ตอนที่ 261 หวนนึกถึงอดีต (ฟรี)
ตอนที่ 261 หวนนึกถึงอดีต
ชายวัยกลางคนๆ นี้คือเจ้ากรมยุติธรรม เขามีนามว่าหมี่กัง เมื่อจักรพรรดิต้าเฉียนองค์ปัจจุบันยังเป็นเพียงองค์ชาย เขาได้เลือกที่จะติดตามรับใช้ นั่นทำให้เขาสามารถดำรงมาอยู่ในตำแหน่งนี้ได้
ความแข็งแกร่งของเขานั้นก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตมหายานขั้นสูง ท้ายที่สุดแล้ว เขาจะต้องรับผิดชอบในการลงโทษอาชญากร และผู้กระทำผิดต่างๆ หากเขาไม่มีความแข็งแกร่งมากพอ เขาคงจะถูกแก้แค้น และต้องสังเวยด้วยชีวิต
เขาเป็นขุนนางขั้นหนึ่งของจักรวรรดิต้าเฉียน มีคนจำนวนไม่มากที่นั่งในตำแหน่งนี้ แม้จะกวาดตามองไปทั่วจักรวรรดิ เขาก็ยังถือว่าเป็นบุคคลสำคัญ ยกเว้นคนอีกไม่กี่คน เขาไม่จำเป็นต้องไว้หน้าใครเลย
ทันทีที่ หมี่กังเข้าไปในจวนขององค์รัชทายาท เขาก็เห็นรูปลักษณ์ที่น่าสังเวชของบุตรชาย
ใบหน้าของหมี่กังจึงมืดลง เขายกเท้าขึ้น และเดินเข้าไปหาหมี่ซางโดยตรง
“พ่อ?!” ใบหน้าของหมี่ซางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าพ่อของตนจะมาเร็วขนาดนี้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น และมีความสุข
เหมือนกับเขาได้พบน้ำหลังเดินท่ากลางทะเลทรายร้อนระอุ
“คารวะองค์รัชทายาท!” ใบหน้าของหมี่กังดูมืดมน แต่เขาก็ยังฝืนยิ้ม จากนั้นจึงทักทายฉินเฉิงเย่
“ไม่ต้องมากพิธี” ฉินเฉิงเย่พูดกับหมี่กัง ดวงตาของเขาดูเศร้าสร้อย
งานเลี้ยงวันประสูติของเขากลายเป็นงานเลี้ยงที่สำคัญจริงๆ แล้ว แม้แต่ตอนนี้แม้แต่เจ้ากรมยุติธรรมก็มาเยือน
ฉินเฉิงเย่รู้จักนิสัยของหมี่กังเป็นอย่างดี เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายเป็นคนดื้อรั้น และปกป้องคนของตัวเองมาก รวมถึงมีบุคลิกที่ใจเย็น และไม่ยอมโอนอ่อน
“องค์รัชทายาท บุตรชายของข้ามาที่นี่ด้วยเจตนาดี แต่เขากลับต้องมาทุบตี นี่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ” หลังจากที่หมี่กังทักทายฉินเฉิงเย่ เขาก็พูดตรงๆ ด้วยใบหน้าที่มืดมนอย่างยิ่ง ราวกับว่าเขากำลังอดกลั้นอยู่
“เฮ้อ ชายคนนี้ยังคงดื้อรั้น แม้จะเผชิญหน้าองค์รัชทายาท เขาก็ยังเข้าข้างบุตรชายของตัวเอง เรื่องคราวนี้คงจบไม่สวยเป็นแน่!” มีคนพูดกับตัวเองหลังจากเห็นภาพตรงหน้า
“หลี่ซือหลาง ในฐานะลุงของเขา ทำไมเจ้าถึงปล่อยให้เขาถูกทำร้าย ช่วยอธิบายมาให้ข้าฟังด้วย!” ก่อนที่ฉินเฉิงเย่จะตอบ หมี่กังก็พูดอีกครั้ง
“พ่อ ฆ่าพวกเขา ช่วยข้าฆ่าชายชู้คนนั้น และหญิงแพศยานั่นด้วย!” หลังจากที่หมี่ซางเห็นพ่อของตนมาถึง หลังของเขาก็ยืดตรง จากนั้นเขาก็รีบพูด ดวงตาของเขาจ้องไปที่ลู่ไห่ และหลินเยว่เอ๋อร์ด้วยความโกรธ
“หา?” หมี่กังก็มองทั้งสองคนด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว
เขาค่อนข้างพอใจกับลูกสะใภ้คนนี้ไม่น้อย หลินเยว่เอ๋อร์สุภาพมากมาโดยตลอด และยังได้มอบลูกหลานให้กับตระกูลหมี่ แต่ตอนนี้หลังจากได้ยินคำพูดของบุตรชาย ความรู้สึกของเขาที่มีต่อผู้หญิงคนนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปกว่าเดิมมาก
หมี่กังดูเหมือนจะไม่แปลกใจมากนักกับเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้ว ถ้าเขาไม่ได้ทำบางอย่างในตอนนั้น หลินเยว่เอ๋อร์จะมาแต่งงานกับบุตรชายของเขาได้อย่างไร? ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็เป็นหญิงสาวที่เก่งกาจไม่น้อย แล้วเธอจะหลงรักคนเสเพลอย่างหมี่ซางได้อย่างไร?
“ฮ่าๆๆ มดในขอบเขตเทียมฟ้า เจ้ากล้าดียังไง!” หมี่กังมองผ่านระดับพลังยุทธ์ของลู่ไห่ได้อย่างรวดเร็ว และเขาก็พูดด้วยความอาฆาตแค้น แต่เขาก็ยังไม่ได้ลงมือ
ลู่ไห่ไม่ได้สนใจหมี่กังเลยแม้แต่น้อย เขาแค่มองไปที่หลินเยว่เอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“เยว่...เยว่เอ๋อร์คารวะพ่อตา” ใบหน้าของหลินเยว่เอ๋อร์เต็มไปด้วยความกลัว เธอจ้องมองที่หมี่กังอย่างระมัดระวัง แล้วจึงพูดอย่างเร่งรีบ
เธอแต่งงานกับหมี่ซางมาหลายปีแล้ว เธอรู้จักนิสัยของพ่อตาของตนเป็นอย่างดี และเธอก็รู้ด้วยว่าวิธีการของเขาน่ากลัวมากแค่ไหน
หลินเยว่เอ๋อร์รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง หากเธอรู้ก่อนหน้านี้ เธอจึงไม่ทำตัวเหมือนรู้จักกับลู่ไห่
อีกฝ่ายเป็นเจ้ากรมยุติธรรมผู้ทรงเกียรติ เป็นขุนนางใหญ่ของจักรวรรดิต้าเฉียน ถ้าเขาโกรธ มันไม่สำคัญว่าเธอจะตายหรือไม่ แต่มันจะส่งผลกระทบต่อลู่ไห่อย่างแน่นอน!
หลินเยว่เอ๋อร์รู้จักลู่ไห่มาเป็นเวลานาน และรู้ว่าไม่มีอำนาจหนุนพลังเขา มีเพียงครอบครัวที่อยู่ข้างๆ เขาเท่านั้น
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าทำไมลู่ไห่ถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ และเมื่อพิจารณาจากรูปลักษณ์ของคนเหล่านั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะให้ความเคารพเขาเป็นอย่างมาก
บางทีหลังจากผ่านไปหลายปี ลู่ไห่ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แล้วไงล่ะ? แม้ว่าลู่ไห่จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตมหายาน แต่ก็ไม่มีทางที่จะเปรียบเทียบกับหมี่กังได้!
ปลากระโดดข้ามประตูมังกร มีเพียงในเรื่องเล่าขานเท่านั้น และไม่ค่อยมีใครเห็นในชีวิตจริง หลินเยว่เอ๋อร์รู้ความจริงนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ดังนั้นเธอจึงรู้สึกว่าตัวเอง และลู่ไห่ต้องตายแล้วในวันนี้ และไม่มีความเป็นไปได้อื่นใดอีก
ไม่ว่าองค์รัชทายาทจะชื่นชอบในตัวลู่ไห่มากแค่ไหน เขาก็คงไม่เต็มใจที่จะทำให้เจ้ากรมยุติธรรมขุ่นเคืองใจเพราะเรื่องนี้
เมื่อหลินเยว่เอ๋อร์รู้ระดับพลังยุทธ์ของลู่ไห่ผ่านคำพูดของหมี่กัง เธอก็ประหลาดใจมาก และมีความรู้สึกภาคภูมิใจในสายตา
เมื่อคิดย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ลู่ไห่นั้นอ่อนแอมากจน เขาอยู่ในขอบเขตก่อตั้งรากฐานเท่านั้น แต่ตอนนี้ ในเวลาเพียงสิบกว่าปี เขาได้มาถึงขอบเขตเทียมฟ้าแล้ว หากเขามีเวลามากพอ เขาจะไปได้ไกลมากแค่ไหน
นี่คือผู้ชายที่เธอหลงรักในตอนนั้น และเขาก็ไม่ทำให้เธอผิดหวังจริงๆ
น่าเสียดายที่จุดจบของพวกเขาในวันนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว ดังนั้น หลินเยว่เอ๋อร์จึงรู้สึกเสียใจมาก เธอรู้สึกว่าตนได้ทำลายอนาคตของเขา
เธอทำให้ลู่ไห่ผิดหวังมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อกว่าสิบปีก่อน และตอนนี้เธอไม่ต้องการทำร้ายชายตรงหน้าเธออีกเป็นครั้งที่สอง
“หลินเยว่เอ๋อร์ เจ้าลืมสิ่งที่ตนสัญญาไว้กับข้าเมื่อแต่งเข้าตระกูลหมี่ไปแล้วเหรอ เจ้ามันคนเนรคุณ ตอนนั้นข้ามองคนผิดไปสินะ” หมี่กังพูดด้วยใบหน้าที่มืดมน
“ไม่...ไม่ มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิด นับตั้งแต่ข้าแต่งงาน ข้าไม่เคยออกไปไหนเลย ข้าไม่เคยทำผิดต่อบุตรชายของท่าน!” หลินเยว่เอ๋อร์เม้มริมฝีปาก เธอส่ายหัวอย่างรุนแรงแล้วพูดขึ้น
“ฮึ่ม ถ้าซางเอ๋อร์ไม่ตกหลุมรักเจ้าในตอนนั้น และบอกว่าเขาจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากเจ้า เจ้าคิดว่าตัวเองที่เป็นเพียงบุตรสาวของพ่อค้าจะได้ก้าวเข้ามาในประตูของตระกูลข้างั้นเหรอ?” หมี่กังกำหมัดแน่แล้วพูดด้วยความโกรธ
“ถ้าท่านไม่ได้ใช้ชีวิตของพ่อข้าเพื่อบีบบังคับข้า ข้าจะแต่งงานกับเขาได้อย่างไร!” ดูเหมือนเธอจะนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ความขับค้องใจในตอนนั้นทำให้น้ำเสียงของเธอเย็นชาขึ้น