ตอนที่ 15 ข้าต้องการที่ระบาย
ตอนที่ 15 ข้าต้องการที่ระบาย
ป่าไผ่ม่วง!
ท้องฟ้าเป็นผ้าห่ม โต๊ะหินเป็นเตียง หลังจากความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความหลงใหล
ฤทธิ์สุราเริ่มจางหายไป
สายตาสองคู่ประสานกัน!
“พี่หญิง... ข้า... ขอโทษ ข้า…”
หลิงอวิ๋นพูดด้วยความกระอักกระอ่วนตามประโยคที่มักใช้ในสถานการณ์เช่นนี้ “ข้าจะรับผิดชอบเจ้าเอง…”
“รับผิดชอบข้า?”
ลู่เสวี่ยเหยาหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนลุกขึ้นหยิบเสื้อไหมหิมะคลุมปิดผิวขาวราวหยก
“หลิงอวิ๋น เจ้ามีความคิดที่โบราณเกินไป”
“แม้นี่จะเป็นครั้งแรกของข้า แต่หนึ่งเดือนหลังจากนี้ฉู่เทียนฉีจะมาขอข้าแต่งงาน เจ้าคิดว่า…”
“เจ้าจะเอาอะไรมาเพื่อรับผิดชอบข้า?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของหลิงอวิ๋นก็แข็งทื่อ
อีกเพียงหนึ่งเดือน นางกำลังจะกลายเป็นคู่หมั้นของคนอื่นแล้ว!
และคนคนนั้นยังเป็นศัตรูตัวฉกาจของเขา ฉู่เทียนฉี!
หัวใจของหลิงอวิ๋นรู้สึกเหมือนถูกฉีกขาด พร้อมกับถามออกไปด้วยเสียงสั่น “เจ้า... เจ้ารักเขาหรือ?”
ลู่เสวี่ยเหยาส่ายหัว “ไม่รัก!”
“งั้นข้าจะไม่ให้เจ้าแต่งกับเขา!”
หลิงอวิ๋นกล่าวออกมาอย่างเด็ดขาด
“เพราะเจ้าและเขาเป็นศัตรูกันหรือ?”
“ไม่! เพราะตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป เจ้าเป็นผู้หญิงของข้าหลิงอวิ๋นแล้ว!”
“นี่มันแค่เรื่องที่เกิดขึ้นหลังดื่มสุรา เจ้าจงอย่าคิดมากไปนัก!”
“และในฐานะที่ข้าเป็นผู้ช่วยชีวิตของเจ้า เจ้าไม่ควรอวยพรให้ข้ามีความสุขหรือ?”
แม้คำพูดของลู่เสวี่ยเหยาจะฟังดูปล่อยวาง แต่หลิงอวิ๋นก็สามารถเห็นความเศร้าในแววตาลึก ๆ ของนาง
มันเป็นความรู้สึกที่ต้องจำยอมต่อโชคชะตา!
“ไม่! พี่หญิง หากเจ้ารักฉู่เทียนฉีหรือแม้แต่มีความรู้สึกต่อเขา แม้เรื่องคืนนี้จะเกิดขึ้น ข้าก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเจ้าอีกแม้แต่นิดเดียว และจะอวยพรให้เจ้าอย่างที่เจ้าบอก”
“แต่!”
“เจ้าไม่ได้รักเขา!”
“เช่นนั้นโปรดให้โอกาสข้าสักครั้ง!”
“เจ้าจะมองว่าข้าล้าสมัยหรือว่าข้าเป็นคนที่ยึดมั่นในความเป็นชายก็แล้วแต่ แต่ขอให้ข้าได้พิสูจน์ตัวเองสักครั้ง!”
“แม้จะแค่เดือนเดียวก็ตาม!”
คำพูดที่หนักแน่นของหลิงอวิ๋นทำให้ลู่เสวี่ยเหยานิ่งไปชั่วขณะ แต่ไม่นานนางก็ส่ายหัว
“หลิงอวิ๋น เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้!”
“ข้ารู้ว่าเจ้ามีพรสวรรค์พิเศษ แต่ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน เจ้าจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้?”
“ฉู่เทียนฉีไม่เพียงแค่บรรลุวิถีดาบเป็นหนึ่งเดียว แต่ยังใกล้จะสร้างแก่นแท้แห่งการต่อสู้ทะลวงสู่ขอบเขตแดนเร้นลับ กลายเป็นยอดนักสู้ระดับสูง และตระกูลฉู่ที่อยู่เบื้องหลังเขายังเป็นหนึ่งในตระกูลใหญ่ของแคว้นฟ้าคราม”
“ในขณะที่ตระกูลลู่ของข้ากลับไม่สามารถปฏิเสธการแต่งงานกับฉู่เทียนฉีได้”
“สิ่งที่เจ้าควรทำในตอนนี้ คือการสร้างความประทับใจในการทดสอบรากวิญญาณใหม่ในอีกเจ็ดวันข้างหน้า และกลายเป็นศิษย์แท้จริงเสีย”
“ด้วยตำแหน่งศิษย์แท้จริง เจ้าก็จะมีเกราะคุ้มครองในสำนักสวรรค์เร้นลับ”
“พอแล้ว ข้าต้องไปแล้ว หลังจากนี้…”
“เราคงไม่ได้พบกันอีกแล้ว…”
ลู่เสวี่ยเหยาไม่ปล่อยให้หลิงอวิ๋นได้พูดอะไรอีก นางเดินจากไปอย่างสง่างาม เหมือนทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพียงความฝันที่จางหายไป
“ไม่!”
“นี่ไม่ใช่ความฝัน!”
เมื่อมองเห็นรอยเลือดเล็ก ๆ บนโต๊ะหินหลิงอวิ๋นรู้สึกหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
ทั้งหมดนี้เพราะพลังที่ไม่เพียงพอ!
ตอนที่อยู่ในเทือกเขามารเมฆา เขาถูกฉู่เทียนฉีชิงรากวิญญาณไป!
และตอนนี้ก็ยังคงเป็นเพราะพลังที่ไม่พอ!
เขาจะต้องทนดูลู่เสวี่ยเหยาแต่งงานกับคนสารเลวอย่างฉู่เทียนฉีงั้นหรือ?
“ไม่!”
“แม้จะมีเวลาแค่หนึ่งเดือน!”
“ข้าก็ต้องทำอะไรสักอย่าง ข้าจะไม่ยอมให้ลู่เสวี่ยเหยาแต่งงานกับคนสารเลวอย่างฉู่เทียนฉีได้แน่!”
หลิงอวิ๋นกัดฟันแน่น ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวจนดูน่ากลัว!
ด้วยวิธีการทั่วไปคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะก้าวข้ามความแตกต่างระหว่างเขากับฉู่เทียนฉีภายในหนึ่งเดือน
เช่นนั้น…
สายตาของหลิงอวิ๋นมองไปที่โต๊ะหินกลม
“หม่าหมิงหยาง ข้าหวังว่าข้อมูลที่เจ้ามอบให้ข้าจะดีพอ อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ!”
เมื่อคิดได้ดังนั้นหลิงอวิ๋นจับดาบสายฟ้าพิโรธไว้แน่น และเตรียมเริ่มขุดหาสมบัติ
“หึหึ หลิงอวิ๋นเจ้าอยู่ที่นี่จริงๆ!”
ภายใต้แสงจันทร์ที่ริบหรี่ เฉาซู่หัวเราะเยาะขณะก้าวออกมาจากป่าไผ่มายังลานหน้าบ้าน
ที่ยืนอยู่ด้านหลังเขากึ่งก้าว คือคนรับใช้ชราขอบเขตทะลวงปราณขั้นสิบ
“ตาเฒ่าเฉาซู่! ข้ายังไม่ได้ไปหาเจ้าเพื่อสะสางบัญชี เจ้ากลับมาหาข้าเองอย่างรวดเร็วแทน!”
เมื่อเห็นเฉาซู่มาเยือน ความอัดอั้นและความโกรธที่สั่งสมอยู่ในใจของหลิงอวิ๋นก็ถูกจุดขึ้นทันที!
พลังขอบเขตปฐมปราณขั้นแปดของเขาถูกปลดปล่อยออกมา ดาบสายฟ้าในมือเปล่งแสงสีม่วงน่าสะพรึงกลัว
“ไอ้หนุ่ม เจ้าคือคนที่ฆ่าเฉินฟงในป่าหมอกใช่หรือไม่?”
แม้ว่าเฉาซู่จะตาบอด แต่ด้วยพลังระดับขอบเขตหยินหยางเขายังคงสามารถรับรู้ตำแหน่งของหลิงอวิ๋นได้อย่างชัดเจน
“เฮ้! ตาเฒ่าเฉาซู่! หากอยากรู้คำตอบก็ให้ดาบสายฟ้าพิโรธของข้าตอบเจ้าเองเถอะ!”
ความตั้งใจสังหารทั้งหมดของหลิงอวิ๋นถูกปลดปล่อยออกมาทันที!
ร่างเงาของหลิงอวิ๋นปรากฏขึ้นมากมายพร้อมกัน จากนั้นทั้งหมดก็พุ่งตรงไปหาเฉาซู่อย่างพร้อมเพรียง!
“นี่มันท่าร่างหมื่นสรรพสิ่งแห่งพงไพร!”
“ในเวลาเพียงครึ่งวัน เจ้าเรียนรู้เทคนิคการเคลื่อนไหวระดับระดับลึกล้ำได้ถึงขั้นนี้แล้ว!”
“พรสวรรค์เช่นนี้...”
เฉาซู่ตกใจจนสั่นเทา ในใจของเขาเหมือนมีกระแสคลื่นยักษ์ซัดสาด!
