ตอนที่แล้วบทที่ 127 โรคคิดถึง (1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 128 ชีวิตนี้ของฉันเกรงว่าจะไม่อาจรักใครได้อีกแล้ว (1)

บทที่ 127 โรคคิดถึง (2)


ทำท่าอยู่นานในที่สุดก็เข้าที่สักที เธอเดินเข็มไปเรื่อย ๆ เข็มแล้วเข็มเล่า ส่วนเซวียเหว่ยหลินก็ไม่ได้ว่าง เดินเข้าออกห้องครัวไม่หยุด

"คุณทำอะไรอยู่เหรอ" เธอเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

"เตรียมงานแต่งไง! ลูกของพวกเราจะแต่งงาน ก็ต้องเตรียมเลี้ยงอาหารสิ" เขาพลางยุ่งพลางตอบ

หร่วนหลิวเจิงหัวเราะออกมา คน ๆ นี้น่าสนใจ เป็นคนที่สามารถทำให้ชีวิตข้ามผ่านไปด้วยความครื้นเครงขนาดนี้ได้ แถมยังมีความสุขอีกด้วย อย่างน้อยที่สุดชีวิตของเขาก็แสนจะเรียบง่ายมาก

แต่ว่า คุณชายอย่างเขาจะทำอาหารเป็นเหรอ เธอสงสัยอย่างมาก.......

"คุณอย่ามาสนใจผมเลย รีบเย็บชุดเถอะ พวกเราต่างคนต่างทำ อย่าทำให้ฤกษ์งานแต่งเคลื่อน!" เขาพูดเสียงดังออกมาจากในห้องครัว

"......" ยังมีฤกษ์ด้วย......เธอหัวเราะอย่างหยุดไม่ได้ "งั้นคุณเลือกวันไว้แล้วหรือยัง"

"แน่นอน!" เขาเดินออกมาพร้อมควงมีดทำครัว "ผมไปหาอาจารย์ดูฤกษ์ไว้เรียบร้อยแล้ว!"

"......" เทียบกันแล้ว เธอมีเพียงคำพูดเดียว นับถือ ๆ

"คุณรีบเก็บมีดไปเถอะ!" ทำไมเธอรู้สึกว่าท่าทางการถือมีดของเขา มันดูแปลก ๆ

"อืม คุณตั้งใจเย็บชุดแต่งงานนะ!" เขาพูดอย่างจริงจัง

ไม่อาจดูถูกชุดแต่งงานตัวน้อยสองตัวนี้ได้เลย แม้ว่าจะเป็นงานที่ยังไม่เสร็จชั้นหนึ่ง เพียงแค่นำมาเย็บประกอบเข้าด้วยกัน แต่ทำเสร็จจริง ๆ ก็ใช้เวลาชีวิตของเธอไปไม่น้อย หลังจากเย็บเสร็จ ก็นำไปลองใส่ให้ไซซี ใหญ่ไปหน่อย แต่ว่ายังถือว่าพอดีตัว แถมยังทำใส่หมวกคุมหน้าให้อีกด้วย ตอนนี้เรื่องเพียงแค่เข้าพิธีเท่านั้น!

เธอรีบกลับไปที่บ้านแล้วอุ้มฟ่านฟ่านมาที่นี่ โดยไม่ได้นึกถึงเรื่องไช่ไช่ของหนิงเสี่ยงเลย มัวแต่คิดเรื่องงานแต่งของไซซีซึ่งถูกกำหนดไว้แล้ว

หลังจากที่ฟ่านฟ่านแต่งหล่อแล้ว บนชุดแต่งงานยังมีผ้าผูกคอสีแดงอีกด้วย! ไม่รู้ว่าเขารับรู้หรือเปล่าว่าจะได้แต่งงาน วันนี้จึงดูร่าเริงเป็นพิเศษ

ตลอดทั้งงานแต่ง เซวียเหว่ยหลินรับบทเป็นพิธีกร ส่วนเธอรับหน้าที่เป็นตากล้อง

เซวียเหว่ยหลินนำฟ่านฟ่านวางไว้ที่หน้าประตู จากนั้นจึงเปิดดนตรี และทำการถ่ายทอดสดงานไว้ จูงไซซีจากด้านหน้าประตูเดินไปบนพรมดอกไม้อย่างกับเป็นเรื่องจริง เพื่อไปด้านหน้าของฟ่านฟ่าน

ฟ่านฟ่านรู้ความเสียที่ไหนกัน พอได้ยินเสียงดนตรีก็ดีใจไม่หยุด กระโดดไปกระโดดมา เซวียเหว่ยหลินไม่สบอารมณ์จนต้องสอนเขาไปยกหนึ่ง "ถ้ายังดื้ออีก ไซซีจะไม่แต่งด้วยนะ!"

