51 - ร่วมหุ้น
51 - ร่วมหุ้น
เมื่อเห็นว่าหลี่ซื่อหลงเริ่มคลายความเครียด ฉินโม่ก็กลอกตาแล้วกล่าวต่อว่า "และนี่คือสิ่งที่ข้ากับพี่น้องของข้าทำงานหนักด้วยกัน ถ้าข้าเอาไปให้ผู้อื่นมันไม่เท่ากับว่าข้าทรยศต่อหลี่เยว่หรือ?"
"เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเยว่เอ๋อด้วย?" หลี่ซื่อหลงแปลกใจอย่างมาก
"แน่นอน ถ้าเขาไม่เตือนข้า ข้าก็คงไม่สามารถปลูกผักในฤดูหนาวได้ ไร่ผักนี้ยังมีส่วนแบ่งของเขาอยู่ด้วย เมื่อได้เงินมาข้าก็จะแบ่งให้เขา!"
เมื่อเห็นฉินโม่พูดออกมาอย่างเปิดเผย หลี่ซื่อหลงก็รู้สึกทั้งโกรธและหมดหนทาง
ขุนนางทำธุรกิจกับองค์ชาย?
หากมองในแง่ร้ายถือว่ามีความผิดฐานสมคบคิด
แต่ถ้ามองให้จริงจังกว่านี้ก็คือการก่อตั้งกลุ่มผลประโยชน์ ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง!
แต่ดวงตาของฉินโม่ใสบริสุทธิ์จนทำให้หลี่ซื่อหลงไม่อยากจะตำหนิ
"ท่านพ่อตา ข้ามีธุรกิจที่ทำกำไรได้มากกว่าอีก ท่านสนใจจะลงทุนหรือไม่ ข้ารับรองว่าท่านจะได้กำไรมากมาย เพียงเดือนเดียวก็สามารถหาเงินได้หลายแสนตำลึงเงินอย่างง่ายดาย!"
ฉินโม่หัวเราะเบาๆ
"ธุรกิจอะไร?"
"แน่นอนว่าคือการต้มเหล้า!"
เมื่อคำนี้หลุดออกมา หยางหลิวเกินก็กลัวจนแทบฉี่ราด
"คุณชายทำแบบนั้นไม่ได้"
การต้มเหล้านั้นถือเป็นการละเมิดกฎหมายของต้าเฉียนแล้ว แต่เขากลับเชิญฝ่าบาทให้ทำธุรกิจต้มเหล้า นี่ไม่ใช่หาที่เดือดร้อนหรือ?
เกาซื่อเหลียนก็ได้แต่ยิ้มขมขื่น นี่คือฉินโม่ ถ้าเป็นคนอื่นคงตายไปแล้วแปดร้อยครั้ง!
หลี่ซื่อหลงพยายามระงับความโกรธ "เจ้าคนโง่ เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าสั่งห้ามต้มเหล้า?"
"ข้ารู้!" ฉินโม่ตอบเสียงดัง ท่าทางเหมือนกับว่าเขากำลังกล่าวว่า ข้ารู้ว่าละเมิดกฎหมาย แต่ใครจะทำไม!
"เมื่อรู้แล้วเจ้าก็ยังกล้าต้มเหล้า เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าข้าจะไม่กล้าสับหัวเจ้า?"
ผู้คนจำนวนมากในชุมชนหมู่บ้านตระกูลฉินถึงกับคุกเข่าลง "ฝ่าบาท โปรดเมตตา!"
"ท่านพ่อตา ใจเย็นๆ ข้าหมายถึงการต้มเหล้าโดยการเอาเหล้าดั้งเดิมมากลั่นใหม่ เพื่อทำเหล้าที่ดียิ่งขึ้น!" ฉินโม่รอให้หลี่ซื่อหลงสงบสติอารมณ์ลงก่อน สิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้ทั้งหมดเป็นเพียงการปูทางเท่านั้น
"เจ้าหมายถึงเหล้าซานเล่อเจียงที่ทำก่อนหน้านี้?"
หลี่ซื่อหลงขมวดคิ้ว เกาซื่อเหลียนพอกลับไปถึงวังก็ได้นำเหล้าสามชามที่ฉินโม่มอบให้มาถวาย
เขาลองจิบหนึ่งคำ รสชาติเข้มข้นยิ่งนัก ดีกว่าเหล้าองุ่นที่มาจากนอกด่านมาก
“นั่นก็แค่ของที่มีตำหนิ”
ฉินโม่แค่นเสียงแล้วกล่าวว่า “ข้ายังมีเหล้าที่ดีกว่านี้อีก เหล้านี้อร่อยกว่าซานเล่อเจียงหลายเท่า!”
อร่อยกว่าซานเล่อเจียงหลายเท่า?
เกาซื่อเหลียนกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
มันต้องอร่อยขนาดไหนกันนะ?
หลี่ซื่อหลงหรี่ตาลงแล้วถามว่า “เหล้าอะไร?”
ฉินโม่หยิบขวดเครื่องลายครามสีฟ้าใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ “ลองชิมดู!”
หลี่ซื่อหลงเปิดขวดออก ทันใดนั้นกลิ่นเหล้าที่เข้มข้นกว่าซานเล่อเจียงหลายเท่าก็ลอยออกมา
“กลิ่นเหล้าช่างรุนแรงนัก!”
หลังจากพูดจบ เขาก็เตรียมจะดื่ม เกาซื่อเหลียนรีบกล่าวขึ้นว่า “ฝ่าบาท ให้กระหม่อมลองก่อนเถิด”
หลี่ซื่อหลงโบกมือขัดจังหวะ “เจ้าคิดว่าเขยของข้าจะทำร้ายข้าหรือ?”
