กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 538 ปราชญ์อสูรภูเขาเทียนหมาง
กำราบภพด้วยระบบกลไกสวรรค์ ตอนที่ 538 ปราชญ์อสูรภูเขาเทียนหมาง
“ใช่แล้ว”
หวังเซ่อถอนหายใจ กล่าวอย่างจนใจ
แม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อเช่นกัน แต่ข่าวสารก็ส่งมาถึงมือเขาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ทุกอย่างถูกกล่าวอย่างชัดเจน คาดว่าคงจะเป็นความจริง
“ปราชญ์อสูรผู้นั้น ละสังขารมานานนับประการแล้ว ในตอนนั้นขุมอำนาจทั้งหมดที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของยมโลก ต่างก็ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น เป็นไปได้อย่างไร ปราชญ์อสูรผู้นั้นจะยังคงมีชีวิตอยู่”
ข้างกายหวังเซ่อ ชายชราคนหนึ่งกล่าวอย่างไม่อยากเชื่อ
เขาชื่อหลิวซวิ่น ติดตามนายน้อยมาระยะหนึ่งแล้ว
นายน้อยของพวกเขา ในชาติก่อน เกิดหลังจากยมโลกถูกทำลายไม่นาน จึงรู้เรื่องราวของยมโลกค่อนข้างดี
พวกเขาจึงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับยมโลกจากนายน้อยหลายครั้ง
เพราะพวกเขารู้ถึงความน่ากลัวของยมโลก พวกเขาจึงเข้าใจดีว่าหลังจากยมโลกถูกทำลาย การกวาดล้างจะรุนแรงเพียงใด
กล่าวได้ว่า ขุมอำนาจทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับยมโลก ต่างก็ถูกกวาดล้างจนหมดสิ้น
ไม่มีใครสามารถรอดชีวิต
ปราชญ์อสูรแห่งภูเขาเทียนหมางผู้นั้น เป็นหนึ่งในขุมอำนาจหลักของยมโลก คงจะไม่มีทางรอดชีวิต
“ข่าวสารส่งกลับมาแล้ว พวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่ ทุกอย่างก็เป็นความจริง”
หวังเซ่อกล่าวอย่างจนใจ
เขาไม่เคยคาดคิดว่าในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ จะมีปราชญ์อสูรหนึ่งคนออกจากการบำเพ็ญเพียร
“สหายเต๋าหวัง เจ้ายังจำได้หรือไม่ ก่อนหน้านี้เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์กล่าวว่า จะมีขุมอำนาจลึกลับหนึ่งขุมอำนาจ คอยช่วยเหลือเจ้าแห่งยมโลก”
“ข้าคิดว่า เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์หมายถึง ปราชญ์อสูรผู้นี้หรือไม่”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น
“คาดว่าคงจะเป็นเขา”
หวังเซ่อสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กล่าวอย่างแผ่วเบา
ก่อนหน้านี้ พวกเขายังคงสงสัยว่า ใครกันที่กล้าทำเรื่องที่เลวร้ายเช่นนี้ ในช่วงเวลานี้ กล้าช่วยเหลือยมโลก
ตอนนี้ดูเหมือนว่า นอกจากเจ้าภูเขาเทียนหมางผู้นี้แล้ว คงจะไม่มีใครอีก
“หากปราชญ์อสูรผู้นั้นไม่ได้ละสังขารในยุคโบราณ เมื่อมาถึงยุคปัจจุบันนี้ ตบะของเขาคงจะใกล้เคียงกับระดับจักรพรรดิเซียนแล้วกระมัง”
หลิวซวิ่นขมวดคิ้ว กล่าว
ยมโลกถูกทำลายมานานมากแล้ว
นานจนไม่รู้ว่ามีอัจฉริยะมากมายเพียงใดที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ปราชญ์อสูรผู้นั้น ในยุคโบราณก็มีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา
รวมกับช่วงเวลานับไม่ถ้วนนี้
คาดว่าแม้จะเป็นเพียงหมู ตอนนี้ก็คงจะไม่ธรรมดา
“เรื่องนี้ ข้าก็ไม่รู้”
หวังเซ่อยิ้มอย่างขมขื่น
สถานการณ์ของปราชญ์อสูรแห่งภูเขาเทียนหมางในตอนนี้ คงมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้
