ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 497 ท่านชายซูกลับมาอีกครั้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 499 จิตวิญญาณแห่งภาพวาด

MDB ตอนที่ 498 คาถาคลังเก็บของ, น้ำหมึกจักรวาล


ซูเสี่ยวหลัวแสดงความสนใจต่อทักษะการใช้เข็มอันน่าทึ่งของหลินจินอย่างเห็นได้ชัด

แต่เขาก็รู้ตัวดีกว่าการขอโดยตรงจะดูละโมบมากเกินไป ดังนั้น เขาจึงเสนอคาถาหนึ่งของเขาเพื่อแลกกับเคล็ดวิชาของของหลินจิน

หลินจินก็รู้สึกสนใจเช่นกัน

แท้จริงแล้ว เทคนิคการค้นหาชีพจรเป็นเทคนิคการควบคุมเข็มที่น่าเหลือเชื่อ เมื่อผู้ที่ต้องการแลกเปลี่ยนคือผู้ประเมินระดับห้า เขาน่าจะมีคาถาพิเศษที่น่าสนใจไม่แพ้กัน

เนื่องจาก หลินจินไม่รู้จักคาถามากนัก เขามีเพียงแค่นิ้วพลังวิญญาณ คาถาาณาจักรวิญญาณอัคคี และขจัดคาถาเท่านั้น ซึ่งทั้งสามอย่างนี้ต้องใช้พันธสัญญาโลหิตของเขาจึงจะใช้งานได้

นอกจากนี้ยังมี เมฆานำพา, เร้นกาย, เครื่องรางเบญจอัคคี และเพลิงมังกร ซึ่งเขาสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง

เมื่อเทียบกับผู้ประเมินระดับสี่คนอื่น ๆ แล้ว จำนวนคาถาที่หลินจินสามารถร่ายได้นั้นมีไม่มากนัก ทั้งหมดมันเป็นเพราะหลินจินให้ความสำคัญกับคุณภาพมากกว่าปริมาณ ดังนั้นเมื่อจะต้องเลือกเรียนคาถา เขาจะใช้คาถาที่มีศักยภาพสูง ถ้าคาถาต่ำกว่ามาตรฐานของเขา เขาจะเลือกมองข้ามมันไป

หลินจินตั้งตารอที่จะรับข้อเสนอจากท่านชายซู ผู้ประเมินระดับห้า

“ผู้ประเมินซู ท่านต้องการเสนอคาถาอะไรเพื่อแลกเปลี่ยนกับข้าหรือขอรับ?”

หลินจินปรับท่าทางของเขา และแววตาที่คาดหวังก็ปรากฏชัดเจนขึ้นในดวงตาของเขา

ท่านชายซูคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า

“ข้ามีคาถาเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างคาถาคลังเก็บของ หากผู้ประเมินหลินสนใจ เราสามารถแลกเปลี่ยนกันได้”

‘คาถาคลังเก็บของ?’

หัวใจของหลินจินเริ่มเต้นแรง

คาถาคลังเก็บของจัดว่าน่าสนใจมาก และหลินจินก็จะพบว่ามันมีประโยชน์มากจริง ๆ

เนื่องจาก จำนวนอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เขามีก็เริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และเขายังมีสมบัติวิเศษอีกด้วย การพกพาพวกมันไปมา มันคงจะไม่สะดวกนัก

โดยปกติแล้ว เข็มของเขาโดยปกติจะซ่อนไว้ในแขนเสื้อ และเชือกผูกอมตะก็จะพันรอบข้อมือหรือเอวของเขา หากเขามีอุปกรณ์เพิ่มเติมในอนาคต เขาจะต้องหาทางจัดเก็บพวกมันอย่างเหมาะสม

ด้วยคาถาคลังเก็บของ เขาจะไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นอีกต่อไป

และด้วยเหตุนี้ หลินจินจึงเกิดความสนใจที่จะรับข้อเสนอนี้

อย่างไรก็ตาม หลินจินหยุดตัวเองจากการแสดงความตื่นเต้นของเขา แม้ว่าคาถานี้จะค่อนข้างน่าสนใจ แต่ตัวเขายังอยู่ในกระบวนการต่อรอง หลินจินไม่สามารถเปิดเผยความจริงที่ว่าเขาต้องการคาถาคลังเก็บของ มิฉะนั้น เขาจะสูญเสียผลประโยชน์ที่อาจได้รับไป

การที่ท่านชายซูเริ่มข้อเสนอข้อต่อรอง มันแสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญกับเทคนิคการฝังเข็มมากเพียงใด ดังนั้น หลินจินจึงรู้สึกว่าเขาสามารถดึงประโยชน์จากมันได้มากกว่านี้

หลินจินยิ้มและกล่าวว่า

“ผู้ประเมินซู ความจริงแล้ว เทคนิคการใช้เข็มนี้สามารถใช้ได้ทั้งการโจมตีและการป้องกัน การใช้งานที่ดีที่สุดคือการรักษาทางการแพทย์ การรักษาเส้นเลือด และการฝังเข็ม เมื่อพิจารณาถึงความหลากหลายของการใช้งานแล้ว คุณค่าของมันคงไม่อาจเทียบได้กับคาถาคลังเก็บของของท่านเพียงอย่างเดียว”

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ท่านชายซูจำเป็นต้องเพิ่มข้อเสนอของเขา

ซูเสี่ยวหลัวเริ่มสนใจเทคนิคการใช้เข็มของหลินจินมากขึ้น หลังจากคิดสักพัก เขาก็พูดว่า

“ข้าสามารถสอนการประเมินสัตว์วิเศษให้กับเจ้าได้”

หลินจินส่ายหัว

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทักษะการประเมินของผู้ประเมินซูเหนือกว่าเขา แต่หลินจินมีพิพิธภัณฑ์สัตว์วิเศษ ถ้ามีเวลามากพอ ความรู้และทักษะของเขาก็จะแซงหน้าท่านชายซูในท้ายที่สุด

นี่คือสาเหตุที่หลินจินปฏิเสธข้อเสนอของเขา

ซูเสี่ยวหลัวเริ่มวิตกกังวล เขาครุ่นคิดอีกครั้งก่อนที่แววตาของเขาจะฉายแววประหลาดขึ้นมา

“ผู้ประเมินหลิน ลองดูสิ่งนี้สิ”

เมื่อพูดจบ เขาก็ยื่นฝ่ามือออกมา ซึ่งมีชิ้นส่วนเล็ก ๆ วางอยู่บนฝ่ามือนั้น

เมื่อหลินจินเห็นสิ่งนี้ เขาก็ตกตะลึง

บนฝ่ามือของผู้ประเมินซูมีลูกปัดสีดำอยู่ ลูกปัดนั้นเล็กมากจนดูเหมือนไข่มุกสีหมึก

“นี่คืออะไรขอรับ?”

หลินจินไม่สามารถบอกได้ในตอนแรก แต่เนื่องจากผู้ประเมินซูได้นำเสนอมันด้วยตัวเอง มันจะต้องเป็นสิ่งของไม่ธรรมดาอย่างไม่ต้องสงสัย

ผู้ประเมินซูแสดงสีหน้าเจ็บปวดขณะอธิบายว่า

“นี่คือน้ำหมึกจักรวาลของข้า น้ำหมึกนี้มีค่ามากจนข้าเองก็มีมันไว้ในครอบครองไม่มากนัก”

“มันสามารถทำอะไรได้บ้างขอรับ?”

ความสนใจของหลินจินถูกกระตุ้นเมื่อได้ยินเรื่องนี้

“ดูนี่สิ” ผู้ประเมินซูเอื้อมมือไปจับข้อมือของหลินจิน ชั่วพริบตาถัดมา พลังงานสีดำก็พุ่งพล่านใต้เท้าของพวกเขา และชายทั้งสองก็หายวับไป

จากมุมมองของหลินจิน โลกที่อยู่รอบตัวเขามืดลงชั่วขณะ เมื่อเขามองเห็นได้อีกครั้ง เขาก็ไม่อยู่ที่เรือนดอกท้ออีกต่อไป แต่กลับอยู่ในห้องใต้หลังคา

“ที่นี่คือ…”

เมื่อเห็นสถานที่แห่งค่อนข้างคุ้นตา หลินจินจึงมองลงไปตรวจสอบโครงสร้างของสามชั้นด้านล่าง

ศาลาประเมินอสูร

ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ศาลาประเมินอสูรแล้ว

หลินจินตกใจอย่างเห็นได้ชัด

แม้ว่าเรือนดอกท้อจะอยู่ไม่ไกลจากศาลาประเมินอสูรมากนัก แต่ก็ยังมีระยะทางหลายร้อยเมตร การสามารถเดินทางได้ไกลขนาดนั้นในพริบตาถือเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์สำหรับหลินจิน

“เป็นยังไงบ้าง? มันน่าทึ่งใช่ไหม?” ซูเสี่ยวหลัวดูพอใจกับตัวเอง “น้ำหมึกจักรวาลนี้มีประโยชน์มาก เมื่อเจ้าเชี่ยวชาญวิธีใช้งานมันแล้ว เจ้าแค่วาดมันบนกระดาษอะไรก็ได้ เพียงเท่านี้ เจ้าจะมีที่เก็บของขนาดหนึ่งห้องแล้ว นอกจากนี้ เจ้ายังสามารถเคลื่อนที่ผ่านภาพวาดได้ แม้ว่าจุดหมายจะอยู่ห่างหลายพันกิโลเมตร เจ้าก็สามารถไปถึงที่นั่นได้ในพริบตา เป็นไงล่ะ? มันคู่ควรกับเทคนิคการฝังเข็มของเจ้าหรือไม่?”

‘การเทเลพอร์ตผ่านภาพวาดงั้นเหรอ?’

หลินจินเริ่มตระหนักได้ เขามองไปรอบ ๆ และสังเกตเห็นว่าเขาและท่านชายซุกำลังอยู่ที่ชั้นสี่ของศาลาประเมินอสูร ซึ่งที่นี่มีภาพวาดแขวนอยู่มากมาย

นี่หมายความว่าเขาเพิ่งจะเทเลพอร์ตมาที่นี่พร้อมกับผู้ประเมินซูผ่านภาพวาดใช่ไหม?

ทันใดนั้น หลินจินก็สังเกตเห็นภาพวาดแปลก ๆ บนผนัง เป็นภาพของห้องหนึ่ง และภายในห้องนี้ก็มีภาพวาดอื่น ๆ อีกหลายภาพ ภาพหนึ่งว่างเปล่า ส่วนภาพที่สองเป็นภาพหญิงสาวในชุดสีเขียว

เธอดูคุ้นตามาก

ทันใดนั้น ผู้ประเมินซูก็เอื้อมมือไปจับข้อมือของหลินจิน และเทเลพอร์ตพวกเขากลับไปยังเรือนดอกท้ออีกครั้ง

ทันทีที่พวกเขาหายตัวไป ประตูชั้นสองของศาลาประเมินอสูรก็เปิดออก จงซื่อเฟิงออกมาและมองขึ้นไปชั้นบนด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เมื่อรู้ว่าไม่มีอะไรอยู่ตรงนั้น เขาก็ส่ายหัวแล้วกลับห้องของเขา

หลินจินเคยอ่านในตำราโบราณว่าผู้อมตะสามารถบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ขุดอุโมงค์ใต้ดิน และเทเลพอร์ตไปได้ไกลหลายพันกิโลเมตรได้

เขาเคยสงสัยว่าหนังสือเหล่านั้นอาจจะพูดเกินจริง แต่หลังจากผ่านประสบการณ์ครั้งนี้มา เขาก็ต้องยอมรับว่า สิ่งที่อยู่ในเรื่องเล่าในหนังสือนั้น มันคือเรื่องจริง

‘ฉันควรรับข้อเสนอของท่านชายซูหรือเปล่า?’

‘ถ้าฉันไม่รับ ฉันก็คงเป็นไอ้โง่คนหนึ่ง!’

เทคนิคการค้นหาชีพจรอาจมีประโยชน์ แต่แน่นอนว่ามันไม่สามารถเทียบได้กับความสามารถในการเทเลพอร์ตนี้ ถ้าจะพูดอย่างตรงไปตรงมา หลินจินเป็นฝ่ายชนะในข้อตกลงนี้

ต่อมาก็มาถึงคำถามสำคัญ เขาจะใช้น้ำหมึกจักรวาลชิ้นเล็ก ๆ นี้ได้อย่างไร?

“สำหรับการประทับความเป็นเจ้าของ ข้ามีตำราของมันอยู่ ซึ่งเนื้อหาภายในได้สอนวิธีใช้งานมัน ด้วยความสามารถของเจ้า มันไม่น่าจะยากต่อการทำความเข้าใจ”

ซูเสี่ยวหลัวหยิบหนังสือเล่มบาง ๆ ออกมาจากแขนเสื้อแล้วส่งให้หลินจิน

“ส่วนการใช้น้ำหมึกจักรวาลเพื่อเคลื่อนที่นั้น มันค่อนข้างยุ่งยากกว่าเล็กน้อย เจ้าจะต้องวาดภาพด้วยน้ำหมึก ขัดเกลา และปลูกฝังจิตวิญญาณของเจ้าลงในภาพวาดเสียก่อน เจ้าจึงจะใช้มันเพื่อเคลื่อนที่ได้”

เมื่อพูดจบ ซูเสี่ยวหลัวก็วางน้ำหมึกจักรวาลลงบนโต๊ะ

หลินจินคิดว่า

'ผู้ประเมินซูคงจะซ่อนภาพวาดไว้ที่นี่ ซึ่งทำให้เขาสามารถเทเลพอร์ตมาที่นี่ได้'

เขาจำได้ว่าเห็นภาพวาดบนผนังห้องโถงหลัก และอีกภาพหนึ่งในห้องทำงานของเขา

แต่เขาไม่รู้ว่ามันเป็นภาพไหน และหลินจินก็ไม่มีเวลาคิดหาคำตอบในตอนนี้ สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดก็คือเขาต้องบรรลุข้อตกลงที่ได้เปรียบนี้ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน

หลินจินศึกษาการประทับความเป็นเจ้าของก่อน เนื่องจากตำรามีเพียงไม่กี่หน้า เขาจึงอ่านจบอย่างรวดเร็ว

ด้วยความสามารถในการทำความเข้าใจของหลินจิน เขาไม่ต้องใช้เวลามากในการย่อยข้อมูล ในเวลาไม่ถึงสิบห้านาที เขาเข้าใจหลักการเบื้องต้นของคาถา

เขาจ้องดูน้ำหมึกจักรวาลบนโต๊ะแล้วหยิบเข็มออกมา เข็มแตะย้ำหมึกเล็กน้อยก่อนจะสร้างตราประทับลงบนแขนเสื้อของหลินจินอย่างรวดเร็ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด