ตอนที่ 1375 เกาะเผิงไหลกำลังตกอยู่ในอันตราย (ฟรี)
ตอนที่ 1375 เกาะเผิงไหลกำลังตกอยู่ในอันตราย
“เจ้าเห็นมันรึเปล่า? ที่นี่มีร่องรอยพลังงานของวิหคเพลิงอยู่” ชายชราแซ่อู๋หยางกล่าว เขายังคงหันหลังให้กับลู่โจว
“เจ้ากำลังตามหาวิหคเพลิงงั้นเหรอ?” ลู่โจวถาม
“ถูกต้องแล้ว” ชายชราแซ่อู๋หยางหันหลังกลับ เขาดูเหมือนกับชายชราธรรมดาๆ แววตาของเขาแสดงให้เห็นถึงความผันผวนของชีวิต เขามองดูลู่โจวก่อนจะพยักหน้า “ท่านคือมหาปรมาจารย์ผู้ทรงเกียรติสินะ? ไม่จำเป็นต้องเป็นศัตรูกัน ข้ามาที่นี่เพื่อตามหาวิหคเพลิง”
“มันจากไปแล้ว ด้วยความรู้ที่เจ้ามี เจ้าคิดว่าข้ามีโอกาสที่จะเอาชนะมันได้รึเปล่า?” ลู่โจวส่ายหัว
ชายชราแซ่อู๋หยางมองดูซากปรักหักพังของลานฝึกฝนทางเหนือ “ท่านพูดถูกแล้ว วันนี้ข้าทำให้ท่านไม่พอใจ ข้าต้องขอโทษด้วย พลังฝึกฝนและพรสวรรค์ของท่านนั้นยอดเยี่ยมมาก บางทีในอนาคตข้างหน้าพวกเราอาจจะได้พบกันอีก ยาเม็ดแห่งความว่างเปล่าเม็ดนี้อาจจะมีประโยชน์กับท่าน คิดซะว่ามันเป็นการชดเชยก็แล้วกัน”
ลู่โจวตกใจเล็กน้อย นี่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ทำไมถึงต้องชดเชยด้วย? เขาไม่เข้าใจความคิดของชายชราคนนี้
ยาเม็ดแห่งความว่างเปล่าไม่ใช่ยาธรรมดาๆ ในอดีตถัวป๋าซื่อเฉิงเคยใช้ยานี้ทะลวงขีดจำกัดมาแล้ว การมียานี้ทำให้ลู่โจวสามารถทะลวงขีดจำกัดได้ง่ายขึ้น
“พวกเราไม่รู้จักกัน ทำไมเจ้าถึงได้มอบของล้ำค่าแบบนี้ให้กับข้า?” ลู่โจวถามอย่างไม่เข้าใจ
ลู่โจวคิดว่าช่วงนี้มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย ก่อนหน้านี้ก็มีเจี๋ยจิ่นอัน ตอนนี้ก็มีชายชราแซ่อู๋หยาง พวกเขาทั้งสองมอบสมบัติล้ำค่าให้กับเขาโดยไม่หวังผลตอบแทนอะไร หรือว่าพวกเขาจะจำคนผิด? หรือว่าลู่เทียนตงจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับยอดฝีมือเหล่านี้?
“ช้าก่อน” ลู่โจวเรียก เจี๋ยจิ่นอันจากไปก่อนที่เขาจะได้ถามอะไร คราวนี้เขาจะต้องถามคำถามจากชายชราแซ่อู๋หยางให้ได้
“ฮั้วชิงกำลังมาแล้ว ข้ามีธุระต้องทำ ลาก่อน”
วู้!
ชายชรานั้นหายตัวไป
ผู้ฝึกยุทธสองคนที่อยู่ที่ลานฝึกฝนทางเหนือรีบบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและหายตัวไป
“ฮั้วชิงกำลังมาแล้ว?” ลู่โจวขมวดคิ้ว เขามองดูท้องฟ้าที่ตอนนี้ว่างเปล่า
…
ในเวลาเดียวกัน
ชายชราแซ่อู๋หยางและลูกน้องสองคนปรากฏตัวขึ้นทางเหนือของยอดเขา
“ท่านอู๋หยาง ที่ซากปรักหักพังนั้นมีออร่าของวิหคเพลิงอยู่ มันไม่น่าจะอยู่ไกลจากที่นี่ ทำไมท่านไม่ตามหามันล่ะ?” ลูกน้องคนหนึ่งถาม
“เจ้ากำลังตั้งคำถามกับข้างั้นเหรอ?” ชายชราแซ่อู๋หยางมองดูลูกน้อง
“ข้าไม่กล้า!”