เขาอุ้มฟ่านฟ่านไว้แล้ววางลง ใช้นิ้วชี้มันไว้ ไม่ให้ขยับ

ฟ่านฟ่านฉลาดมาก รับรู้ได้ว่าทำให้เขาไม่พอใจแล้ว ในที่สุดจึงนั่งลงอย่างเชื่อฟัง

เซวียเหว่ยหลินเอาไซซีไปวางไว้ข้าง ๆ ฟ่านฟ่าน "ฟ่านฟ่าน ลูกหัวแก้วหัวแหวนของฉันยกให้นายแล้ว ดูแลเธอให้ดีนะ"

จากนั้น บทบาทก็เปลี่ยนในทันที พ่อเจ้าสาวเปลี่ยนเป็นบาทหลวงในทันใด "ฟ่านหลี คุณจะยอมรับไซซีเป็นภรรยาของคุณหรือไม่ ไม่ว่าจะยากดีมีจน เจ็บป่วยแร้นแค้นก็จะไม่ทิ้งกันใช่หรือไม่"

ถามเสร็จก็ไปยืนข้างฟ่านฟ่านทันที หลังจากเสียงเห่าขานรับก็พูดว่า "ยอมรับครับ"

ฉากนี้ทำให้ตากล้องอย่างหร่วนหลิวเจิงขำจนต้องไปนั่งอยู่บนพื้น ไม่ง่ายเลย ที่จะแสดงแต่ละบทบาทแถมยังแสดงเป็นหมาอีก......

จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นบาทหลวงอีกรอบ "คุณไซซี คุณจะยอมรับฟ่านหลีเป็นสามีของคุณหรือไม่ ไม่ว่าจะยากดีมีจน เจ็บป่วยแร้นแค้นก็จะไม่ทิ้งกันใช่หรือไม่"

พูดจบก็ไปยืนข้างไซซี บีบหน้าบีบเสียง พร้อมพูดอย่างเขินอาย "ยอมรับค่ะ"

"ตุ๊บ" ในที่สุดโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของหลิวเจิงก็ร่วงลงที่พื้น เธอขำหนักมาก.......

เซวียเหว่ยหลินไม่ได้สนใจเธอ แล้วเปลี่ยนบทบาทมาเป็นบาทหลวงอีกครั้ง "ตอนนี้ขอประกาศว่าคุณฟ่านหลีกับคุณไซซีเป็นสามีภรรยากับอย่างถูกต้อง"

พิธีการเสร็จสิ้น ก็เป็นเวลาของงานเลี้ยงแล้ว!

เซวียเหว่ยหลินนำอาหารแสนอร่อยของน้องหมาใส่ไปให้คู่บ่าวสาว เขากับหร่วนหลิวเจิงก็เริ่มมื้อค่ำด้วยกัน

ตอนที่เซวียเหว่ยหลินหยิบมือถือของหร่วนหลิวเจิงมาดูภาพงานแต่ง หร่วนหลิวเจิงกลับมองจ้องไปที่อาหารที่อยู่บนโต๊ะ ที่พูดได้อย่างเต็มปากว่าดูละลานตาเต็มไปหมด แต่ว่าสีสันมันดู......

ไม่กล้าติชมเขาจริง ๆ

"คุณเซวีย คุณทำอาหารเป็นจริงเหรอ" เธอแสดงความสงสัยออกมาอีกครั้ง

"ทำไมจะไม่เป็นล่ะ ผมตั้งใจเรียนกับพ่อครัวมาสองวันเพื่ออาหารมื้อนี้เลยนะ!" เขามองไปที่อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ แถมยังรู้สึกประหม่าอยู่ไม่น้อย "แม้ว่าหน้าตาจะดูไม่ได้ แต่รสชาติได้รับการยอมรับจากพ่อครัวของบ้านผมเลยนะ ลองชิมดูสิ!"

เขาวางมือถือลง แล้วนำอาหารหลายอย่างให้เธอลองกิน

เธอชิมอาหารจานที่หนึ่ง สุดกล้ำกลืน! อาหารจานที่สอง ฝืนทนอีกครั้ง! อาหารจานที่สาม ในที่สุดก็ทนไม่ไหว แสดงสีหน้าบิดเบี้ยวอย่างควบคุมไม่ได้......

แม้ว่าจะไม่ได้วิจารณ์โดยตรง แต่เซวียเหว่ยหลินก็มองออก จึงเสียความรู้สึก "มันกินยากขนาดนั้นเลยเหรอ"

เขาชิมเองไปหนึ่งคำ ถึงกับสำลักไอไม่หยุด "กินไม่ได้แบบนี้ ทำไมคุณถึงไม่คายออกมาล่ะ"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด