ตอนที่แล้วบทที่ 106 ละครสั้น (6)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 108 ดอกซากุระร่วงโรย (1)

บทที่ 107 ละครสั้น (7)


[_แปลโดยแฟนเพจ ยักษา_แปร_มาติดตามในแฟนเพจ_เพื่อติดตามข่าวสารได้นะ.]

[_Thai-novel _ลงไวกว่าที่อื่น.ทุกที่ 5 ตอนแต่_จะราคาแพงที่สุด_]

[_หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น_อีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ_100คน. ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบเวอร์ชั่นแรกไปนะครับ_]

บทที่ 107 ละครสั้น (7)

ให้ฉันใช้เสียงร้องของฉัน? แถมยังมีการใช้ภาษาต่างประเทศของฉันอีก? คังวูจินได้ยินคำอธิบายสั้นๆ แล้วไม่เข้าใจในทันที

‘ก็คือ ให้ใช้เสียงของฉัน…หมายถึงให้ฉันใช้เสียงร้องเพลงเป็นธีมหลักสินะ?’

นั่นเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะงุนงง เพราะเขายังมีสิ่งที่จะต้องเรียนรู้อีกมากมายในวงการบันเทิง เป็นเรื่องยากที่วูจินจะเข้าใจความคิดของผู้บริหารที่เก่งกาจคนนี้ได้ ในขณะเดียวกัน ฮันเยจองที่นั่งอยู่ข้างๆ คังวูจิน เธอเห็นว่าเข้าใจในทันที

“อ่าา แบบนั้นใช่มั้ย? ฉันว่าดีนะคะ”

ชเวซองกุนที่นั่งฝั่งคนขับหัวเราะขึ้นมา

“ใช่ๆ จุดแข็งของวูจิน คือการแสดง เราจะทำให้มันดูเหมือนของรองไม่ได้ เราต้องทำให้มันมีคุณค่า การแสดงบน YouTube จึงเป็นตัวเลือกที่ไม่ใช่”

“ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ”

ความรู้สึกแปลกแยกผุดขึ้นมา พวกคุณสองคนอย่าคุยกันอย่างสนุกสนานอย่างเดียวสิ ฉันก็อยากจะเข้าร่วมด้วยนะ ถึงตอนนี้ฉันยังไม่เข้าใจอะไรเลย แต่คังวูจินก็หน้าด้านมาก เล่นทำเป็นเข้าใจ เขาคงอยากจะโม้เล็กน้อยด้วยสินะ

วูจินวางท่าคนมาดเข้ม กล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“ผมพอจะเข้าใจแล้วล่ะครับ”

“ฮ่าๆ นายรู้สึกยังไงบ้างกับเรื่องนี้ล่ะ?”

“···คือว่าก่อนอื่นเลย ผมอยากจะขอฟังคุณCEOเล่าถึงเจตนาของตัวเองให้ละเอียดกว่านี้อีกสักหน่อย แล้วผมจะบอกให้ฟังครับ”

“อย่างนั้นเหรอ? งั้นได้เลย-”

พอเขากล่าวจบ บรรยากาศก็กลับมาเป็ฯปกติ ชเวซองกุนกำลังคิดว่าจะพูดอะไรดีและก็กำลังรวบผมรวบไปรวบมา จากนั้นเขาจึงเปิดปากขึ้นอีกครั้งในจังหวะนี้

“ฉันเคยคุยกับนายเรื่องดนตรีของนายแล้วนี่นะ เกี่ยวกับเรื่องละครเพลง นายจำได้ไหม”

“ครับ ผมจำได้ครับ”

“อ่า นี่ฉันขอถามหน่อย ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจ วูจิน นายลองแสดงละครเพลงมาบ้างไหม?”

ฉันเคยแสดงหรือเปล่าเหรอ? แม้แต่ดูละครเพลง วูจินก็ไม่เคยเลยด้วยซ้ำ

“ไม่ครับ”

“อ้าว งั้นเหรอ? คือฉันแค่ถามล่วงหน้ากันนายจะระเบิดลงทำให้ตกใจเหมือนคราวก่อนเท่านั้นแหละ คือแค่ถามไปงั้นๆ น่ะ เอาล่ะ ดนตรีและการแสดงของนายมันลงตัวสุดๆ กับละครเพลงน่ะ แต่ว่าฉันเองก็ไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องละครเพลงหรอก เลยพาคนรู้จักที่อยู่ในวงการละครเพลงมาดูตอนนายอัดเพลงประกอบละครครั้งที่แล้ว”

“···เหรอครับ?”

คังวูจินไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แม้จะหน้านิ่งๆ อยู่ก็ตาม แต่ก็รู้สึกชื่นชมกับความรวดเร็วของชเวซองกุนอยู่เหมือนกัน ชเวซองกุนยังพูดต่อไป

“อืม ผลออกมาคือได้รับคำตอบว่าใช้ได้แน่นอน”

“ดีจังครับ”

“ใช่สิ แต่ปัญหาคือต้องใช้เวลานานน่ะพูดง่ายๆ คือมันไม่เหมือนกับตลาดละครที่เรารู้จักหรอก”

นั่นคือวูจินต้องใช้เวลาในการเตรียมตัวก่อนที่จะเข้าร่วมการแสดงละครเพลง

“ช่างมันเถอะ ค่อยๆ คิดไปทีละอย่างก็ได้ ฉันไม่เป็นไรหรอก แต่เห็นวูจินร้องเพลงอย่างนั้นแล้วรู้สึกว่าเสียดายฝีมือเหลือเกิน วูจินเหมือนเรือ ส่วนฝีมือร้องเพลงและการแสดงของวูจินเหมือนเป็นมอเตอร์ของเรือไง”

“มอเตอร์ของเรือ...”

“ใช่แล้ว ตอนนี้วูจิน นายกำลังจะจมน้ำมีแต่พายุโหมกระหน่ำ คนอื่นอาจจะพายเรืออยู่ แต่ว่าวูจินมีมอเตอร์ให้ใช้ หมายความว่าวูจินมีความสามารถมากมายนั่นเอง”

ฮันเยจองกำลังปิดหนังสือและแทรกขึ้นมาอย่างเย็นชา

“ก็จริงนะคะ พี่วูจินไม่ใช่แค่ร้องเพลงเพราะทั่วไป แต่ว่าฝีมือของพี่วูจินมันเจ๋งจริงๆ นะ”

จางซูฮวานที่กำลังขับรถแทรกขึ้นมาด้วย

“ฮ่า! ใช่เลย คุณฮวาลินถึงกับหลงรักวูจินไปเลยทีเดียวแหละครับ”

วูจินรู้สึกเขินๆ หน่อยที่ถูกชมแบบกะทันหัน แต่ก็พยายามทำเป็นไม่สนใจ ชเวซองกุนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโชว์วูจินพร้อมกับแกว่งไปมา

“หมายความว่าเราจะเปิดช่องยูทูปโดยใช้เสียงร้องของนายเป็นธีมน่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้นายเป็นนักร้องยูทูปโดยตรงนะ แค่ทำแบบเบาๆ ร้องเพลงที่ฮิตๆในตลาด ปรับแต่งดนตรีใหม่ แบบแนวCOVERก็พอ”

“ร้องเพลงCOVER -เคยเห็นครับ”

“ใช่ สมัยนี้เห็นบ่อย แต่คิดว่าน่าจะเหมาะกับช่วงเวลาที่กระแสเกาหลีโด่งดังไปทั่วโลก ดังนั้นเริ่มต้นด้วยCOVERเพลงK-POPแล้วกัน”

ชเวซองกุนยิ้มกว้างขึ้นเปิดยูทูปบนโทรศัพท์มือถือที่แกว่งอยู่

“แต่วูจิน ก็อย่างที่ฉันพูดไป KPOPหรืออะไรก็ตามทำนองนี้ มันมีช่องCOVERเยอะมากแล้ว มันไม่แตกต่างหรอก อืม วูจิน นายดังมากอยู่แล้ว ยอดคนติดตามพุ่งกระฉูด ตอนแรกอาจจะฮิตสุดๆ แต่เห็นๆ กันอยู่ว่ามันไม่ยั่งยืนหรอก คงได้แค่ช่วงแรกเท่านั้น ต้องมีคอนเซ็ปต์อะไรต่างหากถึงจะอยู่ได้”