เกาซื่อเหลียนถึงกับนิ่งงัน มองไปยังฉินโม่เล็กน้อยก่อนจะถอยกลับ
ถึงแม้ว่าฉินโม่จะทำให้ฝ่าบาทโกรธอยู่บ่อยครั้ง แต่ความไว้เนื้อเชื่อใจและความรักที่ฝ่าบาทมีให้เขานั้น มากกว่าที่ให้กับองค์ชายบางคนเสียอีก
หลี่ซื่อหลงดื่มเหล้าเข้าปากก่อนที่ฉินโม่จะทันได้เตือน ความรู้สึกราวกับมีเปลวไฟอยู่ในปากของเขา เมื่อกลืนลงคอได้สำเร็จ ลำคอก็ราวกับถูกไฟเผา
ทันใดนั้น ใบหน้าของหลี่ซื่อหลงก็แดงก่ำด้วยความรุนแรงของเหล้า
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาจึงหายใจออกยาวแล้วกล่าวว่า “เหล้าดี นี่สิของหายาก เจ้าคนโง่ เหล้านี้มีชื่อหรือไม่?”
“มีสิ ชื่อว่า ‘เผาดาบ’” ฉินโม่กล่าว
“ชื่อนี้ไม่เลว เข้ากันอย่างยิ่ง”
หลี่ซื่อหลงยังคงรู้สึกไม่เต็มอิ่ม “อร่อยจริงๆ แต่ก็น้อยไปหน่อย!”
“อร่อยใช่ไหม?”
ฉินโม่หัวเราะเบาๆ “ท่านพ่อตาข้ารู้หรือไม่ว่าเหล้าขวดเมื่อครู่ต้องขายเท่าไร?”
“เท่าไร?”
ฉินโม่ยกมือขึ้นหนึ่งข้าง
หลี่ซื่อหลงพยักหน้า “แค่ขวดเล็กๆ เพียงสองตำลึง แม้จะขายห้าตำลึงก็อาจจะแพงไปหน่อย แต่ก็ดีกว่าซานเล่อเจียงมาก”
“อะไรห้าตำลึง ข้าพูดถึงห้าสิบตำลึง!”
ฉินโม่แค่นเสียง “นี่เป็นเหล้าสำหรับสามัญชนเท่านั้น ยังมีสำหรับขุนนางและราชวงศ์อีกด้วย การจะขายให้ได้ขวดละห้าร้อยตำลึงไม่ใช่เรื่องที่เกินเลย!”
หลี่ซื่อหลงและคนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึง
เหล้าขวดเล็กๆ แค่ขวดเดียวจะขายถึงห้าสิบตำลึง?
“เจ้าคนโง่ฉิน เจ้า…”
“ท่านพ่อตา ท่านเพียงแค่บอกว่าจะร่วมลงทุนหรือไม่ ข้ารับประกันว่าท่านจะได้เงินเป็นล้านตำลึงในปีเดียว ถ้าท่านไม่ร่วม ข้าก็จะหาเงินกับพี่น้องของข้าเอง!” ฉินโม่พูดเชิงชักชวน
หุ้นส่วนใดจะมีพลังเท่ากับฮ่องเต้?
เมื่อมีผู้หนุนหลังเช่นนี้ เขาย่อมไม่กลัวใคร
และเมื่อเขาสะสมความดีความชอบได้มากพอ เขาจะหาโอกาสปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้
แย่สุดก็แค่ยกธุรกิจนี้ให้ฮ่องเต้ไปทั้งหมด เพราะฉินโม่ยังมีวิธีหาเงินอีกมากมาย
นี่เป็นวิธีการที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง
ตราบใดที่เขาสามารถแยกทางกับหลี่อวี้ซูได้ การเสียสละเล็กน้อยก็ไม่เป็นไร
หลี่ซื่อหลงเริ่มรู้สึกสนใจ แต่เมื่อมีหลายคนกำลังมองอยู่ เขาจะพูดอย่างไรได้?
เขาจึงแค่นเสียงอย่างเย็นชา “ไร้สาระ ข้าจะทำธุรกิจได้อย่างไร นั่นคงเหมือนแย่งประโยชน์จากราษฎร แล้วเจ้าจะกล่าวหาข้าว่าแย่งของจากเจ้าอีก ข้าไม่ทำตัวเป็นคนเลวแน่นอน!”
หลังจากกล่าวจบ เขาก็เดินตรงไปยังโรงเรือนเพาะปลูก
เกาซื่อเหลียนคิดจะตามไป แต่ฉินโม่รีบส่งสัญญาณให้เขาหยุดตาม
ส่วนชาวหมู่บ้านตระกูลฉิน ยังคงต้องคุกเข่าต่อไป
เกาซื่อเหลียนมองแผ่นหลังของฉินโม่แล้วได้แต่ถอนหายใจในใจ เจ้าหนุ่มคนนี้จับจุดอ่อนของฝ่าบาทได้จริงๆ
ใครว่าเจ้าหมอนี่เป็นคนโง่ เขาคือคนฉลาดที่สุดเท่าที่ขันทีเฒ่าเคยพบ!
ฉินโม่ฉลาดขนาดนี้ ถ้าเขาสามารถหาเงินได้หลายล้านตำลึงจริงๆ ตราบใดที่เขาไม่ก่อกบฏ ฝ่าบาทจะไม่มีทางปล่อยให้เกิดอันตรายกับเขาอย่างเด็ดขาด!
…………