ตอนที่แล้วบทที่ 114 ตัวร้ายตัวแสบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 116 หญิงขาไม้ (ปลอบใจคนไม่ถูกหวย แต่ถ้าถูกก็อ่านได้ค่ะ5555)

บทที่ 115 ข้ามีเพื่อนคนหนึ่ง (ตอนพิเศษ)


"ศาสนธิดา?" ซื่อเฟยเจ๋อคว้าตัวกวานซานที่กำลังจะวิ่งหนีไว้ แล้วพูดยิ้มๆ ว่า "ไม่นึกว่าเจ้าคนจนยังมีงานอดิเรกซ่อนสาวงามไว้ในห้องทองด้วย"

กวานซานได้ยินคำล้อเลียน "ซ่อนสาวงามไว้ในห้องทอง" ก็โกรธขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ "พวกนางไม่ใช่ 'สาวงาม' ที่ใครซ่อนไว้!"

ความโกรธนี้ ทำให้ซื่อเฟยเจ๋อตกใจ

เกิดอะไรขึ้น ทำไมไอ้นี่ถึงได้โมโหขึ้นมาทันที

"ขอโทษด้วย! อธิการบดีซื่อ......" กวานซานนึกขึ้นได้ว่าซื่อเฟยเจ๋อไม่ใช่คนเมืองลั่วหยาง และก็ไม่ใช่คนของศาสนาศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่าง

เขาไม่เข้าใจเรื่องศาสนธิดา

"เดวิดกวาน! บอกที่อยู่ของศาสนธิดามา แล้วตามพวกเรากลับไปรับการพิจารณาโทษดีๆ!"

ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน คนสวมเสื้อคลุมยาวสีขาวปักลายกางเขนหลายคนก็มาล้อมพวกเขาไว้

กวานซานเดิมทีรู้สึกตื่นเต้น แต่พอเห็นซื่อเฟยเจ๋อทำหน้าสงบนิ่ง นึกถึงพลังกระบี่เมื่อครู่ เขาก็สงบลงด้วย

"เดวิดกวานคือใคร?" ซื่อเฟยเจ๋อถามอย่างสงสัย

"ในศาสนาศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่าง ศาสนิกทุกคนต้องตั้งชื่อใหม่ตามคัมภีร์พันธสัญญาแห่งการช่วยโลกของพระเจ้า ข้าตั้งชื่อว่า 'เดวิด' ในศาสนาศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่าง ชื่อของศาสนิกจะอยู่หน้า นามสกุลอยู่หลัง เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อประมุขศาสนา!" กวานซานอธิบาย

"ฟังดูเหมือนการทดสอบการเชื่อฟังนะ!" ซื่อเฟยเจ๋อพูดอย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง

"ท่านผู้มีเกียรติ เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในศาสนาของเรา ขอท่านอย่าได้ยุ่งเกี่ยว!" หนึ่งในคนสวมเสื้อคลุมยาวเดินออกมาพูดกับซื่อเฟยเจ๋อ

เสื้อคลุมของเขามีเส้นสีแดงล้อมรอบ ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของพวกเขา

"ไม่ถูกนะ! ก่อนหน้านี้เจ้าไม่ได้เข้าร่วมศาสนาศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างหรอกหรือ?" ซื่อเฟยเจ๋อนึกถึงจุดที่ขัดแย้งในคำพูดของกวานซานเมื่อครู่

กลุ่มสุดท้ายที่กวานซานเข้าร่วมคือศาสนาศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่าง แต่ศาสนานี้ไม่ได้ถูกทำลายหรือถูกกลืนนี่นา!

"ก่อนหน้านี้ข้าเข้าร่วมนิกายซิน แต่เมื่อเดือนที่แล้วบิชอปนิกายซินถูกคนของสำนักมารฆ่าตายที่แคว้นเหนือ ตอนนี้สำนักงานใหญ่ส่งนิกายโหย่วลงมา กดขี่พวกเราอย่างหนัก ข้าโกรธมากเลยลาออกจากศาสนาศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่าง!"

กวานซานอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดในไม่กี่ประโยค

ซื่อเฟยเจ๋อเข้าใจแล้ว แม้ศาสนาศักดิ์สิทธิ์แห่งแสงสว่างยังอยู่ แต่ศาสนาที่กวานซานเข้าร่วมไม่มีอยู่แล้ว

"เดวิดกวาน วันที่เข้าร่วมศาสนาศักดิ์สิทธิ์ ก็เป็นลูกแกะของพระเจ้าไปชั่วชีวิต จะบอกลาออกก็ลาออกได้หรือ?" คนผู้นั้นพูด "ความจงรักภักดีต่อพระเจ้าที่ไม่สมบูรณ์ ก็คือความไม่จงรักภักดีที่สมบูรณ์!"

"เดวิดกวาน! เจ้าได้ก่ออาชญากรรมทรยศต่อศาสนาแล้ว บาปของเจ้ายิ่งหนักขึ้นไปอีก!"

"กลับไปกับเรา บอกที่อยู่ของศาสนธิดา แล้ว......"

เขาพูดไม่จบ เพราะมีพลังกระบี่บางๆ ล้อมรอบลำคอของเขา ถ้าเขาพูดอะไรอีก หัวของเขาก็จะหลุดออกจากร่าง!

"ไสหัวไป!" ซื่อเฟยเจ๋อพูด

เขายังมีธุระต้องทำ และในเมืองลั่วหยางยังมียอดฝีมือขั้นบุคคลแท้อยู่

ยังคงต้องระวังตัวหน่อย

คนสวมเสื้อคลุมขาวที่อยู่ด้านหลังคนผู้นั้นเห็นหัวหน้าของตนถูกคุกคาม ก็โกรธขึ้นมาทันที อยากจะพูดอะไรบางอย่าง

แต่ภายใต้หมอกที่ปกคลุม พวกเขาก็ปิดปากเงียบ

วิทยายุทธ์ช่างมหัศจรรย์ สามารถทำให้คนสงบสติอารมณ์ได้

"ท่านกล้าบอกชื่อของท่านหรือไม่!" คนผู้นั้นพูดผ่านไรฟันออกมา

คนกล้าไม่ยอมเสียเปรียบ ชายชาตรีแก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย

"ข้าคือฝานเจี้ยนเฉียง! ข้ารอพวกเจ้าอยู่!" ซื่อเฟยเจ๋อพูดเรียบๆ

"ดี! เราจะพบกันอีก!" พูดจาข่มขู่เสร็จ คนผู้นั้นก็พาคนของเขาจากไป

คนธรรมดาที่อยู่ด้านหลังพวกเขามองซื่อเฟยเจ๋อและกวานซานด้วยสายตารังเกียจ ปากพึมพำคำว่า "ปีศาจ" "มาร" "ไม่เชื่อพระเจ้าจะถูกลงโทษ" เป็นต้น

"อธิการบดีซื่อ ท่านไม่ได้แซ่ซื่อหรอกหรือ?" กวานซานนำทางอยู่ข้างหน้า ผ่านสี่แยกไปอีกแห่ง เขาก็ถามขึ้นมาทันที

"ใช่แล้ว!" ซื่อเฟยเจ๋อพยักหน้าพูด "ข้ามีเพื่อนคนหนึ่ง เขาอยากเป็นยอดฝีมือมาก เลยฝากข้าทำความดีเพื่อสร้างชื่อเสียงให้เขา!"

"......ท่านดีกับเพื่อนของท่านจริงๆ!" กวานซานคิดครู่หนึ่ง แล้วก็ได้แต่พูดแบบนี้

"แน่นอน ข้ากับเพื่อนของข้านสนิทกันมาก! แต่เพื่อนของข้า......" ซื่อเฟยเจ๋อถอนหายใจแล้วพูด:

"ข้ามีเพื่อนคนหนึ่ง เดิมทีตกลงกันว่าจะมาเมืองลั่วหยางด้วยกัน แต่ระหว่างทางที่คฤหาสน์ภูเขาเสวี่ยฉี เขาเจอยอดฝีมือหญิงสองคน"

"ยอดฝีมือหญิงสองคนจากคฤหาสน์ภูเขาเสวี่ยฉีชวนเพื่อนของข้าไปท่องยุทธภพด้วยกัน"

"ดังนั้น...... ข้าเลยมาเมืองลั่วหยางคนเดียว"

ซื่อเฟยเจ๋อถอนหายใจเล่าเรื่องของซานอวี่ที่เห็นผู้หญิงแล้วลืมเพื่อนจบ

เขายังจำคำพูดของซานอวี่ได้: "น้องชายซื่อ ข้าฝึกคัมภีร์สิบสองชั้นโดนเพื่อนฟันมาสิบสองครั้งแล้ว คงจะสำเร็จแล้วล่ะ! คราวนี้คงไม่โดนฟันอีกแล้ว!"

กวานซานฟังแล้วก็พูด "ทำไมยอดฝีมือหญิงสองคนนั้นถึงชวนเพื่อนของท่าน แต่ไม่ชวนท่านล่ะ?"

สีหน้าซื่อเฟยเจ๋อดำทะมึนขึ้นมาทันที พูดว่า "หุบปาก!"

กวานซานมองดูซื่อเฟยเจ๋อที่ดูธรรมดาๆ ก็พอจะเดาได้

โอ้ ปัญหาของหนุ่มหล่อ เขาก็มีเหมือนกัน

"ตามที่ข้าคาดการณ์ เพื่อนของข้าคนนั้น แปดส่วนสิบจะถูกยอดฝีมือหญิงสองคนนั้นฟันเป็นชิ้นๆ แน่ๆ! จิ๊จ๊ะ......"

กวานซานได้ยินซื่อเฟยเจ๋อพูดอีก

พูดลับหลังเพื่อนตัวเองแบบนี้ ดูเหมือนอธิการบดีซื่อคนนี้จะเป็นคนใจร้ายเหมือนกันนะ! ก็ถูก ในยุทธภพ จะมีเพื่อนที่ไหนกัน?

ทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่ง ก็มาถึงตลาดหนังสือเมืองลั่วหยาง

ตลาดหนังสือเมืองลั่วหยางประกอบด้วยถนนหลายสายเป็นรูปตัวอักษร "回" (หุย) ขนาดใหญ่มาก คัมภีร์ลับวิทยายุทธ์มีเพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้น

ส่วนใหญ่เป็นคัมภีร์ต่างๆ เช่น คัมภีร์พุทธ คัมภีร์ขงจื๊อ คัมภีร์เต๋า เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นหนังสือขายดี แถมยังพิมพ์ออกมาด้วย!

ส่วนเล็กๆ เป็นบทความเบ็ดเตล็ด รวมบทกวี หรือแม้แต่อัลบั้มภาพ ส่วนเนื้อหาของภาพนั้น ก็เป็นแบบที่ทำให้คนหน้าแดงอายนั่นแหละ

อาจกล่าวได้ว่า ตลาดหนังสือเมืองลั่วหยางมีหนังสือเกือบทุกประเภทในเก้ามณฑล

แน่นอนว่าต้องมีคัมภีร์นิ้วเดียวพิชิตสรรพสิ่งที่ซื่อเฟยเจ๋อกำลังตามหาด้วย!

ตลอดทั้งวัน ซื่อเฟยเจ๋อและกวานซานเดินเข้าร้านหนังสือทุกร้าน ไปถามหาคัมภีร์นิ้วเดียวพิชิตสรรพสิ่ง

หลายร้านหาคัมภีร์นิ้วเดียวพิชิตสรรพสิ่งเจอจากมุมโต๊ะหรือซอกมุม ซื่อเฟยเจ๋อเห็นแล้วก็ซื้อทั้งหมด

ถึงอย่างไรมันก็ไม่มีค่า เจ้าของร้านหนังสือพวกนั้นยังต้องขอบคุณด้วยซ้ำ!

ในบรรดาร้านหนังสือเหล่านี้ แน่นอนว่ามีสาขาของสำนักยอดฝีมือแท้จริงด้วย แต่ตอนนี้สำนักใหญ่ทางเหนือก็ไม่มีแล้ว ใครจะไปสนใจทำภารกิจล่ะ?

หาเงินไม่ดีกว่าหรือ? แต่กวานซานที่แบกหนังสือกองโตนี่สิ ช่างน่าสงสาร

"อธิการบดีซื่อ ท่านซื้อกระดาษชำระมากขนาดนี้ทำไมกัน? พวกเราก็ใช้ไม่หมดหรอก!" กวานซานแบกตะกร้าคัมภีร์นิ้วเดียวพิชิตสรรพสิ่งพลางพูดอย่างงุนงง

"แม้แต่ในกระดาษชำระ ก็ยังมีหนทางอันยิ่งใหญ่นะ!" ซื่อเฟยเจ๋อถือคัมภีร์นิ้วเดียวพิชิตสรรพสิ่งเล่มหนึ่งพลิกดู

ในบรรดาคัมภีร์นิ้วเดียวพิชิตสรรพสิ่งมากมายนั้น มีเพียงเล่มนี้ที่แตกต่างจากสี่เล่มที่เคยเห็นก่อนหน้านี้

คัมภีร์นิ้วเดียวพิชิตสรรพสิ่งเล่มที่ห้า! ดูเหมือนคัมภีร์นิ้วเดียวพิชิตสรรพสิ่งเล่มนี้จะแพร่หลายในมณฑลยวี่มานาน แตกต่างจากที่เคยเห็นมาก่อนมาก มีหลายที่ที่มีภาษาถิ่นของมณฑลยวี่

เช่นคำว่า "พิง" "เท่อ" "จง" "ซิ่นชิว" เป็นต้น ทำให้ซื่อเฟยเจ๋ออ่านอย่างสนุกสนาน

ยุทธภพกว้างใหญ่ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าในยุทธภพจะมีคัมภีร์นิ้วเดียวพิชิตสรรพสิ่งกี่เล่มกันแน่ น่าตื่นเต้นจริงๆ!

"อธิการบดีซื่อ ขอยืมเงินหน่อยได้ไหม?"

กวานซานเดินนำหน้าแบกตะกร้าหนังสือพลางพูด ซื่อเฟยเจ๋อมองไม่เห็นสีหน้าของเขา

.

หนิงหนิง Talk 🍎

วันนี้มาน้อยหน่อยนะคะ กราบขออภัยทุกท่านค่า (พอดีนักแปลปวดท้อง🌹) พรุ่งนี้จะมาอัปให้10ตอนเลยค่า

5 1 โหวต
Article Rating
2 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด