หน่วยแน่ะ”

“เห็นชัดแจ๋วเลยเพื่อน ฉันคิดว่าดาเมจนายกับฉันสองคนรวมกันน่าจะเกินหลักหมื่นไปแล้วล่ะ ฮ่าๆ”

“น้อยๆ หน่อยย่ะพวกนาย ถ้าไม่ได้สกิลของฉันคอยช่วย พวกนายก็ไม่ได้ฟันสบายๆ แบบนี้หรอก”

“โถ่ เจ๊ ขอให้พวกฉันดูเท่บ้างสักครั้งได้ไหมเนี่ย”

และในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยากสนุกสนานอยู่นั้นเอง ข้อความแจ้งเตือนครั้งใหม่ก็ได้แสดงขึ้นมาต่อหน้าผู้เล่นทุกคน

[มีผู้เล่นปลดล็อกเนื้อเรื่องของ Legends of Odyssey บทที่ 1 สำเร็จ]

[เนื้อเรื่องของ Legends of Odyssey ดำเนินสู่บทที่ 2]

หลังจากได้อ่านข้อความดังกล่าว มันได้สร้างความงุนงงให้กับกลุ่มผู้เล่นกิลด์อัศวินสีเงินทันที พวกเขาต่างจ้องหน้ากันแล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“นี่มันหมายความว่ายังไง? พวกเราก็เคลียร์เนื้อเรื่องของทวีปแรกและทวีปที่สองหมดแล้วนี่?” ผู้เล่นอาชีพนักรบแห่งแสงเอ่ยขึ้นมาเป็นคนแรก

“ฉันก็อยู่กับนายเนี่ยจะไปรู้ไหมล่ะเพื่อน” ผู้เล่นอาชีพนักรบผู้พิชิตหันกลับไปตอบเพื่อนที่อยู่ข้างๆ

“หรือว่ามันจะเป็นบัคของเกม?” ผู้เล่นอาชีพเงาเพชฌฆาตเอ่ยร่วมวงสนทนา

“เอ้อ ที่นายพูดมาก็มีเหตุผล ฉันว่าเป็นไปได้นะ” ผู้เล่นอาชีพนักรบผู้พิชิตพยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะหันไปหาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้า “แล้วหัวหน้าคิดว่ายังไง?”

สิ้นเสียงประโยคสุดท้าย กลุ่มผู้เล่นต่างพร้อมใจกันมองไปยังมาคัสผู้เป็นหัวหน้ากิลด์

เมื่อเห็นสายตาคาดคั้นเอาคำตอบจากทุกคน ชายหนุ่มจึงทำการเก็บดาบเล่มยักษ์เข้าที่ด้านหลัง ก่อนจะเอ่ยด้วยใบหน้าสุขุม

“ฉันว่าเรายังไม่ควรด่วนตัดสินอะไรตอนนี้ บางทีมันอาจจะเป็นข้อมูลลับของตัวเกมที่เรายังไม่ค้นพบวิธีปลดล็อกก็ได้ ดังนั้นเราควรสืบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนจะด่วนสรุปเอาเอง”

มาคัสหันไปมองชายหนุ่มใส่แว่นรูปร่างสูงโปร่งที่ยืนกอดอกอยู่ด้านข้างกลุ่มผู้เล่นคนอื่น “นายช่วยไปสืบข้อมูลให้หน่อยได้ไหมเชน”

ชายหนุ่มผู้เป็นเสนาธิการของกลุ่มขยับกรอบแว่นให้เข้าที่ก่อนจะตอบรับด้วยท่าทางสบายๆ “หึ ว่าแล้วเชียว สุดท้ายก็ต้องถึงมือฉัน” เชนยิ้มมุมปากราวกับคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว “ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้ เดี๋ยวฉันจะไปตามสืบให้ทุกซอกทุกมุมของเกมเลย”

“ขอบใจมากเพื่อน ยังไงก็ฝากนายด้วยนะ” มาคัสเดินเข้ามาหาพร้อมกับตบบ่าของเชนเบาๆ

“รับทราบ ถ้าได้เรื่องยังไงฉันจะรีบติดต่อกลับมา”

เมื่อกล่าวจบ ชายหนุ่มผู้เป็นเสนาธิการของกิลด์ก็ทำการใช้ไอเทมวาร์ปเพื่อส่งตัวเองออกไปจากสถานที่แห่งนี้ทันที...

5 2 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด