บทที่ 108 ดอกซากุระร่วงโรย (1)
[_แปลโดยแฟนเพจ ยักษา_แปร_มาติดตามในแฟนเพจ_เพื่อติดตามข่าวสารได้นะ.]
[_Thai-novel _ลงไวกว่าที่อื่น.ทุกที่ 5 ตอนแต่_จะราคาแพงที่สุด_]
[_หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น_อีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ_100คน. ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบเวอร์ชั่นแรกไปนะครับ_]
บทที่ 108 ดอกซากุระร่วงโรย (1)
เสียงกรี๊ดของนักเรียนหญิงแพร่กระจายไปทั่วในทันที แม้ทุกคนจะตื่นเต้นกับสถานที่ถ่ายทำ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ ก็คือการได้พบกับคนดัง
“คังวูจิน??! อยู่ไหนๆ”
สายตาของนักเรียนนับสิบคนต่างมุ่งไปที่จุดเดียวกัน นั่นคือคังวูจินที่เดินมาอย่างเฉยชา ทันทีที่พวกเขาเห็นคังวูจินเดินเข้ามาใกล้ นักเรียนต่างก็กรี๊ดด้วยความตื่นเต้น
“จริงด้วย! คังวูจิน! นี่มันการถ่ายทำ ‘เพื่อนชาย’ ชัดๆ !”
“เอ่อ เฮ้ย- คังวูจินในชีวิตจริงดูดีมากกก!!”
“หน้าตาดีเว่อร์······แถมหุ่นก็ดีใช่ย่อยนะเนี่ย??”
เหล่านักเรียนชายมองวูจินด้วยความรู้สึกอิจฉาปนชื่นชม ขณะที่เหล่านักเรียนหญิงกระหน่ำตบไหล่กันและตะโกนเรียกชื่อ คังวูจิน
“ว้าว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอคนดัง ตัวจริงเสียงจริง···ต่างจากคนธรรมดาทั่วไปจริงๆ”
“ยอมรับเลย ฉันดูจิตวิทยาด้วยนะ คังวูจินแสดงได้สุดยอดไปเลย!”
“ถ้าจะขอลายเซ็นต์นี่มันเกินไปรึเปล่า??”
ถึงแม้จะไม่ได้มีคนมารวมตัวกันเยอะมาก แต่เสียงของนักเรียนสิบกว่าคนก็ดังจนครอบงำบริเวณนั้นไปหมด รวมถึงเสียงกรี๊ดด้วย
คังวูจินก็ต้องรู้เรื่องนี้แน่นอน
วูจินเดินเข้าไปหาทีมงานพร้อมกับพาคนของเขามาด้วย แต่ก็แอบเหลือบมองนักเรียนที่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกั้นไว้ในทันใดนั้น วูจินก็เกือบจะยิ้มออกมา
‘อิจฉา อิจฉาเหลือเกิน’
เพราะมันทำให้เขานึกถึงความสดใสและตัวเองในอดีต มันเป็นพลังงานที่เห็นได้เฉพาะในช่วงวัยนี้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม วูจินก็พยายามทำหน้าให้ดูเคร่งขรึมเข้าไว้
-ฟึบ
เขายกมือขึ้นเล็กน้อยเพื่อโบกมือให้กับเด็กๆ ที่มารวมตัวกัน เขามีประสบการณ์ในการจัดงานลายเซ็นต์ชื่อมาพอสมควรแล้ว การบริการแฟนๆ แบบนี้เป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเขา ท่าทางของเขาที่ดูผ่อนคลายและเย็นชาทำให้...
“กรี๊ดดดด!!”
เสียงกรี๊ด เสียงตะโกนดังทะลุหูดังออกมา คังวูจินสะดุ้งเล็กน้อย คิมแดยองที่อยู่ด้านหลังของเขายิ้มขำ
‘ไอ้บ้า นี่มันสมกับนักแสดงชัดๆ นี่ ฉันจำคังวูจินผิดไปแล้วหรือเปล่านะ?’
ต้องบอกก่อนว่าชเวซองกุนไม่ได้มาในวันนี้ เนื่องจากต้องไปทำคิวกับYouTube ช่องคังวูจิน รวมถึงงานของบริษัท คิมแดยองเลยมาร่วมทีมช่วยในวันนี้ แน่นอนว่าพอเสร็จงานเขาก็ต้องกลับไปทีมฮงฮเยยอน
เพราะยังไม่ได้รับการฝึกฝนจนจบ
ดังนั้น ทีมคังวูจินวันนี้จึงยิ่งใหญ่มาก จางซูฮวานกับคิมแดยอง ร่างกำยำของสองคนนี้ตั้งตระหง่านราวกับสองยอดเขา ดูเหมือนหมีสองตัวที่คอยคุ้มกันคังวูจิน
อย่างไรก็ตาม
-กึก
คังวูจินกำลังทักทายนักเรียน คิมแดยองก็ตบไหล่เขาเบาๆ วูจินทำหน้าเรียบเฉย แล้วหันไปมองแต่คิมแดยอง ไม่พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มแบบมีความสุข
แต่เขามองด้วยสายตาแทน
‘ไอ้วูจิน นี่คือแกกลายเป็นนักแสดงจริง ๆ แล้วใช่ไหม??’
วูจินจึงจ้องเขากลับไปด้วยสายตาแข็งกร้าว
‘ตอนนี้อย่าเพิ่งมายุ่งกับฉัน ไอ้หมียักษ์’
ที่จริงแล้วพวกเขาตกลงกันไว้ก่อนแล้วว่าจะต้องทำตัวเป็นคนแปลกหน้ากัน ดีแล้วที่เพื่อนคนอื่นๆ ไม่ทันสังเกตว่าพวกเขากำลังแลกสายตาส่งกัน
“······”
วูจินที่กำลังสบถใส่คิมแดยองด้วยสายตาหันไปมองที่อื่น ไปที่กองถ่าย ‘เพื่อนชาย’ ซึ่งดูคึกคัก และเขาก็เริ่มคุ้นชินกับมันแล้วทีมงาน ‘เพื่อนชาย’ หลายสิบคนกำลังวิ่งวุ่นวาย วูจินจะเริ่มถ่ายทำจริงสำหรับหนังเรื่อง ‘เพื่อนชาย’ วันนี้ 20ของเดือน และคงใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน
เอ่อ ถ้าถ่ายทำเร็วๆอาจจะทำให้เวลาลดลงได้นะ
‘เวลานี้มันผ่านไปเร็วจริงๆ’
เพราะตารางแน่นๆ รึเปล่า? เพลงประกอบละคร บันทึกเสียงและการอ่านบทเหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อวานเอง ตอนนี้ก็มาถึงถ่ายทำจริงแล้ว ดังนั้น คังวูจินจึงรู้สึกตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ คงเป็นเพราะมีหลายเรื่องมาผสมปนเปกัน การถ่ายทำจะมีความตึงเครียดเฉพาะตัวแบบนี้เสมอ และมันมักจะทำให้วูจินรู้สึกตื่นเต้นอยู่ตลอด
ยังไม่ชินเลย
แต่วูจินตัดสินใจที่จะใช้ความตึงเครียดและหัวใจที่เต้นแรงนี้ให้เป็นจุดพลิกผัน หนีไปไม่ได้ ก็ต้องสนุกสิ
จู่ๆ ก็
“คุณวูจิน!”
พนักงานหลายสิบคนกำลังยุ่งกับการเตรียมการ แล้วก็มีคนวิ่งปรี่เข้ามา ผู้กำกับชินดงชุน ใบหน้าเหลี่ยมๆ และผู้ช่วยผู้กำกับรวมถึงทีมงานฝ่ายกำกับในบรรดาพวกนั้น ผู้กำกับชินดงชุนถือบทในมือเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคังวูจิน
“มาเร็วนี่”
คังวูจินยิ้มรับ และทักทายเขาน้ำเสียงเบาๆ
“สวัสดีครับ ผู้กำกับ”
“ฮะๆ ว่าแต่คุณCEOชเวอยู่ไหนแล้วเนี่ย?”
“อ๋อ วันนี้เขายุ่งครับ”
“ก็จริงสินะ CEOชเว เก่งจริงๆ นะทำงานบริษัทไปด้วย แล้วก็ดูแลคุณวูจินด้วยเต็มที่เลย”
พักหนึ่งทั้งคู่ก็คุยกัน สักพักนักเรียนก็กรี๊ด ผู้อำนวยการชินดงชุนยิ้มแหยๆ
“ปิดเทอมแล้ว แต่ก็ยังมีนักเรียนอยู่บ้างสินะ ทางโรงเรียนติดต่อไปแล้วเดี๋ยวจะมารับพวกเขากลับไป”
“ผมไม่เป็นไรครับ”
“เด็กเยอะอย่างนี้คงจะดูแลไม่ไหวหรอก”
ผู้กำกับชินดงชุนพูดพึมพำ พร้อมกับเดินเข้าไปท่ามกลางทีมงาน ร่วมกับวูจิน ระหว่างทางเขาก็อธิบายเกี่ยวกับการถ่ายทำวันนี้
“วันนี้พรุ่งนี้คงถ่ายซีนสั้นๆ และจะเน้นซีนของคุณฮวาลินกับคุณวูจินเป็นหลัก นักแสดงที่เล่นบทเล็กน้อยและฉากเสริมจึงจะมีเยอะหน่อย”
“ครับ ผู้กำกับ”
วูจินตอบอย่างเรียบๆ ผู้กำกับชินดงชุนมองดูเขา แล้วรอยยิ้มของเขาก็ยิ่งกว้างขึ้น
“หลังจาก ‘สำนักงานนักสืบ’ ไม่นาน เราก็ได้กลับมาถ่ายทำด้วยกันอีกแล้ว ดีจริงๆเลยนะครับ คุณวูจินรู้สึกแปลกๆ บ้างไหม?”
“แปลกเหรอครับ?”
“ใช่ครับ ก็ตอนนั้น ทั้งคุณวูจิน และผมก็เป็นแค่คนไม่มีชื่อเสียงมากนัก แต่เพียงไม่กี่เดือน สถานการณ์ของเราก็พลิกผันไป 180 องศาเลยนะคะ ชีวิตนี้จริงๆ คาดเดาอะไรไม่ได้เลยนะครับ”
วูจินพยักหน้าอย่างเห็นด้วยอย่างแรง เขาพลิกผันชีวิตได้เพราะมิติว่างเปล่า และชีวิตก็ยุ่งเหยิงไปหมด
“เป็นไงบ้างครับ? มีคนคุ้นหน้าคุ้นตาบ้างไหม?” ผู้กำกับชินดงชุนยืนยันโดยถือบทภาพยนตร์อยู่ข้างตัว
“อ่า”
“ใช่แล้วครับมีทีมงานจาก ‘สำนักงานนักสืบ’ อยู่บางคนครับ”
จริงตามที่เขาพูดมาเลย มีทีมงานบางคนจากทีมไฟหรือทีมกล้อง จากตอน ‘สำนักงานนักสืบ’ วูจินโค้งคำนับพวกเขาเงียบๆ ทีมงานพวกนั้นโบกมือแสดงความยินดี
“แล้วก็วันนี้ มีนักแสดงสมทบที่มาร่วมงานมีคนที่แสดงใน ‘สำนักงานนักสืบ’ ด้วยนะครับ
คังวูจินก็รู้สึกซาบซึ้งใจทันที มันเหมือนกับว่าทุกคนกำลังช่วยเหลือ ‘เพื่อนชาย’ ของวูจินอยู่
“เดี๋ยวหลังจากนี้ ผมต้องไปทักทายพวกเขาหน่อยแล้วล่ะ”
“ทำแบบนั้นก็ดีเลยครับ พวกเขาคงจะยิ่งมีกำลังใจ แต่จะว่าไปทุกคนมีพลังล้นเหลืออยู่แล้วล่ะ เพราะ ‘สำนักงานนักสืบ’ ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นมากเลย แถมทุกคนยังดีใจที่วูจินประสบความสำเร็จด้วย”
ผู้กำกับชินดงชุนหัวเราะเบาๆ ด้วยความพึงพอใจ แล้วก็เปลี่ยนเรื่องทันที
“อืมที่จริง คุณอาจจะรู้แล้วนะ แต่เพราะเรื่องของการสนับสนุนสถานที่ ถึงเราต้องการจะถ่ายทำตามลำดับเหตุการณ์ในบทไปเรื่อยๆ แต่เพราะเรื่องสถานที่ คงถ่ายไม่ตามลำดับบทเป๊ะๆ หรอก แต่ภายในอาทิตย์นี้ต้องถ่ายทำเรื่องราวตอนมัธยมปลายให้จบ แล้วก็ข้ามไปเรื่องมหาวิทยาลัยเลยครับ”
ในเวลานั้น
“ฮวาลิน!! นั่นฮวาลิน!!”
“ว้าวววววว!!! ฮวาลิน!!”
เสียงกรี๊ดของนักเรียนดังขึ้นอีกครั้ง เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่า...
ฮวาลินปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน หลังจากที่คังวูจินปรากฏตัวไปก่อนหน้านี่้นะสิ
เธอผูกผมยาวขึ้นเป็นมัดเดียวเดินมาอย่างสบาย ๆ แล้วโบกมือทักทายนักเรียน
"สวัสดีค่ะ ผู้กำกับ คุณวูจิน"
ไม่นาน ฮวาลินก็เดินมาหยุดอยู่ข้างหน้าคังวูจิน เธอแอบมองคังวูจิน จากหัวจรดเท้า แล้วหัวใจเต้นรัว
‘ฉันเพิ่งรู้ว่าวูจินน่ะ เนี้ยบขึ้นเป็นร้อยเท่าเลยเวลาอยู่ที่กองถ่ายอ่ะ ราวกับมีแสงล้อมรอบเลย...หรือตาฉันจะมองผิดไปเองน้า?’
ในขณะเดียวกัน คังวูจินก็คิดในใจ
‘หรือเป็นเพราะแต่งหน้า มันเลยทำให้เธอดูสวยใสบริสุทธิ์ขนาดนี้... ? ทำไมเธอดูสวยไปทุกมุมแบบนี้ คงต้องสวยขนาดนี้สินะถึงจะเป็นไอดอลได้?’
ฮงฮเยยอนกับเธอคนนี้ต่างกันออกไป เธอเป็นแบบที่เรียกว่าสมบูรณ์แบบแล้ว แต่คุณฮวาลินยังอยู่ในช่วงเติบโต ผู้กำกับชินดงชุนมองทั้งสองคนสลับไปสลับมาพลางเกาคาง
‘ตอนอ่านบทดูเหมือนจะ...สนิทกันมากขึ้นนะ? อยากให้สนิทกันมากกว่านี้อีกนิด ทั้งคู่ไม่ค่อยจะเข้ากับคนง่ายเลย กังวลจริงๆ เลยแฮะ โดยเฉพาะคุณวูจิน’
คุณฮวาลินหันไปมองชายร่างใหญ่ที่อยู่ด้านหลังคุณคังวูจิน
“เอ๊ะ? คนนั้น...อยู่ในทีมของพี่ฮเยยอนนี่นา?”
วูจินหันไปมองคิมแดยองแล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่เหมือนรำคาญ
“แค่มาฝึกงานครับ ไม่ต้องสนใจหรอก”
“อ๋อ...เหรอคะ?”
“ครับ”
“อืม คุณวูจินครับ รอแป๊บนึงนะ วันนี้ถ่ายทำ...”
“ครับ พูดมาได้เลยครับ”
ทันใดนั้น วูจินก็เริ่มคุยเรื่องงานกับฮวาลินอย่างเป็นธรรมชาติ คิมแดยองรู้สึกแปลกใจและประหลาดใจกับภาพที่เห็น เพราะเขาเคยได้ยินแต่เรื่องเล่าเกี่ยวกับวูจิน แต่ไม่เคยเห็นวูจินทำงานในกองถ่ายมาก่อน คังวูจินตอนนี้ดูใหญ่โตขึ้นมาก ไม่เหมือนในอดีตสักนิด
‘ทำเป็นเก่งเชียวนะไอ้นี้’
ในช่วงเวลานั้นเอง
“ชุดถึงแล้วค่ะ!!”
ชุดถูกส่งมาให้คุณคังวูจิน และแน่นอนว่าคุณฮวาลินก็ได้รับชุดเช่นกัน ชุดนี้ดูคุ้นเคยและเต็มไปด้วยความทรงจำ
‘ไม่คิดเลยแฮะว่าจะได้ใส่ชุดนี้อีกแล้ว’
เป็นชุดนักเรียน
หลังจากนั้น
คังวูจินไปเปลี่ยนชุดนักเรียน คิมแดยองรู้สึกทั้งอิจฉาและภูมิใจในตัวเพื่อนสนิทที่ตอนนี้กลายเป็นนักแสดงไปแล้ว
‘ต้องบอกพวกมันด้วยแล้ว’
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเข้าไปในกลุ่มแชท แน่นอนว่าเป็นกลุ่มแชทของเพื่อนสนิท เขาส่งข่าวไปหาเพื่อนๆ ที่รออยู่
- แดยอง: เพื่อนชายของเรา นักแสดงคนดังเริ่มถ่ายทำแล้วนะ
- ฮยองกู: โอ๊ยยยยยยยยยยยยย!! เห็นฮวาลินยังวะ?
- คยองซอง: ฮวาลินตัวจริงโคตรสวยเลยเหรอ?
- แทยอง: เออ สวยสาดดดด
- ฮยองกู: อ๊าาา ไอ้คังวูจินเวรเอ๊ย... อิจฉาชะมัดเลยโว้ยยย... ถ้าเป็นฉันนะ ฉันก็เล่นบทโรแมนติกกับฮวาลินได้ดีไม่แพ้มันหรอก
- คยองซอง: คังวูจินชาติที่แล้วคงช่วยชาติไว้สามชาติได้มั้ง ถึงได้มาเล่นละครกับฮวาลินเนี่ย... แถมยังเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ซะด้วย... เฮ้อ เซ็งชีวิต ไปกินมาม่ากันดีกว่า
- แทยอง: คังวูจินตอนนี้ไม่ใช่ไอ้เวรที่เรารู้จักแล้วเว้ย ตอนอยู่ที่กองถ่ายออร่ามันจับมาก เหมือนนักแสดงจริงๆ เลย
- ฮยองกู: หรือฉันควรจะไปเป็นนักแสดงมั้งวะ
- คยองซอง: ไปศัลยกรรมก่อนเหอะมึงอ่ะ
- ฮยองกู: เ**้ยเอ๊ย! ยังไงก็เถอะ หนัง "เพื่อนชาย" นั่น ฉันคงดูไม่ได้ว่ะ อิจฉาเกินไป
เวลาไล่เลี่ยกันนั้นเอง ฮันเยจอง หนึ่งในทีมงานของคังวูจิน ได้ถ่ายภาพเบื้องหลังการถ่ายทำ "เพื่อนชาย" แล้วเอาไปลงโซเชียลของวูจิน แน่นอนว่าเพื่อโปรโมทหนัง และในภาพก็มีทั้งคังวูจินและฮวาลินอยู่ด้วย
วูจินมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียทะลุ 1.1 ล้านคนแล้วบนหน้าฟีดของเขาก็มีแต่...
- เฮ้ยยยยยยยยยยย เริ่มถ่ายแล้วหรอ?!?!
- วูจินกับฮวาลินดูเข้ากันสุดๆ ... สวยมากกับหล่อมากมารวมกัน....อยากดูเร็วๆ
ไม่กี่นาทีต่อมาก็มีคอมเมนต์ถาโถมเข้ามาอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่ามีคอมเมนต์ภาษาญี่ปุ่นด้วย คังฮยอนอา น้องสาวของคังวูจินกำลังนั่งอยู่ในคาเฟ่ที่โซล และเมื่อเห็นโพสต์โซเชียลนั้น ก็เอะอะโวยวายขึ้นมาทันที
“เฮ้! เริ่มถ่าย ‘เพื่อนชาย’ แล้วสินะ!”
คังฮยอนอา กับเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ในคาเฟ่ด้วยกัน คือสมาชิกของ 'หัวใจคัง' ต่างก็กระโดดโลดเต้นกันใหญ่
“ทำไมทำไม?! มีในโซเชียลแล้วเหรอ?! ไปดูกันเร็ว!”
“อือ โรงเรียนสวยมาก ฉันอยากไปดูจัง”
“เอานี้ไปลงในแฟนคลับเร็วๆ !”
ระหว่างที่พวกเธอดูภาพใน‘เพื่อนชาย’ คังฮยอนอาก็ก้มหน้ามองดูแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
“แต่ว่า ข้างๆ พี่ชายนี้ ไอ้คนกล้ามโตนี่... เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ.”
“ทำไม? รู้จักเหรอ? เฮ้ย ปกติต้องเป็นพี่ผู้จัดการของพี่วูจินไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ใช่คนนั้นหรอก คนกล้ามโตนี่แปลกน่ะ เหมือนเป็นเพื่อนสนิทพี่วูจินเลย เหมือนเคยเห็นตอนเด็กๆ อ่ะ”
คนกล้ามโตที่ว่า ก็คือคิมแดยองนั่นเอง
หลังจากนั้นไม่นานนัก
ทีม “เพื่อนชาย” ที่เตรียมถ่ายทำ พร้อมกันทั้งหมดอยู่ที่โถงประชุมของโรงเรียนในโถงประชุมมีการจัดวางอุปกรณ์อย่างกล้องและไฟ นักแสดงสมทบกว่า80 คนเข้าแถวเรียงราย ทุกคนสวมใส่ชุดนักเรียน
เสียงพูดคุยดังขึ้น
ทุกสายตาลองไปที่เวทีตรงหน้าด้านบนของเวทีมีผ้าใบขนาดใหญ่แขวนอยู่
-[งานปฐมนิเทศ]
ทีม “เพื่อนชาย” จะถ่ายทำ ฉากงานปฐมนิเทศของฮันอินโฮ และ อีโบมินที่โรงเรียน
ดังนั้นในบรรดาผู้เข้าร่วมงานมากมาย คังวูจิน และฮวาลินที่สวมชุดนักเรียน ก็โดดเด่นขึ้นมา พวกเขาทั้งสองมีทีมงานติดตามเพื่อตรวจสอบการแต่งหน้าขั้นสุดท้าย วูจิน ผมเรียบเนียน แต่งหน้าไม่เข้ม ฮวาลินก็แค่รวบผมยาวอย่างเรียบง่าย
แต่การเห็นพวกเขาทั้งคู่สวมชุดนักเรียน ทำให้ทีมงานอดทึ่งไม่ได้
“โอ้โห ทั้งคู่ดูเหมือนนักเรียนมัธยมจริงๆเลยนะคะ”
“ใช่ ชุดนักเรียนเข้ากับพวกเขาทั้งคู่สุดๆ แทบจะไม่ต่างจากนักเรียนมัธยมจริงๆเลย เหมือนทั้งสองคนเป็นเด็ก เพราะหน้าเด็กกันด้วยรึเปล่า”
“แบบนี้คนดูก็ต้องสนใจมากขึ้นแน่ๆ ตอนถ่ายทำพวกเราก็รู้สึกแบบจิ้มลิ้ม ละมุนละไมไปเลย”
ช่วงเวลานั้น ผู้กำกับชินดงชุนก็ตะโกนใส่ไมโครโฟน
“เตรียมตัว!”
เดี๋ยวนี้ เขาบอกให้เริ่มถ่ายทำแล้วพนักงานที่เพิ่งแต่งหน้าวูจินและ ฮวาลินอยู่ก็พากันวิ่งไป และพวกทีมงานต่าง ๆ ที่มายืนมองศิลปินใกล้ๆด้วยความแปลกใจก็หันไปมองตรงหน้า
แล้ว...
“ฮึ้บ-”
คังวูจินถอนหายใจเบา ๆ เขาค่อย ๆ เปลี่ยนร่างเป็น ‘ฮันอินโฮ’ ทีละนิด
“เริ่มถ่าย!”
‘เพื่อนชาย’ เพิ่งเริ่มถ่ายทำ
อากาศข้างนอกอบอุ่น แต่ด้านในโรงยิมเย็นๆ
กลิ่นโรงยิมทั้งแปลกตาและคุ้นเคย พื้นสะอาดเพราะดูเหมือนจะถูบ่อย ๆ เวลาเดินได้ยินเสียงดัง 'กี๊ดๆ ' ทุกครั้ง
เด็กนักเรียนนับไม่ถ้วน ไม่เคยเห็นหน้าใครเลยสักคน
ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นเต้น แต่อันที่จริงแล้วมันเป็นความตื่นเต้นแบบดีๆ เหมือนเราทุกคนกำลังจะเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ที่สดใส และน่าตื่นเต้น นักเรียนกว่า80 คนยืนเรียงแถวกัน แต่อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองโน่นนี่ บางคนก็มองไปที่ข้างๆ บางคนก็มองไปที่อาจารย์ใหญ่ที่ยืนอยู่บนเวที บางคนก็มองไปที่อาจารย์ที่ยืนเรียงกันอยู่ข้างๆ บางคนก็มองไปที่นักเรียนชายหรือนักเรียนหญิงที่ดูโดดเด่น
ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านจากชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นไปสู่มัธยมศึกษาตอนปลาย
จุดเริ่มต้นก็คือคำพูดของอาจารย์ใหญ่ที่ยืนอยู่บนเวที
“เอ่อ ขอต้อนรับทุกคนที่มาร่วมงานเข้าเรียนวันนี้นะ”
บรรยากาศเริ่มซึมไปเลย เพราะการพูดของอาจารย์ใหญ่ทุกคนฟังเหมือนยานอนหลับ ช่วงนี้เอง กล้องที่ติดอยู่กับขาตั้งได้เลื่อนมาจ่อหน้านักเรียนหญิงคนหนึ่งเป็น อีโบมินที่ยืนอยู่ด้านข้างของหอประชุม เธอไว้ผมยาวมัดรวบเป็นหางม้า ผิวหน้าเนียนใสมีจุดใต้ตา ชุดนักเรียนดูใหญ่กว่าตัวนิดหน่อย
อีโบมินแอบจดอะไรบางอย่างลงในโทรศัพท์มือถือตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เธอคงกำลังจดไอเดียเพลงที่นึกขึ้นมา
อีโบมินใฝ่ฝันอยากเป็นนักแต่งเพลงนี่นา
กล้องค่อยๆ เคลื่อนเข้าใกล้อีโบมิน มากขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับกำลังซูมเข้าไปในบทเขียนไว้ว่าฉากนี้จะมีเสียงบรรยายของเธอแทรกเข้ามา น่าจะเป็นการแนะนำตัวเองสั้นๆ
กล้องที่เคยหันหน้าไปทางอีโบมินเริ่มเคลื่อนที่
ฟึบ
กล้องเลื่อนไปทางซ้ายทีละน้อย ผ่านหน้าเด็กชายที่ยืนอยู่ทางขวาของอีโบมิน ไป ผ่านหน้าเด็กหญิงอีกคน กล้องค่อยๆ เคลื่อนไปเรื่อยๆ จนผ่านหน้าคนหลายๆ คน สุดท้ายกล้องก็หยุดลงที่
“······”
นักเรียนชายคนหนึ่งกำลังอ้าปากหาวอย่างเบื่อหน่าย ชื่อของเขาคือฮันอินโฮ เขามีส่วนสูงและรูปลักษณ์ที่โดดเด่นมากสำหรับนักเรียนชั้นปีที่ 1 แน่นอนว่าจะมีเสียงบรรยายของอีโบมิน แทรกเข้ามา เธอจะแนะนำ ฮันอินโฮ จากมุมมองของเธอในตอนนี้ กล้องกำลังถ่ายภาพนักเรียนหญิงบางคนที่กำลังมองฮันอินโฮ
“เมื่อไหร่จะจบนะเนี่ย”
ฮันอินโฮ บ่นเบาๆ
“ง่วง”
แม้ว่าใบหน้าของฮันอินโฮจะดูสดใส แต่ดวงตาก็เต็มไปด้วยความเฉื่อยชา ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดูร้ายกาจหรือเย็นชา แต่เป็นความรู้สึกที่ดูเฉื่อยชา
ในเวลานี้
“······คัท!!”
เสียงของผู้กำกับชินดงชุน ดังกึกก้องไปทั่วทั้งหอประชุม
“โอเค!! ดีมาก! ถ่ายภาพรวมกัน!”
หลังจากถ่ายภาพเดี่ยวเสร็จ ก็เตรียมถ่ายภาพฉากทั้งหมด แม้จะเป็นฉากเดียวกัน แต่ภาพที่ผู้กำกับชินดงชุนเห็นบนจอภาพกลับแตกต่างออกไป และคนดูแลบทที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา ก็กระซิบเบาๆ
“โอ๊ย นี่แค่ฉากแรกเลยนะครับ แต่ผมนี่ใจเต้นไม่เป็นสุขแล้ว ผมคนเดียวรึเปล่าที่เป็นแบบนี้?”
จบ