“······”

“แล้วจะทำยังไงดี? เอาKPOP ไปร้องเป็นเวอร์ชันภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่น เหมือนว่าจะน่าสนใจอยู่แฮะ”

“อ้า”

“ถ้าฝีมือภาษาต่างประเทศไม่ถึงก็คิดไม่ออกหรอก แต่วูจิน นายเนี่ย โคตรเทพ ระดับพูดเหมือนเจ้าของภาษาเลย ถ้าจะปังจริง ต้องมีทั้งชื่อเสียง เสียงร้องระดับนักร้อง ฝีมือภาษาต่างประเทศระดับเจ้าของภาษา หน้าตาดี นี่แหละคือสิ่งจำเป็น แต่วูจิน นายมีครบเลย นี่แหละคือสิ่งที่หายาก”

คังวูจินฟังคำอธิบายเสร็จ ก็ยอมรับในใจ

‘ฟังดูดีใช่ได้เลยแฮะ? แบบว่า... อืม... แผนสุดยอดเกินไปแล้ว’

คังวูจินพูดออกมาตรงๆ

“···ก็ดูดีนะครับ”

“ใช่เหรอ? ฮ่าๆ ชอบไหม?อย่างน้อยจากการออกแบบของฉัน ถ้ามันเวิร์ก ทั้งฝีมือร้องเพลงของนายและทักษะภาษาต่างประเทศจะได้โชว์ และยังดึงดูดแฟนต่างชาติจากฝั่งอเมริกาหรือญี่ปุ่นที่หลงใหลในเกาหลีได้ แน่นอนว่าแฟนในประเทศก็ด้วยอาจจะเพิ่มมากขึ้นกว่าที่คิดด้วยซ้ำ”

นั่นหมายความว่าจะได้โชว์ความแปลกใหม่ แบบพลิกความคาดหมาย

“ถ้ารุ่งก็เหมือนยิงนก ไม่ใช่แค่ตัวเดียวนะ ถ้ามันดีอาจจะได้ทั้งหลายตัวร่วงลงมาพร้อมกันเลย ถ้าช่องทางมันใหญ่ขึ้น เราก็อาจจะเชิญ ‘แขก’ มาได้ แบบร่วมมือกัน เช่น คุณฮวาลิน อะไรงี้”

ตอนนี้มันเป็นแค่แผนที่พูดออกมา แต่วูจินเริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ ในอดีตมันแค่ YouTubeที่ช่วยให้ผ่านช่วงเวลาอันน่าเบื่อบนรถไฟใต้ดิน แต่ตอนนี้มันมีโอกาสที่เขาจะเข้าครองตลาดกว้างใหญ่นี้แล้ว

‘ฮึฮึ ชีวิตแบบนี้มันสุดยอดไปเลยแฮะ’

ชเวซองกุนวางโทรศัพท์มือถือลงและถามคังวูจิน

“ว่าไง? เอาไหม?”

วูจินพยายามซ่อนความดีใจไว้ และตอบอย่างใจเย็น

“ใช่ เอาครับ ดูเหมือนสนุกดี”

“ฉันก็คิดแบบนั้น”

แผนใหม่ลงตัวในทันที

“โอเค- งั้นจัดการเรื่องการเรียบเรียงเพลง แต่งเนื้อร้อง บูธอัดเสียงอะไรพวกนั้นให้เร็วที่สุด”

ชเวซองกุนเขียนอะไรบางอย่างลงในไดอารี่ก่อนที่จะพูด

“งานคงจะหนักขึ้นกว่านี้แน่ๆ ไหวไหม?”

คิดว่าฉันจะตายรึไง? วูจินตอบสั้นๆ

“ครับ เต็มที่ได้เลยครับ”

ต่อมา

คังวูจินมาถึงงานเลี้ยงฉลองตอนจบของ ‘ผู้เชี่ยวชาญนิติจิตวิทยาเสเพล’ ตอนเย็น

สถานที่จัดงานอยู่ที่ร้านเนื้อย่างขนาดใหญ่ในโซล

ไม่ได้อยู่ในเขตเมือง แต่เป็นย่านชานเมือง

พอวูจินถึงร้านเนื้อย่าง นักข่าวก็ยืนเรียงหน้ากระดานกันอยู่หน้าร้านแล้ว

“คังวูจิน!?”

“หลังจาก ‘นิติจิตวิทยา’ คุณก็รุ่งสุดมากๆ เลยนะคะ คุณรู้สึกยังไงเหรอคะ?”

“วูจิน! ตรงนี้ๆ หันมาทางนี้หน่อย!”

“คุณติดต่อกับผู้กำกับควอนกีแท็กบ่อยไหมครับ?”

“โบกมือหน่อย!”

“รายการของPDยุนบยองซอนยังไม่เปิดเผยทั้งหมดเลย แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าใครคือคนที่ได้รับการแคสติ้งแล้วนอกจากคุณ?”

พวกเขามุ่งหน้าเข้ามาเหมือนกับสัตว์ป่า

ทีมงานของ ‘นิติจิตวิทยา’ พยายามห้ามปรามพวกเขา แต่พวกเขาก็กระตือรือร้นเกินไป ไฟแฟลชก็ยิ่งไปกว่านั้น

- แชะๆ ๆๆๆ!

ระหว่างที่วูจินเดินผ่านไปอย่างเงียบๆ เขาพยายามทำตามคำแนะนำของชเวซองกุนยิ้มแล้วโบกมือเบาๆ แต่ในใจ...

‘ตาพร่าแล้วเฮ้ย! มองไม่เห็นเลย! อ้า- เย็นไว้ตัวฉัน คุมอารมณ์ คุมอารมณ์’

เขาพยายามดึงเอาความเท่ที่ดูเย็นชาออกมาให้มากที่สุด แต่เพราะความสับสนอลหม่าน เขาก็มีสะดุดบ้าง โชคดีที่ไม่มีใครสังเกตเห็น

ในที่สุด เขาก็เข้าไปในร้านปิ้งย่างได้อย่างทุลักทุเล

ภายในร้านมีทั้งทีมงานหลายสิบคนและนักแสดงจาก “นิติจิตวิทยา” มาอยู่เกือบครบแล้ว ไม่นาน ทีมงานก็เริ่มทักทายวูจิน

“วูจิน มาแล้ว!!”

“อ้าว- ดาราคังมาแล้วเหรอ!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า นานแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน! ยุ่งกับงานสุดๆ ใช่มั้ยเนี่ย??”

“จริง! เปิดเน็ตดูมีแต่ข่าวของวูจิน นี่นา!”

ทุกคนคงดื่มกันมาบ้างแล้วพูดคุยเสียงดัง แต่วูจินต้องดูเย็นชาเข้าไว้

“สวัสดีครับ ขอบคุณครับ”

คังวูจินพูดทักทายแบบขอไปที ผู้กำกับภาพเลยชวนเขาเมา

“เหนื่อยกับนักข่าวข้างนอกใช่ไหม? มา เมาสักแก้ว! ดื่มให้ชื่นใจ!”

“ไม่ครับ ผมดื่มไม่ไหว”

“เอ๊ะ? คราวก่อนตอนเลี้ยงฉลองก็พูดแบบนี้ คุณวูจินไม่ดื่มเหล้าเหรอ?”

จริง ๆ แล้วเขารักเหล้ามาก ก่อนเป็นนักแสดง เขาชอบดื่มเหล้า แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว

‘ถ้าเมาแล้วคังวูจินตัวจริงจะออกมาหมด เลิกคิดเถอะ เลิกคิด ฮึบ แต่ใจจริงก็อยากดื่มเหมือนกันนะ’

ถ้าเมาเมื่อไหร่ คังวูจินตัวจริงจะหลุดออกมาแน่ สุดท้ายแล้ววูจินก็ถูกพาไปที่โต๊ะที่นักแสดงมารวมตัวกัน รยูจองมิน ฮงฮเยยอน รวมถึงทุกคนมารวมตัวกันหมด

คนแรกที่ตะโกนทักคือจางแทซานที่ดูร่าเริง

“โอ้! ดาราใหญ่มาแล้ว! นั่งสินั่ง”

ต่อมาคือรยูจองมินที่ปล่อยผมหยิก

“มาแล้วเหรอ? บทความ ‘เพื่อนชาย’ เห็นแล้วนะ ถ่ายทำเมื่อไหร่กัน?”

วูจินตอบไปพลางมองรยูจองมินที่เปลี่ยนทรงผม แล้วถอนหายใจเงียบๆ ในใจ

‘ตอนทำผมหยิกก็หล่ออยู่แล้ วพอปล่อยผมนี่คืออะไร เกินชั้น เกินชั้นไปเลย บ้าไปแล้วหน้าตาหล่ออะไรกันขนาดนี้’

ด้านหลังยังคงมีเสียงรื่นเริงของงานเลี้ยงปิดฉากละคร

ละครนิติจิตวิทยายังคงได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งตอนออกอากาศและตอนจบ ทำให้บรรยากาศงานเลี้ยงสนุกสนานเกินกว่างานปาร์ตี้ธรรมดา ฮงฮเยยอนที่รวบผมยาวขึ้นและใบหน้าแดงก่ำเพราะเมาเหล้าเดินมาประกบข้างวูจิน กลิ่นน้ำหอมและกลิ่นเหล้าผสมกันลอยมาเตะจมูก ทำให้วูจินรู้สึกตึงเครียดเล็กน้อย ฮงฮเยยอนกระซิบถาม

“กับฮวาลินเป็นยังไงบ้าง?”

“ยังไงนะครับ?”

“สนิทกันแล้วรึเปล่า หรือว่าติดต่อกันบ้าง”

“ก็ธรรมดาครับ ไม่ได้สนิทกันอะไรขนาดนั้น”

“นายมองเธอเป็นก้อนหินหรือไง? แต่อย่างน้อยเธอก็เป็นถึงฮวาลินเชียวนะ เธอเป็นที่หมายตาของคนมากมายเลยล่ะในวงการนี้แหละไม่ใช่แค่แฟนคลับนะ”

อะไรกันนะ นี่คุณฮงฮเยยอนต้องการพูดอะไรเนี่ย

“อ้าว แล้วแดยองอยู่ไหนล่ะครับ? ไม่มาหรอกเหรอ?”

“มาสิ ตรงนั้นไง”

เธอชี้นิ้วไปทางด้านหลังพวกเรา มองเห็นอสูรตัวโตกำลังยัดไส้ทั้งเนื้อและเหล้าเข้าไป จนมีสภาพแทบจะคล้ายเครื่องดูดฝุ่นเนื้อแล้ว

‘ไอ้โง่ ใจเย็นๆ หน่อยสิ เอาเวลาหายใจบ้างสิ เดี๋ยวจะตายเพราะกินเนื้อยัดปากหมดหรอก’

แล้วเขาก็สบตากับคังวูจิน คิมแดยองโบกมือใหญ่ๆ ดูเหมือนจะปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้ดีแล้ว

“วูจิน”

มีคนเรียกชื่อ คังวูจิน ผู้กำกับซงมันวู ผู้ชายมีหนวดเครายังคงมีรอยคล้ำใต้ตาแม้ถ่ายละครจบแล้ว

“คุยกันหน่อยสิ”

“อ่าครับ ครับผู้กำกับ”

ทั้งคู่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปทางห้องน้ำ นักเขียนพัคอึนมีนั่งมองอยู่ที่เดิมด้วยตาเบิกกว้าง PDซงมันวูเดินมาหยุดอยู่ที่ทางเดินไปห้องน้ำซึ่งค่อนข้างโล่ง แล้วก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

