ตอนที่ 23 ค่ายฝึกทหารอัจฉริยะ

งูปีศาจเงาผีเป็นสัตว์อสูรระดับ 3  ที่เชี่ยวชาญการพรางตัว

สามารถซ่อนตัวอยู่ในลำต้น ก้อนหินหรือแม้แต่ดินและโจมตีเหยื่อที่ผ่านไปมา

คล้ายกับสิงโตบนโลกในชาติก่อนของหลี่หยวน

ตราบใดที่พรางตัวได้ดี ก็สามารถล่าเหยื่อที่ใหญ่กว่าตัวเองหลายเท่าได้

แม้แต่สัตว์อสูรระดับ 4  ก็ยากที่จะหนีรอดได้

เห็นได้ชัดว่า  พื้นที่นี้เป็นเขตล่าสัตว์ของงูปีศาจเงาผี

ถ้าทั้งสองเดินผ่านไปแบบนี้ก็คงโดนโจมตี

สิ่งนี้ทำให้ใบหน้าของจางเสวี่ยเหยาซีดเผือด

หลี่หยวนเห็นข้อความแจ้งเตือน  +100  แต้มอัปเกรด  ก็โยนซากศพของงูปีศาจเงาผีลงพื้น เดินเข้าไปในป่า หายไปจากสายตาของทั้งสองอย่างรวดเร็ว

หลิวเจี้ยนเหิงรีบเดินเข้ามา มองดูซากศพของงูปีศาจเงาผีที่อยู่บนพื้นและมองไปในทิศทางที่หลี่หยวนหายไป  ในแววตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง

เนื้อของสัตว์อสูรระดับ3มีพลังปราณเข้มข้น  ทำให้เขาฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว  มีพลังงานเพียงพอที่จะทำการทดสอบให้สำเร็จ

จางเสวี่ยเหยาจ้องมองไปในทิศทางที่หลี่หยวนหายไป ในใจรู้สึกละอายใจกับคำพูดที่ดูถูกหลี่หยวนก่อนหน้านี้

...

ในหุบเขา  เป็นฐานฝึกของค่ายอัจฉริยะ

มู่ฉิวในชุดทหารยศพันเอกยืนตัวตรง จ้องมองหน้าจอขนาดใหญ่อย่างตั้งใจ

ในเวลานี้ ทหารคนหนึ่งเดินเข้ามา ส่งเอกสารให้เธอ"หัวหน้าครับ รวบรวมรายชื่อทหารใหม่ที่สังหารสัตว์อสูรระดับ3 ได้แล้วครับ"

มู่ฉิวพยักหน้ารับเอกสารมา

"ดูเหมือนว่าทหารใหม่รุ่นนี้จะมีแววดี"

ไม่ไกล ชายหนุ่มรูปหล่อในชุดยศพันโทยิ้ม

เขาชื่อเหยียนอวี้สู่ เป็นหลานชายของผู้นำระดับสูงของกองทัพที่เก้า อายุน้อยกว่ามู่ฉิวหนึ่งปี ตอนนี้ เป็นนักรบระดับ 5  ขั้นสูงสุด  อีกไม่กี่ก้าวก็จะเลื่อนขั้นเป็นกึ่งสุดยอดปรมาจารย์อย่างระดับ 6  เป็นอัจฉริยะยุทธ์ที่ไม่มีใครเทียบได้

และตอนที่เขามองมู่ฉิว ในแววตาก็มีความชื่นชม เห็นได้ชัดว่าเขากำลังตามจีบเธอ

มู่ฉิวเปิดเอกสาร พูดอย่างใจเย็น  "เป็นไปตามที่ฉันคิด พลังรบของทั้งสี่คนนี้  ถึงระดับของนักรบระดับ 4  แล้ว"

บนหน้าจอขนาดใหญ่  รูปภาพและข้อมูลของคนสี่คนปรากฏขึ้น

[เจียงปิงเฟิง อายุ 1  ปี ค่าพลังปราณ  1867  พรสวรรค์ยุทธ์ระดับ S  แดนเยือกแข็ง  ดัชนีพลังรบ  215600]

เห็นข้อมูลนี้ นอกจากมู่ฉิวแล้ว  ทหารเกือบทั้งหมดในห้องควบคุมต่างมีสีหน้าตื่นเต้นและตกใจ

ดัชนีพลังรบของนักรบระดับ 4  อยู่ที่  100,000

แต่นี่  มากกว่าสองเท่า  พรสวรรค์ยุทธ์ระดับ S  น่ากลัวจริงๆ

บนเก้าอี้ไม่ไกล ชายชรามองดู  [แดนเยือกแข็ง]  ในข้อมูล

"พรสวรรค์เขตแดนพลังเหรอ?"