“วิหคเพลิงถูกเรียกว่าวิหคอมตะ ด้วยพลังที่เจ้ามี เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถจับมันได้งั้นเหรอ?” ชายชราแซ่อู๋หยางถาม
“แต่ท่านก็อยู่กับพวกเรา...” ลูกน้องคนนั้นกล่าว
“ข้ามาที่ดินแดนดอกบัวเขียวก็เพื่อพักผ่อน ข้าไม่ได้คิดจะหาเรื่อง แถมข้าก็ยังคงไม่อาจเอาชนะวิหคเพลิงได้” ชายชราแซ่อู๋หยางกล่าว
“...”
“ไปได้แล้ว ข้าอยากจะอยู่คนเดียว”
“ครับ”
ลูกน้องทั้งสองรีบจากไป
“พี่อู๋หยาง นานแล้วนะที่ไม่ได้พบกัน” เงาสีดำปรากฏตัวขึ้น
“พี่?” ชายชราแซ่อู๋หยางขมวดคิ้ว
“ข้าแค่ล้อเล่น ทำไมต้องจริงจังขนาดนั้นด้วย? พวกเราก็แก่กันหมดแล้ว การทำหน้าบึ้งตึงตลอดเวลามันน่าเบื่อจะตายไป”
“ข้ามาหาเจ้าก็เพื่อที่จะคุยเรื่องสำคัญ ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ” ชายชราแซ่อู๋หยางกล่าว
“ตกลง” เงาสีดำหัวเราะ “เจ้าพบเขาแล้วสินะ?”
“ใช่”
“เจ้าคิดว่าไง?”
“ข้าไม่มีความคิดเห็นอะไร” ชายชราแซ่อู๋หยางกล่าว
“ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะเป็นคนจากดินแดนแห่งความว่างเปล่า”
“ข้ามอบยาเม็ดแห่งความว่างเปล่าให้กับเขาแล้ว ข้าหวังว่าการตัดสินของเจ้าคงจะไม่ผิดพลาด” ชายชราแซ่อู๋หยางกล่าว
“หากข้าผิดพลาด เจี๋ยจิ่นอันคนนี้จะตัดหัวตัวเองมามอบให้กับเจ้าเอง”
ชายชราแซ่อู๋หยางเงียบลงเมื่อได้ยินแบบนั้น แสงสว่างสาดส่องไปยังใบหน้าของเขา มันทำให้เห็นถึงความเศร้าหมองและความสิ้นหวัง เขาดูเหมือนกับว่าได้ผ่านเรื่องราวมามากมาย “ข้าหวังว่าเจ้าจะตัดสินใจถูก...”
“ในโลกใบนี้ รวมถึงดินแดนแห่งความว่างเปล่าและมหาสมุทรไม่มีที่สิ้นสุด มีเพียงแค่ข้าเท่านั้นที่สามารถหาเขาเจอ” เจี๋ยจิ่นอันหัวเราะ
“เจ้าคิดจะหลบซ่อนตลอดไปงั้นเหรอ?” ชายชราแซ่อู๋หยางพยักหน้า
“หลบซ่อน? ข้าก็แค่เดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก เจ้าคิดว่าเจ้าพวกขี้เมาที่อยู่ในห้องนั่นจะสามารถตามจับข้าได้งั้นเหรอ?” เจี๋ยจิ่นอันส่ายหัว
“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว พวกเขาไม่ได้จับเจ้า เพราะพวกเขาไม่ได้สนใจเจ้า ระวังตัวเอาไว้ให้ดีๆ ล่ะ” ชายชราแซ่อู๋หยางส่ายหัว
“ข้าไปล่ะ ข้าไม่อยากจะพูดมาก” เจี๋ยจิ่นอันกล่าว
เจี๋ยจิ่นอันหายตัวไป
…
ณ ลานฝึกฝนทางตอนใต้
“ฮั้วชิงกำลังมาแล้ว? วิหคเซียน?” ลู่โจวพึมพำ เขานึกถึงพฤติกรรมแปลกๆ ของสีวู่หยา
เขาร่ายมนตราพลังแห่งการมอง
…
“พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางไปยังเผิงไหล เจ้าไปกับข้า” สีวู่หยาพูดหลังจากที่เก็บข้าวของ
“การไปเผิงไหลกับท่านไม่ใช่ปัญหา แต่การไปที่ภูเขาฮั้วชิงนั้น...ข้าคงไม่ไปด้วยหรอก” เจียงอาเฉียนส่ายหัว
“ข้ามีดาบระดับว่างเปล่าสามเล่ม ลานสงครามเทวาลัยเพิ่งจะหลอมมันขึ้นมา รูปลักษณ์ของพวกมันนั้นไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ไม่มีใครต้องการพวกมัน ข้าคิดว่าจะหลอมพวกมันใหม่” สีวู่หยาพูดออกมาอย่างจริงจัง
“อย่าทำแบบนั้น! ดาบทุกเล่มล้วนมีค่า! ท่านใจร้ายจริงๆ! ระวังเถอะ ระวังจะไม่มีใครอยากแต่งงานด้วย!” เจียงอาเฉียนกล่าว
สีวู่หยินยิ้ม
“ก็ได้ ข้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้วสินะ? ข้าจะไปกับท่านก็ได้ แต่ดาบพวกนั้นต้องเป็นของข้า!” เจียงอาเฉียนกล่าว
“ตกลง”
“ทำไมท่านถึงได้อยากไปที่ภูเขาฮั้วชิงนักล่ะ?” เจียงอาเฉียนถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ที่นั่นมีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับพันธนาการแห่งสวรรค์และโลก ข้าต้องไปยืนยัน” สีวู่หยากล่าว
“ข้ออ้างของท่านมันงี่เง่ามาก หากท่านไม่อยากจะบอก ก็ช่างเถอะ” เจียงอาเฉียนกล่าว “อย่าลืมดาบของข้านะ”
“เจียงอาเฉียน” สีวู่หยินยิ้ม
“มีอะไร? รีบพูดมา” เจียงอาเฉียนกล่าว
“เป้าหมายในชีวิตของเจ้าคืออะไร?” สีวู่หยาถาม
“เป้าหมายของข้ายังคงเหมือนเดิม ข้าไม่อยากจะฝึกฝนตัวเอง ไม่อยากมีชีวิตอยู่ตลอดไป ข้าแค่อยากจะสะสมดาบที่ดีที่สุดในโลก เมื่อข้าตาย ข้าอยากจะถูกฝังอยู่ในสุสานที่เต็มไปด้วยดาบงดงาม พวกมันจะปกป้องข้าไปชั่วลูกชั่วหลาน” เจียงอาเฉียนมองดูทิวทัศน์นอกประตู
“...”
‘ช่างเป็นเป้าหมายที่เลื่อนลอยจริงๆ ’
“พรุ่งนี้พวกเราจะออกเดินทาง”
“ตกลง”
…
“หรือว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่ภูเขาฮั้วชิง?” ลู่โจวพึมพำ เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เขายังคงสังเกตการณ์สีวู่หยาต่อ แต่อย่างไรก็ตามสีวู่หยาก็ได้แต่ทำงานอยู่ที่โต๊ะ สุดท้ายแล้วลู่โจวจึงตัดการเชื่อมต่อพลังแห่งการมอง
“ท่านปรมาจารย์” หยานเจินหลู่และลู่หลี่ปรากฏตัวขึ้นนอกลานฝึกฝน
“เข้ามาได้”
หยานเจินหลู่และลู่หลี่เดินเข้าไปในลานฝึกฝน
“ความไม่สมดุลนั้นรุนแรงมากขึ้น มีสัตว์ร้ายมากมายกำลังมุ่งหน้าไปยังดินแดนดอกบัวทองคำ!” ลู่หลี่กล่าว
ลู่โจวขมวดคิ้ว เขาไม่ใช่มหาปรมาจารย์ผู้ทรงเกียรติ ตามหลักเหตุผลแล้วการปรากฏตัวของมหาปรมาจารย์ผู้ทรงเกียรติควรจะรักษาสมดุลจากการตายของถัวป๋าซื่อเฉิงและเย่เจิงได้ แต่อย่างไรก็ตามความไม่สมดุลกลับไม่ได้ดีขึ้น แต่กลับรุนแรงมากขึ้น มันทำให้สัตว์ร้ายต้องอพยพ
“ทำไมถึงเป็นดินแดนดอกบัวทองคำ?”
“ข้าก็ไม่รู้ ท่านสามกับลู่หวู่ไปเฝ้าทางเข้าที่ป่าหมอกแล้ว ตอนนี้ไม่มีสัตว์ร้ายตัวไหนสามารถคุกคามดินแดนดอกบัวทองคำได้ แต่อย่างไรก็ตาม...สัตว์ทะเลจากมหาสมุทรไม่มีที่สิ้นสุดนั้น...” ลู่หลี่กล่าว
“ทางทิศตะวันออกของมหาสมุทรไม่มีที่สิ้นสุดเริ่มวุ่นวาย อีกไม่เกินห้าวัน พวกมันก็จะมาถึงเผิงไหล ข้าเกรงว่าเผิงไหลกำลังตกอยู่ในอันตราย...”