OS ตอนที่ 37 การยอมรับมรดก
ข้อความจากระบบจำนวนมากปรากฏขึ้นในสายตาของอีควิน็อกซ์ เขานั่งลงบนพื้น และมองไปพวกสัตว์อัญเชิญของเขาที่ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากไม่มีอันตรายอีกต่อไป เขาจึงส่งมันกลับไปยังพื้นที่วิญญาณเพื่อให้พวกมันพักฟื้นที่นั่น
จากนั้น เขาก็หันไปดูข้อความแจ้งเตือนจากระบบ
[แจ้งเตือนผู้เล่น: ผู้เล่นเลเวลอัป ซิริอุสเลเวลอัป คันลาออนเลเวลอัป]
ตัวเขากับซิริอุสเลเวลเพิ่มขึ้นสองเลเวล ส่วนคันลาออนเพิ่มขึ้นสามเลเวล
[ผู้เล่นได้รับฉายา ‘นักฆ่าอันเดด’]
[ผู้เล่นได้รับฉายา ‘ผู้กอบกู้ผู้ลืมเลือน’]
อีควิน็อกซ์รีบกดดูเอฟเฟ็กต์ของฉายาอย่างรวดเร็ว
==
ชื่อ: นักฆ่าอันเดด
เอฟเฟ็กต์: สร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 50% ให้กับศัตรูประเภทอันเดด และฟื้นฟูพลังชีวิตเท่ากับ 10% ของความเสียหายที่สร้างให้กับอันเดด
==
==
ฉายา: ผู้กอบกู้ผู้ลืมเลือน
เอฟเฟ็กต์: ค่าสถานะทั้งหมด +50
==
เอฟเฟ็กต์ของฉายานั้นดีมาก โดยเฉพาะผู้กอบกู้ผู้ลืมเลือนที่เพิ่มค่าสถานะตั้ง 50 มันเท่ากับการอัปเลเวลแปดครั้ง
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมภารกิจนี้ถึงยากมาก แต่อย่างน้อย ๆ ของรางวัลก็คุ้มค่า
อีควิน็อกซ์เดินไปที่ศพของผู้คุมสุสาน เพื่อเข้าไปเก็บไอเทมภารกิจของเขา
[ได้รับไอเทมภารกิจ: หัวใจของผู้คุมสุสาน]
[ได้รับไอเทม: แหวนแห่งคอร์รัปแทนท์]
[ได้รับไอเทม: ต่างหูแห่งคอร์รัปแทนท์]
[ได้รับไอเทม: แผนที่ของผู้ร่วงหล่น]
อีควิน็อกซ์เลื่อนดูเพื่อตรวจสอบของมูลของไอเทม
==
ชื่อ: แหวนแห่งคอร์รัปแทนท์ (ชุดไอเทม)
ระดับ: มหากาพย์
เอฟเฟ็กต์: INT +20
เอฟเฟ็กต์ครบชุด: ลดคูลดาวน์สกิล 20%
==
==
ชื่อ: ต่างหูแห่งคอร์รัปแทนท์ (ชุดไอเทม)
ระดับ: มหากาพย์
เอฟเฟ็กต์: DEX + 20
เอฟเฟ็กต์ครบชุด: ลดคูลดาวน์สกิล 20%
==
==
ชื่อ: แผนที่ของผู้ร่วงหล่น
เอฟเฟ็กต์: ไอเทมใช้งาน เมื่อเปิดใช้งาน ผู้เล่นจะได้รับภารกิจต่อเนื่อง 'เส้นทางของผู้ร่วงหล่น'
==
พวกเครื่องประดับ มันมีประโยชน์กับอีควิน็อกซ์มาก โดยเฉพาะเอฟเฟ็กต์ครบชุดของแหวนและต่างหูที่ช่วยลดคูลดาวน์ของสกิลลงได้ 20%
แต่สิ่งที่ทำให้อีควิน็อกซ์มีความสุขจริง ๆ ก็คือแผนที่ของผู้ร่วงหล่นที่เมื่อเปิดใช้งาน มันจะสร้างภารกิจขึ้นมา โดยภารกิจต่อเนื่องแบบนี้มักจะหายากมาก และยิ่งภารกิจยากขึ้นเท่าไหร่ ของรางวัลก็จะยิ่งคุ้มค่ามากขึ้นเท่านั้น
เมื่อตรวจสอบไอเทมที่ดรอปมาจากผู้คุมสุสานเสร็จแล้ว เขาจึงมุ่งหน้าไปยังศพมังกรก้นเหวต่อ เขาไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะมันเป็นแค่บอสในช่วงหลังเท่านั้น และดูลาฮานก็สร้างความเสียหายให้กับเจ้ามังกรเป็นส่วนใหญ่
[ได้รับไอเทม: หนังสือทักษะระดับมหากาพย์ 'ลมหายใจมังกรก้นเหว (เสื่อมถอย)']
[ได้รับไอเทม: แก่นมังกรก้นเหว]
มือของอีควิน็อกซ์สั่นระริกในขณะที่เขาหยิบไอเทมจากศพของมังกรก้นเหว เขารีบตรวจสอบคำอธิบายไอเทมเพื่อคลายข้อสงสัยของเขาทันที
==
ไอเทม: หนังสือทักษะระดับมหากาพย์ ลมหายใจมังกรก้นเหว (เสื่อมถอย)
ระดับ: มหากาพย์
เงื่อนไข: สายอาชีพเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์
เอฟเฟ็กต์:
เอฟเฟ็กต์: ยิงลำคลื่นลำแสงอันหนาวเหน็บเป็นเส้นตรงใส่ศัตรู สร้างความเสียหาย 500% ของความเสียหายเวทมนตร์ ทำให้เกิดอาการน้ำแข็งกัด เหมาะสำหรับสายอาชีพที่ใช้เวทมนตร์ที่มีความเชี่ยวชาญเวทย์น้ำแข็ง
MP: 1,500
เวลาร่าย: 10 วินาที
คูลดาวน์: 2 ชั่วโมง
==
==
ไอเทม: แก่นมังกรก้นเหว
ระดับ: โบราณ
คำอธิบาย: แก่นแท้ของมังกรน้ำสายพันธุ์สูงสุดสายพันธุ์หนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ปกครองเหนือธาตุน้ำและธาตุน้ำแข็ง
เอฟเฟ็กต์: เพิ่มคุณสมบัติของมังกรก้นเหว
เงื่อนไข: สัตว์อัญเชิญประเภทมังกรหรือความเชี่ยวชาญของช่างตีเหล็กขั้นสูง
==
มือของอีควิน็อกซ์สั่นเทาด้วยความตื่นเต้น ดูเหมือนว่าเขาจะหาไอเทมที่สามารถมอบคุณสมบัติใหม่แก่คันลาออนได้ แต่เขาต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อน ไว้เมื่อเขากลับไปที่ราบพาราด็อกซ์ เขาจะรีบเข้าไปถามเพนน์เกี่ยวกับเรื่องนี้
อีควิน็อกซ์ดีใจมากกับแก่นมังกรก้นเหวมา แต่ไม่ใช่กลับหนังสือทักษะ เพราะเขาไม่สามารถใช้มันได้อยู่แล้ว เขาอาจจะขายมันเหมือนกับหินวิญญาณของผึ้งราชินีเพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเกม
เมื่อไม่มีอะไรแล้ว เขาก็ตั้งใจจะตรวจสอบโดยรอบอีกสักหน่อย และออกจากเกม เนื่องจากมันใกล้จะครบ 8 ชั่วโมงแล้ว
อีควิน็อกซ์สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเดินไปหาผีชาวแอสโมเดียนที่กำลังกอดเศษชิ้นส่วนบางอย่างไว้ราวกับว่าชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับมัน
อีควิน็อกซ์ยกมือขึ้นไปทางบาเรีย แต่แทนที่มือของเขาจะหยุดอยู่ที่ขอบเขตของบาเรีย มือของเขากลับทะลุเข้าไปข้างใน เขาจึงเดินทะลุเข้าไปในบาเรีย
ทันใดนั้นเอง ผีแอสโมเดียนก็ลืมตาขึ้น และมองดูอีควิน็อกซ์อย่างพินิจพิเคราะห์ จากนั้น ผีก็พูดกับอีควิน็อกซ์ว่า
"หนุ่มน้อย การที่คุณเข้ามาที่นี่ได้ แสดงว่าคุณเอาชนะผู้คุมสุสานได้แล้วสินะ"
"คุณเป็นใคร?" อีควิน็อกซ์ถาม
“อืม... ฉันลืมชื่อของตัวเองไปนานแล้ว เพราะฉันติดอยู่ในที่แห่งนี้มาหลายร้อยปีแล้ว และวิญญาณของฉันคอยเติมเชื้อเพลิงให้กับบาเรียที่ผู้คุมสุสานพยายามทำลายอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่กำแพงถูกเจาะ ฉันจะใช้วิญญาณซ่อมแซมมันเพื่อไม่ให้สาวกของพวกคอร์รัปแทนท์สัมผัสกับโบราณวัตถุหรือแย่งชิงมันไป
โบราณวัตถุนี้เป็นเพียงหนึ่งในสามของทั้งหมด ซึ่งอีกสองชิ้นอยู่กับผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ แต่ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหน เพราะหลังจากที่พวกเราสามารถปิดผนึกรอยแยกที่พวกคอร์รัปแทนท์สร้างไว้เชื่อมต่อกับโลกของเราได้สำเร็จ พวกเราก็แยกย้ายออกไปคนละทิศคนละทาง”
ผีแอสโมเดียนตอบ
อีควิน็อกซ์ฟังเรื่องราวของผีแอสโมเดียนอย่างตั้งใจเพื่อที่เขาจะได้ย่อยข้อมูลที่ได้รับมาทั้งหมด
จู่ ๆ เขาก็เกิดสงสัยว่า หลังจากเขาเปลี่ยนเผ่าพันธุ์แล้ว ทำไมระบบเกมถึงไม่ได้ปลดล็อกให้ผู้เล่นคนอื่นสามารถเลือกเล่นเป็นเผ่าเดมอสได้
นั่นหมายความว่าเขาอาจจะต้องปลดปล่อยเผ่าเดมอสจากการข่มเหงจากมนุษยชาติหรือรวบรวมเผ่าพันธุ์อื่นที่สืบเชื้อสายมาจากแอสโมเดียนเป็นหนึ่งเดียว
หากเขาทำสำเร็จเขาอาจจะปลดล็อกเผ่าพันธุ์ใหม่ของเกมก็เป็นได้
ขณะที่จินตนาการของอีควิน็อกซ์กำลังฟุ้งซ่านไปไกล ผีแอสโมเดียนก็ดึงสติของเขากลับมา โดยพูดอะไรบางอย่างว่า
“หนุ่มน้อย ฉันขอให้คุณช่วยดูแลวัตถุโบราณนี้แทนฉัน เพราะวิญญาณของฉันใกล้จะดับสูญแล้ว คุณสามารถรับแบกภาระนี้แทนฉันได้หรือไม่?” ผีแอสโมเดียนถาม
อีควิน็อกซ์คิดอย่างจริงจังว่าเขาควรจะรับภารกิจนี้หรือไม่?
เนื่องจากตัวเขาในตอนนี้ถูกส่งกลับมาในอดีต เขาอาจทำลายเส้นเวลาโดยการยอมรับภารกิจก็เป็นได้ แต่อีควิน็อกซ์รู้ว่าเมื่อใดควรเสี่ยง และนี่คือช่วงเวลาที่ว่านั่น
จากสิ่งที่ดูลาฮานพูดมา นายท่านของเขาแข็งแกร่งมาก และไม่มีใครได้รับความไว้วางใจให้ดูแลวัตถุโบราณหากพวกเขาไม่แข็งแกร่งพอ ซึ่งหมายความว่าสายอาชีพของพวกเขาต้องมีพลังมากกว่าที่เขาจินตนาการไว้
“คุณจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจของคุณ ฉันจะปิดบังพลังของโบราณวัตถุเอาไว้เพื่อไม่ให้สาวกของพวกคอร์รปแทนท์ตรวจพบ แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณต้องจำไว้ เมื่อพวกมันอยู่ใกล้กัน ชิ้นส่วนของวัตถุโบราณจะทำการสั่นสะเทือน” ผีแอสโมเดียนกล่าว
ด้วยการสะบัดมือเพียงครั้งเดียว บาเรียก็ปกคลุมวัตถุโบราณแทนที่บริเวณโดยรอบ และผีแอสโมเดียนก็กล่าวคำอำลากับอีควิน็อกซ์
เมื่ออีควิน็อกซ์คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว จู่ ๆ พื้นก็สั่นสะเทือน และเห็นหีบสมบัติลอยขึ้นมาจากพื้น เขารีบเข้าเปิดหีบสมบัติ และดวงตาของเขาก็เปล่งประกายออกมา