มู่ฉิวพยักหน้าด้วยความเคารพ  "ค่ะ ท่านผู้นำยืนยันด้วยตัวเองแล้วว่าเป็นแดนพลังขั้นต้น"

"สุดยอด"

ชายชรายิ้ม  "ตราบใดที่เด็กคนนี้เติบโตอย่างราบรื่น จีนของเราก็จะมีมหาปราชญ์ยุทธ์เพิ่มขึ้นอีกคน"

แดนพลัง  เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเลื่อนขั้นเป็นมหาปราชญ์ยุทธ์ระดับ 9

เจียงปิงเฟิง  อายุ  18  ปี  ก็ตื่นพรสวรรค์ยุทธ์แดนพลังระดับ S  ถือว่าก้าวไปข้างหน้าครึ่งก้าวแล้ว

ตราบใดที่เลื่อนขั้นเป็นสุดยอดปรมาจารย์ระดับ 8  ได้  ก็มีโอกาสสูงที่จะเลื่อนขั้นเป็นมหาปราชญ์ยุทธ์ได้!

ไม่นาน ข้อมูลของคนที่สองก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

[หลี่หยวน อายุ 18 ปี  ค่าพลังปราณ  158  พรสวรรค์ยุทธ์ระดับ S  กายาทองคำอมตะ (หมายเหตุ  ปรากฏตัวครั้งแรก  เบื้องต้นระบุว่าเป็นพรสวรรค์สายป้องกัน)  ดัชนีพลังรบ  58640]

"พรสวรรค์ยุทธ์ระดับ S  อีกคนเหรอ?"

ชายชราสนใจมากขึ้น

จริงๆ แล้ว เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับค่ายอัจฉริยะในครั้งนี้  นอกจากจะมาพักฟื้นก็มาปกป้องมู่ฉิวที่ตกเป็นเป้าหมายการลอบสังหารของเผ่าเซียนหมิง

"น่าเสียดายที่เป็นสายป้องกัน ค่าพลังปราณและดัชนีพลังรบต่ำ"

เหยียนอวี้สู่ส่ายหัวด้วยความเสียดาย

คนแบบพวกเขาที่เกิดในครอบครัวร่ำรวย  กินเนื้อสัตว์อสูร  แช่น้ำไขกระดูกสัตว์อสูร  กินยาตั้งแต่เด็ก

ค่าพลังปราณและดัชนีพลังรบพัฒนาอย่างรวดเร็ว

เช่นเขาอายุยี่สิบสี่ปีก็ถึงเกณฑ์ของกึ่งสุดยอดปรมาจารย์ระดับ 6 แล้ว  ดัชนีพลังรบก็สูงมาก

"สายป้องกันก็มีข้อดีของสายป้องกัน"

มู่ฉิวมองหลี่หยวนในแง่ดี  "ทรัพยากรที่มีน้อยก็ไม่เป็นไร ครั้งนี้ ท่านผู้นำอนุมัติยาแก่นแท้พลังปฐมภูมิมาให้  ตราบใดที่เขาทำผลงานได้ดี  ก็สามารถเพิ่มค่าพลังปราณได้อย่างรวดเร็ว"

ยาแก่นแท้พลังปฐมภูมิต้องเป็นปรมาจารย์ที่เปิดสะพานสวรรค์และโลกถึงจะสามารถกลั่นได้

ทุกเม็ดล้ำค่า ครั้งนี้กองทัพที่เก้าทุ่มทุนสร้างค่ายอัจฉริยะรุ่นแรก

"ก็จริง มู่ฉิวมองการณ์ไกล"

เหยียนอวี้สู่พยักหน้าเห็นด้วย  ยิ้มอย่างอบอุ่น

แต่ในใจ เขาไม่ได้สนใจ

บนสนามรบ บทบาทของนักรบสายป้องกันด้อยกว่านักรบสายโจมตี

กองทัพก็ชอบฝึกฝนนักรบสายโจมตีมากกว่า

เจียงปิงเฟิงที่ปลุกพรสวรรค์ยุทธ์แดนพลังระดับ S  จะได้รับความสนใจมากที่สุด

คนที่สามเป็นผู้ใช้พลังจิตที่เพิ่งจะเลื่อนขั้นเป็นระดับ  3

พรสวรรค์สูงไม่ด้อยไปกว่าเจียงปิงเฟิง

คนสุดท้ายเป็นทหารใหม่  ที่ตื่นพรสวรรค์แปลงร่างสัตว์อสูรระดับ A

พอเปิดใช้งานพรสวรรค์ก็สามารถแปลงร่างเป็นไททันได้

ที่สำคัญที่สุดคือพรสวรรค์แปลงร่างสัตว์อสูรของเขา  สามารถเลื่อนขั้นได้  โดยการกินเนื้อสัตว์อสูร  และสามารถกลายเป็นลิงปีศาจไททันระดับ S  ได้

"ให้ความสนใจกับคนทั้งสี่คนนี้เป็นพิเศษ"

มู่ฉิวปิดเอกสาร  กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

ทหารที่อยู่หน้าจอ  ก็ตะโกน  "รายงาน  เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน  ทหารใหม่หมายเลข  73  เจอสัตว์อสูรระดับ 4  กำลังตกอยู่ในอันตรายครับ"

"สัตว์อสูรระดับ 4?  ทำไมถึงมีสัตว์อสูรระดับ 4  ได้?"

เหยียนอวี้สู่ขมวดคิ้ว  "ไม่ใช่ว่าพื้นที่นี้ถูกเก็บกวาดแล้วเหรอ?  สัตว์อสูรสูงสุดก็แค่ระดับ 3"

"อาจจะซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน หลบการตรวจค้นของพวกเราครับ"

เหงื่อผุดบนหน้าผากของทหาร

เกิดเหตุการณ์ใหญ่แบบนี้  พวกเขาต้องรับผิดชอบ  หรือแม้กระทั่งถูกส่งตัวขึ้นศาลทหาร

ภาพปรากฏขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่  ในป่า  ภายใต้แสงจันทร์  ร่างหนึ่งวิ่งหนี  บางครั้งก็ปล่อยหอกสายฟ้าออกไป  พยายามหยุดศัตรูที่ไล่ตาม  แต่ก็ไร้ผล

ด้านหลัง  ต้นไม้ล้มลง  ท่ามกลางฝุ่นควัน  มีสัตว์อสูรขนาดใหญ่เท่ากับตึกสองชั้น  กำลังไล่ล่า

ร่างกายของมันปกคลุมไปด้วยเกราะสีม่วง  หอกสายฟ้า  ไม่สามารถทำลายผิวหนังของมันได้  ดวงตาสีม่วงแดง  จ้องมองเหยื่อ  น้ำลายไหล

เห็นใบหน้าของทหารใหม่ที่ถูกไล่ล่า  มู่ฉิวก็กำหมัดแน่น จากนั้นก็คลายออก  พูดด้วยน้ำเสียงที่รวดเร็วและหนักแน่น  "ครูฝึกคนไหนอยู่ใกล้ที่สุด?"

"พันตรีจางเย่ชิงครับ ระยะทาง 3.2 กิโลเมตร"

"ไม่ทันแล้ว..."

มู่ฉิวจ้องมองภาพ  ขมวดคิ้ว

ในเวลานี้  ทหารคนนั้น  ก็พูดเสียงดัง  "รายงาน  มีสถานการณ์ใหม่  สัญญาณของทหารใหม่หมายเลข 72 กำลังเคลื่อนที่เข้าหาหมายเลข 73 อย่างรวดเร็ว คาดว่าจะมาถึงภายในยี่สิบวินาทีครับ"

"หมายเลข 72?"

เหยียนอวี้สู่  มองดูข้อมูลทั้งสี่โดยไม่รู้ตัว  "นั่นไม่ใช่ทหารใหม่ที่เป็นเจ้าของกายาทองคำอมตะระดับ S  เหรอ?"