ตอนที่ 455 ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย กลับถ่อมตน และสงบเสงี่ยม
ชายหนุ่มคนนี้ชื่อ ลู่ อี้ซิว มีภูมิหลังครอบครัวที่ไม่ธรรมดา แต่ก็ยังห่างไกลจาก คุณลุงหู(ชายวัยกลางคน) อยู่พอสมควร
เขาต้องผ่านความยากลำบากมากมายกว่าจะมีโอกาสได้รู้จักกับ คุณลุงหู ในที่สุด
วันนี้เขาได้นัดเพื่อนมาดื่มชาที่นี่ แต่ไม่คิดว่าจะบังเอิญโชคดีได้พบกับ คุณลุงหู
ลู่ อี้ซิว รีบเข้ามาทักทายอย่างกระตือรือร้น แต่ คุณลุงหู กลับมีท่าทีเย็นชา สนใจแต่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมากกว่า
สิ่งนี้ทำให้ ลู่ อี้ซิว รู้สึกหงุดหงิด และอดไม่ได้ที่จะเกิดความไม่พอใจในตัว เย่เฉิน
เขายังคาดหวังให้ คุณลุงหู ช่วยเหลือเขาในอนาคต
หลังจากทักทายเสร็จ ลู่ อี้ซิว ก็ไม่ได้จากไปไหน แต่กลับยังคงยืนอยู่ที่นั่นอย่างสุภาพ รอโอกาสที่จะเข้าร่วมสนทนา และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ คุณลุงหู ต่อ
“เสี่ยวเฉิน เธอเล่นหมากล้อมเป็นไหม?”
คุณลุงหู ถามด้วยความอยากรู้
“พอเป็นบ้างครับ”
เย่เฉิน พยักหน้า
“งั้นดีเลย ถ้าไม่รังเกียจมาเล่นกับลุงสักตาหนึ่งไหม?”
คุณลุงหู ถามขึ้น
แม้ว่าฝีมือหมากล้อมของเขาจะค่อนข้างธรรมดา เล่นกับคนอื่นก็มักจะแพ้ตลอด แต่เขากลับไม่เคยรู้สึกเบื่อมัน
ทุกครั้งที่มีโอกาส เขาจะหาใครสักคนมาเล่นด้วย ลูกสาวของเขาจึงมัก ‘แซว’ ว่าเขา ‘ฝีมืออ่อน แต่เสพติดการเล่น’
ไม่นานนัก บรรดาเพื่อนสนิทของเขา รวมถึงลูกสาวเอง เมื่อได้ยินว่าเขาต้องการเล่นหมากล้อม ก็มักจะหาข้ออ้างหลีกเลี่ยงเสมอ
ตอนนี้เขาจึงรู้สึก ‘คันไม้คันมือ’ ที่ไม่ได้เล่นหมากล้อมมาสักพัก
เมื่อได้พบกับ เย่เฉิน ในครั้งแรก เขาย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป
‘แค่หยอกล้อคนรุ่นหลังนิดหน่อย คงไม่เป็นไรหรอก’
ในที่สุด ตามคำขอของ คุณลุงหู บริกรโรงน้ำชาก็ได้นำกระดานหมากล้อมมาให้
คุณลุงหู ถือหมากดำ ส่วน เย่เฉิน ถือหมากขาว
การประลองนี้จึงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
เนื่องจาก เย่เฉิน มี [ทักษะการเล่นหมากรุกระดับนานาชาติ] แม้ว่าเขาจะไม่ได้เล่นอย่างจริงจัง แต่เขาก็ยังเล่นอย่างสุขุม และรอบคอบ
เขาเล่นอย่างไม่รีบร้อน และควบคุมเกมได้ดี ในเวลาไม่นาน คุณลุงหู ก็ใกล้จะพ่ายแพ้แล้ว
เมื่อเห็นเช่นนี้ ลู่ อี้ซิว ก็รู้สึกตื่นเต้น
คุณลุงหู ใกล้จะแพ้แล้ว เขาต้องรู้สึกไม่สบายใจแน่ๆ
ตอนนี้ ถ้าเขาที่มีอาจารย์เป็น ‘ปรมาจารย์หมากล้อม’ สามารถเอาชนะ เย่เฉิน ได้อย่างสมบูรณ์แบบ บางทีอาจทำให้ คุณลุงหู มีความประทับใจที่ดีต่อเขา
อาจารย์ของเขาเป็นปรมาจารย์หมากล้อมชื่อดังในเซี่ยงไฮ้ และหลายมณฑลรอบๆ ซึ่งในสมัยหนุ่มเคยตระเวนแข่ง และชนะหมากล้อมในหลายสโมสรหมากล้อมในหลายเมืองใหญ่ จนสร้างชื่อเสียงอันโด่งดัง
หลังจากที่อาจารย์ย้ายมาอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ เขาก็ได้ติดตามเพื่อเรียนหมากล้อมกับอาจารย์มานานหลายปี
สำหรับหมากล้อมแล้ว ลู่ อี้ซิว มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
หากต้องแข่งกับเหล่าผู้เฒ่าเขาไม่มั่นใจว่าจะชนะ แต่ถ้าเป็นคนรุ่นเดียวกัน ลู่ อี้ซิว มั่นใจอย่างยิ่งว่าเขาจะไม่แพ้ใคร ยกเว้นพวกอัจฉริยะ ไม่อย่างนั้นแม้แต่ผู้เล่นมืออาชีพก็ไม่มีทางสู้เขาได้
อีกไม่กี่นาทีต่อมา ชายวัยกลางคนก็โยนหมากยอมแพ้
“เสี่ยวเฉิน ฝีมือเล่นหมากไม่เลวเลยนะ”
คุณลุงหู พูดขึ้นอย่างชื่นชม
“ลุงหู ชมเกินไปแล้วครับ”
เย่เฉิน ตอบด้วยความถ่อมตน เนื่องจากชายวัยกลางคนคนนี้เคยช่วยเขาไว้ เขาจึงให้ความเคารพตอบ
เพียงเล่นไปสักพัก เย่เฉิน ก็สามารถรู้ได้ถึงระดับฝีมือของ คุณลุงหู ผู้นี้ ซึ่งเขายังไม่ได้ใช้ฝีมือทั้งหมด
ไม่อย่างนั้น คุณลุงหู คงจะพ่ายแพ้ยับเยินยิ่งกว่านี้
“คุณลุงหู ถ้างั้นผมขอเล่นกับพี่ชายคนนี้สักตาได้ไหมครับ?”
ลู่ อี้ซิว เสนอตัวเอง
หลังจากการสังเกตฝีมือของ เย่เฉิน เมื่อครู่ ลู่ อี้ซิว คิดว่าเขามองเห็นฝีมือที่แท้จริงของ เย่เฉิน แล้ว
ฝีมือของ เย่เฉิน อาจจะเหนือกว่าคนรุ่นเดียวกันบ้าง แต่เมื่อเทียบกับเขาที่มีอาจารย์ฝึกสอนมาตั้งแต่เด็ก เย่เฉิน ผู้นี้ยังห่างไกลอยู่มากนัก
“เธออยากเล่นสักตาเหรอ?”
คุณลุงหู เมื่อฟังคำพูดของ ลู่ อี้ซิว ก็เข้าใจได้ในทันที
สำหรับ ลู่ อี้ซิว คุณลุงหู ไม่ค่อยรู้สึกชอบใจนัก เนื่องจากเขามองออกว่า ลู่ อี้ซิว เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูงเกินไป และพยายามเข้าหาเขาเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง
“ได้สิ”
คุณลุงหู พยักหน้า
ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบ ลู่ อี้ซิว แต่เขาก็ยอมให้ ลู่ อี้ซิว ได้เล่น
อาจารย์ของ ลู่ อี้ซิว นั้นเป็นถึงปรมาจารย์หมากล้อมชื่อดังในเซี่ยงไฮ้ การที่ ลู่ อี้ซิว เป็นลูกศิษย์ก็น่าจะมีฝีมืออยู่บ้าง
และถือเป็นโอกาสดีที่จะทดสอบฝีมือของ เสี่ยวเฉิน..
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เก่งหมากล้อม แต่เขามีความสามารถในการมองคนได้แม่นยำ และคาดว่าเมื่อครู่นี้ เสี่ยวเฉิน ยังไม่ได้เล่นอย่างเต็มที่
[ติ๊ง]
[ภารกิจท้าทาย : แข่งหมากล้อมกับ ลู่ อี้ซิว และเอาชนะ ลู่ อี้ซิว ให้ได้อย่างขาดลอย]
[รางวัลภารกิจ : หุ้น 100% ของโรงแรมบุลการี ในเซี่ยงไฮ้ (Bulgari Hotel Shanghai)]
[รางวัลภารกิจ : 100 คะแนนค่าประสบการณ์]
[รางวัลภารกิจ : 50 คะแนนสะสม]
เกมปล่อยภารกิจท้าทายออกมาอย่างกะทันหัน
เย่เฉิน รู้สึกว่าโทรศัพท์สั่นอยู่หลายครั้ง เขาจึงพอเดาได้ว่าเกมน่าจะปล่อยภารกิจใหม่ออกมา
แอปพลิเคชันอื่นๆ ในโทรศัพท์มือถือ เย่เฉิน ได้ปิดการแจ้งเตือนไปหมดแล้วจึงพอเดาได้ไม่ยาก
แต่เขาไม่ได้เลือกหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เนื่องจากมีคนอยู่รอบข้าง ส่วนเรื่องเกี่ยวกับภารกิจนี้เขาก็พอจะเดาได้ ..ไม่มากก็น้อย
ชายวัยกลางคนลุกขึ้น และยกที่นั่งให้ ลู่ อี้ซิว จากนั้นเขาก็ยกเก้าอี้มานั่งข้างๆ
ครั้งนี้ในการแข่งกับ ลู่ อี้ซิว เย่เฉิน ถือหมากดำ ขณะที่ ลู่ อี้ซิว ถือหมากขาว
เมื่อเผชิญหน้ากับ ลู่ อี้ซิ่ว เย่เฉิน ก็ไม่คิดจะเกรงใจอะไรอีก เขาเริ่มเกมด้วยเกมรุกอย่างดุเดือด
บนกระดาน หมากสีดำ และสีขาวเปรียบเสมือนมังกรดำ และมังกรขาวต่อสู้กัน
ในตอนแรก ลู่ อี้ซิว ยังพอจะต้านทานได้บ้าง แต่พอถึงช่วงท้าย เย่เฉิน เดินหมากรุกอย่างดุเดือด และทลายแนวป้องกันของ ลู่ อี้ซิว จนแตกพ่าย
ในเวลานี้ ลู่ อี้ซิว ที่ไม่สามารถต้านทานได้ และพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง
ความพ่ายแพ้ของ ลู่ อี้ซิว นั้นเกิดขึ้นเร็วกว่าคน ‘ฝีมืออ่อน แต่เสพติดการเล่น’ อย่าง คุณลุงหู เสียอีก และครั้งนี้เขาแพ้อย่างยับเยิน!
“เป็นไปได้ยังไง?”
หลังจากพ่ายแพ้ ลู่ อี้ซิว ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่นั่นอย่างว่างเปล่า
ความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่นี้ได้ทำลายความภาคภูมิใจในใจของ ลู่ อี้ซิว ไปหมดสิ้น
การแข่งหมากล้อมกับ เย่เฉิน เมื่อครู่นี้ เมื่อ ลู่ อี้ซิว ทบทวนเหตุการณ์ เขายังรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง
แม้แต่การเล่นกับอาจารย์ของเขา ผู้เป็นนักหมากล้อมชื่อดังของเซี่ยงไฮ้ เขายังไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน
เขาคิดว่าแม้แต่อาจารย์ของเขามาแข่งกับ เย่เฉิน คนนี้ ..ก็คงไม่มีโอกาสชนะเลยด้วยซ้ำ
ชายวัยกลางคนที่นั่งดูการแข่งขันอันยอดเยี่ยมระหว่าง เย่เฉิน และลู่ อี้ซิว ถึงกับตะลึง
“เสี่ยวเฉิน เก็บซ่อนฝีมือไว้อย่างล้ำลึกจริงๆ”
ชายวัยกลางคนถอนหายใจ
ลู่ อี้ซิว แพ้อย่างรวดเร็ว และราบคาบ แม้แต่เขาก็ไม่คาดคิดเช่นกัน
ดูเหมือนที่ เหล่าโม่ บอกไว้ทางโทรศัพท์เกี่ยวกับ เสี่ยวเฉิน นั้นจะไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย
ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย กลับถ่อมตน.. และสงบเสงี่ยม
“ฉันแพ้แล้ว”
เดิมที ลู่ อี้ซิว ยังคิดว่าจะชนะ เย่เฉิน เพื่ออวดต่อหน้า คุณลุงหู แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นแบบนี้ ..แทน
ลู่ อี้ซิว รู้สึกนั่งอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ไหวแล้ว
หลังจากลุกขึ้นแล้วบอกลา คุณลุงหู ด้วยความผิดหวัง ลู่ อี้ซิว ก็กลับไปยังที่นั่งของตัวเอง
หลังจากนั่งอยู่ที่นั่นอยู่นาน ลู่ อี้ซิ่ว ถึงจะฟื้นสภาพจิตใจกลับมาได้
ต้องยอมรับว่า เย่เฉิน คนนี้ เป็นนักหมากล้อมระดับแนวหน้าของประเทศ
ในเรื่องของหมากล้อม เขาแพ้ เย่เฉิน เขายอมรับ
และใช่.. ในด้านหมากล้อมเขาแพ้ไปแล้ว แต่ด้านอื่นล่ะ?
พอคิดมาถึงตรงนี้ ลู่ อี้ซิว ก็เกิดความคิดชั่วร้ายขึ้นมา โดยเขาตั้งใจจะใช้วิธีอื่น อย่างน้อยๆ ก็เพื่อจะลดความเย่อหยิ่งของ เย่เฉิน ลงบ้าง
จากการฟังบทสนทนาระหว่าง เย่เฉิน กับคุณลุงหู ดูเหมือนว่า เย่เฉิน คนนี้จะเป็นคนจากต่างเมือง
เซี่ยงไฮ้ นี่มันถิ่นของเขา!
ในขณะที่ ลู่ อี้ซิว กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่นั้น คนที่เขารอก็มาถึงในที่สุด
“พี่ซิว”
ชายหนุ่มคนหนึ่งได้เดินมานั่งลงตรงหน้าของ ลู่ อี้ซิว
แต่หลังจากที่เขาทักทาย ลู่ อี้ซิว ที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่ได้ตอบสนองอะไรเลย แต่กลับมองตรงไปข้างหน้าอย่างคนเหม่อลอย
“พี่ซิว”
ชายหนุ่มจึงต้องสะกิดแขนของ ลู่ อี้ซิว
“อ้าว เสี่ยวอี้ นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า ลู่ อี้ซิว ก็พูดถามด้วยความสงสัย
“พี่ซิว คิดอะไรอยู่ครับ ถึงขนาดไม่สังเกตเลยว่าผมนั่งลงแล้วด้วยซ้ำ?”
ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย
“ฉันกำลังคิดจะเล่นงานใครสักคนอยู่”
ใบหน้าของ ลู่ อี้ซิว เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
“พี่ซิว จะเล่นงานใคร มาเรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการเอง”
เมื่อได้ยิน ลู่ อี้ซิว พูดแบบนั้น ชายหนุ่มก็รีบเสนอตัวขอช่วยทันที
“ดีมาก..”
“พี่ซิว พี่คิดจะเล่นงานใครเหรอ?”
ชายหนุ่มนึกย้อนดู ช่วงนี้เหมือนไม่มีใครมาหาเรื่อง พี่ซิว เลยนี่นา
ลู่ อี้ซิว จึงหันศีรษะไปมอง เย่เฉิน ที่อยู่ไม่ไกล และชี้ให้เห็น
“เสี่ยวอี้ ก็ไอ้หมอนั่นแหละ”
ลู่ อี้ซิว พูดขึ้น
“เสี่ยวอี้ นายเองคิดว่า.. เราจะเล่นงานหมอนั่นยังไงดี?”
ลู่ อี้ซิว หันไปมอง เย่เฉิน แล้วขอความเห็นจากน้องชายของเขา
แต่รออยู่ยี่สิบกว่าวินาที ก็ยังไม่เห็นน้องชายของเขาพูดอะไร ลู่ อี้ซิว จึงรู้สึกแปลกใจ
ปกติแล้ว เสี่ยวอี้ ในฐานะ ‘ปีศาจน้อย’ เมื่อได้ยินเรื่องการเล่นงานคนทีไร เขามักจะตื่นเต้นมาก ส่วนเรื่องแผนนั้นไม่จำเป็นต้องคิดนาน แป๊บเดียวเขาก็จะพูดแผนออกมาได้เป็นสิบแผนแล้ว
แต่วันนี้ เสี่ยวอี้ เป็นอะไรไป ทำไมถึงนิ่งเงียบขนาดนั้นล่ะ?
ลู่ อี้ซิว หันศีรษะกลับมามองด้วยความสงสัย
ในชั่วพริบตา เมื่อเห็นท่าทางของ เสี่ยวอี้ ลู่ อี้ซิว ก็ถึงกับอึ้งไปเลย..