“ตอนนี้ดูเหมือนว่า พวกเราต้องเร่งมือแล้ว รีบจัดการเจ้าแห่งยมโลกให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้น รอจนกระทั่งปราชญ์อสูรผู้นั้น ปกครองโลกสุเมรุได้ พวกเราคงต้องพบกับหายนะ”
หลิวซวิ่นกล่าวอย่างแผ่วเบา
เดิมที พวกเขาไม่ใช่สิ่งมีชีวิตของโลกใบนี้ พวกเขามาที่โลกสุเมรุ เพื่อที่จะตามหาร่างที่เกิดใหม่ของนายน้อย
ตอนนี้นายน้อยถูกพบแล้ว
มรดกของยมโลก ก็มีร่องรอยแล้ว
ตราบใดที่สังหารเจ้าแห่งยมโลกได้ พวกเขาก็สามารถจากไปได้
ส่วนโลกสุเมรุในอนาคตจะเป็นเช่นไร ก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาต้องกังวล
ท้ายที่สุด ปราชญ์อสูรโบราณหนึ่งคนออกจากการบำเพ็ญเพียร ใช้เท้าคิดก็รู้ว่าสิ่งแรกที่เขาต้องทำ คือการปกครองโลกสุเมรุ ฟื้นฟูความรุ่งเรืองของยุคโบราณ หากเป็นไปได้ แม้จะเป็นการสร้างยมโลกขึ้นมาใหม่ คาดว่าเขาก็คงไม่ปฏิเสธ
เช่นนี้แล้ว
โลกสุเมรุ และปราชญ์อสูรผู้นั้น จะต้องเกิดสงครามขึ้นอย่างแน่นอน พวกเขาไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะนายน้อยยังไม่ฟื้นฟูพลังทั้งหมด
การต่อสู้กับราชันเซียนที่แข็งแกร่งเช่นนั้น โอกาสพ่ายแพ้มีมากกว่าโอกาสชนะ
“สายเกินไปแล้ว”
หวังเซ่อมองหลิวซวิ่นแวบหนึ่ง กล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ข่าวสารกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ไม่นาน ปราชญ์อสูรผู้นั้น ได้ออกจากภูเขาเทียนหมางแล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ใด”
“อืม?”
ได้ยินเช่นนั้น หลิวซวิ่นเลิกคิ้วขึ้น ภายในใจรู้สึกไม่ดี เขาถามอย่างกังวลว่า “ปราชญ์อสูรผู้นั้น คงจะไม่…”
ในช่วงเวลานี้ ยังมีเรื่องใด ที่สามารถทำให้ปราชญ์อสูรผู้นั้นต้องเป็นห่วง
ผ่านไปเนิ่นนาน ทุกสิ่งทุกอย่างของเขาถูกฝังไว้ในสายธารแห่งกาลเวลา ตอนนี้ นอกจากข่าวสารเกี่ยวกับยมโลกแล้ว คงจะไม่มีเรื่องใดที่เขาสนใจ
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขากำลังจะจัดการเจ้าแห่งยมโลก
เช่นนี้แล้ว พวกเขาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับราชันเซียนที่เพิ่งจะปรากฏตัวขึ้นหรือไม่
“ไม่แน่”
หวังเซ่อถอนหายใจเบา ๆ
“ก่อนหน้านี้ เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ได้เอ่ยเตือนเอาไว้ คำพูดของเขามิใช่ไม่มีเหตุผล หากไม่เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น พวกเราคงต้องผ่านปราชญ์อสูรผู้นั้น ก่อนที่จะจัดการเจ้าแห่งยมโลก”
“ยังไม่รู้ว่าปราชญ์อสูรผู้นั้นอยู่ที่ใด และไม่รู้ว่าเขาจะช่วยเหลือเจ้าแห่งยมโลกหรือไม่ ตอนนี้ พวกเราควรลงมือก่อน มิสู้…”
หลิวซวิ่นอดทนรอไม่ไหว
ภายในดวงตาของเขา ปรากฏจิตสังหาร เขามองไปยังอีกด้านหนึ่งของโลกแสงนิล
รู้ว่าราชันเซียนกำลังจะมาถึง แต่พวกเขายังคงรอคอยอยู่ที่นี่ เป็นการกระทำที่ไม่ฉลาด
“แต่นายน้อยยังมาไม่ถึง พวกเรายังไม่รู้ว่าเจ้าแห่งยมโลกมีไพ่ตายอะไรบ้าง หากลงมืออย่างไม่ระวัง อาจจะทำให้เขาตื่นตัว”
ข้างกาย มีคนหนึ่งกล่าวอย่างกังวล
“เช่นนั้นพวกเราก็ต้องเสียเวลาไปเปล่า ๆ หรือ”
หลิวซวิ่นกล่าวอย่างไม่พอใจ
พลังอำนาจของราชันเซียน ไม่อาจคาดเดาได้ หากเขาต้องการมาที่โลกแสงนิล ก็ใช้เวลาไม่นาน ตอนนี้ทุกนาที ทุกวินาที ล้วนสำคัญยิ่งนัก
เขาไม่อยากเห็นราชันเซียนเข้ามายุ่งเกี่ยว
“บางที… นายน้อย”
หวังเซ่อเอ่ยขึ้น
แต่คำพูดของเขายังไม่จบ
นอกเรือรบ เสียงฝีเท้าที่ชัดเจนดังขึ้น