แม้แต่ฉู่เทียนหยางอัจฉริยะอันดับหนึ่งของสำนักภายนอก ผู้มีพรสวรรค์รากวิญญาณระดับยอดเยี่ยม ยังต้องใช้เวลาครึ่งเดือนในการฝึกท่าร่างหมื่นสรรพสิ่งแห่งพงไพรนี้
และนั่นยังเป็นภายใต้การสอนของเขาเองอีกด้วย!
แต่หลิงอวิ๋น!
กลับใช้เวลาไม่ถึงครึ่งวัน!
นี่มันอัจฉริยะประหลาดอะไรกัน!
“บังอาจนัก!”
คนรับใช้ชราที่ตามเฉาซู่มาด้วยก้าวออกมาทันที!
พลังปราณในร่างของเขาระเบิดออกมา ราวกับกองทัพพันนายตีกลองสงคราม
นี่เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่เปิดเส้นปราณทั้ง 108 เส้นได้สำเร็จ!
ขอบเขตทะลวงปราณขั้นสิบ!
คนรับใช้ชรากำดาบแคบสีเงินในมือ และใช้ท่าดาบระดับหวงชั้นยอด ฟันลงไปทางหลิงอวิ๋น
ทันใดนั้นหลิงอวิ๋นก็รู้สึกราวกับมีม่านดาบสีเงินปกคลุมอยู่เบื้องหน้า ปิดกั้นทุกทิศทางของการโจมตี
นี่คือท่าดาบป้องกัน!
“หึ! ไอ้เฒ่าเฉาซู่นี่บาดเจ็บจริง ๆ มิเช่นนั้นหากใช้พลังขอบเขตหยินหยางของเขา เพียงแค่การโจมตีครั้งเดียวก็คงฆ่าข้าได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้คนรับใช้มาช่วยแบบนี้!”
ฉัวะ!
หลิงอวิ๋นกระตุกปลายดาบเล็กน้อย ดาบสายฟ้าพิโรธปล่อยแสงเย็นเยียบออกมา!
“ระวัง! นั่นคือเคล็ดวิชาแสงเยือกแข็งเมฆากระหน่ำ!”
เฉาซู่ร้องเตือนเสียงดัง!
แต่ก็สายไปเสียแล้ว
เคล็ดวิชาแสงเยือกแข็งเมฆากระหน่ำเน้นหนักที่ความดุร้ายและรวดเร็ว!
คมดาบของสายฟ้าพิโรธที่ผสมผสานกับมุมโจมตีที่แหลมคมของเคล็ดวิชาแสงเยือกแข็งเมฆากระหน่ำ
ฉีกม่านดาบป้องกันของคนรับใช้ชราออกเป็นเสี่ยง ๆ
จากนั้นแสงสายฟ้าระเบิดขึ้น!
ช่องเลือดเปิดกว้าง ปรากฏที่กลางหน้าผากของคนรับใช้ชรา!
สังหารในหนึ่งกระบวนท่า!
เฉาซู่ถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่มั่นคง “เจ้า... เจ้า... นี่มัน...”
เฉาซู่รู้สึกกระวนกระวายใจ!
ไม่ใช่เพราะหลิงอวิ๋นสามารถข้ามขั้นพลัง และสังหารคนรับใช้ได้ในพริบตา
แต่เป็นเพราะหลิงอวิ๋นเพิ่งใช้เคล็ดวิชาแสงเยือกแข็งเมฆากระหน่ำออกมาได้อย่างคล่องแคล่วและทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ
นี่มันเพิ่งผ่านไปครึ่งวันเท่านั้นเอง! หลิงอวิ๋นไม่เพียงแต่ฝึกท่าร่างหมื่นสรรพสิ่งแห่งพงไพรจนสามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์
เขายังสามารถฝึกเคล็ดวิชาแสงเยือกแข็งเมฆากระหน่ำจนถึงระดับที่น่ากลัวอย่างยิ่ง!
นี่มันพรสวรรค์ปีศาจอะไรกัน!
ในชั่วขณะนั้น!
ความคิดหนึ่งที่ดูเหมือนบ้าบิ่นและไร้เหตุผลก็ผุดขึ้นมาในใจของเฉาซู่
แผ่นศิลาที่ระเบิดในวันทดสอบแผ่นศิลาแห่งเกียรติยศนั้น อาจเป็นเพราะรากวิญญาณต้นไม้สีเขียวของหลิงอวิ๋นหรือไม่?
ไม่!
เป็นไปไม่ได้! รากวิญญาณดาบของคุณหนูเมิ่งเยียนดูทรงพลังยิ่งนัก อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากฉู่เทียนฉียอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งของสำนักสวรรค์เร้นลับ รวมถึงการยอมรับจากรองเจ้าสำนักจ้าวอู๋จี
ต้องมีเหตุผลอื่นแน่ๆ!
เฉาซู่เงยหน้าขึ้นมองไปยังหลิงอวิ๋น
และสิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้เขาแทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง!
หัวใจของเขาตกลงสู่ก้นเหวในทันที!