“ผมจะลาออกจาก SBC แล้วผมยื่นใบลาออกไปแล้วด้วย”

“อะไรนะ? กะทันหันจังเลยครับ” วูจินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ตอบอย่างใจเย็น

“ใช่ครับ”

“ตอนนี้ผมกำลังวุ่นวายกับตารางงานของ ‘จิตวิทยา’ ที่กำลังจะออกอากาศ พอทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมก็จะออกไปทำธุรกิจส่วนตัว เลยอยากจะถามว่าถ้าผมส่งบทไปให้คุณช่วยอ่านให้หน่อยได้ไหม? ตอนนั้นผมจะไม่ได้เป็นพนักงานสถานีโทรทัศน์แล้ว แต่จะเป็นผู้บริหารบริษัทผลิตละครอิสระ”

“คุณจะทำหน้าที่กำกับด้วยเหรอครับ?”

“ผมจะกำกับอย่างเดียวเป็นเหมือนผู้บริหารที่อยู่เบื้องหลังน่ะ”

“ถ้าส่งมา ผมจะอ่านครับ”

“ฮ่า ฮ่า ขอบคุณนะ ถ้าเป็นแบบนั้น ราคาค่าตัวของวูจิน นี่ต้องพุ่งพรวดไปถึงฟ้าเลยแหละ ถือว่าเป็นนักแสดงระดับท็อปแน่นอน”

PDซงมันวูเลิกยิ้มออกจากใบหน้าแล้วแสดงสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที

“แล้วก็มีอีกอย่างนะ คือถ้าผมจะเลือกบท แล้วไม่แน่ใจ ก็ช่วยผมเลือกหน่อยได้ไหม? นี่เป็นผลงานกำกับเรื่องแรกหลังจากออกมาเปิดบริษัท ถ้าเจ๊งไปนี่ งานเข้าแน่ ผมเลยกะว่าจะมาขอความช่วยเหลือจากคังโทเทมได้ไหม แค่ขอคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พอ”

PDซงมันวู ผู้เป็นอสูรระดับตำนานในวงการละคร กลายเป็นสาวกคังวูจินไปเสียแล้ว ผู้ชายคนนี้นี่คิดไปเองเยอะไปหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก วูจินเขาชินแล้ว ที่สำคัญคือ PDซงมันวูเป็นจุดเริ่มต้นของการเติบโตของวูจิน และเป็นบุคคลสำคัญที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นตัวการสำคัญของการแพร่ระบาดของเชื้อโรคความเข้าใจผิดด้วย

วูจินพลันนึกถึงคำสอนของชเวซองกุนขึ้นมา

‘การให้และรับ และ การดูแลความสัมพันธ์กับพวกผู้ใหญ่’

และถ้าผลงานเจ๋งๆ มาด้วย คังวูจินก็ยินดีต้อนรับเสมอ

“ผมช่วยได้ด้วยความเต็มใจเลยครับ”

คังโทเทมรับปากจะช่วย PDซงมันวู พอเขาได้ยินก็ยิ้มกว้างขึ้น

“ฮ่าๆ โชคดีจริงๆ เลยแฮะ ขอบคุณมากนะ”

ประมาณหนึ่งสัปดาห์ต่อมาที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในโซล

ช่วงสายๆ เป็นโรงเรียนอยู่ในเขตจงโร หน้าตาอลังการเห็นแล้วก็รู้เลยว่าใหญ่มาก นอกจากนั้น โรงเรียนดูหรูหรา ดูเหมือนรูปวาด บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่ความรู้สึกเหมือนโรงเรียนทั่วไปไหมนะ?

