53 - ผักของเราถูกทำลายแล้ว!
53 - ผักของเราถูกทำลายแล้ว!
ไม่นานนัก ข่าวการปลูกผักของฉินโม่ก็แพร่กระจายไปทั่ว และกลายเป็นหัวข้อถกเถียงในพระราชวัง
"เป็นไปไม่ได้ ฤดูหนาวไม่มีทางปลูกผักได้แน่นอน!"
"เว้นเสียแต่เจ้าโง่ฉินโม่จะเป็นเทพเจ้า ไม่เช่นนั้นไม่มีทางเป็นไปได้เลย"
กลุ่มองค์หญิงและองค์ชายรวมตัวกันเพื่อพูดคุยกัน
"แต่พระบิดาเห็นด้วยตาของพระองค์เอง มันจะเป็นเรื่องเท็จได้อย่างไร?"
"เมื่อเช้านี้ เจ้าโง่ฉินโม่ยังส่งผักเข้ามาในวัง!"
"หรือผักพวกนั้นไม่ใช่ของที่ฉินโม่ปลูก?"
"ถ้าอย่างนั้นผักเหล่านั้นมาจากไหนล่ะ? แม้แต่ผักข้างน้ำพุร้อนยังถูกน้ำแข็งกัดตายหมดเลย!"
ทุกคนต่างพยายามคิดหาที่มาของผักเหล่านี้แต่ก็คิดไม่ออก
หลี่ซินได้ยินข่าวนี้ทันทีจึงส่งคนไปสืบ และเมื่อรู้ว่าพระบิดาเห็นด้วยตาของพระองค์เอง เขาก็ถึงกับพูดไม่ออก
เรื่องนี้เกินกว่าที่เขาจะเข้าใจได้
"น้องเจ็ด เจ้าไม่ได้ไปเยี่ยมหมู่บ้านตระกูลฉินพร้อมพระบิดาหรือ?"
หลี่จื้อหันมาหลี่อวี้ซู่และกล่าว "พาพวกเราไปเยี่ยมบ้านพ่อสามีของเจ้าหน่อย!"
หลี่อวี้ซู่ขมวดคิ้ว "มีอะไรน่าดูกันเล่า เรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องหลอกลวง!"
"แล้วที่พวกเรากินอยู่ตอนนี้คืออะไร?"
ทุกคนต่างมองไปยังผักเขียวชอุ่มในจานของตน ช่วงฤดูหนาวแบบนี้การได้กินผักสักต้นก็ดีกว่ากินเนื้อสองจินเสียอีก
"นี่..."
หลี่อวี้ซู่กัดริมฝีปาก นางไม่เชื่อเลยว่าเจ้าโง่น่ารำคาญนั่นจะสามารถปลูกผักได้จริง
"ได้ยินว่าเขาปลูกผักได้เป็นร้อยมู่ แต่กลับส่งมาให้ในวังแค่นิดเดียว ช่างขี้เหนียวเสียจริง!"
"ใช่ น้องเจ็ด เจ้าโง่ฉินโม่ไม่เคยใส่ใจเจ้าเลย ทั้งที่รู้ว่าเจ้าอยู่ในวัง แต่กลับให้ผักมาแค่นี้!"
คำพูดนี้ทำให้หลี่อวี้ซู่รู้สึกกระอักกระอ่วน แม้ว่านางจะไม่สนใจว่าเจ้าโง่ฉินโม่จะใส่ใจนางหรือไม่ แต่เมื่อได้ยินคำเหล่านั้น ก็ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
"ถ้าอยากกินก็ไปหาเขาเอง ข้าไม่อยากพบหน้าเขา!"
"พี่เจ็ด ไปเถอะ ข้าอยากเห็นว่าฉินโม่ปลูกผักได้อย่างไร"
"พี่เจ็ด ได้โปรดเถอะ!"
เหล่าองค์ชายและองค์หญิงตัวน้อยวัยห้าหกขวบต่างขอร้องหลี่อวี้ซู่ด้วยเสียงน่ารักไร้เดียงสา
หลี่อวี้ซู่เป็นคนที่เอ็นดูพวกเขามาโดยตลอด จึงอ่อนใจในที่สุด
หลี่จื้อเองก็อยากไปดูเช่นกัน เพราะหากสามารถร่วมลงทุนได้ มันคงจะทำกำไรมหาศาล
แม้ว่าผักที่ดูเหมือนจะมีน้อย แต่พวกมันกลับเป็นเงินที่มากมายมหาศาล ผักเพียงไม่กี่ต้นก็สามารถทำเงินได้หลายร้อยตำลึงแล้ว
นั่นไม่ใช่การปลูกผัก แต่เหมือนการปลูกต้นไม้เงินต้นไม้ทอง
"น้องเจ็ด อย่างไรในอนาคตมันก็จะเป็นธุรกิจของครอบครัวเจ้า เจ้าเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าไม่ควรดูแลบ้างหรือ?"
คำพูดของหลี่จื้อทำให้ใบหน้าของหลี่อวี้ซู่แดงขึ้นด้วยความอาย "เจ้าของบ้านอะไรกัน ข้าไม่ยอมแต่งงานกับฉินโม่เด็ดขาด!"
หลี่ซินก็เริ่มคิดเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ กงซุนชงเสนอแผนให้เขายึดทรัพย์ของพ่อค้าเจ้าเล่ห์บางคน ซึ่งเขาก็ทำและได้เงินมาไม่น้อย
แต่ปัญหากลับตามมา ตอนนี้พ่อค้าที่มาจากด้านนอกส่วนใหญ่เริ่มหนีออกจากเมืองหลวงแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาสินค้าในเมืองหลวงดีดตัวขึ้นหลายเท่า จนมีการฟ้องร้องถึงพระราชสำนัก ซึ่งพระบิดาก็ให้สอบสวนเรื่องนี้โดยตรง
เดิมทีราชสำนักก็มีปัญหามากพออยู่แล้ว และตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นอีก สุดท้ายการสอบสวนก็ไล่ตามมาถึงตำหนักตะวันออก โชคดีที่มีใครบางคนออกรับแทนเขา
แม้จะไม่ได้ลงโทษรุนแรง แต่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ก็ถูกลดตำแหน่งและขับไล่ออกจากวางตะวันออกทั้งยังไม่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้แต่งตั้งขุนนางเข้าแทนที่
นอกจากนี้ หลี่ซินยังต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย นั่นก็คือต้องนำพ่อค้าเหล่านั้นกลับมา!
แต่เมื่อหลี่ซินออกคำสั่งเรียกพ่อค้าเหล่านั้นกลับมาที่เมืองหลวง พวกพ่อค้าก็ยังไม่กล้ากลับมา มิหนำซ้ำกลุ่มพ่อค้าที่อยู่ในเมืองหลวงก็ยังเริ่มอพยพออกไปขายในเมืองใหญ่อื่นๆ ของอาณาจักรต้าเฉือนแทน
เพราะเรื่องนี้ เขาจึงถูกพระบิดาด่าทออย่างหนัก สายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังทำให้เขานอนไม่หลับหลายคืน
เมื่อไม่มีทางเลือกเขาจึงได้แต่ปล่อยพ่อค้าทั้งหมดพร้อมกับคืนทรัพย์สินให้กับฝ่ายตรงข้ามอีกด้วย
ผลลัพธ์คือ เขาไม่เพียงแค่ไม่ได้เงินเหลืออยู่เลย ชื่อเสียงของวังตะวันออกยังได้รับความเสื่อมเสียอย่างหนัก
และตอนนี้ เจ้าโง่ฉินโม่ปลูกผักได้สำเร็จ นี่ไม่ใช่โอกาสที่ดีหรอกหรือ?
หากเขาสามารถร่วมลงทุนได้ แน่นอนว่าจะทำกำไรอย่างมหาศาล
"วันนี้เป็นวันหยุดพอดี ข้าไม่มีเรียน ข้าเลยอยากออกไปพักผ่อนหน่อย!" หลี่ซินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลี่เยว่ขมวดคิ้ว เขาตั้งใจจะออกจากวังไปหาฉินโม่ในบ่ายวันนี้ แต่ถ้าหากมีกลุ่มองค์ชายและองค์หญิงจำนวนมากติดตามไปด้วย เขาจะสื่อสารกับฉินโม่ได้อย่างไร?
เขารู้ดีว่าคนเหล่านี้คิดอะไรอยู่
เมื่อหลี่ซินพูดขึ้น หลี่อวี้ซู่ก็จำต้องพยักหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้ "เอาล่ะ แต่ต้องขออนุญาตพระบิดาและพระมารดาก่อนจึงจะออกจากวังได้!"
ขณะเดียวกัน ฉินโม่กำลังอยู่ที่ถนนฟู่หม่าด้านใต้ของเมืองหลวง
"ใช่แล้ว วางแบบนี้เลย!"
ป้ายร้าน "ไห่ตี้เหลาตระกูลฉิน" ได้ถูกแขวนขึ้นแล้ว
ฉินโม่คัดเลือกสาวๆ จากหมู่บ้านตระกูลฉินมาเป็นพนักงานหลายคน ในราชวงศ์ต้าเฉียนนั้น การให้สตรีออกมาทำงานข้างนอกเป็นเรื่องที่ไม่พบบ่อยนัก
พวกนางสวมใส่เครื่องแบบที่เหมือนกัน ดูร่าเริงสดใส
เมื่อมีลูกค้าเดินเข้ามา พนักงานสาวๆ จะยืนต้อนรับอยู่หน้าร้าน "ยินดีต้อนรับท่านผู้มีเกียรติ!"
ไม่เลวเลย!
ฉินโม่พยักหน้าอย่างพอใจ หยางหลิวเกินที่ตามอยู่ข้างหลังกล่าวว่า "คุณชาย เครื่องตกแต่งและเตาเหล็กที่ท่านต้องการได้ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว การจัดการภายในร้านก็ได้รับการปรับปรุงเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว!"
"ดีมาก ยอดเยี่ยม"
ฉินโม่รู้สึกพอใจมาก ตอนนี้เขามีผักอยู่หลายร้อยมู่ และยังมีร้านหม้อไฟและอาหารอื่นๆอีกด้วย แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นที่นิยมในเมืองหลวง
"พ่อครัวพร้อมแล้วใช่ไหม?"
"คุณชายวางใจได้ พวกเขาเข้าใจสูตรหม้อไฟและการผัดอาหารอย่างครบถ้วนแล้ว!"
ในช่วงที่ฉินโม่อยู่ที่หมู่บ้านตระกูลฉิน เขาไม่เพียงแค่กลั่นเหล้า แต่ยังฝึกฝนพ่อครัวให้มีความชำนาญ
พวกเขาทั้งหมดเป็นคนของหมู่บ้านตระกูลฉิน ความจงรักภักดีจึงมั่นคง ไม่ต้องกลัวว่าสูตรลับจะรั่วไหล
"ดี ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎของข้า ไม่ว่าจะเป็นขุนนางหรือราษฎรทั่วไป หากมาทานที่นี่ก็ต้องปฏิบัติเหมือนกันหมด หากใครกล้าก่อเรื่องในร้าน ข้าจะไล่ออกไปทันที!"
เขามีฮ่องเต้หนุนหลัง ไม่มีใครกล้าทำอะไรเขาแน่นอน!
"ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะเริ่มประชาสัมพันธ์เป็นเวลาสองวัน ต้องทำให้คนทั้งเมืองหลวงรู้ว่าที่ถนนฟู่หม่ามีร้านไห่ตี้เหลาตระกูลฉิน!"
หยางหลิวเกินลังเลเล็กน้อย "คุณชาย นี่จะดีหรือ?"
"ลุงหลิวเกิน พวกเราทำธุรกิจต้องมีการโฆษณา อา ท่านไม่เข้าใจหรอก ฟังข้าก็พอ!"
หยางหลิวเกินยิ้มแห้ง นี่มันไม่ใช่เรื่องของการโฆษณาหรือไม่
ถ้าบุตรชายขุนนางเปิดร้านอาหาร ข่าวนี้คงทำให้คนหัวเราะเยาะได้
ทุกครอบครัวต่างมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ทุกคนก็มักทำอย่างเงียบๆ ไม่มีใครจะโฆษณาไปทั่ว
เขากลัวว่าหากนายท่านกลับมา จะลงโทษคุณชายจนปางตาย!
"คุณชาย หรือพวกเราควรทำให้เงียบๆ หน่อย?"
"นี่ไม่ใช่เรื่องความรัก จะเงียบทำไม ต้องประกาศให้รู้ทั่ว!" ฉินโม่กล่าวด้วยความมั่นใจ
ไห่ตี้เหลาตระกูลฉินไม่เพียงแค่เป็นวิธีหาเงินของเขา แต่มันยังเป็นสถานที่ที่เชื่อมโยงเขากับโลกก่อนหน้า
ยิ่งเขาอยู่ที่นี่นาน ความทรงจำเกี่ยวกับโลกก่อนก็ยิ่งเลือนราง
เมื่อมาที่นี่ เขาจึงต้องการทิ้งอะไรบางอย่างไว้
ทันใดนั้นเอง เถี่ยจูรีบวิ่งเข้ามา ใกล้จะครบยี่สิบวันแล้วตั้งแต่เขาได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้เขาได้ฟื้นตัวเกือบสมบูรณ์แล้ว
เขาดูมีพละกำลังมากจนไม่เหลือร่องรอยของอาการบาดเจ็บอีก
"เกิดอะไรขึ้น?"
ฉินโม่ถามด้วยความประหลาดใจ
"หมู่บ้านตระกูลฉิน...หมู่บ้านตระกูลฉินมีคนเข้ามามากมาย!"
"ใครมา?"
"ไท่จื่อ องค์หญิง มากันเยอะมาก พวกเราหยุดไม่อยู่ ทุกคนเข้ามาในเรือนกระจกกันหมด ผักของพวกเราถูกทำลายแล้ว!"
………..