49 - ยังไม่มาอีก?
49 - ยังไม่มาอีก?
"มาเลย เหล่าเกา ดื่มเหล้าสักจอกเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น!"
ฉินโม่รินเหล้าลงในถ้วยของเกาซื่อเหลียน เหล้านั้นใสจนมองทะลุได้และมีกลิ่นหอมแรง เกาซื่อเหลียนแม้จะเป็นขันที แต่โดยทั่วไปแล้วใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมากกว่าขุนนางใหญ่หลายคนด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาย่อมผ่านเหล้าดีๆ มามาก
แต่เหล้าที่ใสสะอาดและมีรสชาติกลมกล่อมเช่นนี้ เขายังไม่เคยเห็นมาก่อน
"เหล้านี่เรียกว่าอะไร?"
"นี่เรียกว่า ซานเล่อเจียง”(สามจอกไม่ฟื้น)
"ชื่อแปลกจริงๆ!"
เกาซื่อเหลียนไม่รู้จักตำนานของอู่ซง(บู๊สง)ปราบเสือ แต่จากชื่อก็พอเข้าใจได้ว่านี่คงเป็นเหล้าที่แรงมาก
"ข้าไม่เชื่อหรอก ว่าเหล้านี่จะแรงขนาดนั้น!"
"ลองดื่มดูสิ แล้วจะรู้เอง!"
ฉินโม่กำลังอิ่มพอดี เขาโยนถั่วลิสงเข้าปาก เหล้านี่เป็นเหล้าที่เขากลั่นจาก *ซานเล่อเจียง* แม้จะไม่เทียบเท่ากับเหล้าขาวในชาติที่แล้วของเขา แต่ก็มีแอลกอฮอล์มากกว่า 35 เปอร์เซ็น
เกาซื่อเหลียนยกถ้วยขึ้นมาดมก่อน กลิ่นแรงจนทำให้เขาตัวสั่น แต่เขาก็กลั้นใจดื่มมันจนหมดถ้วย
เขารู้สึกราวกับว่าดื่มไฟเข้าไป ความเผ็ดร้อนรุนแรง แต่ทว่าหลังจากนั้นก็กลับกลมกล่อมอย่างบอกไม่ถูก
"เหล้านี่...แรงมาก แรงกว่าเหล้าทุกชนิดที่ข้าเคยดื่ม!"
"ถ้าท่านชอบ ข้าจะให้ท่านไปหนึ่งขวด แต่ห้ามเอาไปให้ท่านพ่อตาข้าเด็ดขาด เขาเป็นคนไร้ยางอาย ชอบของดีๆ ทุกอย่างแต่ไม่ควักเงินซื้อ!"
เกาซื่อเหลียนเหงื่อแตกเต็มตัว 'เจ้าโง่ฉิน กล้าพูดแบบนี้ได้อย่างไร!'
แต่ต้องยอมรับว่าเหล้านี่ดีจริงๆ หลังดื่มไปหนึ่งถ้วย เขารู้สึกอบอุ่นทั้งร่างกาย สบายอย่างบอกไม่ถูก
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ลืมเรื่องสำคัญ หลังจากทานไปพอประมาณแล้ว เขาก็กล่าวว่า "ราชบุตรเขย ข้าขอเข้าไปดูเรือนปลูกของท่านได้ไหม?"
ฉินโม่แคะฟันและเรอเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน "มาเถอะ ข้าจะให้พวกเจ้าพวกบ้านนอกทั้งหลายได้เปิดหูเปิดตาหน่อย!"
เมื่อฉินโม่เปิดม่านขึ้น สิ่งที่เกาซื่อเหลียนเห็นก็ทำให้เขาตกตะลึงอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ผักเหล่านี้เป็นผักจริงๆ หรือ?
พวกมันเจริญเติบโตในดินได้อย่างแข็งแรง นี่ทำให้ความคิดของเกาซื่อเหลียนถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิง "โอ้ สวรรค์ นี่เจ้าปลูกได้จริงๆ ราชบุตรเขย ที่เป็นเครือนั้นแตงกวาหรือ?"
"ถูกต้อง นั่นคือแตงกวา แต่ต้องใช้เวลาอีกสองเดือนถึงจะเก็บเกี่ยวได้"
ฉินโม่พยักหน้า "นี่คือต้นกุยช่าย อีกไม่นานก็จะโตเต็มที่แล้ว!"
เขาพาเกาซื่อเหลียนเปิดดูเรือนปลูกอีกหลายหลัง จากที่เกาซื่อเหลียนตกใจในตอนแรก จนถึงตอนนี้เขาก็แทบจะชินชาไปแล้ว
เกาซื่อเหลียนสูดหายใจลึก นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ ฉินโม่สามารถฝืนธรรมชาติและปลูกผักในฤดูหนาวได้จริงๆ
คราวนี้พวกที่เคยหัวเราะเยาะฉินโม่จะต้องรู้สึกผิดหวังและอับอายอย่างแน่นอน
…
เมื่อกลับถึงวัง หลี่ซื่อหลงรีบถามทันที "เป็นอย่างไรบ้าง ที่หมู่บ้านตระกูลฉินนั่น เจ้าโง่ฉินโม่ปลูกผักขึ้นได้หรือไม่ หรือพืชผักทั้งหมดถูกน้ำแข็งแช่แข็งตายหมด?"
เกาซื่อเหลียนที่ยังมีคราบน้ำมันจากเนื้อวัวติดที่ริมฝีปากตอบกลับด้วยความเคารพ "ฝ่าบาท ราชบุตรเขย...ปลูกผักได้จริงๆ พ่ะย่ะค่ะ!"
สีหน้าของหลี่ซื่อหลงหยุดนิ่งไปทันที "เจ้าว่าอะไรนะ?"
"ไม่เพียงแต่มีผักกาดขาวเล็ก แต่ยังมีผักกาดหอม กุยช่าย และแม้แต่แตงกวาก็เริ่มแตกเถาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!"
เกาซื่อเหลียนกล่าวด้วยความเคารพ
หลี่ซื่อหลงถึงกับหอบหายใจด้วยความตื่นเต้น
เขาไม่ได้รู้สึกโกรธหรืออับอายที่เสียเดิมพันให้กับฉินโม่ สิ่งแรกที่เขาคิดคือ หากสามารถปลูกผักได้ในฤดูหนาว ก็อาจจะสามารถปลูกธัญพืชได้เช่นกัน
หากปลูกได้ตลอดทั้งปี ปัญหาการขาดแคลนอาหารของอาณาจักรต้าเฉียนก็จะหมดไปโดยง่าย!
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาก็ไม่สามารถรอได้อีกต่อไป "เร็วๆ เตรียมม้า ข้าจะไปหมู่บ้านตระกูลฉินเดี๋ยวนี้!"
ในครั้งนี้ หลี่ซื่อหลงออกจากวังโดยไม่ได้ทำเรื่องใหญ่โต แต่กลับแอบออกไปเยี่ยมเยือนอย่างลับๆ
เขารีบเดินทางไปถึงที่พักของตระกูลฉิน เมื่อทุกคนในตระกูลเห็นหลี่ซื่อหลงต่างก็รีบคุกเข่าลงบนพื้นทันที
“ลุกขึ้นเถอะ ลุกขึ้นให้หมด” หลี่ซื่อหลงถามด้วยความร้อนรน “ฉินโม่อยู่ที่ไหน?”
“ฝ่าบาท คุณชายกำลังนอนพักอยู่พะย่ะค่ะ!”
อะไรนะ?
นอนพัก?
หลี่ซื่อหลงโมโหจนกัดฟัน เจ้าคนโง่นั่น ปลูกผักได้สำเร็จขนาดนี้กลับไม่ส่งคนมารายงาน แต่ส่งเพียงตะกร้าผักมาเท่านั้น
ถ้าเขาไม่ได้ส่งเกาซื่อเหลียนมาที่นี่ เขาก็คงยังไม่รู้เรื่องอะไร
“ข้าเป็นถึงฮ่องเต้ยังไม่กล้าละเลยหน้าที่ เขากลับนอนกลางวันไปได้ ไปเรียกเจ้าโง่นั่นมาเดี๋ยวนี้!”
กล่าวจบ เขาก็รีบวิ่งไปที่เรือนเพาะชำทันที
ภายใต้การนำทางของเกาซื่อเหลียน เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเมื่อได้เปิดผ้าม่านออก
ความเขียวชอุ่มที่ปรากฏต่อหน้าทำให้ลมหายใจของหลี่ซื่อหลงถี่ขึ้น “เจ้าโง่นั่นกลับปลูกผักได้จริงๆ!”
“ข้าเข้าไปได้หรือไม่?”
“แน่นอนพะย่ะค่ะ แต่ต้องก้มตัวหน่อยฝ่าบาท” หยางหลิวเกินกล่าวด้วยความลังเล
“ไม่มีปัญหา!”
หลี่ซื่อหลงหมุนตัวเข้าไปในเรือนเพาะชำ เขามองดูผักที่เจริญเติบโตแข็งแรงในดิน แล้วชี้ไปที่ผักบนชั้นที่ปลูกในหม้อดิน “ปลูกแบบนี้ก็ได้หรือ?”
“ทูลฝ่าบาท ได้พะย่ะค่ะ คุณชายบอกว่าถ้าแร่ธาตุในดินเพียงพอ ก็สามารถปลูกผักได้ทุกที่พะย่ะค่ะ!”
“หม้อดินแค่นี้จะปลูกผักได้อย่างไร?”
หลี่ซื่อหลงไม่เข้าใจ
หยางหลิวเกินหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะกล่าวว่า “คุณชายบอกว่าผักก็เหมือนคน พอหิวก็ต้องกินอาหาร ถ้าเพียงแค่รดน้ำผักจะไม่โตขึ้น และถึงแม้จะโตขึ้นก็จะขาดสารอาหาร ดังนั้นจึงต้องใส่ปุ๋ยด้วยพะย่ะค่ะ!”
“ปุ๋ยคืออะไร?”
“นี่เป็นสิ่งที่คุณชายให้เราทำ ฝังลงไปในดินเพื่อเพิ่มแร่ธาตุพะย่ะค่ะ!”
“เจ้าโง่นั่น กลับมีพรสวรรค์เช่นนี้!”
หลี่ซื่อหลงรู้สึกว่าตัวเองดูถูกฉินโม่เกินไป แม้ว่าฉินโม่จะดูซื่อบื้อ แต่ในบางด้านเขามีพรสวรรค์ที่ยากจะหาผู้ใดเทียบได้
เช่นเรื่องคำนวณ และการปลูกผัก!
ในตอนนี้ หลี่ซื่อหลงอยากจะดึงตัวฉินโม่ไปที่กรมโยธา เพื่อให้ทำหน้าที่ปลูกผักโดยเฉพาะ
หลังจากเดินสำรวจไปรอบๆ หลี่ซื่อหลงยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกดีใจ แต่เมื่อเขาออกจากเรือนเพาะชำ ใบหน้ากลับเคร่งขรึมอีกครั้ง “ฉินโม่อยู่ที่ไหน ทำไมยังไม่มา?”
เขาโกรธจนแทบระเบิด
“ฝ่าบาท ระยะทางจากที่พักมาถึงที่นี่ไกลพอสมควร คุณชายคงมาไม่ทัน พอเข้าใจได้พะย่ะค่ะ” เกาซื่อเหลียนพูดเบาๆ
……………..