แต่สิ่งแรกที่สะดุดตาคือธรรมชาติ

โรงเรียนเหมือนกับอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้หลากหลายชนิดมาก เมื่อเดินผ่านประตูโรงเรียน ก็จะพบกับสวนกลาง สวนขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยรูปปั้นขนาดใหญ่ และสวนสวยงาม อาจเรียกได้ว่าต้องตาเป็นอย่างยิ่ง

อาคารหลายตึกก็ดูพิเศษ

ตึกใหญ่โดดเด่นแบบโกธิกอยู่ตรงหน้าตึกแยกส่วนที่ทำด้วยอิฐสีน้ำตาล โรงอาหารที่ดูคล้ายโบสถ์นิดๆ สนามกีฬาที่กว้างขวาง ห้องประชุม โกดัง และหอพัก ฯลฯ ดูแล้วเพลิดเพลินตาสำหรับโรงเรียนมัธยมปลาย นี่ถือว่าไม่ธรรมดาเลย

กลางสวนของโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้

“เอาล่ะ! เดี๋ยวฉันจะขนของลงเร็วๆ นะ!”

“แล้วผู้กำกับล่ะ?!”

“ไปตรวจสอบสถานที่ถ่ายทำแล้ว! ตอนนี้น่าจะอยู่ที่ห้องประชุม!”

“วิทยุสื่อสาร! รับไปคนละเครื่อง!”

ทีมงานถ่ายทำกำลังขนของลงอย่างรวดเร็ว จำนวนคนประมาณ 40 คน ซึ่งไม่น่าแปลกใจอะไร

“เฮ้ย! ไอ้หนุ่ม! บอกแล้วไงว่าของแพง! อย่าโยนๆ ลงแบบนั้นสิ!”

“ขอโทษครับ!”

“ยาม! ช่วยกันกันนักเรียนไว้ก่อนที่พวกเขาจะมารุมกัน!”

“นักแสดงมาถึงไหนแล้ว?!”

“ใกล้ถึงแล้วค่ะ!”

โดยทั่วไป บรรยากาศดูเหมือนจะทำให้ทุกคนสับสนอลหม่าน สิ่งที่ทำให้บรรยากาศวุ่นวายคือ

“โอ้! ว้าว! มาจริงๆ ด้วย!”

“ไม่น่าเชื่อเลย ฉันเพิ่งเคยเห็นการถ่ายทำครั้งแรก!”

“ว่าแต่นี่เป็นการถ่ายทำอะไร?”

“ฉันได้ยินมาจากอาจารย์คังว่าเป็น 'เพื่อนชาย'”

“เอ๊ะ? นี่มันของ Netflix นี่นา?!”

เด็กนักเรียนมารวมตัวกันรอบๆ ทีมงาน ยามนี้เป็นช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ถึงแม้ว่าโรงเรียนจะว่างเปล่าเพราะช่วงปิดภาคเรียน แต่ก็ยังมีเด็กที่อยู่หอพัก

ตอนแรกมีแค่ไม่กี่คน แต่กระจายไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นสิบกว่าคน

“'เพื่อนชาย'?! ถ้าเป็นเรื่องนี้ คังวูจินกับฮวาลินจะมาที่นี่จริงหรอ?!”

ระดับเสียงค่อยๆ ดังขึ้น เด็กนักเรียนถูกทีมงานคอยปิดกั้น

แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็แอบมองเข้าไปในโซนถ่ายทำแบบบ้าคลั่ง

ตอนนั้นเอง

“ฮึ! มองไม่เห็นชัดเลย ······· เอ๊ะ??”

สิบกว่าคนมีนักเรียนหญิงคนหนึ่งรู้สึกถึงพลังงานบางอย่าง ตรงทางเข้าโรงเรียน ไม่นาน ทีมงานหลายคนก็วิ่งไปยังทางเข้าโรงเรียน นักเรียนหญิงมองดูอย่างหลงใหล

-ตึก ตึก

เธอเห็นผู้ชายหน้าเฉยเดินมา ด้วยท่าทีเรียบๆ คนนี้ ดูจากท่าทางก็รู้ว่าต้องเป็นดาราแน่ ต่อมาเธอก็จำหน้าเขาได้ เธอรีบชี้ไปที่เขา และตะโกนบอกเพื่อนๆ

“คนนั้น คนนั้นไง! คังวูจิน คังวูจินมาแล้ว!!”

จบ

_ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร _ลงแบบราคาถูกแค่ในMy-NovelและThai-novel_เท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับ_หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก. ;-;_

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด